ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1816 เล่ห์เหลี่ยมเยอะเกินไปแล้ว
สิ่งของชิ้นสุดท้ายที่ถูกนำออกมาประมูลก็คือแผ่นหยกชิ้นหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นแผ่นหยกชิ้นใหม่เอี่ยมอีกด้วย
ผู้ดำเนินการประมูลกล่าว “บนแผ่นหยกชิ้นนั้นได้สลักแผนที่เอาไว้ ซึ่งแผนที่นั้นเป็นสถานที่ตั้งของชนเผ่าชนเผ่าหนึ่งที่ค่อนข้างลึกลับเป็นอย่างยิ่ง สถานที่แห่งนั้นเคยปรากฏธาตุแสงที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้น ว่ากันว่าอาจจะมีมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ปรากฎขึ้นที่นั่นก็ได้”
“ดูเหมือนคนที่คุ้นเคยจะทราบเป็นอย่างดีว่ามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ธาตุแสงคืออะไร ข้าน้อยขอไม่กล่าวให้มากความแล้ว ช้านานแล้วที่มีผู้คนจำนวนไม่น้อยตามหาแผนที่ชิ้นนี้ สุดท้ายแล้วก็มีผู้อาวุโสท่านหนึ่งพบเจอเข้า แล้ววานให้ถนนมืดของเราช่วยทำการประมูล…”
ปัง!
ทันใดนั้นพลังของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดก็ได้ระเบิดขึ้น ภายในชั่วพริบตากลุ่มคนชุดเงินจำนวนหนึ่งก็ได้บุกขึ้นไปบนแท่นประลอง พวกเขากล่าวด้วยท่าทางไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด “ส่งมาให้พวกข้าเสียดี ๆ!”
เมื่อผู้ดำเนินการประมูลต้องเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ เขาก็ไม่มีท่าทีตื่นตระหนกแม้แต่น้อย อีกทั้งยังกล่าวด้วยท่าทีสงบและสุขุมอีกด้วย “นี่พวกท่านจะต้องให้ข้าบอกกฎของการประมูลให้ฟังสักหน่อยหรือไม่?”
“ศักดิ์สถานะของข้าคืออะไร คงไม่ต้องให้ข้ากล่าวให้มากความ พวกเจ้าก็น่าจะรู้ดี ส่งของมาให้ข้า ของสิ่งนี้จะไม่มีทางตกอยู่ในมือของผู้อื่นได้เป็นอันขาด”
ผู้ดำเนินการประมูลกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “ทุกท่าน ที่นี่คือตลาดการประมูล! หากต้องการแผนที่ ก็เชิญกลับไปร่วมการประมูลด้วย”
ผู้ดำเนินการประมูลตัวเล็ก ๆ แค่นี้ แต่กลับกล้าฉีกหน้าพวกเขาต่อหน้าสาธารณชน พวกเขาจึงรู้สึกโกรธเป็นอย่างยิ่ง
“นี่เจ้าไม่เข้าใจความหมายของพวกข้าหรืออย่างไร? ส่งของออกมาเดี๋ยวนี้!”
พวกเขาที่รู้สึกหงุดหงิดและรำคาญใจจึงบุกเข้าไปชิงแผ่นหยกมาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
ในช่วงหลายปีมานี้คนที่กล้าก่อความวุ่นวายในถนนมืดล้วนมีจุดจบที่ไม่ดีทั้งนั้น ทว่าอีกฝ่ายก็เป็นคนของราชวงศ์ตงหวง ครานี้คงมีงิ้วน้ำดีให้ได้ดูเสียแล้ว
ทุก ๆ คนต่างนั่งชมงิ้วน้ำดีในที่นั่งของตัวเอง เมื่อคนของราชวงศ์ตงหวงเหล่านั้นกำลังจะเข้าไปชิงแผ่นหยก ผู้ดำเนินการประมูลก็รีบเข้าไปขวางในทันที
ปัง!
