ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1813 ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด
- Home
- ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
- ตอนที่ 1813 ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด
มู่เฉียนซีกล่าว “ต้องการคนนำทางหรือ? จะนำทางอย่างไร?”
“เพียงแต่เจ้าให้หยกซวนกับข้าหนึ่งแสนชิ้น ข้าก็จะนำทางเจ้าไปยังที่ที่เจ้าอยากไปอย่างปลอดภัย” คนผู้นั้นกล่าวด้วยท่าทางมีเลศนัย
มู่เฉียนซีไม่ได้กล่าวตอบแต่อย่างใด ชิงเสวียนจึงเอ่ยขึ้นว่า “ช่างเถอะ ข้าว่ามันแพงเกินไป!”
เมื่อลองคำนวณหยวนซวนหนึ่งแสนชิ้นแล้ว กว่าจะหามาได้ก็ต้องใช้เวลานานเป็นอย่างยิ่ง
คนผู้นั้นตกตะลึงไปเล็กน้อย ไม่จริงกระมัง! ผู้มาเยือนสองคนนี้เป็นคนไส้แห้งหรือนี่
เขาจ้องมองสังเกตมู่เฉียนซีและชิงเสวียน ก่อนจะบ่นพึมพำในใจ เด็กสาวนางนี้ดูไม่เหมือนคนไส้แห้งเท่าไรนัก แต่เจ้าเด็กหนุ่มนั่นเหมือนคนไส้แห้งจริง ๆ
“เห็นแก่ที่พวกเจ้าอายุยังน้อย ข้าจะลดให้อีกสักหน่อยก็แล้วกัน เจ็ดหมื่น ลดกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว” เขากล่าวด้วยใบหน้าที่ประดับรอยยิ้ม
มู่เฉียนซีกล่าว “ชิงเสวียน ให้ข้าเป็นคนจัดการค่านำทางเอง เจ้าเพียงแค่ตามไปก็พอ ไม่ต้องเสียดายหรอก!”
ชิงเสวียนพยักหน้าแล้วกล่าว “อือ!”
การประหยัดเงินและใช้เงินให้น้อยที่สุดได้กลายเป็นนิสัยของเขาไปแล้ว เขาได้ลืมไปเสียสนิทว่าคุณหนูผู้นี้สามารถผลิตยาลูกกลอนได้จำนวนมหาศาล คำว่าเงินขาดมือคือสิ่งใดก็ยังไม่รู้เลย
“นี่คือหยกซวนเจ็ดหมื่น นำทางเถอะ! ข้าจะไปถนนมืด เร็วได้เท่าไรก็ยิ่งดี!” มู่เฉียนซีจ่ายเงินไปอย่างไม่อิดออดแม้แต่น้อย
คนผู้นี้รับเงินมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มจนดวงตายิบหยี “ถนนมืดค่อนข้างไกลสักหน่อย ราคาที่ข้าเสนอไปค่อนข้างต่ำเลยทีเดียว! แต่จะทำอย่างไรได้ ใครใช้ให้ข้าถูกชะตากับพวกเจ้าเล่า! มา ตามข้ามาได้เลย!”
