ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 583 ล่วงเกินมิได้
มือที่กำหมัดเอาไว้แน่นพลันคลาย นั่นเป็นถึงพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายมาด้วยกัน แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่อง
ฉินปาเองก็ตะลึงงัน “อะไร ? จะจบกันไปเช่นนี้น่ะรึ ? นับวันพี่ใหญ่มู่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ”
โม่ซางคงเข้าใจดีว่าความสามารถในเรื่องพิษของมู่เฉียนซีสุดวิปริตยิ่งกว่าพลังความสามารถของนางเองเสียอีก
ริมฝีปากของผู้ที่ถูกวางยาพิษเริ่มเปลี่ยนกลายเป็นสีเทา พวกเขาเองก็จำเป็นที่จะต้องเชื่อ ทันใดนั้น ผู้เป็นหัวหน้าเปิดปากเอ่ยขึ้น “สาวน้อย เจ้าต้องการเช่นไรถึงจะยอมให้ยาแก้พิษแก่พวกเราล่ะฮึ๊ ?”
มู่เฉียนซียิ้มเจ้าเล่ห์พลางกล่าวว่า “ก็ต้องมาดูกันก่อนว่าพวกเจ้ายอมจ่ายด้วยอะไร” “ให้ยาแก้พิษกับเจ้าห้าไป แล้วพวกเราจะไม่มาหาเรื่องพวกเจ้าอีก เจ้าตกลงไหมล่ะ ?”
“ไม่ การแสดงความจริงใจนี้ยังไม่พอ” มู่เฉียนซีพูดเสียงเย็น
“บ๊ะ! ถ้าอย่างนั้นเจ้าต้องการอะไรกันแน่ ?” พวกเขาเริ่มวิตกกังวลกันบ้างแล้ว
มู่เฉียนซียังคงกล่าวอย่างเฉยเมยมิเปลี่ยนแปลง “โม่ซางคง เมื่อครู่พวกเขาว่ายังไงนะ ?”
โม่ซางคง “พวกเขาบอกว่าจะเอาของที่เราเอาติดตัวมา อย่างเช่นแก่นวิญญาณ หยกวิญญาณ อาวุธวิญญาณ ยาเม็ด เขาบอกให้เราเอาออกมาให้หมด” ฉินปากล่าว “อืม เมื่อครู่พวกเขากล่าวไว้เช่นนี้จริง”
ใบหน้าของเหล่านักล่าอิสระล้วนแข็งทื่อ “เจ้า… เจ้าจะปล้นพวกเรารึ ?”
“จะมาทำโวยวายตกใจอะไร พวกเจ้ามาให้เราปล้นเองถึงที่แท้ ๆ อย่าได้ขมึงทึงเช่นนั้น รีบ ๆ เอาของมีค่าออกมาเถอะ อย่ามัวยืนทำหน้ากลัวโดนกินอยู่แบบนั้น พวกเราเองก็ไม่ได้เป็นพวกกินคนเสียหน่อย” มู่เฉียนซีกล่าวพลางยิ้มตาหยี
แต่พวกเขารู้สึกว่าสตรีผู้ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขานั้นเป็นปีศาจสาวตัวน้อยที่ชอบกินคนและจะไม่แม้แต่คายกระดูกออกมา
“ได้ พวกเราตกลง”
สุดแล้วแต่ พวกเขาเลือกที่จะประนีประนอมเพราะมันไร้ซึ่งทางอื่นให้เลือก ทว่า… “หึ! นักล่าเงินรางวัลอิสระสามารถที่จะเชื่อฟังได้แต่โดยดีเช่นนี้ ให้ตายสิ!”
“เจ้าเด็กน้อยทั้งสามนี่จะต้องขาดทุนแล้ว น่าเสียดายนัก!”