คาดไม่ถึงเลยว่าผู้ดำเนินการประมูลที่ดูไม่สะดุดตาผู้นี้ จะมีพลังถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด ดังนั้นการที่คนของราชวงศ์ตงหวงลงมือช่วงชิงแผ่นหยกในครานี้จึงไม่สำเร็จ
“เจ้ามันกล้าดียิ่งนัก!” คนเหล่านี้เริ่มโกรธขึ้นมาจริง ๆ แล้ว
ในขณะนั้นเอง มู่เฉียนซีที่อยู่ในห้องส่วนตัวก็กล่าวหยอกเย้า “คิดไม่ถึงเลยว่าตลาดการประมูลจะมีงิ้วดี ๆ ให้ดูอีกด้วย ภูมิหลังของถนนมืดแห่งนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ! ภายในชั่วพริบตาก็ปะทะกับราชวงศ์ตงหวงเสียแล้ว”
โม่ซวนกล่าว “ข้าเคยสืบมาก่อน แต่ก็สืบไม่ได้ว่าเบื้องหลังของพวกเขาคือผู้ใด ความเป็นมาเป็นไปของพวกเขาลึกลับมาก”
ถึงแม้ผู้ดำเนินการประมูลจะมีพลังถึงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด ทว่าเขาก็ไม่อาจรับมือกับคนจำนวนมากเช่นนี้ได้ ในขณะที่อีกฝ่ายคิดว่าตนเองเป็นผู้กุมชัยชนะไว้ในมือ อยู่ ๆ ก็มีพลังอันแกร่งกล้าปรากฎขึ้นอย่างกะทันหัน
ทุกๆคนล้วนเบิกตาโพลง นี่เป็นพลังของผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณ
ผู้ดำเนินการประมูลแสนลึกลับผู้นี้เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณหรือนี่
“อั่ก อั่ก อั่ก!” ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณผู้นั้นไม่เปิดเผยใบหน้าด้วยซ้ำ ทง่ากลับทำให้คนของราชวงศ์ตงหวงเหล่านั้นร้องด้วยเจ็บปวดราวกับสุนัขถูกน้ำร้อนลวก แล้วกระอักเลือดออกมา จากนั้นก็ล้มฟุบไปกับพื้นด้วยใบหน้าซีดเผือดในเวลาอันรวดเร็ว
“บำเพ็ญภูตขั้นราชันวิญญาณ!” โม่ซวนเคาะโต๊ะเบา ๆ สีหน้าเผยให้เห็นถึงความหนักแน่น อิทธิพลของถนนมืดแห่งนี้ยอดเยี่ยมกว่าที่เขาคิดเสียอีก
ผู้ดำเนินการประมูลผู้นั้นโบกมือไปมาเล็กน้อย เขาหรี่ดวงตาเล็กลงแล้วกล่าว “ใครก็ได้มานี่เร็ว! ส่งแขกเหล่านี้ไปพักผ่อนที่ห้องส่วนตัวก่อน เริ่มการประมูลขึ้นได้”
ราวกับผู้ดำเนินการประมูลจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องบาดหมางก่อนหน้านี้ และไม่ได้สังหารคนเหล่านี้ทิ้งอีกด้วย ในทางกลับกันเขาก็ยังให้คนของเขาพาคนเหล่านี้ไปเข้าร่วมการประมูลด้วยความเคารพอีกด้วย
ผู้ดำเนินการประมูลกล่าว “ราคาขั้นต่ำของแผนที่คือหยกซวนหนึ่งชิ้น ทุกครั้งที่เพิ่มมูลค่าจะไม่มีกำหนดราคา ตอนนี้เริ่มประมูลได้”
หยกซวนหนึ่งชิ้นเท่านั้นหรือ สิ่งของล้ำค่ามากมายถึงเพียงนี้ แต่กลับเริ่มประมูลด้วยราคาต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ตลาดการประมูลช่างมีรสนิยมห่วยจริง ๆ
แน่นอนว่ามีคนจำนวนมากที่ยินดีจะทุ่มเงินมหาศาลในการแข่งขันการประมูล ตัวเลขนี้ทำให้ทุก ๆ คนบ้าคลั่งมากขึ้นเป็นเท่าทวี
มู่เฉียนซีจึงกล่าวกับโม่ซวน “ต้องประมูลมาให้ได้!”
“หนึ่งร้อยล้าน!”
