ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1779 แสดงได้ดี
จูเชว่ก็พอที่จะรู้จักสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้อยู่บ้าง แต่หากไม่รู้ ก็เพียงแค่ตามมู่เฉียนซีไปเก็บสมุนไพรด้วย จะต้องไม่ผิดอย่างแน่นอน
ถึงแม้เขาจะยังไม่แน่ใจว่าที่จริงแล้วมู่เฉียนซีเป็นนักปรุงยาระดับไหนกันแน่ แต่เขารู้สึกว่ายาของนางนั้นยอดเยี่ยมยิ่งกว่านักปรุงยาที่เขาเคยเจอมาก่อนหน้านี้เสียอีก
มู่เฉียนซีจดจ่ออยู่กับการเก็บสมุนไพรวิญญาณอย่างมีความสุข และเพียงไม่นานก็อยู่ห่างออกมาจากคนเหล่านั้นแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “นิรันดร์ หากเจ้าเบื่อที่จะรอก็อย่ารออยู่เฉย ๆ มาเก็บสมุนไพรด้วยกันเถอะ!”
“ที่รัก ตัวตนของข้าเป็นถึงใครกัน จะให้ข้าไปทำงานใช้แรงงานเช่นนั้นได้อย่างไร” นิรันดร์กล่าว
“สำหรับนักปรุงยาแล้ว การชื่นชอบสมุนไพรวิญญาณเป็นนิสัยตามธรรมชาติอยู่แล้ว”
“แต่ทว่านิสัยตามธรรมชาติของข้านั้นชื่นชอบสาวงาม! แน่นอนว่า หากที่รักขอร้องอย่างกระตืนรือร้นที่จะให้ข้าไปเก็บสมุนไพรด้วยกันกับเจ้ามากถึงเพียงนี้ เช่นนั้นมันก็ถือว่าเป็นอรรถรสอย่างหนึ่งเช่นกัน” นิรันดร์กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่เย้ายวน
“อยากเก็บสมุนไพรก็มาช่วยกัน ไม่อยากเก็บสมุนไพรก็ไสหัวไป อย่ามาขวางทาง” มู่เฉียนซีกล่าวพลางจ้องมองไปยังใบหน้าอันงามเลิศล้ำที่กำลังใกล้เข้ามา
“ที่รักโมโหเช่นนี้ช่างน่ารักจริง ๆ เช่นนั้นข้าช่วยเจ้าดีกว่า”
การเก็บสมุนไพรสำหรับนิรันดร์นั้น อันที่จริงแล้วเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก
ทันทีที่เขาควบคุมลม สายลมเหล่านั้นก็จะเก็บรวบรวมสมุนไพรวิญญาณที่ใช้ประโยชน์ได้ขึ้นมาด้วยตนเอง หลังจากนั้นนิรันดร์ก็มอบสมุนไพรที่เก็บมาทั้งหมดให้กับมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีจ้องมองไปที่นิรันดร์ด้วยแววตาเป็นประกาย “นิรันดร์ ไม่คิดมาก่อนเลยจริง ๆ! ว่าเจ้าจะมีฝีมือในการเก็บสมุนไพรถึงเพียงนี้”
จูเชว่อดทนที่จะไม่พูดออกไป และไม่คิดเลยว่าจะเก็บสมุนไพรกันเช่นนี้ อีกทั้งธาตุวายุสามารถใช้ประโยชน์เช่นนี้ได้ด้วย
ใช้เวลาเพียงไม่นานก็จัดการได้เสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว เก็บเกี่ยวได้ไม่เลวเลยทีเดียว
หลังจากที่เก็บเกี่ยวสมุนไพรวิญญาณบนเกาะนี้เรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ได้ออกล่องเรือและสังหารสัตว์ทะเลกันต่อไป และเมื่อไรก็ตามที่พบเกาะ มู่เฉียนซีก็จะลากนิรันดร์ไปเก็บสมุนไพรด้วยกันอีก
