ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1688 พบกับโม่ชิงอู่
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “โม่หลิ่วขวงเขาพูดว่าอย่างไรบ้าง?”
“พรุ่งนี้เขาต้องการให้ข้าไปที่ดินแดนโกลาหลหลินยวนเพียงลำพังเพื่อแลกเปลี่ยน ขอเพียงให้ข้ารับปากข้อเรียกร้องของเขา เขาก็จะปล่อยเสี่ยวโม่โม่ไป แต่ทว่าเขายังไม่ได้บอกออกมาว่าข้อเรียกร้องของเขาคืออะไร” ราชาโม่ตอบกลับ
“ราชาโม่ พรุ่งนี้ท่านไปตามเวลาที่ได้นัดหมายเอาไว้! ตอนนี้ข้าจะไปที่ดินแดนโกลาหลหลินยวนเพื่อตามหาเสี่ยวโม่โม่”
“แต่ทว่าดินแดนโกลาหลหลินยวนกว้างใหญ่ถึงเพียงนั้น เจ้า…”
“เสี่ยวโม่โม่คือผู้ผูกพันธสัญญาของข้า ไม่ว่าอย่างไรก็ตามข้าจะต้องหานางเจออย่างแน่นอน ราชาโม่ท่านโปรดระวังด้วย”
มู่เฉียนซีและจิ่วเยี่ยใช้ความเร็วอย่างมากที่สุดในการมายังดินแดนโกลาหลหลินยวน
หลังจากที่พวกเขามาถึงแล้ว มู่เฉียนซีก็ปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณออกมา และขอบเขตของการปลดปล่อยก็กว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังคงไม่อาจรู้สึกได้ถึงการมีอยู่ของเสี่ยวโม่โม่
“ไม่มี!”
จิ่วเยี่ยกล่าวว่า “ซีไม่รู้สึกถึงสัตว์พันธสัญญาของตนเอง เช่นนั้นก็มีเพียงแค่สองสถานการณ์เท่านั้น ข้อแรกนั่นคืออีกฝ่ายมีวิธีการในการตัดขาดการตอบสนองของพันธสัญญา แล้วยังมีอีกอย่างก็คือ เจ้าหงส์น้อยตัวนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่”
ความมืดมนฉายวาบขึ้นมาในดวงตาของมู่เฉียนซี
จิ่วเยี่ยกล่าวว่า “ข้าได้ให้จื่อโยวไปตรวจสอบแล้ว หากมีข่าวอะไรเขาต้องนำมาแจ้งข้าอย่างแน่นอน”
“อื้ม!”
โฮกกก!
ในเวลานี้ สัตว์ร้ายของดินแดนโกลาหลหลินยวนเหล่านี้ต่างก็เข้ามาหาเรื่องมู่เฉียนซีอย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ
มู่เฉียนซีพุ่งตรงออกไป พลางกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย เดี๋ยวข้าจัดการเอง!”
“อืม!”
ในเวลานี้มู่เฉียนซีรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก การที่ได้ซ้อมมือกับเจ้าพวกนี้ช่างเหมาะเจาะพอดี
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
“ทักษะโยวจั๋ว!”
ตูม โครม!
มู่เฉียนซีโจมตีเพื่อการสังหารทุกครั้ง และฝีมือของนางก็โหดร้ายน่ากลัวเป็นอย่างมาก
เนื่องจากในเวลานี้นางคิดถึงเด็กน้อยตัวนั้นที่ตกอยู่ในน้ำมือของคนเสียสติอย่างโม่หลิ่วขวง แล้วจะไปอยู่อย่างปกติสุขได้อย่างไรกัน
ปัง ปัง ปัง!
พลังในการโจมตีของมู่เฉียนซีนั้นกล้าแกร่งเป็นอย่างมาก แต่ทว่าความสามารถของเหล่าสัตว์ร้ายที่อยู่ในดินแดนโกลาหลหลินยวนแห่งนี้ก็ไม่ได้อ่อนแอเลย และมู่เฉียนซีก็ตกอยู่ในวงล้อมเข้าจนได้
เปลวเพลิงของกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณพุ่งออกไป เปลวเพลิงแห่งราชากำลังแผ่กระจายไปทั่วทั้งดินแดนหลินยวนแห่งนี้
ตูม!
