ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1715 หึงแล้วสินะ
“เช่นนั้นเจ้าก็รีบลงมือเข้าเถิด!”
“ตกลง! ข้าจะรีบลงมือในทันที หวานใจพวกเรามาลงมือไปด้วยกันเถอะ”
บนแท่นสีเขียวซีดขนาดใหญ่ ตอนที่อาถิงและสุ่ยจิงอิ๋งกำลังเคลื่อนไหว ก็ได้นำเอาเจ้าสิ่งนี้มาผนึกเอาไว้จนสำเร็จแล้ว
คัมภีร์หมื่นคำสาปในเวลานี้ก็รู้สึกสับสนเช่นกัน “เกิดอะไรขึ้นกับชายผู้นั้นกันแน่? นั่นมันคือสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่?”
มันรู้ดีว่าพลังคำสาปที่แข็งแกร่งที่สุดของตนเองนั้นที่ทรงพลังมากเพียงใด แต่ทว่าชายผู้นี้สุดท้ายแล้วยังสามารถประคองสติเอาไว้ได้ นี่มันช่างหน้าหวาดผวาเกินไปแล้ว
อาถิงสร้างผนึกขึ้นด้วยมือทั้งสองและกล่าวว่า “ปิดผนึก!”
แสงของคัมภีร์หมื่นคำสาปเปลี่ยนเป็นมืดมนขึ้นมา และจากนั้นก็พุ่งไปอยู่ข้างกายของมู่เฉียนซี
ในเวลานี้มู่เฉียนซีกำลังกลั่นยาอยู่กับนิรันดร์ หลังจากที่กลั่นยาชนิดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้มองเห็นอาถิงที่กำลังจ้องมองมาที่นางอยู่
“อาถิง มีอะไรเช่นนั้นหรือ?”
“เรื่องทั้งหมดนี้ควรที่จะต้องโทษเจ้าหวงจิ่วเยี่ยผู้นั้น มันไม่ง่ายเลยที่ข้าจะฟื้นฟูพลังขึ้นมาได้เพียงน้อยนิด แต่สุดท้ายก็ต้องใช้ไปจนหมด! เจ้าจะต้องให้ชายผู้นั้นชดใช้ให้ข้าด้วย”
ที่พวกเราทั้งหมดตื่นขึ้นมาได้ นั่นก็เป็นเพราะได้ใช้เพลิงหงส์อมตะของเทพหงส์ที่อยู่ข้างในนั้นมาฟื้นฟู
หลังจากที่ฟื้นพลังขึ้นมาได้เพียงเล็กน้อย ผลสุดท้ายกลับถูกพลังคำสาปที่ปะทุขึ้นมาของจิ่วเยี่ย ทำให้กลับคืนสู่สภาพเดิม และนั่นก็ทำให้อาถิงโกรธเป็นอย่างมาก!
ที่กลางอากาศ พลังของน้ำและไฟผสมผสานเข้าด้วยกัน เพื่อที่จะต่อกรกับพลังแห่งความมืด
พิฆาตวิญญาณมองมังกรวารีอย่างไม่ค่อยพอใจ และมังกรวารีก็ไม่ชอบที่พิฆาตวิญญาณไม่มีความเคารพต่อเจ้านายเช่นกัน
ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไม่ดีมาโดยตลอด ทั้งยังมีนิสัยที่ตรงข้ามกันอีก แต่ทว่าเมื่อพวกเขาได้ร่วมมือกันในการต่อสู้ ไม่คาดคิดเลยว่าจะกลายเป็นคู่หูที่สมบูรณ์มากถึงเพียงนี้
แต่ในเวลานี้ หลังจากที่คำสาประเบิดออกมาจิ่วเยี่ยก็ยังไม่ได้เอ่ยปากพูดเลยสักคำเดียว
“แล้วกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์กับแหวนมังกรเทพวารีล่ะ?”
ดวงตาสีฟ้าลึกล้ำนั้นเปลี่ยนเป็นอันตรายมากยิ่งขึ้น พลังอันบ้าคลั่งพุ่งพล่านไปทั่วทั้งสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลอยฟ้า
ทั่วทั้งดินแดนหงส์ ต่างก็ถูกปกคลุมอยู่ท่ามกลางพยับเมฆที่มืดมน
ใบไม้ของต้นถงเหยี่ยนต่างก็ร่วงโรยลงมาอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนว่าจุดจบของดินแดนหงส์กำลังจะมาถึงแล้ว
“เอานี่ไป ยัยผู้หญิงอัปลักษณ์!” อาถิงได้มอบคัมภีร์หมื่นคำสาปที่ผนึกแล้วให้กับมู่เฉียนซี
“ถึงแม้ว่ามันจะถูกผนึกไปแล้ว แต่ทว่าเจ้าสิ่งนี้ก็เจ้าเล่ห์เพทุบายมากมายนัก หากเจ้าโง่จนถูกมันลอบกัดเอาได้ แน่นอนว่าข้าก็ไม่อาจช่วยเจ้าได้เช่นกัน”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าจัดการเรียบร้อยไปสองเล่มแล้ว เหลือเพียงเล่มสุดท้ายนี้ที่ยังไม่เรียบร้อย วางใจเถอะ! ข้าจะระวัง”
ผนึกของคัมภีร์หมื่นคำสาปที่ถูกผนึกไว้โดยอาถิง และมีเพียงนางเท่านั้นที่สามารถปลดออกได้
หลังจากที่ได้เปิดออกแล้ว พลังจิตวิญญาณก็จะถูกหลอมรวมเข้ากับเนื้อหาของคัมภีร์หมื่นคำสาป
นอกจากที่จะดูเนื้อหาที่อยู่ภายในคัมภีร์เล่มที่สามแล้ว ก็ยังต้องมีการหลอมรวม เนื้อหาของคัมภีร์ทั้งสามเล่มอีกด้วย
ตึง!
มู่เฉียนซีหมดสติล้มลงไปทันที
อาถิงได้เข้ามาประคองมู่เฉียนซีเอาไว้ แล้วจ้องมองไปทางสุ่ยจิงอิ๋ง
สุ่ยจิงอิ๋งกล่าวขึ้นมาอย่างอ่อนโยนว่า “ข้าคาดว่าตอนนี้อาถิงดูจะเป็นกังวลมากกว่าผู้ใดเสียอีก!”
ใบหูของอาถิงแดงระเรื่อเล็กน้อย เขากระซิบกระซาบว่า “ท่านพี่!”
“พวกเราจะต้องเชื่อใจซีเอ๋อร์ กับปัญหาที่แก้ได้ยากนี้ ซีเอ่อร์สามารถจัดการได้อย่างแน่นอน”
จิตสำนึกตกอยู่ท่ามกลางความโกลาหล และความโกลาหลนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสรรพสิ่ง
ทุกสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ ล้วนแตกกิ่งก้านสาขาออกมาจากความปรารถนาดี และในเวลาเดียวกันก็ยังมีความคิดชั่วร้ายด้วย
ความคิดชั่วร้ายที่รวมตัวกัน และจากนั้นก็ค่อย ๆ ก่อตัวจนกลายมาเป็นคำสาป
ความคิดชั่วร้ายของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนทำให้กลายมาเป็นคัมภีร์หมื่นคำสาป ครั้งหนึ่งคัมภีร์หมื่นคำสาปนี้ เคยทำให้เกิดฝนเลือดพัดโหมในโลกใบนี้มาก่อน
“เดิมทีข้าเคยคิดว่าหาหุ่นเชิดที่เหมาะสมได้แล้ว แต่ทว่าตอนนี้ข้ากลับได้ค้นพบว่าข้าหาเจ้านายที่เหมาะสมได้มากกว่า เจ้ามีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ บวกกับมีคัมภีร์หมื่นคำสาปที่สมบูรณ์ ทั่วทั้งโลกใบนี้ ผู้ใดจะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าได้?” คัมภีร์หมื่นคำสาปกล่าว
“เจ้าจะพูดจาไร้สาระไปถึงไหนกัน บอกวิธีในการถอนคำสาปของจิ่วเยี่ยมาซะ”
“จะถอนคำสาปไปทำไมกัน ขอเพียงเจ้ากับข้ารวมพลังกัน ก็จะสามารถที่จะควบคุมเขาได้ และทำให้เขาได้กลายเป็นหุ่นเชิดของเจ้า เจ้าสามารถสั่งให้เขาไปฆ่าใครเพื่อเจ้าก็ได้บนโลกใบนี้ และก็สามารถสั่งให้เขาทำท่าทางต่าง ๆ บนเตียงได้อีกด้วย เขาจะกลายเป็นหุ่นเชิดตามที่เจ้าต้องการ ไม่อาจทำร้ายเจ้าได้ ทั้งยังไม่อาจทรยศได้อีกด้วย”
