ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1869 แหวกหญ้าให้งูตื่น
นิรันดร์กล่าว “เผ่าวิญญาณเป็นชนเผ่าที่มีมาตั้งแต่โบราณ เป็นเผ่าที่แปลกประหลาดไม่ต่างจากเผ่าคำสาป เผ่าคำสาปชำนาญเรื่องวิชาสาปแช่ง ส่วนเผ่าวิญญาณนั้นชำนาญวิชาควบคุมวิญญาณ อย่างเช่นการโจมตีวิญญาณ การสลับวิญญาณ กู้ไป๋อีที่เจ้ารู้จักก็ถูกชิงร่างไป แท้จริงแล้วนั่นก็เป็นฝีมือของเผ่าวิญญาณเช่นกัน”
“ที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้พูดเพราะว่าศิษย์ที่รักยังไม่เคยพบเจอมาก่อน ข้าไม่อยากเพิ่มแรงกดดันให้ศิษย์ที่รักมากเกินไป ก็เลยไม่ได้บอกเจ้า”
มู่เฉียนซีตกตะลึงไปเล็กน้อย มิน่าล่ะ เป็นชนเผ่าที่มีการโจมตีที่น่ากลัวแบบนี้นี่เอง มิน่าในตอนนั้นเสี่ยวไป๋จึงไม่อาจต้านทานได้เลย”
วันนี้นางได้ปะทะกับเผ่าวิญญาณมาแล้ว การโจมตีอันน่าลึกลับนั่น ทำให้นางเกือบจะต้านทานเอาไว้ไม่อยู่
ครั้นหวนคิดถึงจุดนี้ มู่เฉียนซีก็อดรู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาอย่างเสียมิได้
“ที่นี่คือแดนซวนเทียน ถึงแม้คนผู้นั้นจะสามารถใช้วิชาวิญญาณได้ ก็คงไม่ได้แข็งแกร่งมากเท่าใดนัก แต่ศิษย์ที่รักเจ้าได้ปะทะกับเขาแล้ว เจ้าก็คงจะรู้ว่าพลังวิญญาณของเค้าไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่ากู้ไป๋อีเท่าใดนัก ดังนั้น…ดังนั้นไม่ต้องเป็นกังวลมากไปนักหรอก”
“หากกังวลมากจริง ๆ อ้อมแขนของข้าก็พร้อมจะอ้าให้เจ้าเสมอ รีบมาเร็วเข้า! แล้วศิษย์ที่รักจะลืมความกังวลทั้งหมดไปอย่างรวดเร็ว
นิรันดร์เผยรอยยิ้มสดใส พลางอ้าแขนรอด้วยท่าทางกระตือรือร้น
ประกายแสงสีฟ้าวาบผ่านไปอย่างรวดเร็ว ยามวาบผ่านนั้น แม้แต่กับเส้นผมนุ่มสลวยดั่งเส้นไหมของมู่เฉียนซีนั้นเป็นอะไรที่อ่อนโยนเหลือคณา
ทว่ากับนิรันดร์แล้ว มันกลับเป็นการตอบโต้กลับอย่างไร้ซึ่งความปราณี
“สุ่ยจิงอิ๋ง เจ้าชักจะโหดเหี้ยมเกินไปแล้วกระมัง นี่ข้ากำลังปลอบใจเด็กน้อยของข้าอยู่นะ ข้าไม่ได้คิดเป็นอื่นอยู่แล้ว
สุ่ยจิงอิ๋งไม่มีทางปล่อยให้เขาได้คืบจะเอาศอกอย่างแน่นอน
มู่เฉียนซีกล่าว “นิรันดร์ ขอบใจนะที่ปลอบใจข้า เจ้าบอกว่าสามารถหาสถานที่ของหม้อจำลองหม้ออื่น ๆ ได้อีก เช่นนั้นจะหาได้อย่างไร?”
นิรันดร์กล่าว “ดูข้าให้ดี”
ตราบใดที่สถานที่แห่งนั้นยังมีสายลมพัดผ่าน ก็สามารถพัดโชยกลิ่นอายของนิรันดร์ไปได้ทั้งนั้น
หม้อหลุนหุยแห่งความตาย หม้อผลึกแก้วหกสีและหม้อเทพปาฮวางชิงมู่ ต่างก็ออกมาจากมิติของมู่เฉียนซีทั้งหมด
“ศิษย์ที่รัก เอาแผนที่ของแดนซวนเทียนมาให้ข้าดูสักหน่อย ข้าสามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนให้เจ้าได้
“อื้ม!”
“เสี่ยวอู่อยู่ตรงนี้!” นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังตำแหน่งที่ตั้งของราชวงศ์ตงหวง
“เสี่ยวจิ่วอยู่ที่นี่!”
สถานที่แห่งนั้นอยู่ในอาณาเขตของราชวงศ์เป่ยกง อีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์เป่ยกงอีกด้วย
ทันใดนั้นกลิ่นอายของนิรันดร์ก็แปรเปลี่ยนเป็นความอันตรายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขากล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ฮึ ฮึ ฮึ! ใจกล้าไม่เบาเลยนี่!”
นิรันดร์รีบดึงพลังของตนเองกลับมาอย่างรวดเร็ว
มู่เฉียนซีเอ่ยถาม “นิรันดร์ เป็นอะไรไป?”
“สถานที่ที่เสี่ยวอู่อยู่นั้นยังไร้ซึ่งเจ้าของ แต่เสี่ยวจิ่วมีเจ้าของไปแล้ว”
มู่เฉียนซีตกตะลึงไปเล็กน้อย “อยู่ในราชวังของราชวงศ์เป่ยกง และมีเจ้าของแล้ว เจ้านายของเขาคงไม่ใช่เป่ยกงจั๋วหรอกนะ!”
พวกของนางมีนิรันดร์และชิงมู่อยู่แล้ว ถึงแม้หม้อจำลองใบอื่น ๆ จะมีนิรันดร์เป็นเจ้านาย ทว่าหากมันมีเจ้านายที่พวกมันให้การยอมรับ นางก็ไม่อาจบังคับขู่เข็ญแย่งกลับมาได้
ทว่าเป่ยกงจั๋ว…
ในครานั้น เพื่อที่จะค้นหาการมีตัวตนของนิรันดร์ เป่ยกงจั๋วก็อาศัยหม้อผลึกแก้วหกสีเป็นเหยื่อล่อ
หากเขามีหม้อที่ระดับสูงกว่านี้ เขาคงไม่มีทางนำหม้อผลึกแก้วหกสีออกมาอย่างแน่นอน
“ไม่เพียงแต่จะรับผู้อื่นเป็นเจ้านายเท่านั้น แต่ยังไม่กลับมาตามคำสั่งของข้าอีกด้วย แถมยังจะระบุตำแหน่งที่อยู่ของข้ากลับอีก” นิรันดร์กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง
หม้อหลุนหุยแห่งความตายกล่าว “เหล่าจิ่วชักจะกำเริบเสิบสานมากเกินไปแล้ว นี่มันคิดจะหักหลังนายท่านหรืออย่างไร?”
ชิงมู่กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “จิตใจชั่วร้ายสิ้นดี”
ผลึกแก้วกล่าว “ฮือ ฮือ ฮือ! จริง ๆ แล้วข้ารู้เรื่องนั้นมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่นายท่านทั้งสองไม่ได้ถามข้า ข้าก็เลย…ก็เลย…”
“อาจิ่วตกอยู่ในมือของเป่ยกงจั๋วแล้ว หากไม่ใช่เพราะอาจิ่ว ข้าก็คงไม่ถูกควบคุมได้ง่ายขนาดนั้นหรอก เขายัง…เขายังไม่พอใจนายท่านมาก ๆ เขาบอกว่า…ว่า…”
สายตาของนิรันดร์ที่สาดส่องไปยังผลึกแก้วก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเรื่อย ๆ เขากล่าว “เขายังบอกว่าอะไรอีก?”
