ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1884 เจรจาก่อนใช้กำลัง
ทั้งมู่เฉียนซีและคุณหนูตานได้เข้าสู่การปรุงยาอย่างเต็มตัว นักปรุงยาที่มีความสามารถทุกท่านล้วนมองออกว่าคุณหนูตานกำลังกลั่นยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ระดับสูงสุดออกมาอยู่
ถ้าว่าพวกเขากลับดูไม่ออกว่ามู่เฉียนซีกำลังกลั่นยาลูกกลอนระดับขั้นใดอยู่
ทักษะของมู่เฉียนซีคล่องแคล่วและชำนาญจนทำให้คนเหล่านั้นต่างก็รู้สึกอิจฉาเป็นอย่างยิ่ง “ดูเหมือนข้าจะมองข้ามไป เจ้าเด็กนั่นสุดยอดมากจริง ๆ!”
“เป็นเด็กสาวที่ไม่เลวเลยจริง ๆ”
“……”
ความเร็วของการกลั่นยานั้นรวดเร็วมาก กลั่นเป็นยาลูกกลอนออกมาได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ยาลูกกลอนของคุณหนูตานยังไม่ได้ควบแน่น กลิ่นหอมของยาลูกกลอนของมู่เฉียนซีก็แผ่ซ่านออกมา แล้วขจรขจายไปทั่วทุกทิศทาง
ประกายแสงสว่างระเบิดออกมาจากหม้อยา ทุก ๆ คนกล่าวขึ้นด้วยความตกใจ “ระดับขั้นศักดิ์สิทธิ์ เป็นยาลูกกลอนระดับขั้นศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ ด้วย!”
“ถึงแม้ระดับขั้นจะไม่ได้สูงมากนัก แต่ก็เป็นระดับขั้นศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ!”
“……”
มู่เฉียนซีบรรจุยาลูกกลอนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังไม่ทันให้นางนำยาลูกกลอนมาให้ผู้ตัดสินประเมินเลย
คุณหนูตานได้ยินเสียงวิพากวิจารณ์ยาลูกกลอนระดับขั้นศักดิ์สิทธิ์แว่วดังมา นางจึงไม่อาจรวบรวมความสมาธิเอาไว้ได้อีก จากนั้น…
ปัง!
ยาลูกกลอนของคุณหนูตานระเบิดขึ้น ควันสีดำลอยโขมงขึ้นมาในทันที
นางเดินแหวกควันโขมงสีดำที่ลอยคลุ้งอยู่ออกมาด้วยท่าทางหงุดหงิดเป็นอย่างยิ่ง “ยาลูกกลอนระดับขั้นศักดิ์สิทธิ์? เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะสามารถกลั่นยาลูกกลอนระดับขั้นศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้”
ในฐานะที่เป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลตานของดินแดนทางทิศใต้ นางมีทรัพยากรที่ดีที่สุด มีอาจารย์ที่ให้การชี้แนะที่ดีที่สุด นางคือนักปรุงยาที่เก่งที่สุดในบรรดาวัยหนุ่มสาวของดินแดนทางทิศใต้นี้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
แล้วจะให้นางเชื่อได้อย่างไรว่าเด็กสาวตัวน้อย ๆ ผู้นี้จะเก่งกาจมากกว่านาง!
นางยื่นมือที่เลอะเปรอะเปื้อนไปด้วยขี้เถ้าสีดำนั้นไปคว้าตัวมู่เฉียนซีไว้ ผลปรากฏว่ามู่เฉียนซีสามารถหลบหลีกได้อย่างรวดเร็ว
“เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า! เจ้าเด็กน้อยคนนี้เป็นเพียงผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเจ็ดเท่านั้น!”
“คงจะมองผิดไปแน่ ๆ ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตจะสามารถกลั่นยาลูกกลอนระดับขั้นศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้กระมัง!”
“ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า นอกจากจะต้องเชื่อแล้วจะทำอย่างไรได้?”
คุณหนูตานรู้สึกโกรธเป็นอย่างยิ่ง “เอายาลูกกลอนที่เจ้ากลั่นออกมาให้ข้า”
ถึงแม้คุณหนูตานจะเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตระดับเจ็ด ทว่าก็ยังจับตัวมู่เฉียนซีไม่ได้อยู่ดี
มู่เฉียนซีกล่าว “ทำไมต้องให้เจ้าด้วย? ข้าจะต้องให้ผู้ตัดสินสิจึงจะถูก!”