“การทดสอบของสำนักซวนเสียเต็มไปด้วยกับดัก มาขาดทุนที่นี่ไม่เห็นจะมีอะไรต้องตื่นเต้น นอกจากเพียงได้ซึมซับบทเรียนแห่งความพ่ายแพ้เท่านั้น หากในการสอบที่สำนักซวนเสียมิได้ขาดทุนอีกก็พอแล้ว นี่เป็นสิ่งที่เจ้าเฒ่าหนานเฟิงนั่นกล่าวเอาไว้”
ในมุมมืด ยังมีผู้แข็งแกร่งคอยเฝ้าติดตามชมความสนุกอยู่ เหล่านักล่าเงินรางวัลแกล้งทำเป็นกำลังหาสิ่งของ แต่หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาบางคนพุ่งกระโจนเข้าใส่ฉินปาและโม่ซางคงอย่างไว ทั้งสองยังไม่ทันรู้สึกตัว มีดสองเล่มมาจากไหนมิทราบ ก็มาจ่ออยู่ที่คอเสียแล้ว
“เจ้า… พวกเจ้า…” ฉินปามองพวกเขาอย่างโกรธเกรี้ยว
“สาวน้อย ในเมื่อเจ้าลอบโจมตีพี่น้องของข้า ข้าก็สามารถลอบโจมตีสหายของเจ้าได้ ฝั่งพวกข้ามีตัวประกันสองคน หนึ่งคนที่ทางข้าแลกกับหนึ่งคนที่ทางเจ้ามี ส่วนตัวอีกหนึ่งคนที่เหลือแลกกับของมีค่าที่พวกเจ้านำติดตัวมาเป็นเช่นไร ?”
มู่เฉียนซีปฏิเสธ “ไม่ตกลง ข้อตกลงเสียเปรียบเห็น ๆ แบบนี้ข้าไม่เห็นด้วยหรอก” “สาวน้อย เจ้าอายุยังน้อยก็อย่าได้ใจร้ายนัก! ถ้าข้าเฉือนดาบนี้ตัดหัวสหายของเจ้าเสีย เจ้าจะฝันร้ายเอาได้”
มู่เฉียนซีส่ายหน้า “ยังไม่ถึงขนาดนั้น ข้าไม่ใช่พวกขวัญอ่อน”
มู่เฉียนซีรู้ว่าพวกเขาไม่กล้าลงมือ และความสามารถของผู้ที่คอยปกป้องพวกนางอยู่ในมุมมืดนั้นก็มิใช่ไก่กา พวกเขาจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่มีคนตายขึ้นในการสอบรอบทดลองแน่นอน
พวกเขายอมผ่อนปรนลง “สาวน้อย เจ้าสองคนนี้แลกกับยาแก้พิษของเจ้าห้า เจ้าอย่าได้คืบจะเอาศอกมากไปนัก! มิเช่นนั้นจะทำให้ฉิบหายกันไปหมด ทั้งเจ้าและข้าล้วนไม่ได้ประโยชน์อันใดข้าขอเตือน”
— ปึก! —
มู่เฉียนซีได้โยนตัวเจ้าคนที่ห้าออกไป “พวกเจ้าต้องการตัวเจ้านี่ ข้าก็สามารถให้พวกเจ้าได้ เอาไปสิอย่ามัวพูดมาก”
ฉินปาร้อนรน “เฮ้ ๆ ๆ เจ้าโยนมันออกไปทำไม ? นี่ทำให้พวกเราขาดไพ่ป้องกันที่ดีไปมิใช่รึ ?”
โม่ซางคงยังขรึมอยู่ เขารู้จักมู่เฉียนซีดีกว่าฉินปาจึงเพียงแค่มองไปที่ใบหน้าที่แฝงรอยยิ้มเบาบางนั้นโดยไม่เอ่ยอะไร เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ นางก็ยังคงสงบนิ่ง เขานั้นรู้ดีว่าทั้งหมดนั้นล้วนแต่อยู่ในการควบคุมของนาง
โดยปกติมีแต่นางเท่านั้นแหละที่หลอกผู้อื่นจนหัวปั่นแทบตาย ไม่มีใครสามารถหลอกนางได้
“จับสาวน้อยคนนี้ไว้ ค้นตัวเอายาถอนพิษออกมาล้างพิษให้น้องห้าเร็วเข้า!” เมื่อพี่น้องของตนเองได้รับการช่วยเหลือ พวกนักล่าค่าหัวอิสระที่เดิมทีไม่กล้าลงมือกับมู่เฉียนซี ก็ได้เล็งมู่เฉียนซีเป็นเป้าหมาย
มู่เฉียนซีเลิกคิ้วถาม “พวกเจ้าแน่ใจนะว่าต้องการแค่ยาแก้พิษของผู้นั้นคนเดียว”
“เจ้าหมายความว่ายังไง ?”