“เขาบอกว่านายท่านมัวแต่เชยชมหญิงงาม เสียแรงที่เป็นถึงมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ เขาจะบ่มเพาะนักปรุงยาที่เก่งกาจกว่านายท่านออกมาให้ได้ อีกอย่าง…”
ดูเหมือนหม้อเก้าวิญญาณหวนคืนจะสั่งสมความเคียดแค้นมาเนิ่นนานจนฝังรากลึกลงไปแล้ว ความดื้อรั้นของเขาทำให้เขาถลำลึกเกินไป นิรันดร์หายตัวไปเนิ่นนานหลายปี เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวอะไรแล้ว และคิดจะหักหลังเจ้านายอีกด้วย”
กลิ่นอายของนิรันดร์แปรเปลี่ยนเป็นความโกรธอย่างยิ่งยวด “ฝันกลางวันมากเกินไปแล้ว ถึงแม้ในใต้หล้านี้จะมีคนที่เก่งกาจยอดเยี่ยมกว่าข้า คนผู้นั้นก็จะต้องเป็นเจ้านายของข้า ศิษย์น้อยของข้า คนอื่นไม่มีทางทำได้”
มู่เฉียนซีทอดมองไปยังนิรันดร์แล้วกล่าว “อืม!”
นางไม่มีทางปลายให้เป่ยกงจั๋วทำสำเร็จอย่างแน่นอน
“ที่แท้ศิษย์ที่รักก็รักข้ามากจริง ๆ” นิรันดร์เก็บกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวของตนเองไป ก่อนจะเผยรอยยิ้มสดใสให้มู่เฉียนซีอย่างรวดเร็ว
“เมื่อมีศิษย์ที่รักอยู่ ไม่ว่าอารมณ์ของข้าจะแย่ขนาดไหนก็สามารถเปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีได้ในทันที! หากศิษย์ที่รักจูบข้าอีกสักหน่อย ข้าคงจะ…”
มู่เฉียนซีหยิบแผนที่ขึ้นมาดู บริเวณที่อยู่ของหม้อศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุเป็นเขตรกร้างของราชวงศ์ตงหวง
ถึงแม้ยามแบ่งเขตจะแบ่งเป็นเขตของราชวงศ์ตงหวง ทว่าราชวงศ์ตงหวงก็ไม่ได้มีสิทธิ์มาจัดการในเขตบริเวณนี้
ที่นี่เป็นสวรรค์ของสัตว์วิญญาณ สถานที่แห่งนี้มีสัตว์วิญญาณนานาชนิด สัตว์วิญญาณที่เป็นถึงสัตว์เทพก็มีอยู่จำนวนไม่น้อย มีมนุษย์ใจกล้าจำนวนน้อยมากที่จะกล้าย่ำกรายมายังสถานที่แห่งนี้
สถานที่แห่งนี้มีชื่อว่าเขตสัตว์ร้าย
…
ณ ห้องบำเพ็ญตบะที่ปลีกวิเวกจากความวุ่นวาย ทว่าโอ่อ่าหรูหราเป็นอย่างยิ่ง หม้อเก้าวิญญาณหวนคืนกล่าว “จั๋ว ข้าสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเจ้านาย เจ้านายกำลังหาพวกเราอยู่”
เป่ยกงจั๋วกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “มู่เฉียนซีมาถึงแดนซวนเทียนแล้ว! แต่จะว่าไปแล้วมันก็ไม่ได้น่าตกใจเท่าไร ด้วยพรสวรรค์ของนาง การที่จะมาถึงได้ซวนเทียนได้มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก แล้วนางหาที่อยู่ของพวกเราเจอหรือยัง?”
หม้อเก้าวิญญาณหวนคืนกล่าว “ด้วยความสามารถของเจ้านายแล้ว ข้าไม่อาจสะกดรอยตามตำแหน่งของพวกเขาได้ แต่ข้าสัมผัสถึงที่อยู่ของหม้อศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุได้ พวกเขาไม่มีทางมุ่งหน้ามาหาข้าเป็นแน่ พวกเขาคงจะไปหาเหล่าอู่ก่อน”
“แล้วที่อยู่ของหม้อศักดิ์สิทธิ์ห้าธาตุล่ะ”
“อยู่ในเขตสัตว์ร้าย!”
“ได้! ข้าจะให้คนมาเตรียมสิ่งของ แล้วออกเดินทางไปยังเขตสัตว์ร้ายเดี๋ยวนี้”
“จั๋ว จิตวิญญาณของเจ้ายังไม่มั่นคงพอ ตอนนี้ไม่เหมาะที่จะออกเดินทาง แบบนี้จะส่งผลกระทบต่อจิตวิญญาณของเจ้าได้” หม้อเก้าวิญญาณหวนคืนกล่าวแนะนำ
“คราวนี้เป็นโอกาสดีที่จะแย่งหมอเทพนิรันดร์มาได้ ข้าไม่มีทางพลาดอย่างแน่นอน อีกอย่างข้าจะได้เผชิญหน้ากับมู่เฉียนซีด้วย ข้าล่ะคิดถึงนางใจจะขาดอยู่แล้ว” แววตาของเป่ยกงจั๋วปรากฏความลึกลับขึ้นอย่างน่าประหลาด
หม้อเก้าวิญญาณหวนคืนกล่าว “ได้ เช่นนั้นก็พยายามอย่าทำการต่อสู้ก็แล้วกัน นำกำลังคนไปให้พร้อม ข้าเกรงว่ากำลังของพวกเขาคงจะไม่ได้อ่อนแออย่างที่คิด”
“มันแน่นอนอยู่แล้ว ครั้งก่อนข้าเคยผิดพลาด ครั้งนี้ข้าจะไม่มีวันผิดพลาดเป็นครั้งที่สองอีก” เป่ยกงจั๋วกำหมัดไว้แน่น
“ดินแดนซวนเทียนเป็นแผ่นดินของข้า เจ้าไม่มีวันหนีรอดไปได้หรอก มู่เฉียนซี” เป่ยกงจั๋วกระตุกยิ้มมุมปากด้วยท่าทางกระหยิ่มใจเป็นอย่างยิ่ง
แน่นอนว่านิรันดร์ต้องคาดเดาการตอบสนองของหม้อเก้าวิญญาณหวนคืนได้อย่างไม่ต้องสงสัย
นิรันดร์กล่าว “ศิษย์ที่รักข้าสั่งให้เสี่ยวอู่แผ่ซ่านกลิ่นอายออกไปเล็กน้อย เจ้าจอมหักหลังนั่นจะต้องสามารถสัมผัสได้ในทันที ถึงเวลานั้นพวกเราก็อาจจะได้พบพวกเขาก็ได้ เจ้าก็น่าจะได้เจอกับเป่ยกงจั๋วด้วยเช่นกัน”
การเคลื่อนไหวของนิรันดร์ในครานี้เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่เพื่อไม่ให้ศิษย์ที่รักของเขาต้องคอยเป็นห่วงกู้ไป๋อีอยู่ทุกวี่วัน เจ้างูตัวนี้ก็ต้องถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยความจำเป็น
มู่เฉียนซีกล่าว “หากเป่ยกงจั๋วไม่ได้ไปมาด้วยตัวเอง แม้ปกระทั่งหม้อเทพนิรันดร์ก็ไม่ต้องการแล้ว เช่นนั้นก็แสดงว่าเค้าคงจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดีมาก ๆ”