ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1669 กลับมาอย่างปลอดภัย
ครืน! เสียงระเบิดปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง
ทันทีที่สัตว์ร้ายแสดงอำนาจบารมี พื้นปฐพีได้ถล่มและภูผาก็ทลายลงมาจริง ๆ แผ่นดินนี้กำลังจะจบสิ้นลงแล้ว
จำเป็นที่จะต้องออกไปแล้ว
ครูฝึกจื่อยกหลานเนี้ยนหลี่ขึ้นแล้วกล่าวว่า “ไปเถอะ!”
“แต่ว่าแม่นางมู่…”
“แม่สาวน้อยผู้นั้นไม่เคยวางแผนอย่างสุกเอาเผากินมาก่อน นางบอกให้พวกเรารอ พวกเราก็กลับไปรอเถอะ” ครูฝึกจื่อกล่าว
แม้ว่าครูฝึกจื่อจะมั่นใจตนเองเป็นอย่างมาก แต่ภายในใจก็อดกระวนกระวายมิได้
นั่นคือสัตว์ร้ายที่เคยมีชื่อเสียงเลวร้ายมากในโลกของหงส์เชียวนะ! มันน่าสะพรึงกลัวเป็นที่สุด
ขณะที่ดินแดนกำลังพังทลาย มู่เฉียนซีก็ได้ประจันหน้าเข้าโจมตี และพุ่งออกไปด้วยพลังของสุ่ยจิงอิ๋ง
เสี่ยวหงกล่าวว่า “นายท่าน เจ้าตัวนี้มอบให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง!”
“ฮ่า ๆ ๆ! ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอกับไอ้หมอนี่ ดูเหมือนว่าครั้งนี้ ข้าจะได้เจอสัตว์เทพระดับสูงกว่าเจ้าแมวโง่ระดับหนึ่งอย่างแน่นอน!”
อู๋ตี้กล่าวว่า “เจ้ามันเป็นหมูขี้เกียจ! พุ่งเข้าไปเช่นนี้ เจ้าอยากจะกลายเป็นหมูหันหรืออย่างไร?”
อู๋ตี้รีบพุ่งเข้าไปช่วยเหลือ พลังของเสี่ยวหงปะทุออกมาจนถึงขีดสุด และมังกรชือหลงเพลิงสามกรงเล็บตัวนั้นก็สัมผัสได้ถึงเค้าลางแห่งความอันตราย
“เจ้า!”
มันมองไปที่พวกเขาทั้งสองคนที่ห้อมล้อมอยู่ ซึ่งดูแปลกประหลาดมาก เนื่องจากว่าไม่เหมือนกับผู้ที่มีพลังอันแข็งแกร่งเอาเสียเลย
“โฮกกก!”
อู๋ตี้และเสี่ยวหงเริ่มโจมตีกับมัน อู๋ตี้ได้ร้องตะโกนออกมาว่า “นายท่าน ระมัดระวังความปลอดภัยของตนเองด้วย!”
“เพลิง!” เปลวเพลิงสองชนิด ระเบิดออกมาแล้ว
ทั่วทั้งแผ่นดิน กลายเป็นความว่างเปล่าโดยสมบูรณ์
ครูฝึกจื่อที่ถอยห่างออกมาไกลจากดินแดนนี้แล้วพวกเขาต่างก็ต้องเผยสีหน้าที่ตื่นตกใจออกมา!
“พระเจ้า! ที่จริงแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
ชิงอ้าวเทียนที่เดิมทีแล้วกำลังหมกมุ่นอยู่กับการตายของน้องชายตนเองเมื่อเห็นว่ามู่เฉียนซียังไม่กลับออกมา สีหน้าของเขาก็เผยความปีติยินดีออกมา
ดินแดนนั้นสูญสิ้นไปแล้ว และมู่เฉียนซีก็ยังไม่ได้กลับมา นางจะต้องตายไปแล้วอย่างแน่นอน!
