ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1716 เป็นทักษะการจูบที่แย่เกินไป
จิตสังหารที่พิฆาตวิญญาณมีต่อจิ่วเยี่ย ไม่ได้ปิดบังไว้เลยแม้แต่น้อย
มังกรวารีพุ่งทะยานผ่านไปจากข้างกายของเขา “นั่นคือคนรักของนายท่าน เจ้าฆ่าเขา นายท่านคงจะทำลายเจ้าเป็นแน่”
จิตสังหารฉายวาบขึ้นมาในดวงตาสีแดงโลหิตนั้น “มังกรวารี เจ้านี่พูดพร่ำมากเกินไปแล้ว! คำพูดที่เจ้าพูดออกมานี้ ข้าไม่ชอบมันเอาเสียเลย!”
ตูม โครมม!
ถึงพวกเขาทั้งห้าลงจะมือพร้อมกัน ต่างก็ยังไม่สามารถกักขังจิ่วเยี่ยเอาไว้ได้
ตูม!
หากยังโจมตีอยู่เช่นนี้ต่อไป คงจะไม่จบไม่สิ้นเป็นแน่
หลังจากที่มู่เฉียนซีได้ตัดสินใจลงไปแล้ว นางก็ได้พุ่งผ่านไปทางจิ่วเยี่ย หรือควรจะพูดได้ว่ากระโจนเข้าไปหาเสียมากกว่า
“หญิงอัปลักษณ์ นี่เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?!”
“ซีเอ๋อร์!”
“นายท่าน!”
“ที่รัก!”
“โง่เง่าเกินไปแล้ว!”
ท่ามกลางการต่อสู้เช่นนี้ การที่มู่เฉียนซีพุ่งออกไปมันช่างหุนหันพลันแล่นมากเกินไปจริง ๆ
แต่ทว่า นางไม่คิดที่จะถ่วงเวลาต่อไปอีกแล้ว และไม่อยากที่จะให้จิ่วเยี่ยถูกคำสาปทรมานอีกต่อไปด้วย
พวกของอาถิงไม่กล้าที่จะโจมตี และในตอนนี้จิ่วเยี่ย ก็ถูกมู่เฉียนซีกระโจนเข้าใส่ และตามสัญชาตญาณของเขาแล้ว เขาไม่มีทางที่จะโจมตีนางอย่างแน่นอน
แต่ทว่ามันเป็นการกักขังคนผู้หนึ่งไว้ในอ้อมแขน แล้วกอดเอาไว้ต่างหาก!
เมื่อภายในสมองสั่งการเช่นนั้น จิ่วเยี่ยจึงทำเช่นนั้นจริง ๆ!
ปึก!
หลังจากที่กอดคนเอาไว้ได้แล้ว จิ่วเยี่ยก็จูบลงไปทันที
ดวงตาของมู่เฉียนซีเปล่งประกายแวววาวออกมา นางเตรียมตัวไว้แล้ว!
นางได้เอายาลูกกลอนที่สกัดไว้ทั้งหมดใส่เข้าไปในปากเรียบร้อยแล้ว และจากนั้นก็ได้รอโอกาสเช่นนี้
แขนทั้งสองข้างของมู่เฉียนซีโอบรอบคอของจิ่วเยี่ยเอาไว้ และยังเพิ่มความลึกล้ำในจูบนี้เข้าไปอีก ส่วนจิ่วเยี่ยนั้นไม่ได้สนใจอะไรเลยแม้แต่น้อย เขาสนใจเพียงการจูบนี้อย่างเดียว และขณะเดียวกันก็กำลังกลืนยาลูกกลอนจำนวนมากเข้าไปโดยไม่รู้ตัว
เปลวเพลิงบินว่อน เมื่อเห็นคนกอดกันแน่นอยู่กลางอากาศ ทั้งยังจูบกันอย่างดูดดื่ม พิฆาตวิญญาณก็รู้สึกถึงความร้อนใจเป็นอย่างมาก
เขาต้องการที่จะฆ่าคน!
