ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1890 สร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
ผู้นำตระกูลตานกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกัน?”
“ท่านผู้นำตระกูล…พวกเรา…มีขโมยบุกเข้ามาในคลังสมุนไพรวิญญาณของตระกูลตานของพวกเรา แล้วมันก็ได้เอาสมุนไพรวิญญาณของตระกูลตานไปทั้งหมดจนไม่เหลือเลยขอรับ” คนรายงานกล่าวพร้อมกับเหงื่อที่ไหลท่วมไปทั้งตัว
“เจ้าว่าอะไรนะ?” สีหน้าของผู้นำตระกูลตานเปลี่ยนเป็นซีดเผือด ราวกับโดนฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ
“สมุนไพรวิญญาณอันล้ำค่าที่ตระกูลตานเก็บสะสมเอาไว้ไม่มีแล้ว ทั้งหมด…”
ผู้นำตระกูลตานรู้สึกว่าดวงตาทั้งสองของเขามืดสนิท จนเกือบที่จะหมดสติไปด้วยความโกรธ
การประมูลของตระกูลตานในครั้งนี้ทุ่มทุนไปเป็นอย่างมาก และมันก็ทำให้ต้องเปิดเผยสมุนไพรวิญญาณที่เป็นสมบัติที่สะสมไว้ไม่น้อยเลย
พวกเขาได้คาดเดาเอาไว้แล้วว่าต้องมีบางคนที่ปรารถนาในสิ่งนี้ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะมีคนที่ลงมืออย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้
กำลังพลส่วนใหญ่ของตระกูลตานล้วนถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่เพื่อจัดการกับคนของหอหมอปีศาจ และองครักษ์ที่อยู่ภายในตระกูลตานก็ไม่เข้มงวดเลยแม้แต่น้อย ฉะนั้นจึงทำให้อีกฝ่ายประสบความสำเร็จได้โดยง่าย
“ท่านผู้นำตระกูล สมุนไพรวิญญาณเหล่านั้นไม่มีพลังวิญญาณอีกแล้ว! จะทำเช่นไรดี? เมื่อถึงเวลานั้นคงจะต้องชดใช้ในจำนวนที่มหาศาลเป็นแน่!” มีคนกล่าวขึ้นมาอย่างร้อนรุ่มใจ
เหล่าสมุนไพรวิญญาณอันล้ำค่าที่นำมาประมูลในครั้งนี้ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เป็นของตระกูลตาน ส่วนอื่นล้วนเป็นความไว้วางใจที่มอบให้ตระกูลตานเป็นผู้ประมูลให้
ฉะนั้นหลังจากที่จบการประมูลแล้ว ตระกูลตานคิดที่จะส่งมอบสมุนไพรวิญญาณให้กับผู้ที่ส่งมาประมูล แต่ทว่าสมุนไพรวิญญาณที่ต้องส่งไปให้กับผู้ส่งประมูลได้ถูกพวกเขาทำลายจนใช้การไม่ได้ไปส่วนหนึ่งแล้ว
ลูกสาวของเขาได้ยอมรับมันไปแล้ว เช่นนั้นทุกคนต่างก็รู้ว่าพวกเขาเป็นคนลงมือเอง ดังนั้นจึงไม่อาจที่จะหลีกหนีการชดเชยไปได้ อีกทั้งยังไม่อาจให้หอหมอปีศาจมาเป็นแพะรับบาปได้อีกแล้ว
พรวด!
ผู้นำตระกูลตานกระอักเลือดสด ๆ ออกมา และจากนั้นก็ล้มพับหมดสติลงไปบนพื้น
“นายท่าน พวกเรากลับมาแล้ว!”
“อิอิ อิอิ! พวกเราไปทำเรื่องใหญ่กันมาด้วยล่ะ”
ร่างทั้งสองทั้งสีแดงและสีขาวต่างพุ่งเข้ามาในหอหมอปีศาจอย่างชำนาญเส้นทาง และจากนั้นก็มาอยู่ข้างกายของมู่เฉียนซี
พวกเขาทั้งสองนี้ที่บุกเข้ามา ก็คือเสี่ยวหงและอู๋ตี้
มีรายงานออกมาว่าตระกูลตานนั้นมีสมุนไพรวิญญาณที่ล้ำค่าอยู่มากมาย ซึ่งทำให้มู่เฉียนซีที่ได้ฟังเกิดความสนใจเป็นอย่างมาก
นางรู้ว่าตระกูลตานจะต้องลงมือในครั้งนี้เป็นแน่ และการป้องกันของทางนั้นจะต้องอ่อนแอเป็นอย่างมาก ดังนั้นนางจึงให้อู๋ตี้และเสี่ยวหงแอบไปขโมยสมุนไพรวิญญาณของพวกเขามาจนหมด
ทั้งหมดนั้นเป็นไปได้อย่างราบรื่นมาก และเมื่อเทียบกับแผนการใส่ร้ายป้ายสีหอหมอปีศาจของนาง ถึงจะรับเอาดอกเบี้ยมาเพียงเล็กน้อยเท่านี้ ก็ถือว่าถูกสำหรับพวกเขาแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ทำได้ดีมาก!”
ผู้นำตระกูลตานฟื้นคืนสติกลับมาอย่างรวดเร็ว และเขาก็ต้องเกลียดชังหอหมอปีศาจไปถึงกระดูกดำ
“หอหมอปีศาจ หอหมอปีศาจ…”
เขาได้เอาเรื่องทั้งหมดไปโทษให้หอหมอปีศาจ หากไม่มีหอหมอปีศาจตระกูลตานของพวกเขาก็คงจะไม่ต้องมาตกอยู่จุดนี้
“เหล่าคุณชายของสำนักหลางซิงอยู่ที่นั่น ข้าจะไปพบพวกเขา!”
สำนักหลางซิงตอบรับที่จะให้การช่วยเหลืออย่างสุดกำลัง และมันก็ทำให้สีหน้าของผู้นำตระกูลตานมีความสุขขึ้นมากกว่าเดิม แม้คราวนี้หอหมอปีศาจจะรอดพ้นจากเคราะห์ร้าย แต่ทว่าอีกไม่นานจุดจบของพวกเขาจะต้องมาถึงแน่
ครั้งนี้สำนักหลางซิงไม่เพียงแต่ส่งผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดมาเท่านั้น แต่ยังส่งผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณคนหนึ่งมาให้อีกด้วย และพวกเขาก็เตรียมที่จะทำลายล้างหอหมอปีศาจโดยไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายใด ๆ เลย
ต่อมา คนของสำนักหลางซิงก็ได้ปรึกษาหารือกับผู้นำตระกูลตาน
ในระหว่างที่กำลังปรึกษาหารือกันอยู่นั้น สีหน้าของผู้นำตระกูลตานก็ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก และผู้อาวุโสของสำนักหลางซิงก็กล่าวขึ้นมาว่า “พวกเราไม่อาจช่วยเหลือไปเปล่า ๆ ได้ หลังจากที่จัดการเรื่องของหอหมอปีศาจในครั้งนี้ได้แล้ว ตระกูลตานของพวกเจ้าจะต้องกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในกองกำลังสำนักหลางซิงของพวกเรา”
ทั้งวังวนของกองกำลัง และวังวนที่มาของต้นสายปลายเหตุ ความจริงแล้วตระกูลตานไม่ได้ต่างจากสำนักหลางซิงเลย แล้วการที่จะให้ตระกูลตานเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลัง เขานั้นไม่ได้เต็มใจเลยจริง ๆ
“หากพวกเจ้าไม่รับปากแล้วละก็ เช่นนั้นก็รอให้ถูกหอหมอปีศาจกดดันจนจมลงมากขึ้นเรื่อย ๆ เถอะ เมื่อถึงตอนนั้นถึงแม้เจ้าจะมาขอให้พวกเราสำนักหลางซิงช่วยเหลือ พวกข้าสำนักหลางซิงก็จะไม่สนใจพวกเจ้าเลยสักนิด”
“สามารถกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังสำนักหลางซิงได้ และนั่นก็ถือว่าเป็นเกียรติของพวกเจ้าตระกูลตานแล้ว! พวกเราสำนักหลางซิงเป็นถึงกองกำลังระดับสี่ที่องค์หญิงหลินหลางสร้างขึ้น และเบื้องหลังเราก็มีองค์หญิงหลินหลางคอยสนับสนุนอยู่”
“……”
ผู้แข็งแกร่งระดับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณที่พวกเขาเชิญมาได้ปะทุพลังกดดันที่แข็งแกร่งออกมา หากทำให้คนของสำนักหลางซิงต้องขุ่นเคือง ตระกูลตานของพวกเขาน่าจะต้องจบเห่เป็นแน่
ในเมื่อชักชวนจิ้งจอกเข้ามาในบ้าน พวกเขาก็หมดหนทางแล้ว หากสามารถทำลายหอหมอปีศาจได้ จะต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังก็ช่างประไร ทั้งหมดนี้ก็ทำเพื่อบีบบังคับหอหมอปีศาจอยู่แล้ว
คนของสำนักหลางซิงกล่าวว่า “คราวนี้ไม่ได้จัดการเพียงแค่หอหมอปีศาจเท่านั้น แต่ยังต้องจัดการคุณชายจูเชว่ด้วย มิฉะนั้นเจ้าคิดว่าฝ่าบาทจะปล่อยให้ผู้อาวุโสสูงสุดออกโรงได้อย่างไร”
ผู้อาวุโสสูงสุดท่านนี้เป็นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณที่อยู่ข้างกายมู่หลินหลาง และที่สำนักหลางซิงทำ ก็เพียงแค่เกาะชื่อเสียงของผู้อาวุโสสูงสุดท่านนี้เอาไว้เท่านั้น มิฉะนั้นผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณคนหนึ่งคงไม่สนใจกองกำลังระดับสี่ได้หรอก
“แน่นอนอยู่แล้ว เมื่อหอหมอปีศาจมีอันตราย คุณชายจูเชว่ไม่มีทางไม่สนใจอยู่แล้ว และเมื่อถึงเวลานั้นค่อยกวาดเรียบไปให้หมดในคราวเดียวเลย” ผู้นำตระกูลตานกล่าว
การเคลื่อนไหวของสำนักหลางซิงไม่มีทางเล็ดลอดเครือข่ายข้อมูลของจูเชว่ไปได้อยู่แล้ว จูเชว่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ซีซี เจ้าพวกตระกูลตานกลายเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ด้วย”
มู่เฉียนซีกล่าววว่า “เตรียมตัวให้พร้อมเถอะ! ครั้งนี้จำเป็นที่จะต้องทำให้ดี”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว!”
สำนักหลางซิงและตระกูลตานไม่คิดที่จะรอช้าอยู่แล้ว หลังจากที่เตรียมคนมาอย่างกระตือรือร้น จากนั้นก็ตรงไปยังหอหมอปีศาจทันที
เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่แข็งแกร่งนั้น คนที่อยู่บนท้องถนนก็รีบถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว ดูท่าแล้วจะมีคนกำลังต้องการที่จะเปิดสงครามที่เมืองหนานหวาง
มีคนกล่าวด้วยความตกใจว่า “ข้างหน้านั่นดูเหมือนว่าจะเป็นผู้นำตระกูลของตระกูลตาน พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังหอหมอปีศาจแล้ว”
“หรือว่าตระกูลตานไม่ชอบหอหมอปีศาจ จนต้องการจะทำลายหอหมอปีศาจทิ้ง!”
“ตระกูลตานดูจะเอาแต่ใจตนเกินไปหน่อยแล้วกระมัง! มันไม่ง่ายเลยที่จะมีหอยาที่ขายยาราคาไม่แพงและยาทั้งหมดล้วนมีคุณภาพดีเช่นนี้!”