“วิธีการถอนคำสาป? จะบอกหรือว่าไม่บอก หรือว่าเจ้าอยากที่จะติดอยู่ภายในผนึกนี้ตลอดไป”
“เป็นครั้งแรกของข้าที่ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดเกลี้ยกล่อมเจ้า ไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าจะไม่รู้เรื่องถึงเพียงนี้”
“……”
ภายในทะเลจิตวิญญาณ มู่เฉียนซีจึงกำลังประชันกับคัมภีร์หมื่นคำสาป
ดูเหมือนว่ามันจะมีคำพูดล่อลวงที่ไพเราะอ่อนหวานไม่รู้จบ ถึงแม้ว่าจะเป็นกระดาษสีขาวมันก็สามารถย้อมจนกลายเป็นสีดำได้ แต่มู่เฉียนซีไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมศรัทธาเลื่อมใสเสียอย่างนั้น
นางมีคำขอเพียงข้อเดียว นั่นก็คือวิธีการในการถอนคำสาปแห่งความมืดที่แข็งแกร่งที่สุด
คัมภีร์หมื่นคำสาปกล่าวว่า “วิญญาณลิขิตสวรรค์ เห็นชัดว่าเจ้าเป็นคนที่ฉลาดมากคนหนึ่ง ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนหนักแน่นมากยิ่งกว่าคนดื้อรั้นเสียอีก!”
“ความอดทนของข้า มีอยู่จำกัด คัมภีร์หมื่นคำสาป!”
หัวใจที่แน่วแน่ไม่แปรผันดวงนี้ ไม่ว่าจะทำอย่างไรคัมภีร์หมื่นคำสาปก็ไม่มีทางที่จะเปิดออกได้
“ผู้วิปริตที่ข้าได้พบเจอทั้งสองคนตั้งแต่ที่ข้าเกิดมาบนโลกนี้ ถือว่าเป็นความหายนะของข้าเลยทีเดียว”
“พิรี้พิไรอยู่ได้!”
พลังจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่มหาศาลพรั่งพรูออกมา และมู่เฉียนซีก็ใช้ความเร็วสูงสุดในการผสมผสานเข้าด้วยกัน
ในเมื่อเจ้าสิ่งนี้ไม่ยินยอมที่จะพูด แล้วคิดว่านางจะไม่สามารถดูได้อย่างนั้นหรือ?
หลังจากที่ดูการผสมผสานเสร็จเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่านางจะต้องรู้อยู่แล้ว
หลังจากที่นิรันดร์ทำงานเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็กล่าวว่า “ได้แล้ว!”
มู่เฉียนซีที่กำลังหลับลึกมีใบหน้าที่ซีดเผือดเล็กน้อย และหลังจากนั้นก็มีสายลมที่อ่อนโยนห่อหุ้มมู่เฉียนซีขึ้นมา
เขากล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “ที่รักทำงานหนักมากจริง ๆ!”
อาถิงกล่าวอย่างหงุดหงิดว่า “นิรันดร์ เจ้าอย่ามาใช้คำเรียกที่น่าสะอิดสะเอียนเช่นนี้”
นิรันดร์กล่าวพร้อมรอยยิ้มที่ติดตลกว่า “เสี่ยวถิง นี่เจ้าโมโหแล้วใช่หรือไม่? หึงหวงเสียแล้วสินะ! มา พี่ชายคนนี้จะรักเจ้าเอง”
คัมภีร์หมื่นคำสาปนั้นครอบจักรวาล คำสาปบนโลกนี้ ต่างก็มีเส้นทางที่ต่างกันแต่มุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน
สิ่งเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ทำให้สมองแทบจะระเบิด แม้แต่เครื่องคำนวณที่สุดยอดมากที่สุดเครื่องหนึ่งต่างก็ต้องพังทลายเป็นแน่ และในตอนนี้มู่เฉียนซีก็รู้สึกปวดร้าวที่ศีรษะเป็นอย่างมาก
คัมภีร์หมื่นคำสาปกำลังมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่นอยู่ภายในนั้น หากว่าวิญญาณลิขิตสวรรค์เจริญเติบโตขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ ก็อยากที่จะนำมันมาวิเคราะห์ให้ครบถ้วน และนั่นก็เป็นเรื่องปกติมาก
แต่ทว่าสาวน้อยผู้นี้ในเวลานี้ ยังคงห่างไกลอยู่มากนัก!