“ฮู ฮู ฮู!” เมื่อเข้ามาในอาณาเขตเสวียนอ้านแล้ว ก็รู้สึกราวกับได้เข้าไปในมิติบิดเบี้ยวมิติหนึ่ง สายลมที่อยู่รอบกายพัดโหมแรงอย่างบ้าคลั่ง แม้กระทั่งดวงอาทิตย์กลางท้องนภาก็เหมือนกับมีผ้าบางสีดำมาคอยบดบังไว้ก็มิปาน
“อาณาเขตเสวียนอ้านก็มีบรรยากาศแบบนี้แหละ ถึงแม้จะดูน่ากลัวไปสักหน่อย แต่รับรองได้ว่าไม่มีผีอย่างแน่นอน สบายใจได้! เมื่อเข้ามาในอาณาเขตเสวียนอ้านแล้วก็จำเป็นต้องมีคนนำทาง มิฉะนั้นแล้วก็ไม่มีทางหาสถานที่นั้น ๆ พบอย่างแน่นอน หากพวกเจ้าเชื่อใจข้า รับรองว่าพวกเจ้าจะไม่เสียดายเงินที่จ่ายมาอย่างแน่นอน”
คนผู้นี้พูดจาฉอเลาะเป็นอย่างยิ่ง ตลอดการเดินทางเขาพูดได้อย่างน้ำไหลไฟดับ
การเดินทางในครั้งนี้เป็นไปอย่างที่เขากล่าวมาจริง ๆ ตลอดการนำทางของเขาไม่ได้เกิดเรื่องอันตรายขึ้นแต่อย่างใด
ขณะที่มู่เฉียนซีกำลังเดินไปอยู่นั้น นางก็สัมผัสได้ว่าข้างหน้ามีพลังของบางสิ่งบางอย่างที่แผ่ซ่านออกมาอย่างแรงกล้า
คนผู้นี้ที่ความรู้สึกไวก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง “ข้างหน้ามีอันตราย พวกเรารีบหลบกันก่อนดีกว่า ไม่อย่างนั้นเราคงต้องตายกันแน่ ๆ”
ในขณะนี้ด้านหน้าได้เกิดศึกครั้งใหญ่ขึ้น ผู้คนจำนวนมากที่ตายไปก่อนหน้านี้คงจะมีพลังในระดับธรรมดา
ทว่ากลุ่มคนชุดเงินที่กำลังต่อสู้กับกลุ่มคนชุดดำนั้นล้วนมีพลังระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดทั้งนั้น การที่ผู้บำเพ็ญภูตขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากพากันมายังอาณาเขตเสวียนอ้านนั้น เป็นอะไรที่พบเจอได้น้อยเป็นอย่างยิ่ง
“ท่านปราชญ์ยินเยว่ นำมันมาให้ข้าเสียดี ๆ แล้วข้าจะทำให้ร่างไร้วิญญาณของเจ้าครบทั้งสามสิบสอง!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! ข้าหนีมาถึงตรงนี้แล้ว เหตุใดข้าจะต้องให้มันกับพวกเจ้าด้วย! ถึงแม้จะทำให้คนทั่วทั้งใต้หล้าได้รู้ ข้าก็ไม่มีวันยอมให้ราชวงศ์ตงหวงของพวกเจ้าทำมันสำเร็จอย่างแน่นอน ข้าไม่เชื่อว่าพวกเจ้าจะสามารถฆ่าทุก ๆ คนได้”
“ไม่รู้จักตายเสียแล้ว! เจ้าคิดว่าเจ้ายังหนีไปไหนได้อีกห้ะ?”
“พวกเจ้าจะลองดูก็ได้!”
ครืน ครืน ครืน!
การต่อสู้ของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดเป็นอะไรที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง ภายในเวลาเพียงชั่วพริบตาพวกเขาก็ได้ปะทะกันไปหลายครั้งหลายคราแล้ว?
มู่เฉียนซีเหลือบมองไปยังกลุ่มคนที่สวมอาภรณ์สีเงินเหล่านั้น คนของราชวงศ์ตงหวง สวมเครื่องแบบคล้ายคลึงกับองครักษ์เงินของมู่หลินหลางเหล่านั้นเล็กน้อย
คนเหล่านี้มีพลังที่ค่อนข้างแข็งแกร่งไม่น้อย และวิธีการของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ยินเยว่ผู้นั้นก็ไม่เลวเช่นกัน
มู่เฉียนซีสัมผัสได้ว่ามีพลังที่อันตรายซึ่งกำลังก่อตัวอยู่กลางอากาศ
มู่เฉียนซีกล่าว “ชิงเสวียน รีบถอยเร็ว! เร็วเข้า!”
ซู่ ซู่…
พวกเขารีบออกจากบริเวณนั้นด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นไม่นานบริเวณที่เกิดศึกสงครามครั้งใหญ่ และบริเวณที่พวกเขาหลบซ่อนตัวอยู่เมื่อครู่ก็พังทลายลงจนกลายเป็นฝุ่นผง มวลน้ำมหาศาลและเศษก้อนหินโถมเข้ามาราวกับคลื่นยักษ์
แววตาของชิงเสวียนมีประกายวาบผ่านไปอย่างรวดเร็ว นี่เป็นพลังของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง แข็งแกร่งมากจริง ๆ!
