ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1755 ต้อนรับแขกด้วยความตื่นเต้น
“อะไรนะ? ท่านมู่จะไปจากที่นี่!”
เพิ่งจะคว้าชัยชนะมาได้ มู่เฉียนซีก็บอกจะจากไปจากที่นี่ ทำให้พวกเขาตั้งรับไม่ทัน
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “อืม! งานเลี้ยงข้าไม่ได้เข้าร่วมแล้ว ทุกคนกินเลี้ยงกันตามสบายเถอะ ข้ายังมีเรื่องสำคัญบางอย่างต้องจัดการให้เสร็จ จำเป็นต้องไปจากที่นี่”
เฮยเย้ากับสุ่ยอู๋ซินมองมู่เฉียนซีด้วยสายตาที่อาลัยอาวรณ์เป็นอย่างยิ่ง ทว่า พวกเขาก็เข้าใจนาง ไม่ได้รั้งนางไว้แต่อย่างใด
จะขัดภารกิจสำคัญของท่านมู่ไม่ได้
อ้านลั่วกล่าว “ท่านจิ่วเยี่ย แล้วพวกเรา…”
พวกเขาสาบานเอาไว้แล้วว่าจะติดตามรับใช้ท่านจิ่วเยี่ยไปจนชั่วชีวิต
หวงจิ่วเยี่ยกล่าว “หากข้าต้องการให้พวกเจ้าลงมือเมื่อไหร่ ข้าจะเรียกพวกเจ้าเอง! ตอนนี้พวกเจ้ากลับไปฝึกฝนเพิ่มพลังความแข็งแกร่งให้ตัวเองก่อน พวกเจ้าตอนนี้อ่อนแอมากเกินไป”
พวกเขาก้มหน้าลงด้วยความอับอาย ก่อนจะกล่าวว่า “พวกเราเข้าใจแล้วขอรับ ท่านจิ่วเยี่ย!”
จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซี และกล่าวเสียงต่ำว่า “ซีจะไปที่ใด?”
“มังกรวารีได้ปิดผนึกน้ำแข็งเย็นยะเยือกเอาไว้แล้ว ต้องให้สุ่ยจิงอิ๋งเป็นคนลงมือ ข้าตัดสินใจว่าจะไปที่แดนซวนเทียนก่อน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปสำนักเล่ออันก่อนหรือจะไปสำนักฉางฮวนก่อน”
ตอนนั้นเพราะถูกสำนักหลินเยว่ตามไล่ฆ่า ก็เลยตกลงไปในมิติรอยแยกนั้น เรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับสองสำนักนี้เป็นแน่
ตอนนี้ที่นางกลับไป แน่นอนว่านางต้องเอาคืนเป็นแน่
จิ่วเยี่ยกล่าว “ซีไม่จำเป็นต้องไปสำนักฉางฮวน เพราะสำนักฉางฮวนได้ดับสูญไปแล้ว”
“เป็นฝีมือของท่านเหรอ” มู่เฉียนซีกล่าว
“อืม! ข้าแก้แค้นให้ซี ส่วนที่เหลือก็มอบให้เป็นหน้าที่ของซี” จิ่วเยี่ยกล่าว
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “สุ่ยจิงอิ๋ง เช่นนั้นเราไปสำนักเล่ออันกันเถอะ!”
สุ่ยจิงอิ๋งกล่าว “ตกลง! ซีจะไปที่ใด ย่อมตามใจซีอยู่แล้ว”
มู่เฉียนซีตกลงไปตายในมิติรอยแยกนั้นแล้ว สวี่ฝูย่อมดีอกดีใจมีความสุขเป็นพิเศษ ท่านพี่ของนางก็ได้รับยาลูกกลอนที่สำนักหลินเยว่มอบให้ ร่างกายก็ฟื้นฟูกลับมาเร็วมาก
สำนักเล่ออันก็กำลังเติบโตขึ้นมาก ทว่า พวกเขาดิดไม่ถึงเลยแม้แต่น้อยว่าหายนะกำลังจะมาเยือนพวกเขาแล้ว
อาถิงกล่าว “หวงจิ่วเยี่ย ในเมื่อเจ้าจัดการไปแล้วหนึ่งสำนัก! เช่นนั้นสำนักนี้ข้าจะจัดการเอง! กล้าลอบทำร้ายผู้เป็นพันธสัญญาของข้า ข้าจะทำให้พวกมันได้เจอดี”
“หากได้ล้างแค้นให้นายท่าน มังกรวารีจะมีความสุขมากขอรับ” มังกรวารีกล่าวด้วยความเคารพ
“เช่นนั้นเราก็ไปกันเถอะ!”
