ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1719 หงส์นิลแห่งความมืด
ความรู้สึกทั้งหมดของเทพหงส์จักรพรรดิได้รับการปลดปล่อย และเมื่อเห็นสถานการณ์ทั่วทั้งสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง เขาก็ต้องตกใจเป็นอย่างมาก
สุดท้ายแล้วเขาก็ประเมินเจ้าเด็กน้อยผู้นี้ต่ำจนเกินไป เนื่องจากว่าความน่ากลัวของเด็กน้อยผู้นี้เหนือกว่าที่เขาจินตนาการไว้หลายร้อยเท่านั้นนัก
มู่เฉียนซีก็ชะงักงันไปครู่หนึ่ง “จิ่วเยี่ยผู้นี้ระเบิดพลังที่แข็งแกร่งออกมาถึงเพียงนั้น จะไม่เป็นอะไรอย่างนั้นหรือ!”
จิ่วเยี่ยได้แยกพลังของเขาออกจากกัน เขาไร้พลังที่จะใช้ในการสกัดกั้นคำสาปเอาไว้ และส่งพลังแห่งความมืดไปให้กับเสี่ยวโม่โม่
เมื่อพลังแห่งความมืดเข้าสู่ร่างกาย ถึงแม้ว่าเสี่ยวโม่โม่จะถูกทำให้ตกอยู่ในสถานะที่หลับใหล แต่ทว่าในตอนนี้ก็ยังคงถูกทำให้ตื่นขึ้นมาอยู่ดี
แต่มันกลับไม่ได้ส่งเสียงครวญครางใด ๆ ออกมาเลย ไม่ได้หรอก เพราะนั่นอาจจะทำให้เจ้านายเป็นกังวลได้
เทพหงส์จักรพรรดิส่ายหน้าอย่างจนใจ แล้วกล่าวว่า “เจ้าเด็กน้อยนี้ ช่างเป็นเด็กน้อยน่ารักที่ทั้งดื้อรั้นและดันทุรังเสียจริง ๆ เลย!”
แต่ทว่ามู่เฉียนซีกลับสามารถรู้สึกได้ถึงสถานการณ์ของเสี่ยวโม่โม่และความเข้มแข็งของนาง
มู่เฉียนซียืนขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้เดินไปทางเสี่ยวโม่โม่
นางเป็นนักปรุงยาคนหนึ่ง ทั้งยังเป็นหมออีกด้วย แต่ทว่าในสถานการณ์ตอนนี้นางไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้เลยหรือ?
ผู้ที่สามารถช่วยได้ก็คือจิ่วเยี่ยและเทพหงส์จักรพรรดิเท่านั้น
มู่เฉียนซีจ้องมองไปทางจิ่วเยี่ยและเทพหงส์จักรพรรดิ เรื่องของเสี่ยวโม่โม่ก็คงต้องมอบให้พวกเขาแล้ว
มู่เฉียนซีเดินตรงออกไป อู๋ตี้กล่าวว่า “นายท่าน พวกเราจะไปที่ไหนกันหรือ?”
“ไปหาสถานที่ที่เงียบสงบ ข้าจะไปปรุงยา”
“ปรุงยาหรือ!”
“อื้ม! ไม่ว่าเสี่ยวโม่โม่จะทำสำเร็จหรือไม่ สุดท้ายแล้วก็ยังต้องการยาน้ำและยาลูกกลอนมาใช้ปรับสภาพของร่างกาย แม้ว่าจะเป็นสัตว์เทพ แต่เมื่อพลังแห่งความมืดเข้าสู่ร่างกาย และต้องหลอมรวมให้เข้ากับพลังของตนเองอย่างไม่ได้รับอนุญาตแบบนั้น แน่นอนว่าเสี่ยวโม่โม่จะต้องได้รับความทรมานมากแน่นอนอยู่แล้ว” มู่เฉียนซีตอบกลับ
“ตกลง! เช่นนั้นข้าจะปกป้องนายท่านเอง นายท่านปรุงยาอย่างสบายใจเถอะ!”
