ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1718 ซีสามารถดับไฟได้
“นายท่าน หรือว่าที่ท่านเทพหงส์จักรพรรดิพูดจะหมายถึงข้าใช่หรือไม่? แต่ทว่า ข้าเป็นเพียงแค่หงส์นิลเท่านั้นเองนะ”
เสี่ยวโม่โม่ทนไม่ไหวจนต้องบินออกมาจากห้วงมิติ ในสงครามใหญ่ครั้งนี้มันเด็กมากเกินไป ทั้งยังอ่อนแอเกินไปอีกด้วย ฉะนั้นจึงไม่อาจช่วยเหลืออะไรเจ้านายได้
โชคดีที่หลังจากนั้นเจ้านายพลิกสถานการณ์จากร้ายกลายเป็นดี และยังรอดพ้นจากอันตรายในครั้งนี้มาได้สำเร็จอีกด้วย
เทพหงส์จักรพรรดิกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้าเด็กน้อยผู้นี้ช่างน่ารักเสียจริง”
“เสี่ยวโม่โม่ของข้าเป็นหงส์นิลที่มีสายเลือดบริสุทธิ์”
“แน่นอนว่าข้ารู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่ทว่าขอเพียงแค่มีสายเลือดหงส์นิลบริสุทธิ์เท่านั้น ก็จะสามารถสร้างหงส์นิลแห่งความมืดขึ้นมาได้แล้ว”
“คำพูดนี้ของท่านหมายความว่าอย่างไร?”
“หงส์นิลแห่งความมืด ที่จริงแล้วเป็นการกลายพันธุ์มาจากหงส์นิลเท่านั้นเอง! ในสมัยโบราณกาล เผ่าหงส์นิลได้เคยออกมาต่อสู้กับปีศาจแห่งความมืด ท้ายที่สุดแล้วก็มีหงส์นิลตัวหนึ่งถูกปีศาจแห่งความมืดทำให้บาดเจ็บสาหัส และเมื่อมีชีวิตรอดต่อมาได้ มันก็ได้กลายพันธุ์ไปเป็นหงส์นิลแห่งความมืด”
มู่เฉียนซีกอดเสี่ยวโม่โม่ไว้แล้วกล่าวว่า “ความหมายของท่านก็คือ?”
“วางใจเถอะ เจ้าตัวน้อยนี้อยู่ท่ามกลางกลิ่นอายแห่งความตายมาตั้งแต่เกิด พลังชีวิตของมันอยู่เหนือจินตนาการของเจ้าเสียอีก หากกลายเป็นหงส์นิลแห่งความมืดแล้ว ความสามารถของเจ้าตัวน้อยนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้เจ้าหมอนั่น มีพลังอำนาจของเทพหงส์รองจากข้าเพียงเท่านั้นเอง”
เปลี่ยนเสี่ยวโม่โม่ และทำให้เสี่ยวโม่โม่กลายพันธุ์ไปเป็นหงส์นิลแห่งความมืด แต่ทว่าเจ้าตัวน้อยนี้ยังเด็กมากนัก
ผลที่ได้เมื่อเสี่ยวโม่โม่ได้ยินว่าสามารถเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นได้ ก็ทำให้มันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“นายท่าน ข้าต้องการจะกลายเป็นหงส์นิลแห่งความมืดที่มีความแข็งแกร่ง”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ท่านเทพหงส์จักรพรรดิ สิ่งนี้มีความอันตรายมากแค่ไหน? ถึงแม้ว่าข้าจะต้องการหาแก่นเลือดของหงส์นิลแห่งความมืดมากเพียงใด แต่ข้าก็ไม่มีทางที่จะเอาคู่หูของข้ามาทำการเดิมพันเช่นนี้อย่างแน่นอน”
“หากว่าเป็นหงส์ตัวอื่นแล้วละก็ อัตราความสำเร็จที่ไร้ขีดจำกัดนั้นใกล้เคียงกับศูนย์เลยทีเดียว แต่หากเป็นเจ้าตัวน้อยนี้ละก็ มีอัตราความสำเร็จถึงครึ่งหนึ่งเลยล่ะ” เทพหงส์จักรพรรดิก็ไม่ได้โกหกมู่เฉียนซีเช่นกัน
“อันที่จริงแล้วข้าก็มีความคิดที่เห็นแก่ตัวอยู่เช่นกัน เผ่าหงส์ทั้งหมดของข้าถูกรังแกและถูกกดขี่ ความจริงแล้วมันมีเหตุผลหนึ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก นั่นก็เป็นเพราะไม่มีผู้แข็งแกร่งที่มีความแข็งแกร่งที่เพียงพอ ถึงจะเป็นหงส์น้ำแข็งและหงส์อัสนีนั้นก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี เช่นนั้นเผ่าหงส์ของข้าจำเป็นที่จะต้องมีผู้แข็งแกร่งถึงขณะต้านสวรรค์ได้สักคนหนึ่ง”
“ข้านั้นเฝ้ารอให้หงส์นิลแห่งความมืดปรากฏตัวออกมาจริง ๆ”
“นายท่าน ข้ามีโอกาสตั้งครึ่งหนึ่ง ไม่มีปัญหาหรอก ท่านอย่ากังวลไปเลย!” เสี่ยวโม่โม่กล่าวพลางดึงแขนเสื้อของมู่เฉียนซีเอาไว้มั่น
“ข้าสาบาน ว่าข้าจะปกป้องเจ้าเด็กน้อยนี้ไว้อย่างสุดความสามารถ ถึงแม้จะล้มเหลว ข้าก็สามารถทำให้มันเกิดใหม่ขึ้นมาจากขี้เถ้าได้ เจ้ายินยอมที่จะลองหรือไม่?”
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สนใจสิ่งวุ่นวายทั้งหลายบนโลกนี้ แต่ทว่าจะก็จะปกป้องมันให้ถึงที่สุด
พวกของเผ่าเทพกล้ามากำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้ เช่นนั้นพวกเขาเผ่าหงส์ก็ไม่รังเกียจที่จะมีหงส์นิลแห่งความมืดตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา แล้วพลิกฟ้าพลิกแผ่นนี้ไปเสียเลย
“เช่นนั้นตามขั้นตอนแล้วคงจะต้องทรมานมากอย่างแน่นอนเลย!” มู่เฉียนซีกล่าว
“นายท่าน เสี่ยวโม่โม่ไม่กลัว!”
เทพหงส์จักรพรรดิกล่าวว่า “แม่สาวน้อย เจ้าตัวน้อยนี่มีสายเลือดของเผ่าหงส์นิลของพวกข้า มันมีความสามารถพอที่จะยอมรับได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อเจ้าหรือเพื่อคนในเผ่าก็ตาม ข้ารู้สึกว่าจะต้องเคารพต่อการตัดสินใจด้วยตนเองของนางด้วย ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง”
เสี่ยวโม่โม่พยักพลางกล่าวว่า “ข้าต้องการที่จะลองดูสักครั้ง! ข้าต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น!”
“แต่ว่านี่คือแห่งความมืด…”
จิ่วเยี่ยกระซิบกล่าวว่า “ยังมีข้าอยู่”
เทพหงส์จักรพรรดิกล่าวว่า “ข้าถูกใจในพลังความมืดของเจ้าเด็กน้อยคนนี้ หากไม่ใช่เพราะพลังความมืดที่มีความวิปริตของเด็กคนนี้ ข้าก็คงไม่อาจร้องขอเช่นนี้ออกมาได้”
“หากทั้งหมดผ่านไปด้วยดีแล้วละก็ หลังจากนี้ไปพละกำลังของเจ้าตัวน้อยนี้จะไม่อาจประเมินค่าได้อย่างสมบูรณ์ มันจะต้องมีความสามารถเหนือกว่าหงส์นิลแห่งความมืดเพียงหนึ่งเดียวตัวนั้นของเผ่าหงส์ของข้าอย่างแน่นอน เหนือกว่าโอรสศักดิ์สิทธิ์อย่างเทพหงส์ และอาจจะเหนือกว่าข้าด้วย!”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “เช่นนั้นจะเริ่มกันเมื่อไร?”
“แน่นอนว่าจะต้องเป็นตอนนี้ เริ่มในทันที!”
“ไม่ได้! จิ่วเยี่ยยังไม่ทันที่จะได้พักผ่อนเลย อีกทั้งเสี่ยวโม่โม่ก็ยังไม่ได้เตรียมตัวเลยด้วย”
“เอาล่ะ ๆ ๆ! เช่นนั้นข้าให้เวลาพวกเจ้าได้พลอดรักกันหนึ่งคืนก็แล้วกัน และจากนั้นค่อยตามข้ามาอีกที!”
มู่เฉียนซีได้ตอบรับตามคำขอของเทพหงส์จักรพรรดิแล้ว เช่นนั้นเทพหงส์จักรพรรดิจึงได้เตรียมห้องไว้ให้พวกเขาได้พักผ่อนห้องหนึ่ง
เขารู้ว่า ตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่ในสถานะที่ดีที่สุดแน่นอนอยู่แล้ว
ทั่วทั้งห้องถูกตกแต่งไปด้วยสีแดงสด ราวกับห้องหออย่างไรอย่างนั้น
แสงสีแดงสว่างสะท้อนอยู่บนใบหน้าของมู่เฉียนซี ซึ่งมันดูน่าหลงใหลมากเป็นพิเศษ
จิ่วเยี่ยเข้าไปใกล้ แล้วตรงเข้าไปจุมพิตนางอย่างรวดเร็วทีหนึ่ง
เทพหงส์จักรพรรดิยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พลางอุ้มเสี่ยวโม่โม่จากไป
“เจ้าตัวน้อย เจ้าเป็นเด็กดีแล้วปล่อยให้พวกเขาทั้งสองอยู่ในโลกของพวกเขาเถิด! ข้าจะพาเจ้าไปเดินเล่นเอง ดีหรือไม่?”
“ไม่เอา ท่านเทพหงส์จักรพรรดิ ข้าอยากให้ท่านเล่าเรื่องผู้แข็งแกร่งของเผ่าหงส์ ข้าอยากฟัง!”
“เอาล่ะ ตกลง! เจ้าบรรพบุรุษตัวน้อย เจ้าอยากจะฟังข้าก็จะเล่าให้เจ้าฟัง เช่นนั้นเริ่มเล่าจากเรื่องของข้าดีหรือไม่? เนื่องจากว่าข้าเป็นคนของเผ่าหงส์ที่แข็งแกร่งมากที่สุดแล้ว”
คนอื่นนั้นต่างยังคงอยู่ในการหลับใหล และเทพหงส์จักรพรรดิก็ได้หยิบเอาโคมไฟดวงน้อยแล้วเดินจากไป
ในที่สุดราชาจิ่วเยี่ยก็ได้เผยเคี้ยวเล็บของตนเองออกมา จากนั้นก็เริ่มเพลิดเพลินไปกับเหยื่อที่เขาอยากจะลิ้มรสมากที่สุด
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เมื่อเล่นกับไฟ ก็จะถูกไฟแผดเผา อันตรายมากนะ!”
“มีซีอยู่ข้างกาย ข้าไม่กลัวหรอก! ซีสามารถดับไฟนั้นได้”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างหมดหนทาง “จิ่วเยี่ย ท่านประเมินข้าสูงเกินไปหน่อยแล้ว”
และวันรุ่งขึ้น จิ่วเยี่ยก็ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง
ขนาดโดนคำสาปทรมานมาเป็นเวลานานมากถึงเพียงนั้น แต่ผลก็คือ เมื่อคืนวานนี้เขาสามารถฟื้นคืนความกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาได้ภายในชั่วพริบตา
มู่เฉียนซีกำลังสงสัยอยู่ว่าชายผู้นี้คือปีศาจที่ดูดซับพลังชีวิตของผู้อื่นมาให้ตนเองใช่หรือไม่!
เทพหงส์จักรพรรดิกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ดูท่าว่าเมื่อคืนวานนี้ พวกเจ้าจะพักผ่อนได้ไม่เลวเลย! สามารถเริ่มได้แล้วหรือไม่? พลังของข้าไม่อาจที่จะคงอยู่ในโลกใบนี้ได้ยาวนานเท่าไรนัก”
จิ่วเยี่ยกล่าวว่า “สามารถเริ่มได้เลย!”