ทันใดนั้นนางก็มาปรากฎตัวเบื้องหน้าผู้ตัดสินอย่างรวดเร็ว
เมื่อผู้ตัดสินทำการตรวจสอบอย่างรวดเร็ว จากนั้นผู้ตัดสินจึงจะกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “เป็นยาลูกกลอนขั้นศักดิ์สิทธิ์ เจ้าเด็กน้อยสุดยอดจริง ๆ”
“ข้ากลั่นยามานานนับพันปี นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้พบเห็นผู้บำเพ็ญภูตขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตที่สามารถกลั่นยาลูกกลอนในระดับขั้นศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้ ถึงแม้จะเป็นผู้มากความสามารถ ก็ต้องเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูตถึงจะทำได้”
“เด็กน้อย อนาคตของเจ้าช่างยาวไกลนัก ไม่ทราบว่าอาจารย์ของเจ้าคือผู้ใด”
ขณะนี้บรรดาอาจารย์ทั้งหลายก็ได้เข้ามาล้อมรอบมู่เฉียนซีไว้ ถึงแม้คุณหนูตานจะอยากเข้าไปหาเรื่องมู่เฉียนซี ในยามนี้ก็ไม่อาจเบียดตัวเข้าไปได้แม้แต่น้อย
เมื่อล้มเหลวไปแล้วครั้งหนึ่ง นางก็ยังสามารถฝึกฝนต่อไปได้ นางคือคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลตาน นางไม่มีทางยอมแพ้ไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน นางยังพอมีเวลา ยาลูกกลอนนั่นก็เป็นเพียงยาลูกกลอนระดับขั้นศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นไม่ใช่หรือ?
คุณหนูตานพยายามทุ่มสุดกำลังเพื่อกลั่นยาลูกกลอนระดับศักดิ์สิทธิ์ออกมาให้ได้ ผลปรากฎว่านางก็ล้มเหลวอีกครั้ง
สุดท้ายแล้วนางก็กลั่นยาลูกกลอนได้เพียงยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ระดับสูงสุดเท่านั้น และสำเร็จได้ในที่สุด
โดยปกติแล้วทุก ๆ คนก็จะต้องชื่นชมยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ที่นางกลั่นออกมาได้อย่างแน่นอน ทว่าตอนนี้มียาลูกกลอนอีกระดับให้เปรียบเทียบ ซึ่งยาลูกกลอนของมู่เฉียนซีนั้นเป็นถึงยาลูกกลอนขั้นศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ยาลูกกลอนขั้นสวรรค์ของคุณหนูตานถูกกลบรัศมีไปในทันที
ผู้ตัดสินก็ได้กล่าวชมคุณหนูตานตามขนบธรรมเนียม กล่าวชมว่าอนาคตของนางนั้นยาวไกลไร้ที่สิ้นสุด กล่าวว่าในภายภาคหน้านางจะล้ำหน้ากว่าบิดาของนาง ทว่าคุณหนูตานก็ยังคงไม่พอใจอยู่ดี
เนื่องจากท้ายที่สุดแล้วผู้ตัดสินยังคงยกตำแหน่งผู้ชนะให้กับคู่ต่อสู้ของนางอยู่ดี
มู่เฉียนซีกล่าว “คุณหนูตาน ข้าชนะแล้ว คุณหนูตานจะต้องไปหาซื้อสมุนไพรวิญญาณกับข้า! คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลตานคงจะไม่ขาดแคลนยาลูกกลอนหรอกกระมัง?”
คุณหนูตานเดินเข้ามาหยุดอยู่เบื้องหน้ามู่เฉียนซีแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ข้าขอเตือนเจ้า อย่าได้ทำอะไรให้มันเกินไปเป็นอันขาด!”
ในขณะที่นางกำลังข่มขู่มู่เฉียนซีอยู่นั้น จูเชว่ก็กล่าว “คุณหนูตาน การเดิมพันในครั้งนี้มีผู้คนเป็นพยานอยู่หลายคนนะ!หากท่านผิดสัญญา ข้าก็ไม่ถือสาหากจะเป็นคนป่าวประกาศเรื่องนี้ไปให้ทั่วทั้งดินแดนซวนเทียน! ถึงตอนนั้นชื่อเสียงของตระกูลตานคงดังกระฉ่อนไปทั่ว”
สีหน้าของคุณหนูตานยิ่งดูบูดบึ้งมากขึ้นเรื่อย ๆ ชื่อเสียงหรือชื่อเสียกันแน่ เช่นนั้นแล้วคงต้องอับอายขายขี้หน้าอย่างแน่นอน
คุณหนูตานกล่าว “ตระกูลตานของข้าไม่ขาดยาลูกกลอนเล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงเท่านี้หรอก”
ทว่าเพิ่งเดินซื้อสมุนไพรวิญญาณกับมู่เฉียนซีได้ไม่นาน คุณหนูตานก็แทบจะแตกสลายไปเสียประเดี๋ยวนั้น
เจ้าเด็กบ้านี่สายตาเฉียบแหลมเป็นอย่างยิ่ง มือไม้ไวราวปลาไหล อีกทั้งยังไม่รู้จักประหยัดเอาเสียเลย ยาลูกกลอนของนางแทบจะถูกล้วงออกมาใช้จนหมดกระเป๋าอยู่แล้ว แล้วก็จริงดังนั้น เพราะว่าหลังจากนั้นไม่นานยาลูกกลอนของนางก็ไม่เหลือแม้แต่เม็ดเดียว
“ข้าไม่มียาลูกกลอนเหลืออยู่แล้ว!” คุณหนูตานกล่าว