สัตว์ร้ายที่รายล้อมเข้ามายิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ และมู่เฉียนซีก็เข้าสู่ใจกลางการต่อสู้ที่ยากลำบาก
และในขณะที่การต่อสู้มาถึงทางตัน จากนั้นก็มีแสงสีแดงเลือดพุ่งออกมา และผนึกลงมาจากกลางอากาศ
ปัง!
ร่างกายของสัตว์ร้ายเหล่านั้นระเบิดออก และเลือดสด ๆ ก็สาดกระเซ็นไปทั่ว
จิ่วเยี่ยจ้องมองมาที่มู่เฉียนซีและกล่าวว่า “ถึงแม้ว่ามันจะยังเร็วเกินไป แต่ทว่าตอนนี้สถานะของซีก็เหมาะสมที่จะฝึกฝนทักษะซิวหลัวแล้ว เจ้าอยากที่จะลองดูสักหน่อยหรือไม่”
“ทักษะที่ห้า ทักษะซิวหลัว!”
จิ่วเยี่ยพยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าวว่า “อืม! อยากเรียนหรือไม่?”
“เช่นนั้นจิ่วเยี่ยได้โปรดชี้แนะข้าด้วย”
จิ่วเยี่ยพยักหน้าพลางกล่าวว่า “อื้ม!”
ทักษะซิวหลัว อย่างน้อยต้องมีความแข็งแกร่งระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตถึงจะสามารถระเบิดพลังที่แท้จริงออกมาได้ ในตอนนี้นางทำได้เพียงแค่ฝึกฝนเท่านั้น
ทันทีที่เริ่มฝึกฝน มู่เฉียนซีไม่สามารถที่จะก่อตัวจนกลายมาเป็นทักษะได้เลย แต่ทว่าหลังจากที่ลองทำดูนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดก็ทำสำเร็จจนได้
ทันทีที่ยกมือขึ้น เลือดที่อยู่บริเวณโดยรอบก็ถูกดึงเข้ามา และต่อมาทักษะซิวหลัวที่มีสีแดงเลือดก็ปรากฏออกมา
ตูม!
เพียงแต่ว่า หลังจากที่โจมตีสัตว์ร้ายไปแล้ว พลังที่ระเบิดออกมากลับไม่มีอานุภาพเหมือนเช่นพลังที่จิ่วเยี่ยได้ระเบิดออกมาเลยแม้แต่นิด เป็นเพียงแค่การระเบิดให้สัตว์ร้ายลอยละลิ่วออกไปเพียงเท่านั้น
ปัง ปัง ปัง!
เวลาค่อย ๆ ไหลผ่านไปอย่างเชื่องช้า และมู่เฉียนซีก็ได้จำกัดสัตว์ร้ายไปแล้วเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว
พื้นที่โดยรอบถูกชะล้างไปเกือบจะหมดสิ้น และไม่มีสัตว์ร้ายกล้าเข้ามาหาเรื่องมู่เฉียนซีอีกแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ในเมื่อที่นี่ไม่มีสัตว์ร้ายแล้ว เช่นนั้นพวกเราก็เปลี่ยนสถานที่กันเถอะ!”
“ตกลง!”
ตูม โครม!
มู่เฉียนซีไม่คิดมาก่อนเลยว่า ดินแดนโกลาหลหลินยวนแห่งนี้จะยังมีคนอยู่ด้วย
ร่างนั้นเต็มไปด้วยเลือด และเป็นคนที่แทบจะรักษาร่างสัตว์ไว้ไม่ได้อยู่แล้ว อีกทั้งมู่เฉียนซียังรู้สึกคุ้นเคยมากอีกด้วย
“โม่ชิงอู่!”
โม่ชิงอู่เป็นหญิงสาวที่โม่หลิ่วขวงเลี้ยงดูมา ไม่คาดคิดว่านางจะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้?
