ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 712 ตั้งใจชี้เป้า
มู่เฉียนซีเปล่งเสียงออกมาอย่างเย็นชาว่า “มังกรเพลิงสังหาร!”
แน่นอนว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นรู้ดีว่ากระบวนท่านี้ของมู่เฉียนซีนั้นเก่งกาจเพียงใด ทันทีที่นางเหวี่ยงกระบี่ เขาก็ทำได้เพียงแค่ต้านทานมันอย่างสุดชีวิต
เสียง ตูม! ดังสนั่นขึ้น เขาต้านทานเอาไว้ไม่ได้ และเขาถูกเปลวไฟห้อมล้อมและร่วงลงไปจากลานประลอง
เดิมทีทุกคนต่างก็คิดว่าจะได้ยินเสียงกระบี่หักที่คุ้นหู ทว่า ครั้งนี้พวกเขากลับไม่ได้ยินเสียงนั้น
มู่เฉียนซีเก็บกระบี่มังกรเพลิงที่ใช้เสร็จเล่มนั้นไว้ ทุกคนต่างก็นิ่งอึ้งไป
“กระบี่ของมู่เฉียนซีไม่หักแล้ว เช่นนี้ก็ยากที่จะรับมือกับนางได้!”
“กระบี่ที่ใช้ครั้งเดียวแล้วหักเล่มนั้นตอนนี้ไม่หักแล้วจริง ๆ ด้วย ข้ารู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินเอาซะเลย!”
“นอกจากศิษย์พี่ซวนอี้แล้ว เกรงว่าคงจะไม่มีผู้ใดที่จะหยุดมู่เฉียนซีให้เข้าสิบอันดับแรกได้เลย”
มู่เฉียนซีรู้สึกตัวเองโชคดีเป็นอย่างมากที่ตลอดการประลองนี้ไม่ได้เจอกับซวนอี้ หากเจอกับซวนอี้เข้าก็คงจะวุ่นวายเป็นแน่
การคัดเลือกบนลานประลองนี้แพ้ก็คือแพ้ ไม่มีการประลองแก้ตัวแต่อย่างใด
ไม่ว่าจะเป็นนางหรือจะเป็นซวนอี้ที่แพ้ ผลลัพธ์นี้ไม่ใช่เรื่องดีต่อสำนักศึกษาซวนเสียในการเข้าร่วมการแข่งขันร้อยสำนักในครั้งนี้เลย
ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะไม่ได้สู้กับซวนอี้ แต่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของการเข้าสิบอันดับแรกนี้ กลับได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่ไม่คุ้นเคยผู้หนึ่ง
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริดไป “ครั้งนี้สหายมู่เฉียนซีได้เจอกับเขาแล้ว ไม่ได้เข้าใจอะไรผิดไปใช่หรือไม่ ?”
“ข้าจำได้ว่าก่อนที่อวิ๋นอ้าวจะเก็บตัวฝึกฝน ความแข็งแกร่งของเขาเป็นสองรองจากศิษย์พี่ซวนอี้!”
“……”
ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะไม่คุ้นเคยกับเขา แต่เท่าที่ฟังจากที่ทุกคนพูดแล้ว นางก็รู้ว่าคนตรงหน้าผู้นี้ยากที่จะรับมือได้
ซวนอี้ที่มีสีหน้าผ่อนคลายมาโดยตลอดตอนนี้สีหน้ากลับเคร่งเครียดขึ้น “โชคของสาวน้อยก็ไม่ได้ดีเอาซะเลยนะ หากรู้ก่อนหน้านี้ว่านางจะเจอกับอวิ๋นอ้าว ตอนจับฉลากข้าจะได้งุบงิบสักหน่อย”
ผู้อาวุโสสูงสุดส่งเสียงไอค่อกแค่กขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดนี้ “ค่อก ค่อก ค่อก! อาจารย์ใหญ่ ท่านเป็นอาจารย์ใหญ่นะ!”
อวิ๋นอ้าวมองดูหญิงสาวร่างเพรียวบางผู้ที่เขาสามารถขยี้ได้ด้วยมือเดียวที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ นางช่างงดงามยิ่งนัก ในขณะเดียวกันก็ดูอ่อนแอมาก
การต่อสู้ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นแล้ว ทักษะวิญญาณแกร่งกล้ามาก แต่พลังวิญญาณไม่เพียงพอ
อวิ๋นอ้าวเหลือบไปมองซวนอี้ที่นั่งอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นอย่างเย้ยหยัน
ศิษย์สายตรงของอาจารย์ใหญ่ที่อยู่สูงจนไม่อาจเอื้อมถึงมาโดยตลอด นึกไม่ถึงว่าตอนนี้จะเผยสีหน้าเช่นนี้ออกมา ช่างน่าแปลกใจยิ่งนัก!
หากต่อสู้กับซวนอี้ ยากมากที่เขาจะเอาชนะได้!
ทว่า ต่อสู้กับหญิงสาวที่เขาสนใจ เช่นนั้นก็ง่ายมาก
ซวนอี้รู้จักอวิ๋นอ้าวไม่ใช่แค่วันสองวัน เจ้าหมอนี่ชอบเปรียบเทียบกับเขามาตั้งแต่แรก ช่างน่ารำคาญใจยิ่งนัก!
ตอนนี้เขาต้องการจะต่อสู้กับเฉียนซีเพื่อที่จะยั่วยุเขา!
ซวนอี้กำหมัดแน่น บัดซบยิ่งนัก!
มู่เฉียนซีก็รู้สึกได้ว่าคนตรงหน้าผู้นี้มีเจตนาร้าย สีหน้าของนางก็เคร่งขรึมลงทันที
อวิ๋นอ้าวกล่าว “เจ้าก็คือมู่เฉียนซีผู้ที่คนส่วนใหญ่เขากล่าวถึง ตั้งแต่ข้าออกมาจากการบำเพ็ญตนฝึกฝน ข้าก็ได้ยินเรื่องราวของเจ้ามาไม่น้อย หลาย ๆ คนบอกว่าฝีมือเจ้าเก่งกาจมาก อีกทั้งยังเอาชนะซวนอี้ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสำนักส่วนในของพวกเราได้อีกด้วย”
“แล้วอย่างไร!” มู่เฉียนซีเลิกคิ้วพลางกล่าว
“ดังนั้น หากข้าเอาชนะเจ้าได้ เช่นนั้นก็หมายความว่าข้าแข็งแกร่งกว่าซวนอี้” อวิ๋นอ้าวยิ้มพลางกล่าว
ต่อให้ทักษะวิญญาณของหญิงสาวผู้นี้จะแข็งแกร่งมาก แต่ซวนอี้ก็ไม่มีทางพ่ายแพ้นางเด็ดขาด ต้องเป็นเพราะซวนอี้ชื่นชอบในความงามของนางเข้าแล้วเป็นแน่ ดังนั้นจึงได้ยอมหลีกทางให้นาง อวิ๋นอ้าวคิดเช่นนี้
นึกไม่ถึงเลยว่าคนอย่างซวนอี้ก็เป็นวีรบุรุษยากฝ่าด่านหญิงงาม เขาผู้ที่เสาะแสวงหาเพียงแต่ความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ตอนนี้กลับหลงในความงามของสตรีเข้าแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยันว่า “แต่เจ้าไม่สามารถเอาชนะข้าได้ แล้วเจ้าก็เทียบกับซวนอี้ไม่ได้ด้วย เพราะฉะนั้นเจ้าอย่ามาเพ้อฝันอยู่ที่นี่เลยนะ”
สีหน้าของมู่เฉียนซีเผยความเย้ยหยันออกมา ทำให้อวิ๋นอ้าวนั้นโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก
“มู่เฉียนซี เจ้าอย่าได้โอ้อวดมากเกินไป ข้าอวิ๋นอ้าวเหตุใดถึงจะเอาชนะเจ้าไม่ได้ เจ้ารอดูก็แล้วกัน!”
“เริ่มประลองได้!” ในตอนนี้เองผู้ตัดสินก็ประกาศขึ้น
ทันทีที่เสียงประกาศของผู้ตัดสินดังขึ้น อวิ๋นอ้าวก็พุ่งเข้าหามู่เฉียนซีทันที
พลังจักรพรรดิแห่งภูตระดับหกนั้นพุ่งเข้าหามู่เฉียนซีราวกับคลื่นมหาสมุทรซัดสาดก็มิปาน
“ข้าจะเอาชนะเจ้าในกระบวนท่าเดียว!” อวิ๋นอ้าวพ่นคำพูดนี้ออกมาพลางยกฝ่ามือขึ้นพุ่งไปทางมู่เฉียนซี
พลังวิญญาณที่อยู่ในฝ่ามือนี้ได้ปิดกั้นบริเวณรอบ ๆ เอาไว้แล้ว
เขารู้ว่าความเร็วของมู่เฉียนซีนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมาก แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้นางไม่อาจหลบได้แน่นอน
กระบวนท่านี้แข็งแกร่งยิ่งนัก
ทว่า เมื่อพลังวิญญาณของมู่เฉียนซีแผ่ซ่านออกไปก็รู้สึกได้ทันทีว่ากระบวนท่านี้เต็มไปด้วยข้อบกพร่องมากมาย!
ร่างของมู่เฉียนซีเคลื่อนไหวพุ่งไปที่ช่องโหว่ของการปิดกั้นนี้
ตูม!
แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นก็คือมู่เฉียนซีถูกพลังของฝ่ามือนี้ครอบคลุมไว้ และนางจะต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย!
หลังจากที่ระลอกคลื่นนั้นระเบิดและหายไป มู่เฉียนซีกลับไม่ได้ร่วงออกไปจากลานประลองอย่างที่ทุกคนได้จินตนาการเอาไว้!
“หายไปไหนแล้วล่ะ ?”
“มู่เฉียนซีไปไหนแล้ว ?”
“ช่างน่าแปลกยิ่งนัก อยู่ ๆ จะหายไปได้ยังไง ?”
ในเวลานี้เอง มู่เฉียนซีก็ได้ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังอวิ๋นอ้าว นางกล่าวอย่างเย็นชาว่า “มังกรเพลิงสังหาร!”
อวิ๋นอ้าวรีบหลบหลีก ทว่า มู่เฉียนซีกลับปรากฏตัวขึ้นอีกทางด้านหนึ่ง และรีบเคลื่อนไหวด้วยกระบวนท่าเดิมอีกครั้ง “มังกรเพลิงสังหาร!”
“มังกรเพลิง…”
ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะไม่มีพลังวิญญาณเพียงพอที่จะกักขังศัตรูจากทุก ๆ ด้าน แต่นางนั้นมีความเร็วที่รวดเร็วเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าจังหวะจากสี่ทิศนี้จะแตกต่างกัน แต่เวลาของการโจมตีนั้นกลับไม่ได้ต่างกันมาก
“กระบี่ของมู่เฉียนซีไม่หักแล้ว และนางก็จะโจมตีเช่นนี้ไปตามอำเภอใจ!”
“ไม่สิ ต่อให้กระบี่ไม่หัก แต่ทุก ๆ การโจมตีนี้ก็เปลืองพลังวิญญาณไปไม่น้อย แต่เหตุใดนางยังมีพลังเหลืออยู่อีก”
“หากเป็นข้า แม้แต่กระบวนท่าที่สองก็ควบคุมเอาไว้ไม่อยู่แล้ว!”
อวิ๋นอ้าวหลบอย่างไรก็ไม่อาจหลบได้ ในที่สุดเขาก็เลือกที่จะเผชิญหน้า!
“มหาสมุทรเมฆาทำลาย!” เขาผนึกพลังวิญญาณทั้งหมดรวมที่ฝ่ามือ
ทันใดนั้นพลังราวกับคลื่นมหาสมุทรก็ได้ระเบิดไปทั่วทั้งตัวของเขา
ตูม!
มังกรเพลิงทั้งสี่ตัวถูกปิดกั้นเอาไว้ด้านนอก
พลังของทั้งสองปะทะกัน มู่เฉียนซีร่นตัวถอยหลังไปหลายก้าว ส่วนอวิ๋นอ้าวกลับถอยหลังไปติดขอบลานประลอง
ซวนอี้กล่าวเสียงขรึมว่า “พลังของอวิ๋นอ้าวแข็งแกร่งกว่าเมื่อมาก เฉียนซีเผชิญหน้ากับเขาครั้งนี้ ลำบากแล้ว!”
พลังความแข็งแกร่งของคนผู้นี้แข็งแกร่งกว่าที่จินตนาการเอาไว้มาก
มู่เฉียนซีเคลื่อนไหวเข้าใกล้อวิ๋นอ้าวราวกับสายฟ้าฟาด พลังวิญญาณทั้งหมดรวมตัวกันที่ฝ่ามือของนาง
นางตะโกนออกมาอย่างเย็นชาว่า “ทักษะเทียนซวน!”
ตูม!
เสียงสะท้านฟ้าสะเทือนดินดังขึ้น พื้นลานประลองที่อยู่รอบ ๆ อวิ๋นอ้าวก็แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
เขาโคจรทักษะเสริมร่างกายทำให้ร่างกายของตนเองแข็งแกร่งหนาแน่นเสมือนกำแพงเหล็กถึงจะป้องกันการโจมตีนี้ของมู่เฉียนซีได้
พลังช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินผู้หญิงคนนี้ต่ำไปเสียแล้ว ใบหน้าของอวิ๋นอ้าวเคร่งขรึมลง
“สมกับที่เป็นสตรีที่ซวนอี้ชื่นชอบยิ่งนัก เจ้าไม่ได้อ่อนแอเหมือนที่ข้าได้จินตนาการเอาไว้ แต่วันนี้ข้าจะเอาชนะเจ้า จะเอาชนะเจ้าให้ได้”
ใบหน้าของซวนอี้เคร่งขรึมลง อวิ๋นอ้าวเจ้าหมอนั่นรนหาที่ตาย พูดจาซี้ซั้ว
ชั่วครู่หนึ่งเขาก็รวบรวมพลังวิญญาณอันน่าสะพรึงกลัวขึ้น หมัดของเขาเคลื่อนไหวตัดผ่านอากาศพุ่งเข้าหามู่เฉียนซี
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่โหดร้ายเช่นนี้ มู่เฉียนซีทำได้เพียงแค่หลบหลีก อวิ๋นอ้าวไล่ตามนางอย่างสุดชีวิตจนในที่สุดหมัดดั่งเหล็กกล้าของเขาก็เข้าใกล้มู่เฉียนซี เขายิ้มพลางกล่าวว่า “ในที่สุดข้าก็ตามเจ้าทันแล้ว”