พลังวิญญาณของมู่เฉียนซีแผ่ซ่าน นางสัมผัสได้ว่ามีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ยินเยว่ที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ได้ตายไปหมดแล้ว
ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ยินเยว่ผู้นั้นก็ไม่ได้หยุดรออยู่ในบริเวณนี้แต่อย่างใด เขาได้จากไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลง มู่เฉียนซีก็ได้กล่าวกับชิงเสวียน “เอาล่ะ ไม่มีอะไรแล้ว”
ทว่าผู้นำทางก่อนหน้านี้ยังคงฟุบอยู่กับพื้นด้วยเนื้อตัวที่สั่นสะท้าน เขาหมอบอยู่กับที่และไม่กล้าขยับเขยื้อนแต่อย่างใด
“ยังจะฟุบอยู่ทำอะไร? ข้าจ่ายเงินมานะ รีบนำทางข้าไปสิ”
“ขะ…ข้าขาอ่อน! เมื่อกี้ข้าตกใจแทบแย่ ข้าเพิ่งเคยเห็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงเป็นครั้งแรก อีกทั้งยังไม่ใช่คนเดียวอีกด้วย” เขายังคงฟุบอยู่กับพื้น และไม่กล้าลุกขึ้นมาแต่อย่างใด
“หากยังพูดจาไร้สาระไม่นำทางให้ข้าอีก ข้าจะให้เจ้าชดใช้คืนเป็นสิบเท่า! หรือไม่ก็ชดใช้ด้วยชีวิต” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
การข่มขู่ของนางในครานี้ได้ผลดีเป็นอย่างยิ่ง เขารีบกระเด้งตัวขึ้นจากพื้นในทันที
“อย่าฆ่าข้าเลยนะ ข้าจะนำทางเจ้าประเดี๋ยวนี้แหละ!”
เมื่อลุกขึ้นมาแล้ว แต่เขาก็ยังไม่กล้าก้าวขาออกไป เขาจึงเอ่ยถาม “ตายไปหมดแล้วจริง ๆ หรือ? จะไม่มีอันตรายใด ๆ จริง ๆ ใช่หรือไม่?”
นั่นเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงนะ การที่จะขยี้พวกเขาให้ตาย ก็ง่ายดายเสียยิ่งกว่าการขยี้มดหนึ่งตัวเสียอีก
มู่เฉียนซีกล่าว “คิดว่าข้าจะเอาชีวิตตัวเองมาล้อเล่นอย่างนั้นหรือ? สรุปแล้วเจ้าจะไปไม่ไป”
“ไป! ไปแน่นอน! รอข้าประเดี๋ยว!”
พวกเขาได้เดินไปถึงซากปรักหักพังจากสงครามที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ สถานที่แห่งนี้มีผู้ที่โชคร้ายล้มตายไปเป็นจำนวนมาก พวกเขาไปยั่วยุผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ยินเยว่และถูกสังหารจนตัวตาย หรือไม่ก็ถูกทำลายไปจนสิ้น
คนเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นคนท้องถิ่นเสียด้วย
เมื่อคนนำทางเห็นร่างไร้วิญญาณที่นอนเกลื่อนอยู่เต็มพื้น ก็ตกใจจนหน้าซีดเผือดไปในทันที ร่างกายของเขาสั่นระริกราวกับเดินอยู่ท่ามกลางพายุหิมะก็มิปาน
มู่เฉียนซีกล่าว “คนอย่างเจ้าไม่เคยเห็นคนตายหรืออย่างไร! ยังกล้านำทางมาที่อาณาเขตเสวียนอ้านที่แปลกประหลาดนี่อีก?”