ร่างสีม่วงพุ่งเข้าไปในทันที มู่เฉียนซีตัดสินใจว่าจะช่วยเหลือเอาไว้ก่อนค่อยว่ากัน ไม่แน่ว่าบางทีอาจจะมีเบาะแสอะไรบางอย่างก็ได้
“บัวแดงพิฆาต!”
“มังกรน้ำแข็งผ่าสวรรค์!”
ตูม โครม!
การผันผวนของพลังวิญญาณและทักษะวิญญาณที่คุ้นเคยทำให้โม่ชิงอู่ตกใจ นางกล่าวอย่างตื่นตะลึงว่า “มู่เฉียนซี…”
ตูม!
สัตว์ร้ายที่อยู่บริเวณโดยรอบของโม่ชิงอู่ไม่ได้มากมายนัก เพียงไม่นานมู่เฉียนซีก็จัดการเรียบร้อยแล้ว
และร่างของโม่ชิงอู่ก็จะล้มมิลมแหล่ และดูเหมือนว่าอีกเพียงไม่ถึงหนึ่งอึดใจต่อมาก็จะหมดสติไปอย่างไรอย่างนั้น
มู่เฉียนซีไม่มีทางปล่อยให้นางต้องหมดสติไปอย่างนี้แน่นอนอยู่แล้ว นางจึงฝังยาน้ำลงไปในแขนของโม่ชิงอู่
โม่ชิงอู่ที่เดิมทีแล้วแทบจะพยุงตัวไม่อยู่ก็รู้สึกว่าความแข็งแกร่งฟื้นฟูขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว และบาดแผลก็หายสนิทไปอย่างรวดเร็ว
ครืนน
หลังจากที่มู่เฉียนซีได้ทำการกำจัดสัตว์ร้ายที่อยู่บริเวณโดยรอบทั้งหมดไปอย่างรวดเร็วและเฉียบขาด หลังจากนั้นนางก็มองไปที่โม่ชิงอู่แล้วกล่าวว่า “โม่หลิ่วขวงอยู่ที่ไหน?”
“พ่อบุญธรรม…พ่อบุญธรรม…”
“ฮือออ…”
หญิงสาวที่เย็นชาและแข็งแกร่งผู้นี้ ในเวลานี้กลับร้องไห้เสียงดังออกมา
ปึก!
นางล้มลงไปนั่งอยู่บนพื้นอย่างหมดสภาพ พลางกล่าวว่า “มู่เฉียนซี ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่างเลย!”
โม่หลิ่วขวงและไป๋ฉางรวมไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขาร่วมมือกันลักพาตัวเสี่ยวโม่โม่มา ไม่อย่างนั้นโม่หลิ่วขวงจะมีความสามารถเช่นนั้นได้อย่างไร
เดิมทีโม่ชิงอู่คิดว่าพวกเขาเพียงที่ต้องการที่จะแก้แค้นธรรมดาเท่านั้น แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย
“ข้าเพิ่งจะมารู้ ว่าพ่อบุญธรรมต้องการที่จะดูดเอาเลือดบริสุทธิ์ของสายเลือดเผ่าหงส์นิลออกมาจากเสี่ยวโม่โม่ หลังจากนั้นก็ให้นักเล่นคาถาอาคมท่านหนึ่งมาเปลี่ยนสายเลือดของข้าและพ่อบุญธรรม ขะ…ข้าจะไปสามารถทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไรกัน”
ดังนั้น โม่ชิงอู่จึงได้ปฏิเสธไป
แต่โม่หลิ่วขวงกลับกล่าวกับนางว่า “เจ้าไม่ต้องการก็ดีเหมือนกัน เช่นนี้ความสำเร็จของข้าก็จะยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้น! รอให้ข้าได้กลายเป็นสายเลือดราชันย์บริสุทธิ์ของเผ่าหงส์นิลเสียก่อน มาคอยดูสิว่าไอ้แก่นั่นจะกล้าไม่หลีกทางให้อีกข้าหรือไม่!”
