ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1723 ต่อสู้กับปิงหมิงอีกครั้ง
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “มีกองกำลังเทพหงส์จักรพรรดิค่อยสนับสนุนอยู่ ผู้อาวุโสรีบทำการรักษาอาการบาดเจ็บกันก่อนเถอะ! นี่คือยาน้ำและยาลูกกลอน”
นางหยิบเอายาน้ำและยาลูกกลอนออกมามากมาย และมันต่างก็เป็นยาที่กลั่นออกมาตอนอยู่ในสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้น
พวกเขาต่างก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ทำไมถึงเยอะเช่นนี้!
“ไม่ต้องเกรงใจ วันนี้จะต้องขับไล่เผ่าเทพออกไปในคราเดียวได้อย่างแน่นอน พวกท่านอย่าทำให้ความปรารถนาของท่านเทพหงส์จักรพรรดิต้องผิดหวัง”
“ตกลง!”
มู่เฉียนซีจ้องมองไปบนท้องฟ้า จิ่วเยี่ยและจื่อโยวกำลังต่อสู้อยู่กับผู้ที่ยากจะจัดการหลายคนเหล่านั้น ส่วนกองกำลังของเทพหงส์จักรพรรดิก็เข้าต่อสู้กับเทพราชาหลานอี้และพวกของหัวหน้าเผ่าหงส์น้ำแข็ง
แม้ว่าจะเลื่อนขั้นถึงสองครั้งติดต่อกัน ทั้งยังมีความแข็งแกร่งในการป้องกันที่มากขึ้น รวมถึงการต่อสู้ที่อยู่เบื้องหน้านี้นางก็มีความแข็งแกร่งมากที่สุด แต่นางก็ไม่อาจยื่นมือเข้าไปยุ่งได้ และทำได้เพียงช่วยเหลือให้ผู้ที่บาดเจ็บฟื้นฟูขึ้นมาให้เร็วมากที่สุดเท่านั้น
ครืนนน!
ทางมุมหนึ่งของแคว้นเหลยหวง ได้มีสายฟ้าผ่าลงมาจากท้องนภาอย่างน่าสะพรึงกลัว
พลังสายฟ้านี้มู่เฉียนซีรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก มันคือพลังของเหลยหมิงนั่นเอง
หัวหน้าเผ่าหงส์อัสนีตื่นตกใจ “เหลยหมิง ต้องเกิดเรื่องกับเหลยหมิงอย่างแน่นอน”
ภายในใจของเขากระวนกระวายราวกับมดที่อยู่บนหม้อร้อนอย่างไรอย่างนั้น แต่กลับไม่อาจที่จะผละออกไปได้
สนามการต่อสู้หลักนี้ เป็นกุญแจสำคัญในการปกป้องเผ่าหงส์เสียด้วย
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เสี่ยวโม่โม่ ทางด้านนี้คงต้องมอบให้เจ้าจัดการแล้ว ข้าจะไปดูทางด้านเหลยหมิงเสียหน่อย”
เสี่ยวโม่โม่กล่าวว่า “นายท่าน ระวังตัวด้วย!”
ในตอนนี้พวกเขาเพิ่งจะได้ค้นพบว่าหงส์นิลแห่งความมืดที่แข็งแกร่งตัวนี้ ที่จริงแล้วเป็นเจ้าตัวน้อยตัวหนึ่งนั้นของมู่เฉียนซีนั่นเอง
มันเปลี่ยนกลายเป็นหงส์นิลแห่งความมืดในชั่วพริบตา ทั้งยังเลื่อนขั้นจนกลายเป็นสัตว์เทพในชั่วพริบตาอีกด้วย มันช่างทำให้คนรู้สึกตกใจจริง ๆ เลย
เพลิงหงส์อมตะแห่งความมืด ได้ร่วมมือกับกองกำลังเทพหงส์จักรพรรดิกวาดล้างเหล่าศัตรู
“เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลาย! ข้าฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว ฆ่าพวกมันซะ!” เหลยป้ากล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม
“ฆ่ามัน!”
การปรากฏตัวของกองกำลังเทพหงส์จักรพรรดิ ได้เพิ่มขวัญแล้วก็กำลังใจของกองกำลังเป็นอย่างมาก!
ส่วนกองกำลังขนาดใหญ่ของเผ่าเทพ ภายใต้การโจมตีของกองกำลังเทพหงส์จักรพรรดิ ก็ช่างเปราะบางเสียจริง ๆ
จิตสังหารที่ไม่รู้จบและจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ไม่มีสิ้นสุดได้กวาดล้างออกไป และกองกำลังเผ่าหงส์เทพเหล่านี้ก็ถูกกวาดล้างจนหายสิ้นไปไม่น้อยภายในพริบตา
สีหน้าของเทพราชาหลานอี้บูดบึ้งอย่างที่สุด “ฆ่าพวกมันซะ ไอ้พวกที่ตายไปนานแล้วเช่นนี้ ยังจะกล้ามาสู้ข้าอีกเช่นนั้นหรือ”
เสียงฟ้าร้องดังกึกก้องทั่วท้องนภา ต่างไม่อาจทะลุผ่านน้ำแข็งได้!
พรวด!
เหลยหมิงกระอักออกมาเป็นเลือด
“นายน้อย!” คนอื่นมองไปทางเหลยหมิงอย่างเป็นกังวล
เหลยหมิงกล่าวว่า “ข้าจะขวางพวกเขาเอาไว้ พวกเจ้ารีบออกไปเร็วเข้า”
ปิงหมิงกล่าวอย่างเหี้ยมโหดว่า “วันนี้ ไม่ว่าผู้ใดก็อย่าคิดที่จะไปได้เลย!”
ปัง ปัง ปัง!
ในตอนที่ปิงหมิงเริ่มทำการโจมตี ทันใดนั้นก็มีกำแพงน้ำแข็งปรากฏขึ้นเพื่อขวางการโจมตีของเขาเอาไว้
ร่างสีม่วงร่างหนึ่งร่อนลงมาอยู่ตรงหน้าของเหลยหมิง พลางกล่าวถามว่า “ไม่เป็นไรใช่หรือไม่!”
เหลยหมิงกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “เฉียนซี เจ้ามาแล้ว ข้ารู้ว่าคนวิปริตเช่นเจ้าจะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน”
ปิงหมิงจ้องมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยสีหน้าที่มืดมน “มู่เฉียนซี ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะปรากฏตัวออกมาจริง ๆ”
“ครั้งที่แล้วข้าจัดการเจ้าได้ไม่ดีพอ ครั้งนี้ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน” มู่เฉียนซีชักกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณออกมา
ปิงหมิงยิ้มอย่างเย้ยหยัน จากนั้นก็กางปีกออกแล้วพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ด้วยสีหน้าที่เฉยเมย
“มู่เฉียนซี เจ้าคิดว่าข้าจะเป็นเหมือนก่อนหน้านี้อย่างนั้นหรือ?”
เห็นได้ชัดว่ากลิ่นอายของปิงหมิงแข็งแกร่งมากยิ่งกว่าตอนที่อยู่ในสุสานจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อยเลยทีเดียว
“ภูผายะเยือกต้านปฐพี!”
ไอเย็นยะเยือกที่ไม่มีสิ้นสุดหลอมรวมจนกลายเป็นภูผาใหญ่ลูกหนึ่งกลางอากาศ และจากนั้นมันก็พุ่งเขามากดทับมู่เฉียนซีเอาไว้
สัตว์ประหลาดขนาดมหึมาตัวนั้น กลับมีความรวดเร็วอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เหลยหมิงกล่าวอย่างตกใจว่า “เฉียนซี ระวัง!”
ตูม โครมมมม!
เสียงภูผาถล่มปฐพีทลายดังกึกก้องขึ้นมา ไอเย็นยะเยือกบีบรัดเข้ามาอย่างน่าเกรงขราม บรรยากาศบริเวณโดยรอบแทบที่จะกลายเป็นน้ำแข็งขึ้นมาทีละชั้น
มู่เฉียนซีหลบหลีกด้วยความรวดเร็วสูงสุด ซึ่งมันก็น่าหวาดเสียวเป็นอย่างมาก
“นั่นคือมู่เฉียนซี นางเก่งกาจมากเลยจริง ๆ และดูเหมือนว่าจะเก่งกาจยิ่งกว่านายน้อยเสียอีก”
“แต่ทว่า ถึงกระนั้น ความสามารถของปิงหมิงก็แข็งแกร่งมากเกินไป มันอันตรายมาก!”
“……”
ความแข็งแกร่งของมู่เฉียนซีที่ปรากฏออกมาให้เห็นนั้น ทำให้พวกเขาต้องประหลาดใจมากเลยทีเดียว
แต่ทว่าคนที่ประหลาดใจมากที่สุดคงจะไม่มีผู้ใดเกินกว่าเหลยหมิงอีกแล้ว!
“ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหก นี่เพิ่งจะผ่านมาได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น! ไม่คิดเลยว่านางจะเลื่อนขั้นถึงสองขั้นติดต่อกันเช่นนี้”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกยิ้มเล็กน้อย “หรือเจ้าคิดว่า จะมีเพียงแต่ความแข็งแกร่งของเจ้าที่ยกระดับขึ้นเช่นนั้นหรือ?”
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
เปลวเพลิงสีแดงฉาน แหวกผ่านอากาศที่ว่างเปล่า และพุ่งเข้าใส่ปิงหมิงอย่างรุนแรงอย่างที่สุด
เปลวเพลิงแห่งการทำลายล้างนั้น ทำให้ผู้คนต่างรู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัว
“มันก็แค่เลื่อนระดับขึ้นมาสองขั้นเพียงเท่านั้น” ปิงหมิงยิ้มเย้ยหยันขึ้นมา จากนั้นลำแสงสีเงินสว่างวาบ ขวางกระบี่นี้ของมู่เฉียนซีเอาไว้ได้
ครืนนน!
“วันนี้ เจ้าจะต้องพ่ายแพ้!”
ความกล้าแกร่งของหงส์ตัวนี้ ดูเหมือนว่าจะมลายหายไปในอากาศ จนมองไม่เห็นมันอีกแล้ว
ข้างหลัง!
การรับรู้ทางจิตวิญญาณอันเฉียบแหลมของมู่เฉียนซี แน่นอนว่าต้องค้นพบการโจมตีของปิงหมิงได้อยู่แล้ว และนางก็ได้ใช้การเคลื่อนย้ายภายในชั่วพริบตาในการหลบเลี่ยงมัน
มู่เฉียนซีสามารถที่จะหลบหลีกการโจมตีของตนเองได้นั้น ไม่ได้ทำให้ปิงหมิงแปลกใจเลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่านี่คือคู่ต่อสู้ที่ยากที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมา และยังเป็นคนที่เขาจำเป็นที่จะต้องสังหารให้จงได้
ปัง ปัง ปัง!
ทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างดุเดือดอยู่กลางอากาศ พลังของเปลวเพลิงสีแดงฉานกับพลังน้ำแข็งเย็นยะเยือกตัดสลับกันไปมาอยู่กลางอากาศ จนทำให้เกิดเสียงดังกึกก้องไปทั่ว
ความรวดเร็วของปิงหมิง สามารถทำให้มู่เฉียนซีใช้พลังแห่งห้วงมิติได้ นั้นถือว่าเป็นความเร็วที่ไม่ช้าเลยทีเดียว
นางปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลันตรงจุดหนึ่งในอากาศ ซึ่งมันเป็นสถานที่ที่ปิงหมิงสังเกตเห็นได้ยากมากที่สุด มือทั้งสองกำแน่น พลังทั้งหมดในร่างกายถูกหลอมรวมมาอยู่บนฝ่ามือข้างหนึ่ง
ในการลงมือครั้งหนึ่งนี้ มีหนึ่งกระบวนท่าที่ร้ายกาจ และหนึ่งกระบวนท่าที่มุ่งสังหาร!
“ทักษะโยวจั๋ว!”
“ทักษะซิวหลัว!”
ทักษะทั้งสองเกือบที่จะระเบิดออกมาในเวลาเดียวกัน และก็มีเสียงระเบิดดังกึกก้องอยู่กลางอากาศ
เมื่อรู้สึกถึงการจู่โจมที่อันตราย ปีกสีเงินของปิงหมิงนั้นได้เปลี่ยนไปเป็นโล่ป้องกันในทันที
“โล่ปีกน้ำแข็ง!”
ตูมมม!
โล่ป้องกันที่อยู่ตรงหน้าถูกโจมตีอย่างรุนแรง และมันก็ได้กลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งที่แตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
กระบี่มังกรเพลิงเคลื่อนไหว และมู่เฉียนซีก็เข้าจู่โจมในทันที
ปัง ปัง ปัง!
โล่ป้องกันน้ำแข็งได้ขวางการโจมตีของมู่เฉียนซีเอาไว้ ปิงหมิงกล่าวว่า “ไร้ประโยชน์!”
ด้วยสถานะของพวกเขาในเวลานี้ความเร็วและพลังในการป้องกันของมู่เฉียนซี ทำให้ปิงหมิงยากที่จะทำร้ายนางได้
แต่พลังในการโจมตีของมู่เฉียนซี ก็ไม่อาจทำอันตรายต่อปิงหมิงที่ทรงพลังอย่างเช่นในตอนนี้ได้เช่นกัน
“ตรีศูลน้ำแข็ง ออกมา!” ปิงหมิงหมดความอดทนกับการทุบตีนี้แล้ว และเป็นอีกครั้งที่เขาต้องใช้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพของเผ่าหงส์น้ำแข็ง
“เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าได้เปิดหูเปิดตา และรับรู้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวของตรีศูลน้ำแข็งนี้!”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกโค้งขึ้นมาเล็กน้อย “มังกรเพลิง พิฆาตวิญญาณ มีคนมายั่วยุเจ้าแล้วล่ะ! หากยังมีพลังเหลืออยู่ละก็ ก็ต่อสู้กับข้าอย่างเต็มที่เถิด!”
พิฆาตวิญญาณกล่าวว่า “ยังต้องการเจ้าคนไร้ประโยชน์อย่างมังกรเพลิงอีกหรือ แล้วไหนจะเข้าไปใกล้อย่างสุดกำลังนั้นอีก ช่างโง่เขล่าเสียจริง ๆ เรื่องจัดการเจ้าหมอนั่น มันเป็นเรื่องที่ง่ายดายจะตายไป”
ทันใดนั้นกระบี่มังกรเพลิงในมือของมู่เฉียนซีก็ได้ระเบิดออกมาและเปลวเพลิงที่กระหายเลือดก็พุ่งทะยานขึ้นไปกลางอากาศอย่างโหดร้ายรุนแรง มังกรเพลิงถูกพิฆาตวิญญาณปรามลงไปอย่างน่าเศร้าใจ และเขาก็ได้เข้ามาเป็นผู้ควบคุมในสนามหลักนี้
มังกรเพลิงต้องหลีกทางให้อย่างไม่เต็มใจ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะไว้อาลัยให้กับหงส์น้ำแข็งตัวนี้สักสองสามนาที
ถือมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพที่โกโรโกโสเช่นนั้นแล้วยังคิดที่จะมาจัดการกับเจ้านายของพวกเขา หากอยากรนหาที่ตายก็มาอย่าหาทางเช่นนี้เลย
ตรีศูลน้ำแข็งเป็นสิ่งที่พวกเขารู้จัก แต่พวกเขารู้สึกว่ากระบี่ที่อยู่ในมือของมู่เฉียนซีนั้น ทำให้พวกเขารู้สึกถึงการคุกคามเป็นอย่างมาก
มู่เฉียนซีได้ถือกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณที่เป็นราวกับปีศาจร้ายพุ่งทะยานออกไป เปลวเพลิงลุกไหม้ และไม่ว่าธาตุน้ำแข็งจะมีความแข็งแกร่งมากเพียงใดต่างก็ต้องถูกทำลายไปเท่านั้น