ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1803 เอาตัวเองมาติดกับดัก
ท่านผู้ดูแลลู่ผู้นี้เป็นคนหน้าเนื้อใจเสือ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของคุณหนูซิงสีหน้าของเขาพลันเย็นชาขึ้นเล็กน้อย
ส่วนไป๋จิ่งเยว่ก็คิดว่ามู่เฉียนซีได้ไปยั่วโมโหให้ผู้ดูแลลู่ผู้นี้ไม่พอใจเข้าเสียแล้ว สีหน้าของเขาจึงเคร่งขรึมขึ้นและเตรียมที่จะพามู่เฉียนซีออกไป
แต่สุดท้ายผู้ดูแลลู่กลับกล่าวว่า “คุณหนูซิง หอหมอปีศาจของพวกเราไม่ต้อนรับคนไร้เหตุผลเช่นท่าน ขอแสดงความยินดีด้วย ชื่อของท่านได้เข้าสู่บัญชีดำของหอหมอปีศาจแล้ว! เด็ก ๆ ส่งแขก!”
คุณหนูซิงแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “นี่เจ้าว่าอะไรนะ เจ้าจะเอาชื่อข้าเข้าสู่บัญชีดำอย่างนั้นเหรอ เจ้ากล้า? บังอาจยิ่งนัก!”
“ส่งแขก!”
ผู้ดูแลลู่ให้คนเอาตัวคุณหนูซิงผู้นั้นออกไป จากนั้นผู้ดูแลลู่ก็หันมากล่าวว่า “แม่นางมู่ ไหน ๆ ก็มาแล้ว มานั่งก่อนสักครู่เถิด ข้าได้เตรียมชาที่ดีที่สุดให้ท่านแล้ว สหาย…”
ผู้ดูแลลู่ผู้ที่มีฝีปากเป็นเลิศผู้นี้ได้ขวางมู่เฉียนซีเอาไว้ด้วยคำพูดเหล่านี้ จากนั้นก็ได้เชิญนางขึ้นไปยังชั้นบน
มู่เฉียนซีมองไปที่ไป๋จิ่งเยว่พลางกล่าวว่า “คุณชายไป๋เป็นสหายของข้า ต่อไปพวกเจ้าคงรู้กระมังว่าควรปฏิบัติต่อเขาเช่นไร”
ผู้ดูแลลู่ยิ้มพลางกล่าว “แน่นอนอยู่แล้ว จะต้องลดราคาต่ำที่สุดแน่นอน”
ไป๋จิ่งเยว่พบว่าตัวเองเข้าใจผิดแล้ว แม่นางมู่ไม่เพียงแต่จะไม่มีความแค้นใดกับหอหมอปีศาจเท่านั้น แต่นางยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของหอหมอปีศาจอีกด้วย
มู่เฉียนซีกล่าว “คุณชายไป๋ นั่งรอตรงนี้สักครู่ ข้ามีเรื่องต้องไปจัดการเล็กน้อย”
“ก็ได้!”
จากนั้น นางก็เดินไปบริเวณสำนักงาน
มู่เฉียนซีมองไปที่ผู้ดูแลลู่ และกล่าวว่า “ดูท่าเจ้าคงจะเป็นคนสนิทของโม่ซวนสินะ!”
“เมืองซิงเหลยเป็นเมืองที่สำคัญที่สุดในดินแดนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ฉะนั้นคุณชายจึงส่งคนสนิทเช่นข้ามา แม่นางมู่ ไม่ใช่ว่าข้าว่าท่านนะ แต่นี่ข้าเพิ่งจะเคยเห็นคนที่ทิ้งหน้าที่ให้คนอื่นรับผิดชอบอย่างไร้ความปรานีเช่นนี้เป็นครั้งแรก คุณชายของพวกเราเดิมทีสุขภาพร่างกายก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงอยู่แล้ว พอแม่นางมู่ไป เขาคนเดียวก็ต้องจัดการเรื่องของคนสองคนอีกหลายอย่าง มีศัตรูห้อมล้อมอยู่รอบกาย เจ้านายข้ายากลำบากยิ่งนัก…”
ผู้ดูแลลู่เริ่มบ่นบอกว่าเจ้านายของตนมีความยากลำบากต่าง ๆ นานาแค่ไหน และมู่เฉียนซีในฐานะที่เป็นเถ้าแก่ไร้ความเห็นใจมากเพียงใด จากนั้นเรื่องจริงจังก็ได้เริ่มขึ้น
ปึก ปึก ปึก! งานกองโตถูกโยนลงตรงหน้ามู่เฉียนซี
“ในเมื่อแม่นางมู่ยังจำหอหมอปีศาจได้ งานเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้นับว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับท่าน ดังนั้นเรามาจัดการกับพวกมันกันเถอะ!”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้นอย่างรุนแรง “ดูเหมือนว่าพอโม่ซวนรู้ว่าข้าอยู่เมืองซิงเหลยก็เลยเตรียมงานเหล่านี้เอาไว้ล่วงหน้าแล้วกระมัง ข้ามาที่หอหมอปีศาจครั้งนี้ นับว่าเอาตัวเองมาติดกับดักชัด ๆ”
หากนางไม่มา โม่ซวนคงไม่เอางานเหล่านี้ไปให้นางถึงที่นั้น ๆ เป็นแน่ แต่ในเมื่อนางเองเอาตัวเองมาติดกับดักถึงที่เช่นนี้ โม่ซวนจะต้องไม่ปล่อยนางไปง่าย ๆ แน่
ผู้ดูแลลู่ยิ้มพลางกล่าว “แม่นางมู่ คุณชายของข้าไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์เช่นนั้น”
“เหอะ ๆ ๆ! คิดว่าข้าจะเชื่ออย่างนั้นเหรอ” มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยัน
มู่เฉียนซีกล่าว “วางของเอาไว้ตรงนี้แหละ ข้าจะไปพูดคุยกับคุณชายไป๋สักเล็กน้อย”
มู่เฉียนซีมีเรื่องต้องจัดการ ไป๋จิ่งเยว่ก็ไม่ใช่คนที่อยากรู้อยากเห็นถึงเพียงนั้น หลังจากกล่าวคำลากับมู่เฉียนซีเสร็จ จากนั้นมู่เฉียนซีก็ต้องมาจัดการกับงานกองโตเหล่านี้
ดวงตาของนางเปล่งประกายขึ้น ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “นิรันดร์ ออกมาทำงานสักหน่อยสิ!”
