ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1751 ตามหามังกรศักดิ์สิทธิ์
อ้านลั่วเองก็ไม่อยากจะถูกนำไปเป็นตัวทดลอง ดังนั้นจึงพยายามอย่างสุดกำลังความสามารถเพื่อตามหาข้อมูลเกี่ยวกับบรรพบุรุษผู้ประหลาดผู้นั้น
ไม่นานนักเขาก็กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นว่า “ข้าเจอแล้ว ในที่สุดข้าก็หาเจอแล้ว”
“เจอสิ่งใด?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“ข้าเจอบันทึกของเผ่า เรื่องราวของบรรพบุรุษผู้ก่อเรื่องของพวกเราผู้นั้น ในบันทึกบอกเอาไว้ว่า ก่อนที่เขาได้หายตัวไปนั้น เขาจะไปกำจัดจอมมาร จากนั้น…หลังจากนั้นเขาก็ได้หายตัวไป”
“เหอะ!” อาถิงอดที่จะขำออกมาไม่ได้
“เจ้าหมอนั่นก็ไม่รู้จักประเมินตนเอาเสียเลย! ไปท้าประลองกับจอมมาร คาดว่าคงจะโดนจอมมารกำจัดทิ้งเสียแล้ว นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่ต้องสงสัยเลย”
มู่เฉียนซีกล่าว “ต่อให้ถูกฆ่า ก็ต้องหาศพเขาให้เจอ! จอมมารผู้นั้นคงจะไม่ฆ่ามังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างจนไม่เหลือซากศพหรอก!”
อาถิงกล่าว “ใช่! สำหรับเจ้าหมอนั่นแล้วมันยุ่งยากเกินไป”
มู่เฉียนซีมองไปที่อ้านลั่วก่อนจะกล่าวถามว่า “ในบันทึกบอกหรือไม่ว่าไปกำจัดจอมมารนั่นที่ใด?”
“ไม่ได้บอก!”
“เช่นนั้นก็หาต่อไป!”
พวกเขาตามหาข้อมูลลับนี้ที่นี่ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าข้อมูลเหล่านั้นถูกซ่อนอยู่ที่ใด
จิ่วเยี่ยกล่าว “น่าจะอยู่ในแดนมาร ข้าจะให้จื่อโยวไปสืบดู”
มู่เฉียนซีพยักหน้าเล็กน้อยพลางกล่าว “ก็คงต้องเป็นเช่นนั้นแล้ว เรื่องที่เคยเกิดขึ้น แม้ว่าจะผ่านมานานแล้ว ก็ต้องมีหลักฐานร่องรอยหลงเหลืออยู่บ้าง ต้องหาเบาะแสเจอแน่นอน”
“เพียงแต่ว่า พวกเราจะต้องมีแผนสำรอง! อันดับแรก ต้องตามหาสถานที่ที่จอมมารฆ่ามังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างให้เจอ สองจะต้องตามหามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพอย่างมายานิรันดร์ให้เจอ ไม่มีเงื่อนไข ก็ต้องสร้างเงื่อนไขขึ้นมา”
จิ่วเยี่ยพยักหน้าพลางตอบรับ “อืม!”
เรื่องแรกที่อ้านลั่วหวังเอาไว้นั่นก็คือ มังกรศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างที่เคยปรากฏขึ้นในในเผ่ามังกรแห่งความมืดของพวกเขาและทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายตามมามากมาย หากปรากฏขึ้นอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ตามมานั้นยากที่จะจินตนาการได้
มีสองเบาะแสก็ดีกว่าไม่มีสักเบาะแสเดียว
สุ่ยอู๋ซินกล่าว “หัวหน้าเผ่ามังกรแห่งความมืด ข้ามีเรื่องอยากจะพูดคุยกับเจ้าสักหน่อย”
เรื่องที่สุ่ยอู๋ซินจะคุยกับเขานั่นก็คือเรื่องของเผ่ามังกรนั่นเอง
เผ่ามังกรแห่งความมืดก็เป็นส่วนหนึ่งก็เผ่ามังกรเช่นกัน เผ่าเทพกำลังจะลงมือกับแดนมังกรของพวกเขา เผ่ามังกรแห่งความมืดจะอยู่นิ่งเฉยได้อย่างไรกัน
มู่เฉียนซีกล่าว “หลังจากนี้ไม่นาน คาดว่าเผ่าเทพคงจะส่งยอดฝีมือจำนวนมากมา พวกเจ้าเผ่ามังกรแห่งความมืดมีพลังที่แข็งแกร่งมากก็มาช่วยกันสักหน่อยสิ!”
แผนการได้วางเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว แม้ว่าเผ่ามังกรแห่งความมืดจะไม่เข้าร่วมก็ไม่ได้มีผลกระทบมากนัก แต่หากมีกองกำลังเพิ่มมาก็เป็นเรื่องดีในการช่วยกำจัดเผ่าเทพ
สุ่ยอู๋ซินเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเผ่ามังกรให้พวกเขาฟังอย่างละเอียด อ้านลั่วเองก็ไม่ใช่คนที่ไร้เหตุผลแต่อย่างใด
เขากล่าว “พวกเรา…พวกเราก็ไม่อยากให้เผ่าเทพมากระทำตัวกำเริบสืบสานต่อเผ่ามังกรของพวกเรา แต่พวกเราก็มีปัญหาเช่นกัน ข้า…”
“หุบเหวมังกรแห่งความมืดของพวกเรานี้เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของพลังของพวกเรา แต่ตอนนี้พลังแห่งความมืดมันยิ่งลดน้อยลงไปทุกวันแล้ว พวกเราต้องรีบดูดพลังจากหุบเหวมังกรให้เร็วที่สุด ตอนนี้ยังออกไปจากหุบเหวมังกรแห่งความมืดไม่ได้”
มู่เฉียนซีได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจผงะไปครู่หนึ่ง “เผ่ามังกรแห่งความมืดของพวกเจ้าไม่มีวิธีจัดการกับปัญหาเหล่านี้หรือ?”
“พวกเราคิดหาทางแล้ว แต่พลังแห่งความมืดนั้นเป็นพลังที่พิเศษ ทั่วทั้งเผ่ามังกร ไม่มีผู้ใดช่วยแก้ปัญหาใหญ่นี้ได้เลย”
“อยู่ตรงนั้น!” เสี่ยวโม่โม่รับรู้ได้ถึงที่มาของพลังแห่งความมืดนั้น มันกางปีกบินตรงไปอย่างรวดเร็ว
“เสี่ยวโม่โม่!” มู่เฉียนซีรีบตามไป คนอื่นก็รีบตามไปเช่นกัน
ตรงนั่นเป็นส่วนลึกของหุบเหวมังกรแห่งความมืด มีลูกบอลกลม ๆ ราวกับดวงอาทิตย์อยู่ลูกหนึ่งลอยอยู่เหนือหุบเหว
มู่เฉียนซีรู้สึกได้ว่าพลังแห่งความมืดไหลพรั่งพรูออกมาจากตรงนั้นอย่างต่อเนื่อง แต่พลังแห่งความมืดนั้นกลับไม่ได้แข็งแกร่งแต่อย่างใด
เสี่ยวโม่โม่พุ่งบินไป จากนั้นก็เริ่มดูดซับพลังแห่งความมืดนั้น
เหล่ามังกรแห่งความมืดเหล่านั้นที่ตามมา เมื่อเห็นเช่นนี้ก็ตกใจจนตาค้าง “นี่มัน…ช่างรวดเร็วยิ่งนัก! หงส์น้อยผู้นี้…”
ที่แท้ความรวดเร็วในการดูดซับพลังแห่งความมืดของเสี่ยวโม่โม่นั้นรวดเร็วกว่ามังกรในเผ่าของพวกเขามากยิ่งนัก
ต่อให้เป็นท่านหัวหน้าเผ่ามังกรแห่งความมืดเองก็ไม่อาจเทียบความเร็วนี้ของเสี่ยวโม่โม่ได้
คนของเผ่ามังกรแห่งความมืดต่างรู้สึกเจ็บปวดใจยิ่งนัก “พลังแห่งความมืด! พลังแห่งความมืดของพวกเรา…”
พวกเขาอยากจะพุ่งเข้าไปดึงเสี่ยวโม่โม่ตัวน้อยนี้กลับมายิ่งนัก เดิมทีพลังแห่งความมืดของพวกเขานี้ก็ไม่ได้มีมากอยู่แล้ว ยังมาถูกหงส์ดำตัวหนึ่งดูดซับเอาพลังไปอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้อีก แถมยังดูดจนจะหมดอยู่แล้ว!
ทว่า เห็นได้ชัดว่ามู่เฉียนซีกับจิ่วเยี่ยปกป้องเสี่ยวโม่โม่ พวกเขาจะกล้าผลีผลามลงมือได้อย่างไรกันเล่า!
จนในที่สุด พลังแห่งความมืดในหุบเหวแห่งความมืดนั้นก็ถูกดูดซับไปจนเกลี้ยงแล้วจริง ๆ
คนในเผ่ามังกรแห่งความมืดต่างก็ดวงตาแดงก่ำด้วยความเจ็บปวด จบสิ้นแล้ว
อ้านลั่วกล่าว “ท่านจิ่วเยี่ย เผ่ามังกรแห่งความมืดของพวกข้ากำลังจะจบสิ้นแล้ว พลังของท่านแข็งแกร่ง พวกข้ามิกล้าบังอาจล่วงเกิน แต่…”
เสี่ยวโม่โม่มองไปที่พวกเขาพลางกล่าวว่า “พวกเจ้าอายุก็เยอะปูนนี้แล้ว เหตุใดยังขี้แยร้องไห้อยู่อีกล่ะ! พลังแห่งความมืดนี้หมดลงแล้ว มันไม่อาจฟื้นคืนมาได้แล้ว”
เสี่ยวโม่โม่ปล่อยเปลวไฟดำมืดอันแข็งแกร่งออกมาอย่างต่อเนื่อง เปลวไฟนี้ได้ห่อหุ้มลูกบอลนั้นเอาไว้
“เจ้า…หงส์น้อยตัวนั้นกำลังจะทำลายแหล่งพลังแห่งความมืดแล้ว รีบไปขวางมันเอาไว้เร็วเข้า!”
“เร็ว!”
ในตอนนี้พวกเขาไม่มีเวลามาคิดมากแล้ว
ต่อให้แหล่งที่มาของพลังแห่งความมืดจะไม่สามารถปล่อยพลังแห่งความมืดออกมาได้แล้ว แต่ก็เป็นของล้ำค่าที่ทำให้มีเผ่ามังกรแห่งความมืดของพวกเขาขึ้น ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ตามจะมาทำลายของล้ำค่าของพวกเขาไม่ได้เด็ดขาด
มู่เฉียนซีกล่าว “พวกเจ้าใจเย็น ๆ หน่อยสิ เสี่ยวโม่โม่กำลังช่วยพวกเจ้าอยู่”
“ช่วยพวกข้าอย่างนั้นเหรอ เห็น ๆ กันอยู่ว่าเจ้านั่นกำลังก่อเรื่อง!”
ในขณะที่เปลวไฟดำมืดนั้นกำลังลุกโชนแผดเผาอยู่นั้น จู่ ๆ พวกเขาก็รับรู้ได้ถึงพลังอันมืดมิดที่คุ้นเคยที่ไหลออกมาจากจุดนั้น อีกทั้งยังไหลพรั่งพรูออกมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
อ้านลั่วตกใจขึ้น “เจ้านั่นทำได้ยังไงกัน!”
“แหล่งที่มาของพลังแห่งความมืดได้รับการช่วยเหลือแล้ว ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก!” เผ่ามังกรแห่งความมืดตื่นเต้นดีใจเป็นที่สุด
มู่เฉียนซีกล่าว “พวกเจ้าไม่เคยได้ยินเรื่องการนิพพานของหงส์หรือ หลังจากที่พลังแห่งความมืดนั้นถูกเสี่ยวโม่โม่ดูดซับไปจนหมดสิ้น ด้วยเปลวไฟของเสี่ยวโม่โม่ มันจึงได้กำเนิดเกิดใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง”
ทว่า เปลวไฟอันดำมืดของเสี่ยวโม่โม่นั้นมันไม่อาจต้านทานได้นานนัก
มู่เฉียนซีรู้สึกได้ว่าเสี่ยวโม่โม่เสียพลังไปมาก นางจึงกล่าว “เสี่ยวโม่โม่ กลับมา!”
เสี่ยวโม่โม่ก็เชื่อฟังเป็นอย่างดี มันได้กลายร่างเป็นหงส์ตัวเล็กเท่าฝ่ามือบินกลับมาอยู่ในฝ่ามือของมู่เฉียนซี
เสี่ยวโม่โม่กล่าว “นายท่าน พลังของข้าไม่พอ ทำได้เพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น”
สูญเสียเปลวไฟอันดำมืดไปมาก พลังแห่งความมืดยังสามารถไหลพรั่งพรูออกมาจากแห่งที่มาของมันได้ ก่อนหน้านี้ยังแข็งแกร่งกว่านี้ แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ก็ยืดหยัดอยู่ได้เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น
นอกเสียจากว่าหงส์น้อยตัวนี้จะอยู่ช่วยเหลือหุบเหวมังกรแห่งความมืดอยู่ตลอด ดวงตาของอ้านลั่วเปล่งประกายพลางมองไปที่เสี่ยวโม่โม่
มู่เฉียนซีกล่าว “ล้มเลิกความคิดเหล่านั้นของเจ้าเสีย เสี่ยวโม่โม่เป็นสัตว์พันธสัญญาของข้า! ข้าจะทิ้งมันที่นี่ตัวคนเดียวให้พวกเจ้าใช้งานมันได้อย่างไร”