“อ้อ! งั้นวันนี้ข้าก็พอแล้ว เช่นนั้นค่อยหาซื้อต่อพรุ่งนี้ก็แล้วกัน หวังว่าคุณหนูตานจะมาเร็วสักหน่อยนะ!” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มกรุ่มกริ่ม
คุณหนูตานอยากจะสังหารมู่เฉียนซีทิ้งไปเสีย เหตุใดท่านพ่อต้องกำหนดเวลาเป็นสามวันไม่ใช่หนึ่งวันด้วยนะ
“มันแน่นอนอยู่แล้ว! พรุ่งนี้ข้าจะเตรียมยาลูกกลอนมาให้มากพอ ให้แม่นางมู่ซื้อได้เท่าที่อยากซื้อเลย!” คุณหนูตานกล่าวตอบ
มู่เฉียนซีไม่ได้กลับไปที่หอหมอปีศาจ นางไปพักที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งแทน
ข่าวลือที่ในวันนี้มีนักปรุงยาผู้มากฝีมือระดับศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวขึ้น แล้วเอาชนะคุณหนูใหญ่ตระกูลตานไปอย่างทิ้งห่างก็ได้แพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว พวกเขารู้สึกประหลาดใจและสงสัยในคนผู้นั้นเป็นอย่างยิ่ง ทว่าก็ไม่มีผู้ใดสืบหาความเป็นมาเป็นไปของนางได้
อย่างไรเสียก็มีจูเชว่ผู้รอบรู้ข่าวสารคอยขัดขวางอยู่ หากสามารถให้คนเหล่านั้นสืบหาความเป็นมาเป็นไปของมู่เฉียนซีได้ เช่นนั้นเขาก็คงไร้ประโยชน์เต็มที
ตระกูลตานเองก็เช่นกัน คุณหนูตานกล่าว “แต่ข้ารับรองได้ว่านางจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับจูเชว่อย่างแน่นอน”
“หรือคุณชายจูเชว่จงใจเจาะจงตระกูลตานของเรา ชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่น พวกเราสืบรู้แล้วว่านางพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมใด คิดจะเอาเปรียบตระกูลตานของเราอย่างนั้นรึ ข้าจะดูสิว่านางจะทำได้หรือไม่!” สีหน้าของผู้นำตระกูลตานเคร่งขรึมเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรเสียวันนี้คุณหนูใหญ่ตานก็ได้นำสมุนไพรวิญญาณออกมาใช้ทั้งหมดแล้ว สำหรับตระกูลตานก็นับว่าเป็นความเสียหายจำนวนไม่น้อย หากพรุ่งนี้ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาไม่มีทางยินยอมอย่างแน่นอน
“วันนี้เจ้าเองก็ได้รับความเป็นธรรมมาไม่น้อย เรื่องนี้ให้ข้าเป็นคนจัดการเองก็แล้วกัน” ผู้นำตระกูลตานกล่าว
“ลูกไร้ความสามารถ ที่ต้องทำให้ท่านพ่อตามเก็บตามเช็ดความล้มเหลวของลูก”
“เจ้าทำดีที่สุดแล้ว!” ผู้นำตระกูลตานกล่าวปลอบ
ที่มู่เฉียนซีออกมาพักที่โรงเตี๊ยม เพราะนางทราบดีว่าตระกูลตานไม่มีทางเลิกราไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน
ตระกูลตานไม่อยากทำให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ และเนื่องจากทราบว่าพลังของมู่เฉียนซีอยู่ในระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับเจ็ดเท่านั้น คนที่พวกเขาส่งมาจึงเป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูต ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นปราชญ์แห่งภูต และผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำเป็นขั้นสูงสุดเท่านั้น
เมื่อพบว่าศัตรูกำลังบุกเข้ามา มู่เฉียนซีก็หัวเราะเยาะ ตระกูลตานจะประเมินนางต่ำเกินไปแล้วกระมัง!
มู่เฉียนซีกล่าว “ทุกท่านมาเยี่ยมเยียนกันในยามดึกดื่นเช่นนี้ ไม่ทราบว่ามีธุระอันใดหรือ?”
“แม่นางมู่ เจ้านายของพวกข้าชื่นชมในพรสวรรค์การกลั่นยาลูกกลอนของเจ้ามาก ดังนั้นจึงได้เชิญเจ้าไปเป็นแขก!” อีกฝ่ายต้องการเจรจาก่อนที่จะใช้ความรุนแรง
“ช่วงนี้ข้ายุ่งมากเลยน่ะสิ! ข้าขอเข้าร่วมการประชุมแลกเปลี่ยนสมุนไพรวิญญาณให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปเป็นอย่างไร?”
“คงจะไม่ได้ เจ้านายของพวกข้าต้องการพบเจ้าในคืนนี้!” ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ที่ยืนนำอยู่เบื้องหน้าเตรียมที่จะเข้าไปจับตัวในขณะที่มู่เฉียนซียังไม่ทันระวังตัว
พลันนั้นร่างสีดำที่ราวกับภูตผีปีศาจก็ได้พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ปัง!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเป็นอย่างยิ่ง ผู้ที่กำลังจะเข้ามาจัดการมู่เฉียนซีผู้นั้นก็กระเด็นอลอยอกไปไกลในทันที