ทันใดนั้น พวกเขารู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา จากนั้นไม่นานก็พลันรู้สึกว่าร่างกายของตนไม่มีเรี่ยวแรง และพลังวิญญาณก็ไม่สามารถที่จะใช้ได้
“ตอนนี้แหละ!” โม่ซางคงกล่าวขึ้น
ถือโอกาสในตอนที่พวกเขาถูกพิษและกำลังอ่อนแรง โม่ซางคงกับฉินปาสองคนรีบสะบัดตัวเองออกมาจนเป็นอิสระได้อีกครั้งหนึ่ง นักล่าเงินรางวัลอิสระในตอนนี้นอนแผ่อยู่บนพื้นในสภาพอ่อนปวกเปียกไม่ต่างจากโคลนตม สายตาเคียดแค้นจ้องมองมู่เฉียนซีอย่างไม่วางตา
“เป็นไปได้ยังไง ?! เจ้า… นี่เจ้าวางยาพิษพวกข้าตอนไหนกันแน่ ?”
มู่เฉียนซียิ้มกวน ๆ “เหอะ ๆ ก็ตอนที่โยนตัวพี่น้องของเจ้าออกไปไงเล่า บนตัวของเขานั้นถูกข้าวางยาพิษไปมิใช่เพียงแค่หนึ่งชนิด นั่นทำให้พวกเจ้าโดนยาพิษไปด้วย”
เหล่าคนที่รับตัวเจ้าห้าไปนั้นโดนพิษเล่นงานอย่างหนัก และถึงแม้ว่าผู้ที่ไม่ได้สัมผัสตัวเจ้าห้าโดยตรงจะไม่ได้โดนพิษร้ายแรงเท่าพวกนั้น ทว่าก็ยังทำให้ผู้ที่ไม่ได้สัมผัสโดยตรงสิ้นสภาพในการต่อสู้ไป
“แต่… ถ้างั้นทำไมพวกเขาถึงไม่เป็นไร ?” พวกเขามองไปทางโม่ซางคงและฉินปา เมื่อครู่เจ้าเด็กสองคนนั้นอยู่ใกล้ตัวเขามาก แต่กลับไม่ต้องพิษ!
มู่เฉียนซีอธิบายอย่างอดทน “สหายนักเรียนของข้า แน่นอนว่าข้าจะไม่ทำร้ายผิดฝ่าย ข้าให้ยาแก้พิษแก่พวกเขาไปตั้งแต่ตอนตั้งกลุ่มขึ้นมาแล้ว พวกเขาจะไม่โดนพิษที่ข้าปล่อยออกไปทำร้ายหรอก”
ฉินปากล่าว “เอ๊ะพี่ใหญ่มู่ ทำไมข้าถึงจำไม่ได้ว่าท่านให้ยาแก้พิษแก่ข้า ?”
“ชาเมื่อเช้าวันนี้ไงล่ะ” หัวของโม่ซางคงนั้นไวกว่าฉินปา
ฉินปานับถือมู่เฉียนซีอย่างที่สุด “พี่ใหญ่มู่ ท่านนี่ช่างเป็นเซียนตัวจริงเสียงจริงเลย มองการณ์ไกลยิ่งนัก” ขณะที่ฉินปาผุดความรู้สึกเคารพนับถือนางเป็นอย่างมาก พวกนักล่าค่าหัวอิสระกลับรู้สึกอึดอัดเจียนตายอยู่แล้ว
เดิมทีพวกเขานั้นคิดที่จะปล้นเหล่านักเรียนตัวน้อยเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ในคลังสมบัติของตนเองเสียหน่อย แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่ากลับกลายเป็นตนที่ต้องมาเป็นปลาติดข่ายของผู้อื่น
“กลับกันหมดแล้ว! มันกลับตาลปัตรไปหมดแล้วจริง ๆ สาวน้อยผู้นี้มีฝีมือที่ไม่เลวเลย” หนึ่งในเหล่ายอดฝีมือที่ซุ่มอยู่ในมุมมืดกระซิบกัน พวกเขาล้วนตื่นเต้นขึ้นมา
“นักปรุงยาที่ปรุงยาพิษได้ ไม่ควรไปล่วงเกินเลยจริง ๆ” อีกคนหนึ่งถอนหายใจ “การวางยาพิษโดยที่ฟ้าดินไม่รู้ผีสางไม่เห็นเช่นนี้น่ากลัวดีแท้ ไม่ว่าจะยังไง พวกเราจงอย่าได้ไปล่วงเกินเด็กสาวผู้นั้นเป็นอันขาด”
“ถึงขนาดนั้นเลยรึ ?! นางเป็นแค่เด็กสาวระดับราชาผู้หนึ่งเท่านั้นเองนะ”
“ถึงขั้นนั้นเลยแหละ มิเช่นนั้นเจ้าก็ลองพิสูจน์ดูสิ เอาสิ!”