เรื่องที่เกิดขึ้นในงานชุมนุมแลกเปลี่ยน ไม่ได้มีการบอกต่อไปยังคนภายนอก นั่นก็ถือว่าให้เกียรติตระกูลตานแล้ว ดังนั้นคนภายนอกจึงไม่รู้ว่าตระกูลตานและหอหมอปีศาจมีความขัดแย้งกันมากมายเพียงใด?
“ถึงแม้จะเป็นตระกูลตานแต่ก็ไม่ได้มียอดฝีมือมากมายถึงเพียงนี้หรอก! พวกเขาไปเชิญคนมาช่วยเพื่อจัดการหอหมอปีศาจอย่างนั้นหรือ?”
“ดูจากเครื่องแต่งกายของลูกศิษย์เหล่านั้นแล้ว ดูเหมือนว่าจะเป็นคนของสำนักหลางซิง”
“……”
เรื่องที่ตระกูลตานและสำนักหลางซิงร่วมมือกันจัดการหอหมอปีศาจ ได้แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหนานหวางแล้ว และมีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าตระกูลตานนั้นใจแคบเกินไป เพราะหอหมอปีศาจนี้เพิ่งจะมาเปิดกิจการที่เมืองหนานหวางได้เพียงไม่กี่วัน แค่นี่ก็ทนไม่ไหวเสียแล้ว
ตระกูลตานในเวลานี้เพื่อที่จะกำจัดหมอหมอปีศาจให้ได้โดยเร็ว ก็สามารถพูดได้ว่าไม่รู้จักอายอีกแล้ว ไม่ว่าคนอื่นจะพูดอย่างไร ขอเพียงแค่ทำลายหอหมอปีศาจให้สิ้นซากได้ ทุกอย่างมันก็จะต้องกลับไปเป็นเหมือนเดิมแน่นอน
ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นจอมภูตของดินแดนทางทิศใต้ส่วนใหญ่ต้องการยาลูกกลอนของตระกูลตานของพวกเขา และเมื่อถึงเวลานั้นก็จะให้เกียรติและเคารพนอบน้อมพวกเขาเช่นเดิม
และเมื่อตอนที่พวกเขามาถึง ร่างสีแดงร่างหนึ่งก็พุ่งออกมา ราวกับมีเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นไปกลางอากาศ
“ดูเหมือนว่าตระกูลตานของพวกเจ้าจะไม่เห็นคำเตือนของข้าอยู่ในสายตาเลยสินะ หอหมอปีศาจเป็นสถานที่ที่ข้าดูแลอยู่ ซึ่งไม่ใช่สถานที่ที่พวกเจ้าจะมาทำสิ่งใดก็ได้”
“คุณชายจูเชว่ พวกเราตามหาเจ้ามานานมากแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะออกมาปกป้องหอหมอปีศาจจริง ๆ เช่นนั้นวันนี้เจ้าก็หายไปพร้อมกับหอหมอปีศาจเลยก็แล้วกัน!” ผู้อาวุโสจากสำนักหลางซิงหลายคนต่างกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา และได้ตรงเข้าไปสังหารจูเชว่โดยที่ไม่พูดไม่จาอะไรอีก
แน่นอนว่าคุณชายจูเชว่ผู้นี้เป็นหอกข้างแคร่ของฝ่าบาทที่คอยวนเวียนอยู่ในดินแดนทางทิศใต้ของราชวงศ์ตงหวงมานาน หากสำนักหลางซิงของพวกเขาสามารถที่จะกำจัดคนผู้นี้ไปได้ นั่นจะต้องเป็นการสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน และยังสามารถกดหัวสำนักหลินเยว่ได้ด้วย
สำหรับเรื่องจัดการหอหมอปีศาจ มันก็เป็นเพียงแค่เรื่องที่เสริมเข้ามาเท่านั้น เพราะเป้าหมายหลักของพวกเขาก็คือจัดการกับคุณชายจูเชว่ ดังนั้นคราวนี้กำลังคนที่เคลื่อนไหวของสำนักหลางซิงจึงมีมากกว่าที่ตระกูลตานรู้มากมายนัก