นิรันดร์หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้ ที่แท้แล้วในสายตาของที่รักของเขานั้น ประโยนช์ของเขาก็คงมีแค่การเก็บสมุนไพรเท่านั้น เมื่อต้องการใช้ให้เขาเก็บสมุนไพรถึงจะปฏิบัติต่อเขาอย่างกระตือรือร้นเช่นนี้
ท่านนิรันดร์เช่นเขาตกอับมาถึงจุดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน
มู่เฉียนซีได้ร่วมมือกับนิรันดร์ในการเก็บสมุนไพรราวกับโจรปล้นชิงอย่างไรอย่างนั้น และมันก็ทำให้จูเชว่อดที่จะปวดใจแทนคนอื่นไม่ได้ เขาคาดว่าการเดินทางครั้งนี้คงจะเหนื่อยเปล่า เนื่องจากเก็บสมุนไพรวิญญาณดี ๆ ไม่ได้เลย
บนท้องทะเลอันกว้างใหญ่แห่งนี้ ส่วนใหญ่แล้วต่างก็เป็นเกาะที่รกร้างว่างเปล่า และเกาะเช่นนี้ก็มีสมุนไพรวิญญาณไม่มากนัก
แต่หากเป็นเกาะที่มีพืชพรรณเขียวชอุ่ม และมีสมุนไพรวิญญาณที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้แล้วละก็ ในตอนนี้พวกเขาได้ค้นพบเกาะแห่งนั้นแล้ว
“โชคดีมากจริง ๆ เก็บเกี่ยวได้มากมายเลยทีเดียว!”
“ครั้งนี้ท่านผู้นำเกาะจะต้องมอบยาให้พวกเราเพิ่มอีกสองสามเม็ดอย่างแน่นอน”
“……”
เนื่องจากเกาะไม่หวนคืนแห่งนี้ได้ถูกปิดผนึกเอาไว้ ทำให้มีทรัพยากรในการฝึกฝนอย่างจำกัด
ทรัพยากรที่ใช้ในการฝึกฝนที่ดีที่สุดก็คือยาของท่านผู้นำเกาะนั่นเอง ซึ่งพวกเขาต่างก็พยายามที่จะแย่งชิง แต่ก็ยากมากเหลือเกินกว่าจะได้รับ แม้จะเพียงครึ่งเม็ดก็ตาม
เกาะสมบัติเช่นนี้ พวกเขาแย่งกันพุ่งทะยานขึ้นไป มู่เฉียนซีไม่รีบร้อนเท่าไรนัก มีนิรันดร์อยู่ทั้งคนยังจะกลัวแย่งสมุนไพรวิญญาณไม่ทันได้อย่างไร?
แต่ทว่าทันทีที่คนเหล่านี้ขึ้นไปบนเกาะก็มีเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาดังขึ้น “อ๊ากก!”
“รีบหนีเร็วเข้า เกาะนี้ถูกสัตว์ทะเลครอบครองเอาไว้แล้ว ทั้งหมดนั้นเป็นสัตว์ทะเล อันตราย!”
“เร็วเข้า!”
พวกเขาใช้ความเร็วสูงสุดในการหลบหนี แต่ทว่าจำนวนของสัตว์ทะเลเหล่านี้มีมากเกินไป และมันก็ได้ปิดล้อมพวกเขาเอาไว้แล้ว
สำหรับสัตว์ทะเลแล้ว พวกเขาเปรียบเสมือนอาหารอันโอชะมากมื้อหนึ่ง แล้วมันจะยอมปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้อย่างไร
“โฮกกกก!” สัตว์ทะเลคำรามร้องออกมา และพวกมันก็รวมตัวกันอีกครั้ง
“หมดหนทางแล้ว มีเพียงแต่ต้องสู้เท่านั้น!” พวกเขามองไปที่สัตว์ทะเลมากมายเหล่านี้ และรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ในเวลานี้พวกเขาไม่อาจหนีไปได้แล้ว ทำได้เพียงแค่ต้องเข่นฆ่าบนเส้นทางอันนองเลือดเท่านั้น!
ตูมมม!