“นั่น… เอ่อ ช่างมันเถอะ”
กลุ่มนักล่าค่าหัวกล่าวอย่างหดหู่ “สาวน้อย เจ้าต้องการอะไรบอกมา” “ข้าไม่อยากจะเสียเวลาพูดมาก พวกเจ้าก็รู้อยู่ว่าข้าต้องการอะไร”
แก่นวิญญาณที่พวกเขาถือครองอยู่ หยกวิญญาณ ยาเม็ด อาวุธวิญญาณ นางต้องการสิ่งพวกนี้
เมื่อนึกถึงสิ่งที่พวกเขาพูดเมื่อครู่ ณ ตอนนี้พวกนั้นแทบอดไม่ได้ที่จะตบปากของตนเอง เมื่อครู่ เหตุใดพวกเขาถึงได้พูดไปมากเช่นนั้น จริง ๆ แล้วควรเอาแค่แก่นวิญญาณก็พอแล้ว มิเช่นนั้นคงจะไม่สูญเสียมากมายขนาดนี้
แต่เรื่องทั้งหมด ยากที่จะซื้อคำว่า ‘หากรู้ก่อนหน้า’ ได้
เวลานี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อื่น เพื่อที่จะรักษาชีวิตเอาไว้ พวกเขาจึงจำเป็นต้องทำ “อย่ามัวอีดอาด เอาออกมาทั้งหมดเลยเร็ว ๆ สิ!”
พวกเขานำของที่มีอยู่ทั้งหมดออกมา แต่สาวน้อยที่อยู่ตรงหน้านั้นกลับกล่าวออกมาว่า “พวกเจ้านี่ก็จนเกินไปแล้วกระมัง มีแค่นี้เอง กระจอกจริง ๆ”
ได้ยินวาจาดูแคลน พวกเขาแทบกระอักเลือด! นี่เป็นทรัพย์สมบัติที่พวกเขาเก็บสะสมเรื่อยมาตลอดระยะเวลายาวนาน แต่นางกลับบอกว่า ‘กระจอกจริง ๆ’!
มู่เฉียนซีกล่าวกับพรรคพวกของตน “พวกเราแบ่งกัน ข้าขอแค่เพียงแก่นวิญญาณ ส่วนของที่เหลือพวกเจ้าเอาไปแบ่งกัน”
ฉินปา “พี่ใหญ่มู่ จะเอาอย่างนั้นได้ยังไง ? เห็นกันอยู่ว่าท่านเป็นคนจัดการคนพวกนี้ ของพวกนี้ควรเป็นของท่านทั้งหมดสิ”
โม่ซางคงกล่าวสำทับ “ใช่ ๆ แต่ข้าจะบอกอะไรให้ หากเจ้าไม่ต้องการละก็ เกรงว่านางคงจะคืนให้กับพวกนั้นไปเป็นแน่”
คืนให้พวกเขาไป จะเป็นไปได้อย่างไร ? สาวน้อยนี่จะใจดีเช่นนั้นเลยงั้นหรือ ?
แน่นอนว่าเหล่าผู้ล่าค่าหัวอิสระนี่ก็ไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน