ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1730 ความโกรธเกรี้ยวของราชามังกร
ปัง ปัง ปัง!
การที่มู่เฉียนซีดูถูกเขาถึงเพียงนี้ ทำให้เด็กหนุ่มเผ่ามังกรม่วงเต้นเร่าด้วยความโกรธแค้น
การโจมตีอย่างบ้าคลั่งของเขา ทำให้เกิดเสียงดังกึกก้องนับไม่ถ้วนไปทั่วทั้งท้องฟ้า
แต่ทว่าความเร็วและความสามารถในการป้องกันทางกายภาพของมู่เฉียนซีนั้น ทำให้ไม่ว่าเขาจะโจมตีอย่างรุนแรงเพียงใด มันต่างก็เป็นการเปลืองแรงไปอย่างเปล่าประโยชน์เท่านั้นเอง
“ขนาดใช้แรงที่เอาไว้ดูดนมอย่างเต็มที่แล้ว ยังทำร้ายข้าไม่ได้เลย ข้าว่าเจ้ารีบกลับไปอาบน้ำนอนที่บ้านเสียเถอะ!”
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
“น่าเบื่อจริง!” มู่เฉียนซีเบ้ปาก และกลั่นแกล้งเขาต่อไป
ถึงแม้ว่าสุ่ยอู๋ซินจะคอยเฝ้าอยู่ข้างกายของเฮยเย้า แต่ทว่าเขาก็ยังให้ความสนใจต่อสถานการณ์ภายนอกเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกรงว่าท่านมู่จะได้รับบาดเจ็บ
ถึงอย่างไรภายในใจของเข้า ความสำคัญของท่านมู่ก็อยู่ในระดับที่เหนือกว่าราชามังกรน้อยมากมายนัก
แต่เห็นได้ชัดว่าเขากลุ้มใจไปอย่างเปล่าประโยชน์ เวลาเพียงสั้น ๆ นี้ ท่านมู่สามารถที่จะเติบโตมาได้จนถึงจุดนี้ได้แล้ว
ถึงแม้ว่าความสามารถจะอยู่เพียงแค่ขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหกเท่านั้น แต่ทว่าความเร็วและความสามารถในการป้องกันทางกายภาพของนางกลับอยู่ในระดับที่สัตว์เทพระดับต่ำยากที่จะทำร้ายนางได้ และยิ่งไม่ต้องพูดถึงมังกรม่วงตัวน้อยที่มีรากฐานไม่มั่นคงตัวนี้เลย
หลังจากที่มู่เฉียนซีถอนคำสาปได้อย่างราบรื่นแล้ว เฮยเย้าก็ตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เฮยเย้าจับสุ่ยอู๋ซินไว้อย่างตื่นเต้นแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าเผ่ามังกรวารี ข้า…ดูเหมือนว่าข้าจะเห็นท่านมู่ ท่านมู่กลับมาเยี่ยมข้าแล้ว ข้าไม่ได้ฝันไปใช่หรือไม่!”
ราชามังกรน้อยที่ช่วงนี้ได้กลายเป็นคนที่มีความสุขุมมากขึ้น กลับไม่อาจที่จะสงบลงได้เมื่อมีการเอ่ยถึงมู่เฉียนซี
สุ่ยอู๋ซินกล่าวว่า “อื้ม! ท่านมู่กลับมาแล้ว ทั้งยังช่วยเจ้าเอาไว้ด้วย และตอนนี้นางก็กำลังจัดการกับศัตรูอยู่ข้างนอก”
“ศัตรู!” ร่างของเฮยเย้าพุ่งออกไปทันที ทั้งที่ยังไม่ทันจะเห็นเลยว่าเจ้าเด็กหนุ่มเผ่ามังกรม่วงที่สมควรตายผู้นั้นกำลังไล่โจมตีมู่เฉียนซีอยู่ด้วยซ้ำ
การโจมตีส่วนใหญ่มู่เฉียนซีต่างก็สามารถที่จะหลบหลีกได้ หรือถึงแม้ว่าจะถูกโจมตีเข้าก็ตาม ทว่ามู่เฉียนซีก็ยังคงไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย แต่เฮยเย้ากลับโกรธอย่างสมบูรณ์เสียแล้ว
“เจ้าคนต่ำช้า ผู้ใดทำให้เจ้ามีกล้าถึงเพียงนี้ ไม่คิดเลยว่าจะกล้ามาทำร้ายท่านมู่”
ทันใดนั้นพลังอำนาจของราชามังกร ก็ได้ระเบิดออกมาอย่างกะทันหัน
เฮยเย้าได้กลายร่างเป็นร่างจริง และหลังจากนั้นก็พุ่งทะยานออกไปราวกับสายฟ้าอย่างไรอย่างนั้น
“เจ้า…เหตุใดเจ้า…”
การปรากฏตัวของเฮยเย้าทำให้เด็กหนุ่มเผ่ามังกรม่วงผู้นั้นตกใจมากเป็นอย่างยิ่ง เหตุใดเขาถึงไม่เป็นอะไรเลยล่ะ?
การโจมตีของเฮยเย้านั้นโหดร้ายรุนแรงอย่างที่สุด มันถึงขั้นทำให้เด็กหนุ่มของเผ่ามังกรม่วงผู้นั้นลอยละลิ่วออกไปไกลพอสมควร
พรวด!
ตอนที่ลอยอยู่กลางอากาศเด็กหนุ่มเผ่ามังกรม่วงก็กระอักเลือดสด ๆ ออกมา และต่อมาเขาก็ตกลงมาบนพื้นอย่างน่าอับอาย
พลังอำนาจของราชามังกรแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่เด็กหนุ่มของเผ่ามังกรม่วงที่สัมพัสได้ แต่มังกรทุกตัวที่อยู่ในเกาะราชามังกรต่างก็สัมผัสได้อย่างชัดเจน
สีหน้าของจินหลิวกวงเต็มไปด้วยความสุข ช่างดีเหลือเกิน ลูกชายของเขาไม่เป็นอะไรแล้ว!
คนของเผ่ามังกรม่วงเหล่านั้น ต่างมีสีหน้าที่งุนงง
ไม่ใช่ว่าราชามังกรน้อยใกล้ที่จะจบเห่แล้วอย่างนั้นหรือ? เหตุใดถึงยังสามารถที่จะระเบิดพลังออกมาเช่นนี้ได้
นี่คือกับดัก!
คนหนึ่งในนั้นอุทานขึ้นมาว่า “ไม่ดีแล้ว นายน้อย!”
“เจ้า…” นายน้อยเผ่ามังกรม่วงกำลังปีนป่ายขึ้นมาอย่างน่าอับอาย และยังคงจ้องมองไปที่ร่างสีดำนั้นอย่างยากที่จะเชื่อสายตา
และเฮยเย้าที่ขี้เกียจแม้แต่จะใช้สายตาเหลือบมองไปที่เขา แต่กลับวิ่งไปอยู่เบื้องหน้าของมู่เฉียนซีอย่างตื่นเต้น
“ท่านมู่ ท่านไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่?”
“ท่านมู่ ข้ามาช้าเกินไป ไม่คิดเลยว่าจะปล่อยให้มีคนมาโจมตีท่านที่เกาะราชามังกรแห่งนี้ได้”
“……”
นายน้อยเผ่ามังกรม่วงโกรธจนแทบที่จะกระอักเลือดออกมาแล้ว เขาต่างหากที่เป็นคนที่น่าเวทนามากที่สุด
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร! เจ้าหมอนี่ทำร้ายข้าไม่ได้หรอก”
ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะปลอดภัยดี แต่เฮยเย้าก็โกรธมากอยู่ดี
“ข้าจะแก้แค้นให้ท่านมู่เอง!”
แรงกดดันของสายเลือดแห่งราชามังกรของเฮยเย้าได้ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างอลังการ นั่นก็เพื่อที่จะกลั่นแกล้งนายน้อยเผ่ามังกรม่วงเท่านั้น
นายน้อยเผ่ามังกรม่วงรู้สึกอึดอัดไปทั่วทั้งตัว ทั้งยังรู้สึกว่ามีแรงกระตุ้นให้ต้องการที่จะยอมแพ้แก่ชายผู้นี้ และนี่ก็คือสัญชาตญาณที่เกิดขึ้นมาจากสายเลือด
นายน้อยเผ่ามังกรม่วงกัดฟันเอาไว้แน่น และเขาจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!
แต่ทว่าแรงกดดันเช่นนี้ มันทำให้เขารู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก และแม้แต่ตอนที่เฮยเย้าโจมตีเข้ามา เขาก็ทำได้เพียงแค่ป้องกันและไม่มีทางที่จะโต้ตอบได้เลย
ปัง ปัง ปัง!
หลังจากนั้นเพียงชั่วเวลาไม่นาน ทั่วทั้งร่างของนายน้อยมังกรม่วงเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ
ไม่ได้มีเพียงแต่เขาที่น่าเวทนาเท่านั้น แต่เหล่าผู้อาวุโสของเผ่ามังกรม่วงหลายคนที่ปะทะฝีมือกับพวกของเสี่ยวโม่โม่ต่างก็ถูกทุบตีจนน่าเวทนามากเช่นกัน
ปัง ปัง ปัง!
ในท้ายที่สุด นายน้อยมังกรม่วงผู้นี้แม้แต่ร่างที่แท้จริงต่างก็ไม่อาจที่จะคงสภาพเอาไว้ได้ เนื่องจากถูกเฮยเย้าจัดการด้วยหมัดครั้งแล้วครั้งเล่า
“อ๊ากกกก!” นายน้อยของเผ่ามังกรม่วง กรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา
“นายน้อย…”
ส่วนคนอื่นเหล่านั้น ในที่สุดก็คิดอยากที่จะมาปกป้องเจ้านายเสียที
แต่ทว่าเกาะราชามังกรและสุ่ยอู๋ซินไม่มีทางที่จะปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน
ปัง ปัง ปัง!
พวกเขาที่มาไล่ฆ่าด้วยท่าทางที่ดุร้าย แต่กลับไม่คาดคิดเลยว่าจะมีผลลัพธ์เช่นนี้
“พวกเราถอย!”
มู่เฉียนซีได้พาเหล่าสัตว์พันธสัญญาของนางมาขวางทางหนีของเหล่าคนจากเผ่ามังกรม่วงเอาไว้ แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เกาะราชามังกรเป็นสถานที่ที่พวกเจ้าคิดอยากจะมาสร้างปัญหาเมื่อใดก็ได้อย่างนั้นหรือ? ช่างไม่มีกฎระเบียบเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อมาแล้ว อีกทั้งยังต่อสู้พ่ายแพ้อีก หากคิดที่อยากจะหนีออกไปง่าย ๆ ก็ฝันไปเสียเถอะ!”
สุ่ยอู๋ซินกล่าวว่า “ท่านมู่กล่าวได้ถูกต้องแล้ว!”
เฮยเย้าออกคำสั่งไปว่า “จับพวกเขาทั้งหมดเอาไว้ให้ข้า”
นายน้อยมังกรม่วงกล่าวว่า “พวกเจ้ากล้าหรือ?”
“มีอะไรที่ข้าไม่กล้าด้วยหรือ!” เฮยเย้ากล่าวอย่างเย็นชา
ดูท่าว่า พวกเขาไม่คิดที่จะไว้หน้าเผ่ามังกรม่วงอีกแล้ว
คนหนึ่งในเผ่ามังกรม่วงกล่าวว่า “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ก็จะต้องหนีออกไปให้ได้”
“ไปเถอะ!”
ตอนเข้ามานั้นง่ายดาย แต่ตอนนี้คิดที่อยากจะหนีไป แน่นอนว่ามันไม่ง่ายเช่นนั้นอยู่แล้ว
ผู้แข็งแกร่งของเกาะราชามังกร ผู้ที่แข็งแกร่งของเผ่ามังกรวารี บวกกับมีมู่เฉียนซีด้วยอีกคน ก็เหลือเฟือสำหรับพวกเขาแล้ว
ปัง ปัง ปัง!
ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามมากมายเพียงใด แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีผู้ใดหนีไปได้แม้แต่คนเดียว
เฮยเย้ากล่าวว่า “เอาเจ้าพวกคนเหล่านี้ทั้งหมด ไปขังไว้ในคุกมืดของเกาะราชามังกรซะ!”
นายน้อยเผ่ามังกรม่วงกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “เจ้ากล้าหรือ! เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงจะเอาข้าไปขังไว้ในที่สกปรกโสโครกเช่นนั้น”
ซึ่งมันก็เป็นผลให้เฮยเย้ากล่าวขึ้นมาอีกว่า “ในเมื่อเจ้าไม่พอใจ เช่นนั้นก็เอาเขาไปขังไว้ในคุกที่สกปรกมากที่สุดซะ!”
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”
“อ๊ากกกก! ข้าจะสู้กับเจ้า!”
“เจ้ากล้าทำเช่นนี้กับข้าหรือ!”
“…”
ไม่ว่านายน้อยเผ่ามังกรม่วงจะคำรามร้องด้วยความโกรธเคืองมากเพียงใด แต่ทว่าเฮยเย้าก็ไม่ได้มีความคิดที่จะเปลี่ยนความตั้งใจเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่จัดการปัญหาของเผ่ามังกรม่วงเหล่านี้เรียบร้อยแล้ว จินหลิวกวงก็จ้องมองไปทางมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “ท่านมู่ เป็นท่านที่ช่วยเหลือเย้าเอ๋อร์ใช่หรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เฮยเย้าไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”
การกลับมาของมู่เฉียนซี แน่นอนว่าจะต้องเป็นเรื่องที่น่ายินดีของเผ่ามังกรอยู่แล้ว
จินหลิวกวงได้ไปเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับสำหรับมู่เฉียนซีแล้ว ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะปฏิเสธแต่เขาก็ยังคงยืนกรานว่าจะจัดอยู่ดี
“ท่านมู่มีสถานะเป็นผู้ทรงเกียรติขั้นพิเศษของเผ่าของข้า งานเลี้ยงต้อนรับนี้ เป็นเพียงแค่น้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกเราเท่านั้น ท่านโปรดอย่าปฏิเสธมันเลย”
มู่เฉียนซี เฮยเย้า และสุ่ยอู๋ซินได้เริ่มพูดคุยกัน นางถามขึ้นมาว่า “สถานการณ์ของแดนมังกรในตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ไม่คิดเลยว่าเผ่ามังกรม่วงจะกล้ากำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังร่ายคำสาปบนร่างกายของเฮยเย้าด้วย”
สุ่ยอู๋ซินกล่าวว่า “เรื่องนี้ หากอนุญาตข้าจะค่อย ๆ เล่าให้ท่านมู่ได้ฟัง”
“อื้ม!” มู่เฉียนซีพยักหน้าเล็กน้อย และหลังจากนั้นก็ฟังอย่างอดทน
สายฝนแห่งมังกรวารี ทำให้พลังวิญญาณของแดนมังกรฟื้นตัวขึ้น และเผ่ามังกรควรที่จะเจริญรุ่งเรืองขึ้นถึงจะถูก
ในตอนแรก แน่นอนว่ามันต้องเป็นเช่นนี้
ภายใต้การสนับสนุนของเผ่าที่เหลือทั้งสี่เผ่าของเกาะราชามังกร ส่วนเผ่ามังกรที่สนับสนุนเผ่าเทพเหล่านั้น ผู้ที่ควรถูกปราบปรามก็ได้ปราบไปแล้ว ส่วนผู้ที่ควรจัดการก็ได้จัดการแล้ว และทุกอย่างก็เป็นไปในทิศทางที่ดี จนสุดท้ายแล้วมีเผ่ามังกรเหลืออยู่ไม่มากเท่าไรนัก สำหรับเรื่องของการสังหารล้างเผ่าพันธุ์นั้น คนจากทั้งห้าราชวงศ์ต่างก็ไม่มีผู้ใดที่เห็นด้วยเลย