ไป๋ฉางไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่โม่หลิ่วขวงกลับกล่าวว่า “นายน้อยไป๋ นี่คือสิ่งที่นางเลือกด้วยตนเอง! ไม่อาจจะมาตำหนิข้าได้”
หลังจากนั้นไป๋ฉางก็พยายามที่จะเกลี้ยกล่อมโม่ชิงอู่ แต่ผลสุดท้ายโม่ชิงอู่ก็ปฏิเสธอยู่ดี ด้วยความโกรธเคืองไป๋ฉางจึงเรียกร้องให้มีการยกเลิกพันธสัญญาของพวกเขา
หลังจากที่ได้ยกเลิกพันธสัญญา เดิมทีก็คิดที่จะฆ่าคนปิดปาก แต่ผลสุดท้ายโม่หลิ่วขวงกลับกล่าวว่า “ถึงอย่างไรนางก็เป็นลูกสาวที่ข้าเลี้ยงมาจนโตด้วยตนเอง และข้าก็ไม่อยากที่จะเห็นนางต้องมาตายต่อหน้าต่อตา! โยนนางออกไปเสียเถอะ! ด้วยความสามารถอันน้อยนิดของนาง คงไม่อาจที่จะมีชีวิตรอดแล้วเดินออกไปจากดินแดนโกลาหลหลินยวนได้อยู่แล้ว และสุดท้ายคงเป็นได้เพียงชิ้นส่วนที่ถูกสัตว์ร้ายแยกเป็นชิ้น ๆ ก็เท่านั้น”
ไป๋ฉางเห็นด้วย และหลังจากนั้นก็โยนนางออกมา
หลังจากที่ถูกโยนออกมาแล้วโม่ชิงอู่ก็คิดที่อยากจะกลับไปยังแคว้นหงส์นิลเพื่อขอให้ราชาโม่ช่วยเหลือ แต่ทว่าที่นี่คือดินแดนโกลาหลที่มีอันตรายแฝงอยู่รอบด้าน ถึงแม้ว่าพรสวรรค์ของนางจะถือว่าไม่เลวในเผ่าหงส์นิล แต่ทว่าที่นี่นางกลับมีเพียงแค่ทางตันเท่านั้น
นางได้ถูกทอดทิ้งไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว จากผู้ที่เคยเป็นธิดาแห่งสรวงสวรรค์ สูญเสียความศรัทธาของตนเอง และได้สูญเสียผู้ผูกพันธสัญญาของตนเองไปด้วย
แต่ทว่านางก็ไม่เสียใจภายหลัง เนื่องจากพรสวรรค์ของเด็กน้อยคนนั้น เป็นความภาคภูมิใจของเผ่าหงส์นิลของพวกเขา
และมันยังเป็นเพียงแค่เด็กน้อยเท่านั้น ท่านพ่อบุญธรรมและไป๋ฉางเหตุใดถึงต้องโหดร้ายถึงเพียงนี้ด้วย
ฉึก ฉึก ฉึก!
แล้วจากนั้นก็มีเข็มยาน้ำสองสามเล่มพุ่งเข้ามา
โม่ชิงอู่เดิมทีแล้วก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร นางเป็นผู้ที่มีหลักการและมีขีดจำกัด และมีเพียงความถือดีในความเป็นอัจฉริยะเพียงเล็กน้อย แต่กลับมาเจอกับพ่อและผู้ผูกพันธสัญญาที่แสนหลอกลวงเท่านั้น
นางใช้ความเร็วสูงสุดในการรักษาอาการบาดเจ็บให้กับโม่ชิงอู่ หลังจากนั้นก็กล่าวว่า “เจ้ายังจำเส้นทางที่เจ้าจากมาได้หรือไม่? ข้าต้องการที่จะไปช่วยเสี่ยวโม่โม่”
โม่ชิงอู่กล่าวว่า “ยอดฝีมือของตระกูลไป๋หลายคนและพ่อบุญธรรมต่างก็อยู่ที่นั่น แล้วยังมีนักเล่นคาถาอาคมอีกสองท่านด้วย หากเจ้าไป มันจะอันตรายมากเกินไป พวกเรสรีบกลับไปยังแคว้นหงส์นิลแล้วขอให้ท่านราชาโม่มาช่วยกันเถอะ!”