อาถิงเบ้ปากพลางกล่าวว่า “หญิงอัปลักษณ์ผู้นี้ แท้จริงแล้วคิดออกตั้งนานแล้วสินะว่าจะส่งยาเข้าไปอย่างไร! นี่มันก็คือหมาป่าเข้าปากเสือชัด ๆ! ได้ทำงานกับคนตัณหากลับเช่นนี้ อย่าคิดว่าข้าจะไปช่วยเหลือนางเลย”
นิรันดร์ลูบคางที่สมบูรณ์แบบของเขา จากนั้นก็สังเกตการณ์อย่างตั้งใจเป็นอย่างมาก
“ทักษะการจูบแย่เกินไปจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหวงจิ่วเยี่ยหรือว่าที่รักก็ตาม หรือว่าที่รักจะชื่นชอบท่วงท่าเช่นนี้กันนะ”
อักขระคำสาปบนใบหน้าของจิ่วเยี่ยได้หายไปจนหมดสิ้นแล้ว ทั้งอักขระคำสาปทั่วร่างกายก็หายไปหมดแล้วด้วยเช่นกัน
ในเวลาเช่นนี้ นิรันดร์ก็โบกมือพลางกล่าวว่า “ที่รัก ทักษะการกลั่นยาของข้ายอดเยี่ยมเลยใช่หรือไม่! จัดการได้แล้วนะ!”
ใบหน้าที่น่าหลงใหลนั้นของนิรันดร์มาพร้อมกับรอยยิ้มที่ทำให้คนรู้สึกอบอุ่น ซึ่งมันทำให้สายตาของจิ่วเยี่ยเปลี่ยนเป็นอันตรายมากยิ่งขึ้น
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างเย็นชา
“ที่รัก หวานใจ ยอดดวงใจ…” นิรันดร์ยิ้มอย่างเจิดจรัสเป็นที่สุด
“รนหาที่ตายเสียจริง!” จิ่วเยี่ยได้วางมู่เฉียนซีลงบนพื้น จากนั้นก็โจมตีเข้าใส่นิรันดร์
นี่เป็นความตั้งใจของนิรันดร์ ทักษะการจูบที่ย่ำแย่ถึงเพียงนั้นยังคิดที่จะได้จูบที่รักต่อไปอีกหรือ ไม่มีทางเสียหรอก เขาจะต้องขัดขวางมันให้ได้
ถึงจะเสี่ยงที่จะถูกคนอันตรายอย่างเขาฆ่าปิดปาก แต่นิรันดร์ก็ยังจงใจที่จะยั่วยุจิ่วเยี่ยอยู่ดี
ตูม!
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “หวงจิ่วเยี่ย คำสาปของท่านเพิ่งจะสงบลงไป อย่าเคลื่อนไหวมากไปนัก!”
“ไม่มีปัญหา ข้าเพียงจะช่วยซีสั่งสอนมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพที่ไม่เชื่อฟังนี้เสียหน่อย”
การต่อสู้ที่เพิ่งจะหยุดลงไปเมื่อครู่นี้ ได้เปิดฉากขึ้นมาอีกครั้งแล้ว
นิรันดร์ได้ถูกทุบตีอย่างค่อนข้างจะน่าเวทนา และใบหน้าของเขาก็ได้เสียโฉมไปแล้ว
ถึงแม้ว่าตอนนี้ เขาจะยังคงไม่ยินยอมที่จะเปลี่ยนคำเรียกก็ตาม
“ที่รัก อย่ามองข้า! หากเจ้ามองมาที่ใบหน้าที่ถูกทุบตีจนน่าเวทนาถึงเพียงนี้ของข้า ภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบของข้าก็คงจะไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้นเล็กน้อย ชายผู้นี้ภายในใจของนางเคยมีภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบที่ไหนกัน
หากต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการไล่ล่าของจิ่วเยี่ยนั้นง่ายดายมาก เพียงกลับไปในห้วงมิติเท่านั้น เนื่องจากจิ่วเยี่ยไม่อาจโจมตีมู่เฉียนซีได้อยู่แล้ว
“ที่รัก รอให้ข้าฟื้นมาในครั้งต่อไป ข้าจะทำให้เจ้าประหลาดใจ!” ก่อนที่นิรันดร์จะไปอยู่ในที่ปลอดภัย ก็ยังเหลือคำพูดนี้เอาไว้ด้วย
ในเวลานี้ มังกรวารีก็ได้เดินออกมา
“ท่านจิ่วเยี่ยโปรดให้คำชี้แนะสักหน่อยได้หรือไม่!”