แผนที่ของเบาะแสมายานิรันดร์เป็นอะไรที่เหมาะกับราคานี้เป็นอย่างยิ่ง
องค์ชายไป๋เจ๋อเสนอราคาสูงลิบลิ่วเช่นนี้ ทำให้คนอื่น ๆ ไม่อาจเสนอหยกซวนที่มากกว่านั้นได้อีก ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดกล้าแข่งกับไป๋เจ๋อ
ในขณะนั้นเองคนของราชวงศ์ตงหวงที่ถูกผู้ดำเนินการประมูลมากฝีมือผู้นั้นจัดการจนสลบไสลไป ครานี้ก็ได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว ในเมื่อไม่สามารถชิงมาได้ พวกเขาก็เพียงแค่ทำการประมูลมาให้ได้เสีย
แน่นอนว่าราชวังส์ตงหวงกองกำลังระดับห้านั้นจะต้องไม่ขาดแคลนเงินทองอย่างแน่นอน พวกเขาจึงรีบตะโกนออกไปในทันที “สองร้อยล้าน!”
ทุก ๆ คนต่างก็ฮือฮาขึ้นในทันที สมแล้วที่เป็นกองกำลังระดับห้า หยกซวนเป็นร้อยล้าน คิดจะเพิ่มราคาก็เพิ่ม
มู่เฉียนซีกล่าว “สามร้อยล้าน!”
“หกร้อยล้าน!” อีกฝ่ายตะโกนสู้ราคา
“พันล้าน!”
“สองพันล้าน!”
สองพันล้านเพื่อแผนที่ชิ้นเดียว โม่ซวนกล่าว “จะให้ตกไปอยู่ในมือพวกเขาไม่ได้เป็นอันขาด ตอนนี้พวกเรายังมีเงินอีก…”
มู่เฉียนซีกล่าวตัดบทโม่ซวนในทันที “ไม่เป็นไร หากพวกเขามีเงินมากขนาดนั้นก็หลีกทางให้พวกเขาก็แล้วกัน!”
โม่ซวนกล่าว “ไม่ได้! เบาะแสมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์จะอยู่ในมือผู้ใดก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่คนของราชวงศ์ตงหวง”
มู่เฉียนซีกล่าว “จำเรื่องผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ยินเยว่ที่ข้าเคยเล่าให้เจ้าฟังได้หรือไม่? ที่เขานำมาให้ถนนมืดทำการประมูล ก็เพราะไม่ต้องการให้ตกไปอยู่ในมือของราชวงศ์ตงหวงอย่างไรเล่า ตอนนี้คนของราชวงศ์ตงหวงประมูลแผนที่นั่นได้ มันก็แตกต่างไปจากสิ่งที่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ยินเยว่คาดหวังไปโดยสิ้นเชิงเลย ดังนั้นแผนที่ชิ้นนี้จะต้องมีปัญหา หรือไม่ก็ต้องมีอะไรเกิดขึ้นในภายหลังอย่างแน่นอน”
ประกายแสงวาบผ่านก้นบึ้งดวงตามู่เฉียนซีไปอย่างรวดเร็ว “ถึงแม้ว่าผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ยินเยว่จะทำให้ทุก ๆ คนรู้ว่ามีแผนที่ชิ้นนี้อยู่ แต่เขาก็คงไม่อยากให้ราชวงศ์ตงหวงกระหยิ่มใจ พวกเรารอดูไปก่อนเถอะ!”
คนของราชวงศ์ตงหวงเหล่านั้นได้นำหยกซวนจำนวนสองพันล้านมาแลกกับแผนที่ได้อย่างราบรื่น พวกเขากระหยิ่มใจราวกับชนะศึกสงครามมาก็มิปาน และได้หลงลืมความอับอายในก่อนหน้านี้ไปจนหมดสิ้น
ของประมูลชิ้นสุดท้ายได้ทำการประมูลเสร็จไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทว่าผู้ดำเนินการประมูลก็ยังไม่ได้ประกาศสิ้นสุดการประมูลแต่อย่างใด เขากล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “คนที่ประมูลไม่ทันก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะของประมูลชิ้นสุดท้ายไม่ได้มีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น การประมูลดำเนินต่อได้!”
จากนั้นผู้ดำเนินการประมูลก็ได้นำแผ่นหยกที่หน้าตาเหมือนกันทุกประการออกมา
คนของราชวงศ์ตงหวงเหล่านั้นรู้สึกโกรธจนแทบจะกระอักเลือดออกมาอยู่รำไร พวกเขาจ่ายเงินไปสองพันล้านเพื่อแผนที่ที่ไม่ได้มีเพียงชิ้นเดียว
“ตลาดประมูลของพวกเจ้านี่มันอย่างไรกันแน่? พวกเจ้ามันเอาเปรียบผู้อื่น!” พวกเขาตะคอกออกไปด้วยความเกรี้ยวโกรธเป็นอย่างยิ่ง
ผู้ดำเนินการประมูลกล่าว “ข้าก็ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าของสิ่งนี้มีเพียงชิ้นเดียว หากมีเพียงชิ้นเดียวจริง ราคาเริ่มประมูลจะต่ำเตี้ยเรี่ยดินถึงเพียงนั้นหรือ?”
“อั่ก!” พวกเขาโกรธจนภายในปั่นป่วน
อย่างไรเสียคนที่เสียเปรียบก็ไม่ใช่พวกเขา และคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้มีความคิดเห็นอันใด เมื่อมีโอกาสได้ครอบครองแผนที่ก็เป็นสิ่งที่น่าดีใจมากแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ตลาดการประมูลของถนนมืดนี่เล่ห์เหลี่ยมเยอะเสียจริง! พวกเขาเสียเปรียบสุด ๆ ไปเลย”
ราชวงศ์ตงหวงมีหรือที่จะยอมปันสมบัติล้ำค่าให้ผู้อื่นร่วมเชยชมด้วย ดังนั้นการประมูลชิ้นที่สอง เขาก็ได้เสนอราคาต่อไป และคิดจะครอบครองไว้เพียงผู้เดียว
มู่เฉียนซีกล่าว “โม่ซวน เสนอราคาต่อ! ขูดเลือดขูดเนื้อพวกเขาให้แห้งไปเลย”
มู่เฉียนซีจงใจเสนอราคาที่สูงลิบลิ่ว ทว่าในสุดท้ายกลับปล่อยมือไม่เหลือเยื่อใย แผนที่ชิ้นที่สองจึงถูกประมูลในราคาที่สูงอีกครา สีหน้าของพวกเขาก็ยิ่งบูดบึ้งมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่นานนักแผ่นหยอกชิ้นที่สามก็ถูกนำออกมาทำการประมูล!
ปัง!
เขาโกรธจนแทบจะระเบิดอารมณ์ออกมาอยู่รำไร โต๊ะที่อยู่เบื้องหน้าก็ถูกทุบจนแหลกละเอียด
“ยังมีอีกรึ! นี่พวกเขาสร้างแผนที่เลียนแบบขึ้นมาเท่าไรกันแน่!” แต่ละคนล้วนจ้องมองผู้ดำเนินการประมูลด้วยความโกรธแค้นเป็นอย่างยิ่ง
ถึงแม้ราชวงศ์ตงหวงจะมีทรัพย์สินมากมาย ทว่าหยกซวนที่พวกเขาพกพามาก็มีจำนวนจำกัด เพียงทำการประมูลไปได้ไม่กี่ชิ้น เงินที่พวกเขานำมาก็หมดเกลี้ยงแล้ว ทว่าแผ่นหยกนั้นก็ยังถูกนำออกมาประมูลต่อไป
เมื่อทุก ๆ คนทราบว่าแผ่นหยกยังมีอีกหลายชิ้น ดังนั้นราคาที่ถูกเสนอจึงถูกลงเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้แผ่นหยกถูกเสนอในราคาสูงถึงสองพันล้าน ทว่าตอนนี้ราคาอยู่แค่เพียงประมาณหนึ่งล้านก็สามารถได้มาครอบครองแล้ว
โม่ซวนที่จ่ายหยกซวนไปเพียงเก้าแสนก็สามารถคว้าแผ่นหยกมาได้หนึ่งชิ้นแล้ว สีหน้าของคนของราชวงศ์ตงหวงเหล่านั้นก็บูดบึ้งจนไม่น่าดู ทว่าพวกเขาก็ไม่กล้าก่อความวุ่นวายขึ้นอีก!
เมื่อการประมูลสิ้นสุดลง แผนที่บนแผ่นหยกก็ล้วนอยู่ในมือของทุก ๆ คนแล้ว
ปัง ปัง ปัง!
ภายนอกมีเสียงเคาะประตูแว่วดังขึ้น มู่เฉียนซีกล่าว “เข้ามา!” เมื่อประตูถูกผลักออก มู่เฉียนซีก็ได้จ้องมองคนที่อยู่ด้านหน้าประตูทั้งสองด้วยความประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง