ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1697 ทะเลอัสนีทอง
นี่ไม่ใช่เพียงแค่คืนแรก ที่องค์ชายแปดรู้สึกว่าของที่ส่งมาให้นั้นช่างไร้รสชาติถึงเพียงนี้
เขาตบมือของตนเองพลางกล่าวว่า “หากคนยังอยู่ที่แคว้นจื่อเฟิ้งแล้วละก็ พวกเจ้าก็จงไปพาคนผู้นั้นมาให้ข้าเสีย แค่เพราะข้าไม่เอ่ยปาก พวกเจ้าก็เลยไม่รู้ว่าต้องฉวยโอกาสอย่างไรเลยอย่างนั้นหรือ?”
“พ่ะย่ะค่ะ! องค์ชายแปด”
มีคนกลุ่มหนึ่งแอบลักลอบเข้ามาอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง และจิ่วเยี่ยก็ลืมตาทั้งสองขึ้น
หลังจากนั้นคนกลุ่มนั้นก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที จิ่วเยี่ยจึงได้โอบกอดมู่เฉียนซีเอาไว้ในอ้อมแขน แล้วค่อย ๆ หลับตาลงอย่างช้า ๆ
ถึงจิ่วเยี่ยจะจัดการได้อย่างไร้ร่องรอยก็ตาม แต่ทว่าในวันที่สองก็ยังถูกมู่เฉียนซีค้นพบเข้าจนได้
“ดึกดื่นเช่นนี้ยังมีคนมาอีกอย่างนั้นหรือ?”
“อื้ม!”
“วันนี้กลับไปที่แคว้นหวงหลานกันเถอะ”
องค์ชายแปดที่รออยู่นานก็ยังไม่มีข่าวคราว จนตอนนี้ได้ข่าวมาว่ามู่เฉียนซีจะกลับแคว้นหวงหลานเสียแล้ว
“ล้มเหลวหรือ?! คนของข้าจะล้มเหลวได้อย่างไรกัน”
“หรือว่าท่านเหมยจะแอบเตรียมยอดฝีมือมาคอยปกป้องนาง ไม่คาดคิดเลยว่าท่านเหมยจะให้ความสำคัญกับสาวน้อยคนนี้มากถึงเพียงนี้”
“ข้าไม่มีทางปล่อยให้นางหลุดมือไปได้อย่างแน่นอน ไป ไปที่แคว้นหวงหลาน!”
“พ่ะย่ะค่ะ! องค์ชายแปด!”
เมื่อมู่เฉียนซีได้รู้ว่าองค์ชายแปดกำลังจะมา ก็รู้สึกว่าเขาช่างเป็นผู้ชายที่ชอบตามหลอกหลอนเสียงจริง ๆ
นางรู้สึกได้ว่าความอดทนของจิ่วเยี่ยนั้นใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว และองค์ชายแปดที่ชอบรนหาที่ตายผู้นั้นก็จะถูกฆ่าทิ้งไปเมื่อไรก็ไม่อาจรู้ได้
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าจะไปหาเหลยป้า!”
เหลยป้าเฝ้ารอมู่เฉียนซีมาโดยตลอด เมื่อเขาเห็นมู่เฉียนซีมาแล้วก็กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านหมอปีศาจ ท่านมาแล้ว!”
“ตอนนี้ข้าสามารถไปทะเลอัสนีทองได้แล้วหรือยัง?”
“ไปได้อย่างแน่นอน!”
เรื่องฝึกฝีมือในการช่วยผู้คนแก้คำสาปก็ฝึกฝนมาได้ไม่น้อยแล้ว ในระหว่างที่กำลังค้นหาสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ไปยกระดับความแข็งแกร่งสักหน่อยก็ไม่เลวเหมือนกัน
และยังเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงองค์ชายแปดที่ชอบรนหาที่ตายอยู่ตลอดเวลาผู้นั้นด้วย!
ครั้นแล้วมู่เฉียนซีจึงได้ติดตามเหลยป้าไปยังแคว้นเหลยหวง และมู่เฉียนซีก็ราวกับว่าอันตรธานหายไปอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้องค์ชายแปดโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก
“เจ้าพวกไร้ประโยชน์ เพียงแค่คนคนเดียวก็หากันไม่เจอ!”
“เลี้ยงพวกเจ้านี่ เสียข้าวสุกกันเสียจริง ๆ เลย!”
“……”
ในเวลานี้ มีคนมาแจ้งรายงานว่า “องค์ชายแปด เทพราชาเกือบที่จะหาสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เจอแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นท่านก็จะต้องหาโอกาสเข้าไปข้างในด้วยเช่นกัน เช่นนั้นท่านเทพราชาจึงให้ท่านกลับไปเก็บตัวตามลำพังโดยเร็ว และไม่ต้องการให้ท่านสร้างความวุ่นวายอยู่ภายนอกอีกแล้ว อีกทั้งท่านยังต้องยกระดับความสามารถให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วย”
องค์ชายแปดกล่าวว่า “มีปิงหมิงอยู่ แล้วข้ายังจะต้องฝึกฝนอะไรอีกอย่างนั้นหรือ? จะมีผู้ใดทำอะไรข้าได้อีก”
“นี่คือคำสั่งของท่านเทพราชา พระองค์ตรัสว่าหากท่านไม่ทำตามที่สั่งอย่างเชื่อฟัง พระองค์จะส่งท่านไปยังดินแดนเทพทันที”
เป็นเช่นนั้นไม่ได้!
ในบรรดาพี่น้องของเขา พรสวรรค์ในการฝึกฝนของเขานั้นอยู่ระดับต่ำที่สุด เมื่ออยู่ในดินแดนหงส์ เขาจะสามารถกลายเป็นมกุฎราชกุมารได้อย่างสมบูรณ์
แต่ถ้าหากกลับไปยังดินแดนเทพแล้วละก็ คงจะเป็นได้เพียงคนที่ถูกเหยียบย้ำอยู่ใต้โคลนตมเพียงเท่านั้น
“ข้าจะกลับไปทันที! รอให้เสด็จพ่อที่รักของข้าอารมณ์ดีเสียก่อน ข้าอยากได้อะไรก็ต้องมอบให้ข้า รวมถึงคนของท่านเหมยก็ต้องมอบให้ข้าด้วยเช่นกัน โดยที่ข้าไม่จำเป็นต้องลงมือเอง”
ข่าวเรื่องที่จะมีการเปิดสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกแพร่กระจายไปทั่วเผ่าเทพระดับสูง เรื่องที่ควรจะถอยก็ต้องถอย เรื่องที่ควรฝึกก็ต้องฝึก และไม่อาจพลาดโอกาสอันดีที่หาได้ยากและมีค่ายิ่งเช่นนี้ไปได้อย่างแน่นอน
“ท่านเหลยป้า!”
“คารวะท่านเหลยป้า!”
“……”
ท่านเหลยป้าตรงไปที่พระราชวังเหลยหวงอย่างหยิ่งผยอง เขาโบกมือไปมาพลางกล่าวว่า “ข้าต้องการเข้าเฝ้าฝ่าบาท!”
“ท่านเหลยป้า เชิญทางนี้ขอรับ!” พวกเขาเชิญเหลยป้าไปอย่างเคารพนอบน้อม ราชาของเผ่าหงส์อัสนีมีใบหน้าทรงสี่เหลี่ยม เมื่อเขาเห็นว่าท่านเหลยป้ามาก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างแจ่มใสพลางกล่าวว่า “ท่านเหลยป้า ได้ยินมาว่าร่างกายของท่านแข็งแรงจนเป็นปกติดีแล้ว แต่กลับไม่ได้เจอท่านเลย ในที่สุดวันนี้ข้าก็ได้พบท่านเสียที”
เหลยป้าโบกมือพลางกล่าวว่า “เอาล่ะ! ที่ข้ามาวันนี้เพียงเพราะอยากให้เจ้าทำสิ่งหนึ่งให้ข้า! นั่นก็คือการเปิดทะเลอัสนีทอง ข้าต้องการที่จะส่งใครบางคนเข้าไป”
เหลยป้าไม่มีความเกรงใจเลยแม้แต่น้อย
“ส่งใครคนหนึ่งเข้าไป ก็คือผู้ชายผู้นี้หรือ”
ในที่สุดราชาเหลยก็สังเกตเห็นมู่เฉียนซีแล้ว เด็กหนุ่มผู้นี้ช่างแปลกประหลาดมากยิ่งนัก ไม่ใช่ทั้งคนในเผ่าของพวกเขา ทั้งยังไม่ใช่มนุษย์อีกด้วย!
เหลยป้าตอบกลับไปว่า “ใช่แล้ว!”
“ในเมื่อเป็นความต้องการของท่านเหลยป้า ข้าก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธได้แน่นอนอยู่แล้ว! บังเอิญว่าเหลยหมิง เจ้าหนูนั่นก็ต้องการที่จะไปหาประสบการณ์ที่ทะเลอัสนีทองอยู่พอดี” ราชาเหลยกล่าว
“เจ้าเด็กเมื่อวานซืนนั่นก็อยากจะไปหาประสบการณ์ที่ทะเลอัสนีทองหรือ ราชาเหลยนี่เจ้าไม่ใจร้อนมากเกินไปหน่อยหรือ” เหลยป้ากล่าว
เหลยหมิงเป็นลูกชายของราชาเหลย และเขายังเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดในเผ่าหงส์อัสนีอีกด้วย
หากไม่ใช่เพราะเขาถูกคำสาปจนอยู่ในช่วงล่อแหลมมาตั้งแต่แรก เหลยป้าก็อยากที่จะรับเขามาเป็นศิษย์เช่นกัน
“มีความเป็นไปได้มากว่าสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์จะถูกเผ่าเทพค้นพบเจอแล้ว คนรุ่นหลังจำเป็นที่จะต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความหวังที่เกินตัว แต่หากสามารถได้รับประโยชน์จากใจกลางสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มาได้ บางทีเผ่าของข้าก็คงไม่ต้องประคองชีวิตให้รอดไปวัน ๆ เช่นนี้อีกแล้วก็เป็นได้” ราชาเหลยกล่าวพลางทอดถอนหายใจ
เหลยป้าตอบกลับไปว่า “ตกลง! เช่นนั้นก็ไปด้วยกัน และอย่าให้เจ้าเด็กน้อยนั่นมาทำตัวไม่มีมารยาทกับท่านผู้นี้เด็ดขาด”
มู่เฉียนซีไม่ต้องการที่จะพูดถึงสถานะของตนเองกับผู้อื่น แต่เขาก็กลัวว่าจะมีคนมาทำให้ท่านหมอปีศาจต้องขุ่นเคืองใจด้วยเช่นกัน
เหลยป้าถึงกับเรียกว่าท่าน และมันก็ทำให้ราชาเหลยตะลึงงันไปทันที สถานะของเด็กน้อยผู้นี้ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
“ทะเลอัสนีทอง จะถูกเปิดในวันพรุ่งนี้! ในเมื่อท่านเหลยป้ากลับมาแล้ว คงจะต้องดื่มเหล้าเป็นเพื่อนข้ามากสักหน่อยแล้วล่ะ!”
“ฮ่า ๆ ๆ! นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว เจ้าเด็กนี่อย่าขี้เหนียวเกินไปนักล่ะ”
“ข้าจะกล้าขี้เหนียวกับท่านเหลยป้าได้อย่างไร หาไม่แล้วท่านได้พังพระราชวังนี้ของข้าเป็นแน่”
ความสัมพันธ์ของเหลยป้าและราชาเหลยนั้นดีมาก และมู่เฉียนซีก็ไม่ได้ไปรบกวนพวกเขาเช่นกัน
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เมื่อไปที่ทะเลอัสนีทองข้าจะต้องไม่เป็นไรแน่นอน หากเกิดเรื่องขึ้นข้าก็สามารถหนีได้! จิ่วเยี่ยท่านตามหาสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อยู่ข้างนอกเถิด แม้แต่เผ่าหงส์อัสนีก็รู้เรื่องแล้วเช่นนี้ ดูเหมือนว่าอีกไม่นานสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็จะปรากฏตัวออกมาแล้วล่ะ”
“อื้ม!”