ในที่สุด ณ ตอนนี้ มู่เฉียนซีก็เดินทางมาถึงหน้าประตูสำนักเล่ออันแล้ว
หลังจากที่ไปแวะเวียนที่แดนหงส์กับแดนมังกรมาแล้ว นางก็กลับมาที่แดนซวนเทียนอีกครั้ง
“เจ้าเป็นใคร?” องครักษ์เฝ้าเวรยามประตูหน้าสำนักเล่ออันมองดูหญิงสาวชุดม่วงรูปร่างหน้าตางดงามอย่างไร้ที่ติตรงหน้าผู้นี้พลางกล่าว
ไม่เพียงแต่นางจะมีรูปร่างหน้าตาที่งดงามอย่างไร้ที่ติเท่านั้น ชายหนุ่มข้างกายนางสองคนนั้นก็รูปร่างหน้าตารูปงามอย่างน่าทึ่งเช่นกัน
มู่เฉียนซียิ้มเจื่อน ๆ พลางกล่าวว่า “ข้าเป็นสหายกับเจ้าสำนักของพวกเจ้า วันนี้ตั้งใจจะมาเยี่ยมพวกเขาสักหน่อย! พวกเจ้าไปบอกพวกเขาว่าข้า มู่เฉียนซีมาหา เขาจะต้องตื่นเต้นรีบมาต้อนรับข้าแน่นอน”
กลิ่นอายของหญิงสาวตรงหน้าผู้นี้ไม่ธรรมดาเลย ดูไปดูมาก็ไม่เหมือนกับคนที่อวดอ้างแต่อย่างใด องครักษ์เหล่านี้จึงไม่กล้าเพิกเฉยต่อนาง!
“ได้โปรดท่านรอสักครู่ ข้าน้อยจะรีบไปแจ้งท่านเจ้าสำนักสักครู่ขอรับ”
“ดี!”
องครักษ์เฝ้าเวรยามรีบไปรายงานอย่างรวดเร็ว และเมื่อท่านเจ้าสำนักได้ยินชื่อของมู่เฉียนซี ก็ตื่นเต้นขึ้นมาอย่างที่นางกล่าวไว้จริง ๆ
“อะไรนะ! มู่เฉียนซี นี่เจ้าไม่ได้ฟังผิดไปใช่หรือไม่!”
“ไม่ได้ฟังผิดไปแน่นอนขอรับ! ท่านเจ้าสำนัก นางบอกว่านางชื่อมู่เฉียนซี เป็นแม่นางน้อยรูปร่างหน้าตางดงามอย่าไร้ที่ติคนนึงเลยขอรับ”
“เป็นไปไม่ได้!” คนที่ตกไปในมิติรอยแยกนั้นแล้วจะมีชีวิตรอดกลับมาได้อย่างไรกัน เขาไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อน
อีกอย่าง ต่อให้สาวน้อยผู้นั้นมีชีวิตรอดมาได้ การที่นางมาสำนักเล่ออัน ก็เท่ากับเป็นการมารนหาที่ตาย
เรื่องที่เขาทำ ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น!
ครั้นแล้ว เจ้าสำนักเล่ออันก็ออกไปพบนาง เมื่อเขาเห็นร่างอันคุ้นเคยนั้น สายตาของเขาก็เย็นยะเยือกขึ้นมาทันที จิตสังหารแผ่ซ่านออกมาอย่างไร้การบดบังใด ๆ ทั้งสิ้น
“ใครก็ได้ ฆ่านางซะ!”
แม้ว่ามู่เฉียนซีจะเอาชีวิตรอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่นางกลับกล้ามาเหยียบสำนักเล่ออัน นางรนหาที่ตายชัด ๆ
แม่นางผู้นี้เป็นสหายของท่านเจ้าสำนักไม่ใช่หรอกหรือ เหตุใดถึงลงมือฆ่านางเล่า
ทว่า เมื่อพวกเขาได้ยินคำสั่งของท่านเจ้าสำนัก พวกเขาก็ลงมือทันที มู่เฉียนซีเรียกอู๋ตี้ เสี่ยวหง เสี่ยวโม่โม่และพวกออกมา
พลังอำนาจของสัตว์เทพแผ่ซ่านออกมาอย่างรุนแรง ทันใดนั้นเองทำให้สีหน้าของเจ้าสำนักเล่ออันก็พลันเปลี่ยนไปมาก
“นี่มันอะไรกัน! สัตว์เทพ! สัตว์เทพสามตัว!”
เขากล่าวเย้ยหยันว่า “มิน่าละว่าเหตุใดเจ้าถึงกล้ามาก่อเรื่องถึงสำนักเล่ออันของข้าได้ ที่แท้เจ้าก็มีสัตว์เทพถึงสามตัวนี่เอง เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวสัตว์เทพสามตัวนี้ของเจ้าอย่างนั้นเหรอ?”
ขวับ! เจ้าสำนักเล่ออันพุ่งตัวออกไปรับการโจมตี ในขณะเดียวกันเขาก็ส่งสัญญาณลับเพื่อบอกให้ผู้อาวุโสแห่งสำนักเล่ออันลงมือ
สัตว์เทพสามตัว เขาเพียงคนเดียวไม่อาจรับมือได้!