“เช่นนั้นก็ตามข้ามาเถอะ! ของทั้งหมดได้ถูกเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว”
ภายในสุสานลอยฟ้าแห่งนี้ ที่ด้านบนยังมีอีกชั้นหนึ่ง และมันก็มองจากด้านล่างไม่เห็นอย่างแน่นอน เนื่องจากว่ามันเป็นช่องว่างแยกอยู่อย่างโดดเดี่ยวจากทั้งสองส่วน
สงครามใหญ่ในครั้งนี้ทำลายไปเพียงแค่ด้านล่างเท่านั้น
เทพหงส์จักรพรรดิเกือบจะเอาสมบัติที่สามารถนำออกมาได้ ออกมาทั้งหมดแล้ว
เขากล่าวว่า “ครั้งนี้ ต้องทำให้สำเร็จเท่านั้น ไม่อาจที่จะล้มเหลวได้! หากครั้งนี้ล้มเหลว ก็จะไม่มีโอกาสในครั้งต่อไปอีกแล้ว”
เทพหงส์จักรพรรดิอุ้มเสี่ยวโม่โม่ไว้พลางกล่าวว่า “เจ้าตัวน้อย เจ้านอนเสียเถอะ! รอให้เจ้าตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าก็จะกลายเป็นหงส์นิลแห่งความมืดที่แข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ของเผ่าหงส์ของข้า”
“อื้ม!”
เทพหงส์จักรพรรดิสัมผัสหน้าผากของเสี่ยวโม่โม่อย่างแผ่วเบา และมันก็ได้จมเข้าสู่ห้วงนิทรา
เทพหงส์จักรพรรดิกล่าวว่า “ตามที่ข้าได้รู้มา พลังแห่งความมืดของเจ้าไม่ใช่พลังแห่งความมืดบริสุทธิ์ แต่ทว่ามันก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน”
“ข้าแยกออกมาก็ได้แล้ว”
“แยกออกหรือ!” เทพหงส์จักรพรรดิค่อนข้างประหลาดใจ
แต่จิ่วเยี่ยก็สามารถทำได้จริง ๆ และยังทำได้อย่างง่ายดายมากอีกด้วย ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เมื่อนานมากแล้วเขาจะทำเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นเขาถึงทำได้อย่างคล่องแคล่วถึงเพียงนี้
“เจ้ามากับข้า!”
เทพหงส์จักรพรรดิอธิบายทีละขั้นตอนอย่างละเอียดถี่ถ้วน การจะสร้างหงส์นิลแห่งความมืดกลายพันธุ์สักตัวนั้น มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างสิ้นเชิง
แต่จิ่วเยี่ย กลับทำทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านี้ด้วยความสงบ
มู่เฉียนซีได้อุ้มอู๋ตี้ที่เป็นแมวน้อยสีขาวราวหิมะออกมา เนื่องจากว่านางยังคงมีความกังวลใจอยู่เล็กน้อย
อู๋ตี้กล่าวว่า “นายท่าน ท่านอย่ากังวลไปเลย! เจ้าตัวน้อยนั้นเก่งกาจมาก ท่านจิ่วเยี่ยก็มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก บวกกับท่านเทพหงส์จักรพรรดิผู้นั้น เป็นคนผู้นี้มีความสามารถไม่น้อย หากการร่วมมือที่แข็งแกร่งยังไม่อาจประสบความสำเร็จได้แล้วละก็ เช่นนั้นก็ผิดจากหลักการแห่งสวรรค์แล้ว!”
พลังแห่งความมืด ระเบิดออกมาอย่างกะทันหัน
มันแพร่กระจายไปทั่วทั้งสุสานของเทพหงส์จักรพรรดิ และจากนั้นก็กระจายไปทั่วสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
ธาตุอัคคีที่อยู่ภายในนี้ต่างก็ถูกหลอมรวมไปกับพลังแห่งความมืด จนกลายเป็นลูกไฟสีดำ และสั่นไหวอยู่ภายในสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ มันทั้งน่าหวาดกลัวและยังอันตรายอีกด้วย!