ทันใดนั้นการต่อสู้ของพวกเขากับสัตว์ทะเลก็เริ่มขึ้น สัตว์ทะเลจู่โจมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ความสามารถของผู้อาวุโสเหล่านั้นกลับไม่เพียงพอ และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ถูกสัตว์ทะเลฆ่าตายไปแล้ว
มู่เฉียนซีมีความได้เปรียบด้านความเร็ว และมันก็ทำให้นางหลบหลีกการโจมตีของสัตว์ทะเลเหล่านั้นได้
แต่จูเชว่ก็รีบติดตามอยู่ข้างกายของนาง เผื่อเอาไว้!
“ฆ่ามัน!”
“ฆ่า!”
“……”
มีผู้บาดเจ็บล้มตายเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และดวงตาของพวกเขาก็เริ่มแดงก่ำไปด้วยการเข่นฆ่า
สัตว์ทะเลของเกาะแห่งนี้เกินความคาดหมายของพวกเขาโดยสิ้นเชิง ยิ่งต่อสู้กันต่อไป พวกเขาก็ยิ่งสิ้นหวังมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ให้ตายเถอะ หรือว่าพวกเราจะต้องตายอยู่ที่นี่เช่นนั้นหรือ?”
“อ๊ากกกกก! ข้ายังไม่อยากตาย”
“……”
ในตอนที่พวกเขาใกล้จะถูกทำลายจนหมดสิ้น กลิ่นหอมหวนของดอกไม้ก็ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้
และสัตว์ทะเลเหล่านี้ก็ไม่ได้โจมตีพวกเขาอีกแล้ว แต่กลับถูกดึงดูดไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นของดอกไม้ จากนั้นก็ค่อย ๆ ทยอยไปยังใจกลางของเกาะอย่างรีบร้อน
หลังจากที่รอให้สัตว์ทะเลเหล่านั้นสลายตัวไปแล้ว ทุกคนต่างพากันล้มลงบนพื้นด้วยความอ่อนเพลีย
“ในที่สุดก็รอดแล้ว พวกเรารีบหนีกันเถอะ!”
“ไปหรือ! ข้าคิดว่ามันไม่ดีนักหากจะไปตอนนี้! บนเกาะแห่งนี้จะต้องมีสมบัติอย่างแน่นอน ไม่ใช่นั้นคงไม่สามารถดึงดูดสัตว์ทะเลมากมายถึงเพียงนี้ได้ หากว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าเช่นนั้นจริง ๆ พวกเราจะต้องได้กำไรมากเป็นแน่”
“เจ้าอยากตายอย่างนั้นหรือ!”
มีทั้งคนที่เห็นด้วยว่าต้องไปดู และคนที่เห็นด้วยว่าควรจะต้องออกไปโดยเร็ว สุดท้ายแล้วทำได้แค่เพียงลงเสียงกันเพื่อตัดสินใจเท่านั้น
ไม่คิดเลยว่าคะแนนจะเท่ากัน และการตัดสินใจจึงไปตกอยู่ในมือของมู่เฉียนซีและจูเชว่ที่ยังไม่ได้ลงเสียง
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าเห็นด้วยว่าต้องไปดู!”
กลิ่นหอมหวนเช่นนี้ของดอกไม้ หากนางคาดเดาไม่ผิดแล้วละก็ มันจะต้องเป็นของดีอย่างแน่นอน ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่คิดที่จะพลาดโอกาสนี้
จูเชว่กล่าวว่า “ซีซีเห็นด้วยว่าจะไป เช่นนั้นข้าก็เห็นด้วยเช่นกัน”
เมื่อมีเสียงเพิ่มอีกสองเสียง พวกเขาจึงทำได้แค่เพียงเสี่ยงภัยเข้าไปยังใจกลางเกาะแห่งนี้เท่านั้น
พวกเขาเดินตรงไหนข้างหน้าอย่างระมัดระวัง แต่สัตว์ทะเลทั้งหมดได้ถูกดึงดูดไปแล้ว จึงทำให้ตลอดทางบนภูเขาพวกเขาไม่เจออันตรายใด ๆ เลย
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เข้าใกล้กลิ่นอายที่อันตรายของสัตว์ทะเล “ปีนขึ้นไปดูบนต้นไม้ก่อนว่ามันเป็นอะไรกันแน่?”
เมื่อเขายืนอยู่บนที่สูง ก็ได้เห็นสัตว์ทะเลที่มากันมืดฟ้ามัวดินกลุ่มหนึ่งห้อมล้อมดอกไม้สีขาวอมเขียวน้ำเงินช่อหนึ่งเอาไว้
ดอกไม้ช่อนั้นเล็กมาก แต่ทว่ากลิ่นที่แพร่กระจายออกมากลับช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก หากพวกเขาไม่ได้มาเห็นด้วยตนเอง ก็คงไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน
เมื่อจูเชว่มองเห็นช่อดอกไม้เล็กนั้นก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขาจับมู่เฉียนซีเอาไว้แล้วกล่าวว่า “เฉียนซี นั่นคือยาระดับกึ่งเทพ บุปผาเปลี่ยนเก้าวิญญาณใช่หรือไม่? ไม่คิดเลยว่าข้าจะสามารถหามันเจอได้ที่นี่”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สายตาไม่เลวเลย นี่ก็คือยากึ่งเทพบุปผาเปลี่ยนเก้าวิญญาณ สามารถพบเจอสมุนไพรวิญญาณในสถานที่เช่นนี้ได้ การถูกบีบบังคับให้เข้ามาที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายเลยจริง ๆ”
“ซีซี ข้ารู้ว่าเจ้าชื่นชอบสมุนไพรวิญญาณและยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นยากึ่งเทพเข้าด้วย! แต่ทว่าข้าก็ต้องการมันเช่นกัน ”
“เจ้าไม่ได้เป็นนักปรุงยา แล้วจะต้องการไปทำอะไรกัน?”
“คนที่ข้าเคารพนับถือมากที่สุดจำเป็นที่จะต้องใช้มันรักษาบาดแผล หรือจะพูดได้ว่าเพื่อต่อชีวิตของเขา” จูเชว่กล่าว
“อย่างนี้ก็แล้วกัน เจ้าเอาดอกไม้ไป แล้วเหลือรากของมันไว้ให้ข้าก็พอแล้ว”
มีมิติของศาลานิรันดร์อยู่ด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นระดับสมุนไพรวิญญาณกึ่งเทพก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย
จูเชว่กล่าวว่า “ซีซี เจ้าเป็นคนดีมากที่สุดเลย”
“คิดว่าข้าดีหรือ หลังจากที่ออกไปแล้ว ให้ข้อมูลข้าโดยไม่เก็บเงินสักสองสามเรื่องเป็นอย่างไร?” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อย่าว่าแต่ข้อมูลข่าวสารสองสามเรื่องเลย ถึงจะให้ข้ามอบมันทั้งหมดให้เจ้าก็ยังได้!”
“ไอ้หนู เจ้ารีบไสหัวไปเถอะ! ขนาดข้าประเคนให้ถึงที่ที่รักยังไม่เอาเลย แล้วนับประสาอะไรกับเจ้าล่ะ!” นิรันดร์กล่าวอย่างไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก
มู่เฉียนซีกล่าว “แสดงได้ดีจริง ๆ บุปผาเปลี่ยนเก้าวิญญาณกำลังจะสุกงอมแล้ว”
จูเชว่ชะงักไปครู่หนึ่ง “แสดงได้ดีอะไรกัน?”
“เจ้ารู้จักบุปผาเปลี่ยนเก้าวิญญาณ แล้วจะไม่รู้อย่างอื่นเลยเช่นนั้นหรือ?”
“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร ข้าเพียงแค่แอบดูลักษณะของมันเท่านั้น และรู้มาว่ามันยังเป็นยากึ่งเทพเจ้าที่ยอดเยี่ยมมากด้วย” จูเชว่กล่าว