ในเวลานี้อาการบาดเจ็บของหลานเนี้ยนหลี่ฟื้นฟูขึ้นมาไม่น้อยแล้ว ซึ่งทำให้เขาประหลาดใจมาก!
อันที่จริงแล้วแม่นางมู่ให้ยาอะไรแก่เขากัน ไม่คาดคิดว่าจะฟื้นตัวได้รวดเร็วถึงเพียงนี้
“นายท่าน ฮือออ!” มีก้อนขนสีดำก้อนหนึ่งพุ่งเข้ามา เมื่อมองไปที่เจ้าก้อนที่เปลี่ยนกลายเป็นมีสีคล้ายกับเสี่ยวโม่โม่ ก็ทำให้มู่เฉียนซีจำมันไม่ได้ไปชั่วขณะหนึ่ง
“อู๋ตี้!” มู่เฉียนซีตะโกนร้อง
“ฮือออ! นายท่าน เจ้าหมูขี้เกียจนั่นได้รับผลประโยชน์ไปแล้วก็ถีบหัวส่งข้าออกมา เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าพวกเราลงมือด้วยกัน! ผลสุดท้ายนั้น ผลสุดท้ายก็ไม่ยอมให้ข้าไปขุดแกนวิญญาณ”
มังกรชือหลงเพลิงสามกรงเล็บหายใจรวยรินแล้วในตอนนี้ มันไม่เคยสู้กับเสี่ยวหงมาก่อน การต่อสู้ของเสี่ยวหงในครั้งนี้ ใช้พลังอย่างเต็มที่ และไม่ได้หย่อนหยานอย่างแน่นอน
“ท่าน! นายท่านโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”
“นายท่าน ข้าผิดไปแล้ว! ฮือออ!”
ชายที่สามารถทำลายล้างโลกได้เมื่อครู่นี้ กำลังร้องห่มร้องไห้อย่างน่าเวทนาอยู่ในตอนนี้
“นายท่าน ข้ามีตาหามีแววไม่!”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เสี่ยวหง เจ้าใช้พลังวิญญาณสิ้นเปลืองเช่นนี้ จะไม่มีปัญหาแน่ใช่หรือไม่?”
เสี่ยวหงตอบกลับไปว่า “นายท่าน ท่านวางใจเถอะ! เสริมด้วยความแข็งแกร่งของไอ้หมอนี้ ไม่เพียงแต่ข้าจะไม่เป็นอะไร ทั้งยังสามารถทะลวงผ่านระดับของสัตว์เทพได้ด้วย ทุกครั้งมักจะถูกเจ้าหมูขี้เกียจที่ดีแต่กินตัวนี้แย่งไปก่อนเสมอ มันช่างเสียหน้าเกินไปแล้วจริง ๆ”
อู๋ตี้กล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “ครั้งนี้หากไม่ได้ข้าคอยช่วยเหลือเจ้า เจ้าจะผ่านไปได้อย่างราบรื่นได้เช่นไร! แกนวิญญาณให้ข้า ส่วนที่เหลือเป็นของเจ้า!”
“เอาแกนวิญญาณให้เจ้า แล้วข้าจะทะลวงผ่านได้อย่างไรล่ะ! ไม่ให้!”
เมื่อทั้งสองเริ่มต่อสู้กัน แต่กำลังสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้สุดท้ายแล้วก็คือเสี่ยวหง และของสิ่งนี้ก็มีประโยชน์ต่อเสี่ยวหงมากกว่า เช่นนั้นมู่เฉียนซีจึงได้มอบมันให้กับเสี่ยวหง
“นายท่าน! อย่ากลืนกินข้าเลย ข้าขอร้องล่ะ!”