มู่เฉียนซีเข้าไปปรุงยาในห้องปรุงยา เนื่องจากมีเพียงการปรุงยาเท่านั้นที่จะทำให้อารมณ์ที่กระสับกระส่ายของนางสงบลงได้
ท่านหมอปีศาจอุทิศทั้งหัวใจในการปรุงยา และประสิทธิภาพในการทำงานนั้นก็ออกมาดีจนน่าประหลาดใจ ในส่วนของยาลูกกลอนและยาน้ำที่ได้กลั่นนี้ เสี่ยวโม่โม่ก็จะกินไม่หมดอยู่แล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ไม่มีทางเลือก! เช่นนั้นปรุงยาอื่นก็แล้วกัน”
จิ่วเยี่ยและเทพหงส์จักรพรรดิกำลังทำให้เสี่ยวโม่โม่กลายเป็นหงส์นิลแห่งความมืดที่แข็งแกร่ง ในส่วนของมู่เฉียนซีนั้นก็กำลังปรุงยาอยู่อย่างกระตือรือร้นเช่นกัน
แต่ทว่าในดินแดนของหงส์ ได้เกิดความวุ่นวายขึ้นแล้ว
หลังจากที่หนีออกมาจากสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์แล้ว สิ่งแรกที่เทพราชาสมควรที่จะทำก็คือการหนีไปยังดินแดนเทพเพื่อขวนขวายให้เทพจักรพรรดิคอยคุ้มครอง
ฝ่าบาทจิ่วเยี่ยน่ากลัวเกินไปแล้ว ก่อนหน้านี้ก็น่ากลัว ตอนนี้ยังน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
แต่ก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใด เทพราชาถึงได้ไม่ยอมหนีไป แต่ยังคงอยู่ที่ดินแดนหงส์แห่งนี้ และยังเปิดสงครามใหญ่อีกด้วย
หากว่าไม่มีทางที่จะได้รับคัมภีร์หมื่นคำสาปมาแล้ว แต่อย่างไรเขาก็ยังต้องทำผลงานเสียหน่อย
ตอนนี้สิ่งที่สามารถสร้างผลงานได้เพียงอย่างเดียวในดินแดนหงส์ นั่นก็คือการที่สามารถควบคุมเผ่าหงส์ไว้ในกำมือได้อย่างสมบูรณ์ และต้องไม่ให้มีผู้ใดต่อต้านหรือนอกคอกเลยแม้แต่คนเดียว
“ท่านหยา การตัดสินใจของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?” เทพราชากล่าวถาม
“ไม่มีปัญหา! จัดการสิ่งที่สร้างปัญหาเหล่านี้ก่อน ฝ่าบาทจิ่วเยี่ยยังไม่ออกมาในตอนนี้ ไม่แน่อาจจะบาดเจ็บสาหัส หรืออาจจะตายไปแล้วก็ได้ ตราบใดที่พวกเราสามารถควบคุมเผ่าหงส์ได้ ก็มีความเป็นไปได้มากว่าจะสามารถเข้าไปสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ได้อีกครั้ง และเอาคัมภีร์หมื่นคำสาปมาได้”
“ตกลง!”
หลังจากที่เทพราชารวบรวมคนเรียบร้อยแล้ว คนแรกที่จะถูกทำลายนั้นก็คือเผ่าหงส์นิล
หลานสาวของหัวหน้าเผ่าอย่างราชาโม่มีผู้ผูกพันธสัญญาเป็นมู่เฉียนซี ซึ่งนางเด็กน้อยนั่นก็เป็นคนที่ทำให้ลูกชายของเขาต้องตาย
ในตอนนี้เด็กสาวผู้นั้นคาดว่าคงไม่เหลือแม้แต่กระดูกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่มีทางที่จะปล่อยเผ่าหงส์นิลไปได้อย่างง่ายดายแน่นอน
หายนะครั้งใหญ่กำลังจะเข้ามาเยือนเผ่าหงส์นิลแล้ว
ครืนนน!
เสียงสัญญาณของสงครามเผ่าเทพดังกึกก้อง
ในตอนที่เผ่าหงส์นิลกำลังต้องเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย ทันใดนั้นก็มียอดฝีมือไม่น้อยปรากฏตัวออกมา
“พวกท่าน…ไม่คาดคิดว่าพวกท่าน…”
คนเหล่านี้เป็นคู่ต่อสู้กันมานานแล้ว ไม่บาดเจ็บสาหัสก็ถูกคำสาป จนต่างก็กลายเป็นขยะไปแล้ว!