เขากล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา! ที่ข้าทำไปก็เพื่อเลี้ยงปากท้องเท่านั้น”
ทางข้างหน้าค่อนข้างปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง ทว่าเมื่อผ่านสถานที่แห่งนี้ไปแล้วก็จำจะต้องพบเจอกับความยุ่งยากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผู้ที่นำทางรีบถอยกลับมาหลบอยู่เบื้องหลังในทันที และพยายามลดทอนการมีตัวตนให้ได้มากที่สุด ทว่าเขาก็ถูกบุรุษร่างใหญ่ผิวดำคล้ำที่คอยขวางทางอยู่เห็นเข้าจนได้
“เห้! นี่มันจอมขี้ขลาดหลอกลวงจากหมู่บ้านเฮยสุ่ยไม่ใช่หรือ?เหตุใดจึงไม่พาคนไปหมู่บ้านเฮยสุ่ยแต่พามาที่หมู่บ้านหลงหู่ของพวกข้าล่ะ หรือว่าคนของหมู่บ้านเฮยสุ่ยตายไปหมดแล้ว?”
ดวงตาอันแสนเย็นชาของชิงเสวียนได้เหลือบมองไปที่คนเหล่านั้นแล้วกล่าว “นี่เจ้าเป็นโจรต้มตุ๋นหลอกเอาเงินชาวบ้านรึ?”
“ขะ…ข้า…” เขาตกใจจนแข้งขาอ่อนไปในทันที
บุรุษตัวสูงใหญ่ผู้นั้นกล่าว “สาวน้อยผู้นี้หน้าตางดงามจริงเชียว หน้าตาสวยเช่นนี้ก็เชื่อฟังกันสักหน่อย มาเป็นฮูหยินของหัวหน้าโจรป่าอย่างข้าดีกว่า ส่วนคนอื่นนำเงินและของมีค่าทั้งหมดของพวกเจ้าออกมา แล้วทุกอย่างจะเจรจากันง่ายขึ้น! พวกข้าอ่อนโยนกว่าพวกหมู่บ้านเฮยสุ่ยไร้ค่านั่นเป็นเท่าตัว”
มู่เฉียนซีเหลือบมองไปที่คนเหล่านั้นแล้วกล่าว “สุนัขดีย่อมไม่ขวางทาง รีบไสหัวไปเดี๋ยวนี้! ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าต้องตายอย่างน่าอนาถเป็นแน่”
“แม่สาวน้อยนี่อารมณ์ร้ายไม่เบา ข้าจะคอยดูว่าผู้ใดจะเป็นฝ่ายอยู่ในสภาพน่าอนาถกันแน่!”
ในอาณาเขตเสวียนอ้านแห่งนี้มีหลายครอบครัวที่เลือกจะเป็นโจรขโมยกันจำนวนไม่น้อย เพียงแต่ทุก ๆ ครอบครัวก็มักจะมีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับสูงสุดคอยคุ้มครองอยู่ เช่นนี้แล้วพวกเขาจึงมีความกล้าที่จะมาปล้นพวกผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตที่ใจกล้าเดินทางมายังอาณาเขตเสวียนอ้าน
โดยปกติแล้วหากมีผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์อยู่ในกลุ่มด้วยแล้ว พวกเขาก็จะไม่กล้าเข้าไปยั่วยุด้วย ทว่าหากจะให้รังแกผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตแล้ว ด้วยความคุ้นเคยในพื้นที่และกำลังของพวกเขา มันก็ไม่ยากเกินความสามารถ
อย่างมู่เฉียนซีและชิงเสวียนสองคนนี้ หากจะจัดการก็ง่ายราวกับ
ปลอกกล้วยเข้าปาก
“พลังวายุจันทราไร้คู่!”
มู่เฉียนซีพุ่งทะยานขึ้นไปข้างบน แล้วพุ่งลงตรงกลางศีรษะคนเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
ส่วนกระบี่ปีศาจชิงเสวียนก็ได้ลงมือจัดการพวกเขาเช่นกัน ไม่ว่าศัตรูจะแข็งแกร่งมากเพียงใด เขาก็ไม่กลัว ฆ่าเท่านั้น!
ดรุณีน้อยที่อยู่เบื้องหน้าเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง
ปัง ปัง ปัง!
ที่ที่นางเคลื่อนผ่านไปล้วนมีผู้คนที่ล้มลงไปกับพื้นทั้งสิ้น และสายตาของพวกเขาก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด
นะ…นี่มันผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเจ็ด
ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูต นี่ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตนี่นา!