เสี่ยวหงกล่าวว่า “หากเป็นก่อนหน้านี้ เจ้าก็คงจะไม่เข้าตาข้า! เพราะอย่างน้อยต้องมีห้าถึงแปดกรงเล็บถึงจะเข้าตาข้าได้ แต่ทว่าตอนนี้ข้าต้องการพลังบ้างสักหน่อย เช่นนั้นจึงทำได้แค่เสียใจกับตนเองเท่านั้นแล้ว”
มังกรชือหลงเพลิงสามกรงเล็บน้ำตาไหลริน และเปลวเพลิงของเสี่ยวหงก็ห่อหุ้มมันขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มที่จะดูดกลืนพลังของมัน
ชั่วพริบตาเดียวนั้น พลังของมันก็ได้ถูกเสี่ยวหงกลืนกินไปจนสิ้นแล้ว
แต่เนื่องจากว่าพลังของเสี่ยวหงไม่เพียงพอ ทั่วทั้งตัวเลยปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง และมันยิ่งปกคลุมมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ให้ตายเถอะ! แบบนี้ตอนนี้มันอ่อนแอเกินไปแล้ว” เสี่ยวหงกล่าวอย่างช่วยไม่ได้
“นายท่าน ข้าขอไปหาที่พักสักที่หนึ่ง ย่อยอาหารเสียหน่อย!”
“ตกลง!”
ดินแดนโกลาหลที่อยู่ด้านล่างนี้นั้นมีอยู่ไม่น้อย ทำลายไปเพียงหนึ่ง ก็ยังมีอยู่อีกนับไปถ้วน
เมื่อเห็นว่ามู่เฉียนซียังไม่ได้กลับมาเป็นเวลานาน พวกเขาก็ได้กลับมาจนถึงแคว้นจื่อเฟิ้งกันแล้ว
หลานเนี้ยนหลี่กล่าวว่า “ข้าต้องการที่จะกลับไปหามู่เฉียนซี”
“เนื่องจากความผิดพลาดในครั้งนี้ ทำให้ทุกคนจะต้องได้รับการฝึกฝนเพิ่มเติม! ไม่ว่าจะออกจากทีมด้วยเหตุผลใดก็ตาม จะเป็นการแสดงว่าเจ้าสละสิทธิ์ฝนการฝึกพิเศษนี้ เจ้าเต็มใจที่จะสละสิทธิ์ตรงนี้หรือไม่?”
หลานเนี้ยนหลี่กำหมัดแน่น ครูฝึกจื่อถอนหายใจกล่าวว่า “นับตั้งแต่ที่เริ่มการฝึกพิเศษนี้ ข้าก็ได้คอยสังเกตมนุษย์น้อยผู้นั้นมาตลอด นางแข็งแกร่งมาก และแข็งแกร่งมากเป็นพิเศษด้วย ข้าเชื่อว่านางจะสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยแน่นอน”
ในที่สุดเปลวเพลิงบนร่างกายของเสี่ยวหงก็สูญหายไป ถึงมันจะดูง่วงงุน แต่กลับหัวเราะออกมาด้วยความอวดดีอย่างที่สุด
“ฮ่า ๆ ๆ! เดี๋ยวข้านอนตื่นหนึ่งก็จะกลายเป็นสัตว์เทพแล้ว และถึงเจ้าแมวโง่นั่นจะกินมากขึ้นอีกเท่าไรก็ไล่ตามข้าไม่ทันหรอก”
หลังจากที่หัวเราะเสร็จสิ้นแล้วเสี่ยวหงก็จนปัญญาเช่นกัน มันตกต่ำจนถึงขั้นเพียงแค่เลื่อนระดับสัตว์เทพก็ตื่นเต้นจนกลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว
อู๋ตี้กล่าวว่า “เฮอะ! หากไม่ใช่เพราะว่าเจ้าแย่งเอาแกนวิญญาณไป ข้าก็เลื่อนขั้นได้เช่นกัน”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เอาล่ะ เสี่ยวโม่โม่ พวกเรากลับไปกันเถอะ! หากพลาดเวลาฝึกพิเศษจะเดือดร้อนเอาได้”
เสี่ยวโม่โม่กล่าวว่า “เจ้าคะ นายท่าน”
เสี่ยวโม่โม่กลายร่างเป็นร่างเดิมแล้วแยกตัวออกไป พวกเขาเตรียมตัวที่จะกลับไปแคว้นหงส์นิล
มู่เฉียนซีกลับมาล่าช้าเป็นเวลานาน การฝึกฝนของครูฝึกจื่อก็ยิ่งป่าเถื่อนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนพวกเขาต่างบ่นโอดโอยไม่หยุด
หลังจากที่การฝึกพิเศษสิ้นสุดไปแล้วรอบหนึ่ง มู่เฉียนซีก็เพิ่งกลับเข้ามาในค่ายฝึกฝน
เมื่อครูฝึกจื่อและหลานเนี้ยนหลี่เห็นว่ามู่เฉียนซีกลับมาแล้ว ต่างก็ตะลึงงันไปโดยสมบูรณ์ และคิดว่าพวกเขาเห็นภาพหลอนเสียอีก
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้ากลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว”
ชิงอ้าวเทียนเบิกตาโพล่งพลางกล่าวว่า “เจ้า ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะยังมีชีวิตอยู่”
ครูฝึกจื่อกล่าวว่า “กลับมาก็ดีแล้ว แต่ทว่าเจ้าล่าช้าไปนานเช่นนี้ จำต้องฝึกเป็นสองเท่านะ”
มู่เฉียนซีตอบกลับไปว่า “ข้าเพียงครูฝึกไม่ไล่ข้าออกไป ฝึกเพิ่มเป็นสองเท่านั้นไม่ใช่ปัญหาเลย”
“เจ้าสำนึกได้เช่นนี้ก็ดีแล้ว” ครูฝึกจื่อกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ในส่วนที่มู่เฉียนซีมีชีวิตกลับมาได้อย่างไรนั้น เขาก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย เพราะทุกคนต่างก็มีความลับทั้งนั้น
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “และข้าก็มีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะรายงานกับท่าน ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องของการปลดปล่อยสัตว์ร้ายอย่างมังกรชือหลงเพลิงสามกรงเล็บที่ดินแดนโกลาหล”
“คำสาปนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้เลือดของหงส์ และนักเล่นคาถาอาคมผู้นั้นไม่ได้เพียงแค่ใช้เลือดของเสี่ยวโม่โม่เพียงคนเดียวเท่านั้น เช่นนั้นยังมีผู้สมรู้ร่วมคิด ชิงอ้าวเทียน ในตอนนั้นพวกสองพี่น้องอยู่ที่นั่น พวกเจ้าไม่มีเรื่องอะไรจะอธิบายให้พวกเราฟังหรือ?” แววตาของมู่เฉียนซีเผยความเย็นยะเยือกออกมา
ชิงอ้าวเทียนกล่าวอย่างโกรธเคือง “มู่เฉียนซี ทันทีที่กลับมาก็มาสอบถามข้าอย่างไม่มีหลักฐานเช่นนี้ ข้าก็เป็นเหยื่อเช่นกัน น้องชายของข้าก็ตายลงด้วยน้ำมือของมังกรชือหลงเพลิงสามกรงเล็บนั่นด้วย”
“เจ้าทำหรือไม่ เจ้าก็รู้ดีอยู่แก่ใจ” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา
หลานเนี้ยนหลี่กล่าวว่า “ครูฝึกจื่อ ข้าสามารถเป็นพยานได้ พวกเขาต่อสู้กับข้า แล้วยังใช้คำสาปอีกด้วย”
ที่ดินแดนโกลาหลเกิดเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ขึ้นมา ทั้งยังมีคนที่บาดเจ็บและล้มตายไปไม่น้อย ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีคนไปร่วมมือกับนักเล่นคาถาอาคมที่เสียสติผู้นั้นได้
ครูฝึกจื่อกล่าวว่า “เด็ก ๆ มาเอาตัวชิงอ้าวเทียนไปไต่สวน”
ชิงอ้าวเทียนกล่าวว่า “ไต่สวนก็ไต่สวนสิ พวกเจ้าไม่มีหลักฐาน เอาแต่ฟังความจากพวกเขาทั้งสองเพียงฝ่ายเดียว พวกเจ้าจะสามารถทำอะไรข้าได้กันล่ะ?”