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
และแน่นอนว่าย่อมมีคนโจมตีมู่เฉียนซี แต่ด้วยความเร็วของมู่เฉียนซีในตอนนี้ พวกเขาไม่อาจจับตัวนนางได้ทัน
ศึกการสู้รบเป็นไปอย่างดุเดือด สัตว์เทพทั้งสามออกมาต่อสู้เช่นนี้ทำให้เหล่าผู้อาวุโสทั้งหมดของสำนักเล่ออันต้องเคลื่อนไหวขึ้น
สวี่ฝูและพี่ชายของนางก็ออกมาแล้ว พวกเขากล่าว “ท่านพ่อ นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นเจ้าคะ ใครมันกล้าบังอาจมาก่อเรื่องวุ่นวายถึงสำนักเล่ออันของพวกเรา!”
มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยันว่า “ข้าเอง!”
สวี่ฝูกรีดร้องขึ้น “มู่เฉียนซี เป็นเจ้า! นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเจ้า! เจ้า…”
“เหตุใดต้องทำหน้าเหมือนเห็นผีเช่นนั้นล่ะ ข้าไม่ใช่ผีสักหน่อย!”
“เจ้า…นี่เจ้ายังไม่ตายเหรอ! นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะยังไม่ตาย!” สวี่ฝูกล่าวอย่างไม่น่าเชื่อ
“ผู้อาวุโสสูงสุด ผู้อาวุโสรอง ฆ่ามู่เฉียนซีซะ ฆ่านางเดี๋ยวนี้!”
คราก่อนไม่ได้เห็นนางตายอย่างน่าอนาถกับตา ครั้งนี้นางจะต้องเห็นนางตายอย่างน่าอนาถกับตาตัวเองให้ได้
เพียงแต่ว่า เรื่องเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเรื่องเพ้อฝันทั้งสิ้น
ในขณะที่นางตะโกนวาจาเช่นนั้นออกมา นางก็ถูกมักรวารีผู้พิทักษ์เจ้านายเล่นงานเข้าเสียแล้ว
ทว่า ความเร็วของอาถิงนั้นรวดเร็วกว่ามาก ชั่วพริบตาเดียวเวลาของสวี่ฝูก็รวดเร็วขึ้น นางได้กลายเป็นหญิงชราอายุกว่าร้อยปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“คุณหนูใหญ่ คุณหนู…”
“มู่เฉียนซี นี่เจ้าใช้วิชามารอันใด!”
“……”
ยอดฝีมือแห่งสำนักเล่ออันทุกคนลงมือแล้ว มู่เฉียนซีชักกระบี่มังกรเพลิงพิฆาตวิญญาณออกมา และได้ย่างกรายเข้าสู่สมรภูมิรบ
“เพลิงสังหารซิวหลัว!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
มู่เฉียนซีหายตัวไปไม่นาน แต่เห็นได้ชัดว่าพลังของนางนั้นแข็งแกร่งกว่าอัจฉริยะในอาณาจักรหนานหลิงในครั้งนั้นมาก
ความเร็วและกำลังในการป้องกัน รวมไปถึงทักษะร่างของนางก็แข็งแกร่งอย่างมิอาจเปรียบได้ ในสมรภูมรบนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เหมาะสมจะต่อสู้กับนาง
และคนที่ต่อสู้กับนางได้นั้นก็ถูกผู้วิปริตสองคนกำจัดไปแล้ว ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงต่อสู้กับพวกเขาอย่างมีความสุข
พวกเขาต้องการทำร้ายมู่เฉียนซี มันเป็นเพียงแค่เรื่องเพ้อฝันเท่านั้น
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
ทั่วทั้งสำนักเล่ออันถูกพลังอันแข็งแกร่งโจมตีจนพังระนาบเป็นหน้ากลอง สวี่ฝูตะโกนขึ้นว่า “ท่านพ่อ ช่วยข้าด้วย! ช่วยข้าด้วย!”
เมื่อมองไปที่หญิงชราที่แก่กว่าเขาหลายเท่า ท่านเจ้าสำนักสวี่มองไม่ออกเลยว่านางคือบุตรสาวของเขา
ฟึ่บ! ในขณะที่เขากำลังตกตะลึงอยู่นั้น เข็มยาเข็มหนึ่งได้ปักเข้าที่คอของเขา
ตุบ! ร่างของเขาล้มลงไปกับพื้นทันที
พรวด!
เขากระอักเลือดคำโตออกมา เจ้าสำนักสวี่กล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “มู่เฉียนซี เจ้ามันน่ารังเกียจยิ่งนัก นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะใช้พิษเล่นงานข้า”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าไม่เพียงแค่จะใช้พิษเล่นงานเจ้าอย่างเดียวนะ ข้าจะทำลายล้างสำนักของเจ้าด้วย! เชื่อข้าเถอะ ว่าจุดจบของสำนักเล่ออันของเจ้าไม่ได้ดีไปกว่าสำนักฉางฮวนแน่นอน”
“สำนักฉางฮวน…นึกไม่ถึงเลยว่าคนที่ทำลายล้างสำนักฉางฮวนจะเป็นเจ้า!” ใบหน้าของสวี่ฝูเผยความตื่นตระหนกออกมา
.