นิรันดร์มองมู่เฉียนซีด้วยความงุนงง “ยอดดวงใจของข้า เรื่องยุ่งยากพวกนี้ข้าไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย เหตุใดถึงได้เยอะแยะมากมายถึงเพียงนี้”
“เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้าเหรอ นิรันดร์ ข้าว่าเจ้ามีชีวิตมานานหลายปีเช่นนี้เจ้าคงจะไม่อยากอยู่ไปเปล่า ๆ โดยไร้ประโยชน์หรอกใช่หรือไม่?”
“แต่ข้าทำไม่ได้จริง ๆ นะ ข้าทำได้แค่หลอมยาลูกกลอนและโปรยเสน่ห์สาวงาม เรื่องอื่นข้าไม่รู้ ข้าทำไม่ได้หรอก”
มุมปากของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้นเล็กน้อย “นิรันดร์ ข้านับถือเจ้าแล้วจริง ๆ แต่เจ้าคิดว่าเจ้าพูดเช่นนี้แล้วข้าจะปล่อยเจ้าไปอย่างนั้นหรือ ไปปรุงยาที่ห้องปรุงยาเดี๋ยวนี้ ข้าว่าเจ้าคงจะมีวิธีหลอมยาลูกกลอนรักษาอาการของโม่ซวนได้”
นิรันดร์กล่าว “ตอนนี้สมุนไพรวิญญาณขั้นศักดิ์สิทธิ์ของที่รักข้ายังมีไม่เพียงพอ ต่อให้ข้าเป็นคนลงมือ แต่วัสดุก็ยังมีไม่ครบอยู่ดี แต่เห็นแก่ที่เขาเป็นคนขยันขันแข็ง ข้าไม่ให้เขาตายเร็วเช่นนั้นหรอก”
มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “ขาดสมุนไพรวิญญาณขั้นศักดิ์สิทธิ์อีกไม่กี่ชนิด จะต้องตามหาจนเจออย่างแน่นอน”
นิรันดร์ถูกไล่ให้ไปปรุงยาแล้ว หอหมอปีศาจทุก ๆ ที่ได้สร้างห้องปรุงยาของท่านหมอปีศาจไว้โดยเฉพาะขึ้น และตอนนี้นิรันดร์ก็อยู่ในห้องปรุงยาแล้ว
ยาลูกกลอนขั้นศักดิ์สิทธิ์ถูกนิรันดร์หลอมออกมา สิ่งนี้ทำให้คนจำนวนมากสังเกตและรับรู้ได้ ทว่า การป้องกันของหอหมอปีศาจนั้นแข็งแกร่งมาก คนนอกใช่ว่าจะเข้าออกตามใจได้
ผู้ดูแลลู่มาหามู่เฉียนซีด้วยความตื่นตระหนก มู่เฉียนซีกล่าว “จัดการเรียบร้อยแล้ว ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว”
“ท่านมู่ ท่าน…ท่านหลอมยาขั้นศักดิ์สิทธิ์ออกมาหรือ?”
“อืม! ยาลูกกลอนเม็ดนี้เอาไปให้เจ้านายของเจ้ากิน ดีกว่ายาลูกกลอนก่อนหน้านี้มาก เอาไปให้เขารักษาชีวิต” มู่เฉียนซีกล่าวพลางโยนขวดยาขวดหนึ่งให้เขา
ผู้ดูแลลู่ดีอกดีใจเป็นอย่างยิ่ง กล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “ข้าขอบคุณแม่นางมู่แทนคุณชายของข้าด้วย”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้ากับเขาได้ตกลงกันเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ข้าจะเป็นคนรักษาชีวิตของเขาเอง”
ผู้ดูแลลู่กล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “ข้าได้ยินมาว่าแม่นางมู่รู้จักคุณชายจูเชว่ เมื่อเทียบกับคุณชายของพวกเราแล้ว คุณชายจูเชว่เป็นคนสุขภาพแข็งแรงมาก พลังความแข็งแกร่งก็เหนือชั้นมาก อีกอย่าง รูปร่างหน้าตาก็รูปงาม…”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “หากโม่ซวนได้ยินว่าเจ้าพูดจาว่าเขาด้อยกว่าคนอื่นเช่นนี้แล้วละก็ เจ้าคิดว่าเขาจะส่งตัวเจ้าไปที่ไหนรู้หรือไม่?”