พวกเขาถูกซ่อนจากโลกมานานแล้ว เป็นผู้ที่ไร้ตัวตน และต่างก็มีคนจำนวนไม่น้อยได้ลืมเลือนพวกเขาไปแล้ว
ราชาโม่ก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ไม่คาดคิดเลยว่าท่านผู้อาวุโสเหล่านี้ จะสามารถออกโรงมาช่วยเหลือพวกเขาเผ่าหงส์นิลได้เช่นนี้
ราชาโม่กล่าวว่า “ต้องขอขอบคุณท่านผู้ยิ่งใหญ่ทุกท่านที่ออกโรงช่วยเหลือกันเช่นนี้ ข้ารู้สึกซาบซึ้งจนหาที่สุดมิได้จริง ๆ!”
“อันที่จริงพวกเจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า หากต้องการจะขอบคุณก็ไปขอบคุณท่านหมอปีศาจเถิด! นี่เป็นคำร้องขอของท่านหมอปีศาจ หากว่าคนของเผ่าหงส์นิลเกิดปัญหา พวกข้าจะต้องออกโรงช่วยเหลืออยู่แล้ว”
“หมอปีศาจ!”
เมื่อได้ยินข่าวเล่าลือว่ามีหมอปีศาจที่สามารถถอนคำสาปได้ ราชาโม่ก็รู้เลยว่า คนผู้นั้นจะต้องเป็นมู่เฉียนซีอย่างแน่นอน
การมีอยู่ในเรื่องเล่าที่เป็นตำนานเช่นนี้ สาวน้อยที่เก่งกาจถึงเพียงนั้น จะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน
หลังจากนั้น เผ่าหงส์ครามก็เข้ามาสมทบด้วย เผ่าหงส์อัสนีและเผ่าหงส์วารีต่างก็มาช่วยเหลือด้วยเช่นกัน
แล้วยังมีจื่อโยวด้วย
จื่อโยวกล่าวอย่างเย็นชาว่า “หากคิดที่จะทำลายเผ่าหงส์นิล ก็ต้องดูด้วยว่าข้าผู้นี้จะยินยอมหรือไม่ และตอนนี้อารมณ์ของข้าก็ไม่ดีเท่าไรด้วย พวกเจ้ารนหาที่ตายกันเอง!”
“ไปตายกันเสียให้หมดเถอะ!”
พลังอำนาจร่างที่แท้จริงของงูเก้าเศียรบุพกาลโยวหมิงนั้น เป็นสัตว์ร้ายที่น่าสะพรึงกลัว หงส์ทั้งหมดที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ ต่างก็ทำได้เพียงแค่สั่นเทาเท่านั้น
สงครามใหญ่ของเผ่าหงส์ได้เริ่มขึ้น ทางฝ่ายที่ปกป้องเผ่าหงส์ ก็มีแคว้นเหลยหวงเป็นฐานที่มั่น
และเผ่าหงส์ที่ทอดทิ้ง และแปรพักตร์ไปหาเผ่าเทพอย่างเผ่าหงส์ม่วงและหงส์น้ำแข็ง ภายใต้คำสั่งของเผ่าเทพ ก็ได้เริ่มโจมตีพวกเขาขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งครั้งแล้วครั้งเล่า
พวกของมู่เฉียนซีไม่รู้ว่าอยู่ที่สุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์นานเพียงใดแล้ว และทันใดนั้นก็มีเสียงร้องอันไพเราะของหงส์ดังออกมา มู่เฉียนซีจึงได้หยุดงานที่ทำอยู่ในมือทั้งหมดลงและพุ่งออกไปทันที
เปลวเพลิงสีดำลุกโชนอยู่กลางอากาศ และมันได้ปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้า
ปีกสีดำนั้น ดูเหมือนว่าจะเปล่งประกายแวววาวมากยิ่งขึ้นแล้ว และทั่วทั้งร่างก็ได้มีพลังลึกลับที่แข็งแกร่งแผ่กระจายออกมา
พลังเช่นนี้ มู่เฉียนซีมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี เนื่องจากว่าที่ตัวของจิ่วเยี่ยก็มีพลังอย่างนี้อยู่เช่นกัน
ครืนนน!
เปลวเพลิงสีดำ เริ่มที่จะแพร่กระจายออกไป
ทันใดนั้นจิ่วเยี่ยก็มาปรากฏตัวอยู่เบื้องหลังมู่เฉียนซีอย่างกะทันหัน จากนั้นก็โอบกอดมู่เฉียนซีไว้กลางอากาศ
มู่เฉียนซีจับจิ่วเยี่ยเอาไว้อย่างตื่นเต้นพลางกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย สำเร็จหรือไม่?”
จิ่วเยี่ยขบติ่งหูของมู่เฉียนซีอย่างแผ่วเบา “ข้าลงมือเอง แต่ซีไม่เชื่อว่าจะสำเร็จ เช่นนั้นควรจะต้องถูกลงโทษ”
เทพหงส์จักรพรรดิกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่เพียงแต่สำเร็จเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนแปลงได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย! ข้ารู้สึกได้ว่าเจ้าเด็กน้อยนี้เกิดมาเพื่อที่จะเป็นหงส์นิลแห่งความมืดที่แข็งแกร่งมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว”
“ไม่เพียงแต่กลายเป็นหงส์นิลแห่งความมืดเท่านั้น แม้แต่เพลิงหงส์อมตะที่ได้รับสืบทอดมาจากเทพหงส์ก็ได้กลายเป็นเพลิงหงส์อมตะแห่งความมืดไปแล้วเช่นกัน พลังนี้ได้เพิ่มระดับขึ้นมาอย่างน้อยก็สองเท่าแล้ว”
เปลวเพลิงแห่งความมืดบังเกิดขึ้น และทั่วทั้งโลกก็ได้รับรู้ถึงความตาย!
และเมื่อเปลวเพลิงได้หายไป ทั่วทั้งสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ ก็ได้มีพลังแห่งชีวิตเข้ามาอย่างเต็มเปี่ยม
การทำลายให้พินาศย่อยยับ ก็คือการเกิดขึ้นมาใหม่นั่นเอง!
หลังจากที่เสี่ยวโม่โม่ได้ระบายพลังที่มากเกินไปออกจากร่างกายแล้ว ก็ได้เปลี่ยนเป็นรูปลักษณ์เจ้าตัวน้อยแสนน่ารักแล้วบินไปอยู่ตรงหน้าของมู่เฉียนซี
“นายท่าน เสี่ยวโม่โม่ทำสำเร็จแล้ว ข้าทำให้ท่านเป็นห่วงเสียแล้ว!”
มู่เฉียนซีได้ลูบไปที่หัวของเสี่ยวโม่โม่พลางกล่าวว่า “ข้ากังวลใจมากมายเหลือเกิน แต่เจ้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ยาลูกกลอนเหล่านี้เจ้าเอาไปกินเสียเถิด มันจะช่วยควบคุมพลังของเจ้า”
“อิ้ม! เสี่ยวโม่โม่จะต้องกินอย่างเชื่อฟังแน่นอน แต่ว่านายท่านไม่ใช่ว่าต้องการแก่นเลือดของหงส์นิลแห่งความมืดเช่นนั้นหรือ? ตอนนี้ข้าได้กลายเป็นหงส์นิลแห่งความมืดแล้ว ข้าสามารถหลอมรวมแก่นเลือดออกมาให้ท่านได้ เพียงแต่ว่า…”
เจ้าแก่นเลือดนี้มันหลอมรวมอย่างไรกันล่ะ!
เทพหงส์จักรพรรดิกล่าวว่า “เจ้าเด็กน้อย พลังของเจ้าในตอนนี้ยังไม่ค่อยมั่นคงนัก เช่นนั้นก็อย่าพึ่งหลอมรวมแก่นเลือดเลย! รอให้พลังของเจ้าแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ผลลัพธ์ของแก่นเลือดของเจ้าจะยิ่งดีมากขึ้นไปอีก”