จิ่วเยี่ยตอบกลับด้วยการโจมตีเขากลับไปโดยตรง
ตูม!
หลังจากการต่อสู้กันเป็นกลุ่ม ไม่คาดคิดว่าจะกลายเป็นการต่อสู้แบบหมุนเวียนไปเสียแล้ว
เรื่องที่นิรันดร์ถูกทุบตีนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่มังกรวารีเป็นอะไรเช่นนั้นหรือ? มู่เฉียนซีมองไปทางสุ่ยจิงอิ๋ง และสุ่ยจิงอิ๋งจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สำหรับมังกรวารีแล้ว ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่มารังแกเจ้านายต่างก็ไม่อาจที่จะให้อภัยได้ แน่นอนว่าจิ่วเยี่ยนั้นเป็นคนที่เจ้าชอบ เขาจึงมีมารยาทเป็นอย่างมาก แต่หากว่าไม่ใช่คนที่สำคัญแล้วละก็ เช่นนั้นจุดจบคงจะน่าเวทนามากเลยทีเดียว”
มังกรวารีจะไม่เป็นอันตรายเมื่ออยู่ต่อหน้าเจ้านายเท่านั้น แต่หากฝ่ายตรงข้ามเป็นคนที่ทำร้ายผู้เป็นเจ้านาย เขาก็สามารถที่จะกลายร่างเป็นปีศาจร้าย และลงโทษฝ่ายตรงข้ามได้ทันที
อาถิงกล่าวว่า “เจ้ามังกรวารีนั่นต้องการที่จะจัดการหวงจิ่วเยี่ยให้คว่ำอย่างแน่นอน หลังจากนั้นก็ให้หญิงอัปลักษณ์อย่างเจ้ามารังแกเขาคืน”
มังกรวารีเพียงแค่ทำให้จิ่วเยี่ยต้องใช้พลังเท่านั้น สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถต่อสู้จนฝ่ายตรงข้ามถึงตายได้ เช่นนั้นจึงไม่ได้มีการต่อสู้จนถึงตาย
และมังกรวารีก็ได้หยุดลงไปแล้วครู่หนึ่ง หลังจากนั้นจึงกล่าวว่า “เดิมทีท่านจิ่วเยี่ยได้มอบแหวนมังกรเทพวารีให้กับนายท่านในตอนแรก และได้ให้ข้ามาอยู่ข้างกายของนายท่าน มังกรวารีผู้นี้ควรที่จะต้องขอบคุณท่านจิ่วเยี่ยถึงจะถูก เมื่อครู่ได้ล่วงเกินท่านเป็นอย่างมาก โปรดท่านอภัยให้ข้าด้วย”
คำพูดของมังกรวารีนั้นสุภาพเป็นอย่างมาก ทั้งยังกระทำตัวดีเป็นอย่างมาก แต่ทว่าจิ่วเยี่ยก็ยังมีความคิดที่อยากจะสังหารคนอยู่ดี
แววตาที่เย็นยะเยือกจ้องมองไปที่มังกรวารี หากรู้…หากรู้ว่ามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์แต่ละอันไม่ได้ทำให้หมดห่วงแล้วละก็ เขาไม่มีทางที่จะยัดมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพที่ไร้ประโยชน์ไปให้กับซีอย่างแน่นอน
มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ ซีมีเพียงแค่ผู้พิทักษ์นิรันดร์ก็เพียงพอแล้ว ส่วนของเล่นชิ้นอื่นนั้น…
มังกรวารีแย้มยิ้ม แล้วกล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “หากนายท่านมีสิ่งใดที่ต้องการ ก็สามารถปลุกมังกรวารีได้”
เมื่อกล่าวจบ เขาก็กลับไปยังมิติพันธสัญญา
สงครามใหญ่ในครั้งนี้ ดูท่าแล้วจะแก้ไขได้ง่ายดายมากกว่าเมื่อครั้งของเผ่ามังกร แต่ทว่าพวกเขาก็ใช้เวลาไปมากเช่นกัน
“หวงจิ่วเยี่ย มาต่อสู้กับข้าซะ!” อาถิงรีบพุ่งออกไปทันที
“ไม่!” จิ่วเยี่ยเกียจคร้านเกินกว่าจะคุยกับเด็กน้อยผู้นี้
“เจ้าไม่อาจที่จะกล่าวปฎิเสธได้!”
ตูม โครมมม!
นี่เป็นการต่อสู้แบบหมุนเวียนจริง ๆ มู่เฉียนซีหันไปมองทางสุ่ยจิงอิ๋งแล้วกล่าวว่า “สุ่ยจิงอิ๋ง เจ้าคงจะไม่ร่วมวงหมุนเวียนกันต่อสู้นี้หรอกใช่หรือไม่?”
สุ่ยจิงอิ๋งกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าเชื่อฟังซีเอ๋อร์ หากซีเอ๋อร์อยากจะให้ข้าโจมตี ข้าก็จะโจมตีเช่นกัน!”
“เจ้าอย่าไปสร้างความวุ่นวายเลย คาดว่าพวกเขาคงจะกำลังฟื้นตัวอย่างเร่งรีบ ดังนั้นถึงได้คิดที่จะออกกำลังกายกล้ามเนื้อเช่นนี้”
สุ่ยจิงอิ๋งกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “อื้ม! ซีเอ๋อร์เป็นห่วงจิ่วเยี่ย ข้าเข้าใจดี! ข้าไม่โจมตีหรอก!”
“คำสาปนี้ก็เพียงแค่สงบลงชั่วคราวเท่านั้น และมันก็สามารถที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อ! เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถหาวิธีถอนคำสาปได้แล้วเช่นนั้นหรือ สามารถวางใจได้แล้วหรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่า สิ่งของเหล่านี้หาได้ยากเพียงใด?” คัมภีร์หมื่นคำสาปในเวลานี้กำลังสาดน้ำเย็นใส่มู่เฉียนซี
“เจ้าคิดว่ายาวิญญาณนิรันดร์เม็ดนั้นของหม้อวิญญาณนิรันดร์เป็นยาสารพัดประโยชน์หรือ อย่าไร้เดียงสาไปหน่อยเลย คำสาปสุดยอดเช่นนี้ ยานั้นสามารถควบคุมไว้เพียงชั่วครู่เท่านั้น และถึงแม้ว่ามันจะเป็นยาที่หม้อวิญญาณนิรันดร์กลั่นออกมาก็ตามที”
สิ่งของที่จำเป็นต้องนำมาถอนคำสาปแห่งความมืดที่แข็งแกร่งที่สุดนั้น มันไม่มีสิ่งไหนง่ายดายเลยจริง ๆ
ไม่รู้ว่าอาถิงและจิ่วเยี่ยจะต่อสู้กันไปอีกนานแค่ไหน เดิมทีคิดอยากที่จะบอกเรื่องนี้กับจิ่วเยี่ย แต่ตอนนี้นางไม่มีโอกาสเลย เช่นนั้นก็เขียนออกมาเถอะ!
มู่เฉียนซีหยิบเอากระดาษและพู่กันออกมา แล้วเริ่มต้นเขียน!
แก่นเลือดหงส์นิลแห่งความมืด
กระดูกมังกรของมังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่าง
ดีกิเลนของกิเลนแห่งนรก
และยิ่งไปกว่านั้นก็คือ หัวใจของไม้เทพแห่งชีวิต
สิ่งของแต่ละอย่างเหล่านี้ เมื่อได้ยินชื่อแล้วต่างก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งของที่หายากทั้งสิ้น
และในบรรดาสิ่งของทั้งสี่นี้ มีเพียงไม้เทพแห่งชีวิตเท่านั้นที่มีอยู่ภายในบันทึกของหัวหน้าเผ่าคำสาป ส่วนอันอื่นนั้น…
สุ่ยจิงอิ๋งได้กวาดสายตามองสิ่งของที่ต้องการเหล่านี้แล้วกล่าวว่า “แก่นเลือดหงส์นิลแห่งความมืด มังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างและยังมีกิเลนแห่งนรก น่าจะเป็นสัตว์เทพที่พิเศษที่สุดในสามเผ่าสัตว์เทพโบราณ ซึ่งมันน่าจะยังมีอยู่”