“ข้าเปล่านะ คุณชายของข้าก็เก่งกาจมากเหมือนกัน”
“ในเมื่อข้าเลือกที่จะทำงานกับโม่ซวนตั้งแต่แรก อีกอย่างทุกอย่างที่เขาทำข้าก็พอใจมาก ข้าไม่มีทางทิ้งสหายข้าเอาไว้กลางทางแน่นอน” มู่เฉียนซีกล่าวเสียงขรึม
ผู้ดูแลลู่กล่าว “ข้าวุ่นวายเรื่องเจ้านายมากเกินไปเอง แต่แม่นางมู่ระวังคนเจ้าเล่ห์อย่างคุณชายจูเชว่นั่นไว้ให้ดี เขาเป็นคนยั่วให้คนอื่นหลงใหลเก่งกาจนัก”
หากเขารู้ว่าข้างกายมู่เฉียนซีมีคนผู้หนึ่งที่เชี่ยวชาญเรื่องการยั่วยวนให้สาวงามหลงใหลแต่ไม่สามารถทำให้มู่เฉียนซีหลงใหลได้ เขาจะต้องรู้ว่าจูเชว่ผู้นั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อมู่เฉียนซีเลยแม้แต่น้อย
เมืองซิงเหลยได้ปรากฏอัจฉริยะผู้หนึ่งที่สามารถต่อสู้ข้ามระดับขั้นได้อย่างมู่เฉินซีขึ้นแล้ว ไม่เพียงเท่านี้ แต่นางยังกล้าตั้งตนเป็นศัตรูกับสำนักหลินเยว่อีกด้วย
เรื่องนี้ไม่ได้แพร่งพรายไปถึงหูของมู่หลินหลางแต่อย่างใด เพราะอย่างไรเสียคนเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องให้คนอย่างมู่หลินหลางลงมือ สำนักหลินเยว่สามารถจัดการเองได้
…
“นายท่าน คุณชายไป๋เจ๋อส่งข่าวมาขอรับ”
หลังจากอ่านสาส์นที่ส่งมา น้ำเสียงอันทรงพลังเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “มู่เฉินซีอย่างนั้นเหรอ ชื่อนี้ไม่เลวเลย ให้เจ้าไป๋เจ๋อจับตาดูนางต่อไปก็แล้วกัน!”
“ขอรับ!”
แม้ว่าจะแสดงความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาออกมา แต่มู่เฉียนซีก็ไม่ได้ทำให้ตัวเองโดดเด่นจนเป็นที่น่าสังเกตมากต่อหน้าผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นในแดนซวนเทียน
มู่เฉียนซีเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าการต่อสู้ในหอคอยซิงเหลยนั้นเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้นเอง
เช้าตรู่ มู่เฉียนซีมานั่งดื่มชาอยู่บนหลังคาหอหมอปีศาจ แม้ผู้ดูแลลู่จะไม่รู้ว่ามู่เฉียนซีคือหมอปีศาจ แต่เขาก็รู้ว่านางคือสหายคนสำคัญมากสำหรับคุณชายของเขา และนางก็เป็นนักปรุงยาระดับศักดิ์สิทธิ์ท่านหนึ่ง
ตรงข้ามของหอหมอปีศาจคือจวนท่านเจ้าเมือง ในเวลานี้มีชายหนุ่มชุดคลุมยาวสีดำผู้หนึ่งถูกชายผู้โอหังอวดดีผู้หนึ่งขับไล่ออกมา
“ไสหัวไปให้พ้น! ไสหัวไปไกล ๆ ของเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้ยังคิดจะให้ท่านลุงของข้ายอมซ่อมอาวุธวิญญาณให้ เจ้าฝันไปเถอะ!”
ชายชุดดำผู้นั้นกล่าวเสียงขรึมว่า “ข้าต้องการเข้าพบท่านเจ้าเมือง”
“อยากพบอย่างนั้นเหรอ! ก็ได้! เจ้าไปเอาสมุนไพรวิญญาณของเจ้าที่หญิงสาวผู้นั้นเอาไปเมื่อวานกลับมาให้ได้ก่อน ข้าถึงจะให้เจ้าเข้าพบ มิเช่นนั้นแล้วละก็ เจ้าอย่าหวังเลยว่าเจ้าจะได้เข้ามาในจวนท่านเจ้าเมืองอีก”
“ท่านพี่! เกิดอันใดขึ้นหรือเจ้าคะ” ในตอนนี้คุณหนูซิงก็เดินออกมาจากจวนท่านเจ้าเมืองพอดี