ในวันรุ่งขึ้นเหลยป้าก็ได้มาแจ้งมู่เฉียนซี และคนที่มาด้วยกันกับเขาก็คือชายหนุ่มตัวสูงใหญ่ที่สวมชุดคลุมสีดำคนหนึ่ง
ร่างของเขานั้นสูงใหญ่แต่ก็ไม่ได้อ้วนจนเกินไป ใบหน้ามีรูปทรงที่เป็นมิติ และเขาก็ดูเป็นชายหนุ่มที่มีความรู้สึกสมเป็นยอดชายมาก
เหลยหมิงจ้องมองไปที่มู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “เจ้าก็คือคนที่จะเป็นคู่หูแล้วเข้าไปด้วยกันกับข้าสินะ วางใจเถิด พี่ชายผู้นี้จะคอยปกป้องเจ้าเอง”
เขายกมือเตรียมที่จะวางไปบนไหล่ของมู่เฉียนซี แต่กลับถูกเหลยป้าขวางเอาไว้เสียก่อน
“เมื่อวานพ่อของเจ้าดื่มเหล้าเยอะจนลืมบอกเจ้าไปแล้วสินะ ว่าเจ้าจะต้องมีมารยาทกับท่านผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้สักหน่อย อย่าทำอะไรที่ไม่รู้จักขอบเขตเช่นนี้อีก”
“ท่านผู้ยิ่งใหญ่หรือ? น้องชายที่ดูแล้วงดงามเช่นนี้ จะต้องไม่คิดเล็กคิดน้อยมากมายถึงเพียงนั้นเป็นแน่”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย นี่มันเกี่ยวอะไรกันอย่างนั้นหรือ?
พวกเขามุ่งหน้าไปที่พื้นที่ต้องห้ามของเผ่าหงส์อัสนี และราชาเหลยก็ได้เตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเขาก็เปิดเส้นทางหนึ่งออกมาพร้อมกับกล่าวว่า “เข้าไปเถอะ! มีเวลาครึ่งเดือน หากว่าทนต่อไปไม่ไหวก็อย่าได้ฝืนทนเป็นอันขาด เอาล่ะ รีบเข้าไปข้างในเถอะ!”
เหลยหมิงกล่าวว่า “พอแล้ว! พอแล้ว! เรื่องนี้ท่านพูดมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ข้ารู้แล้ว”
มู่เฉียนซีพยักหน้าเล็กน้อย “อื้ม!”
ร่างของพวกเขาทั้งสองคน พุ่งเข้าไปที่ทะเลอัสนีทองแห่งนั้นทันที
เมื่อมองไปบริเวณโดยรอบ ก็จะเห็นเป็นพื้นทะเลสีทองขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งพื้นที่ขนาดใหญ่นี้เป็นสีทองเรืองรองเลยทีเดียว ซึ่งมันช่างน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากเข้ามาอยู่ท่ามกลางทะเลสีทองอันเรืองรองนี้ ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าสีทองฝ่าลงมาจากท้องฟ้า และตรงเข้ามาห่อหุ้มพวกเขาเอาไว้
อันตราย!
เหลยหมิงใช้ความเร็วสูงสุดในการแปลงกายเป็นร่างเดิม จากนั้นสายฟ้าสีเงินก็ปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา
ผลสุดท้ายเมื่อเขาเห็นมู่เฉียนซีรับสายฟ้าสีทองนั้นอย่างไม่มีการป้องกันเลยแม้แต่น้อย ก็ต้องร้องอุทานออกมาว่า “ระวัง!”
“สายฟ้าของทะเลอัสนีทองมีความแข็งแกร่งมากกว่าปกติ ซึ่งมันก็แตกต่างจากที่อยู่ด้านนอกนั้นอย่างสิ้นเชิง เจ้ารับมันทั้งที่ไม่ได้เตรียมการป้องกันใด ๆ เช่นนี้ มันอันตรายมากเกินไปแล้ว”