แต่อย่างไรก็ตาม จิตใจที่กล้าแข็งเช่นนี้ ช่างทำให้คนรู้สึกประหลาดใจมากเกินไปจริง ๆ
มู่เฉียนซีกำลังแยกย่อยคัมภีร์หมื่นคำสาป ส่วนมังกรวารีและพิฆาตวิญญาณก็กำลังต่อสู้กับจิ่วเยี่ยอย่างสุดความสามารถ
อาถิง นิรันดร์และยังมีสุ่ยจิงอิ๋งกำลังเฝ้าอยู่ข้างกายของมู่เฉียนซี พลันนั้นดวงตาที่ปิดสนิทอยู่ทั้งสองข้างของมู่เฉียนซีก็ได้ลืมขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“หาเจอแล้ว!”
คัมภีร์หมื่นคำสาปก็ได้ถูกนางทำให้โกรธจนแทบจะกระอักออกมาเป็นเลือด และไม่คิดเลยว่าเด็กน้อยผู้นี้จะโชคดีหาเจอได้อย่างไม่คาดคิดเช่นนี้
มู่เฉียนซีจ้องมองไปทางจิ่วเยี่ยที่อยู่กลางอากาศ ถึงแม้ว่าจะหาวิธีในการถอนคำสาปได้แล้ว แต่ทว่าตอนนี้ยังไม่มีวัสดุเลย
นิรันดร์กล่าวว่า “ที่รัก คัมภีร์หมื่นคำสาปถูกปิดผนึกไปแล้ว ผลกระทบที่มีต่อหวงจิ่วเยี่ยนั้นไม่มีอีกต่อไปแล้ว เพียงแต่ตอนนี้คำสาปได้ถูกเปิดขึ้นแล้ว และใช้ของเพียงหนึ่งสิ่ง ก็สามารถที่จะกดมันเอาไว้ได้แล้ว”
“อย่างไรก็ตาม วิธีการที่จะทำให้เขาสามารถกินลงไปได้นั้น แน่นอนว่าเป็นปัญหาที่ยากที่สุด!”
อาถิงกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย! จะต้องเคลื่อนไหวอย่างตรงไปตรงมา และบีบบังคับให้กลืนลงไป”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “พวกเราลงมือพร้อมกัน!”
ในตอนนี้มู่เฉียนซีได้ให้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ทั้งห้าร่วมมือกันเคลื่อนไหว และมู่เฉียนซีก็พุ่งออกไปด้วยเช่นกัน
“จิ่วเยี่ย ตอนนี้ข้าสามารถหาวิธีการถอนคำสาปได้แล้ว ท่านจะต้องสงบสติอารมณ์ลงเสียหน่อย”
มิติจองจำ อยู่ในระหว่างการกักขัง เนื่องจากอาถิงและสุ่ยจิงอิ๋งได้ลงมือแล้ว
เสียงขับร้องบทเพลงดังออกมาจากสายลมที่อ่อนโยน ซึ่งมันก็ทำให้คนที่ฟังรู้สึกง่วงงุนได้
นิรันดร์กล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นคนป่วย เมื่อได้นอนสักตื่นก็จะสามาระรู้สึกดีขึ้นได้”
พิฆาตวิญญาณกล่าวขึ้นมาอย่างอดรนทนไม่ไหวว่า “คนเหล่านี้มาเพื่อคอยเกะกะเป็นแน่ ชายที่อันตรายถึงเพียงนี้ฆ่าไปก็ดีแล้ว จำเป็นที่จะต้องทำให้ยุ่งยากด้วยหรืออย่างไร?”
.