ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 727 สำนักศึกษาหมอเทวดา
จินซ่านซ่านกล่าว “ตอนนี้เจ้าได้ต้องพิษร้ายเข้าแล้ว เจ้าจะต้องยอมฟังคำของข้าแต่โดยดี มิเช่นนั้นเมื่อถึงเวลาเจ้าจะตายอย่างศพไม่สวย อย่าได้โทษข้าก็แล้วกัน!”
“พิษร้าย! ด้วยความกล้าอย่างจินซ่านซ่าน ก็กล้าที่จะวางยาพิษ ?”
“จินซ่านซ่าน เจ้าโม้ไปเถอะ!”
“……”
คนของสำนักอวี้หลิงต่างทยอยกันแสดงออกมาว่าไม่เชื่อ จินซ่านซ่านโบกมือแล้วกล่าว “ไม่เชื่อ! งั้นเหรอ? เช่นนั้นพวกเจ้าก็คอยดูดีดีก็แล้วกัน”
“อ๊าก!” จากนั้น หลิงฮั่วฮั่วก็รู้สึกว่าทั้งตัวนั้นเหมือนโดนเพลิงอันร้อนแรงเผาไหม้ เจ็บปวดเจียนตาย
ทั้งร่างของเขานั้นเต็มไปด้วยเหงื่อที่ผุดออกมาและเขาได้กลิ้งไปมาอยู่บนพื้น เขาร้องตะโกนขึ้น “ยาแก้พิษ!”
“จินซ่านซ่าน ข้าไม่จับตัวเจ้าไปแล้ว เจ้ารีบเอายาแก้พิษออกมาเร็วเข้า”
จินซ่านซ่านกล่าว “นี่ไม่ใช่กิริยาของการขอยาแก้พิษ อย่างไรเสียเจ้าก็ควรที่จะมีมารยาทสักหน่อย!”
ในตอนนี้หลิงฮั่วฮั่วได้อดกลั้นต่อความแสบร้อนดั่งเปลวไฟที่อยู่เต็มท้องของเขาเอาไว้และเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เขาจึงจำต้องทำตัวค้อมต่ำเพื่อขอให้ฝ่ายตรงข้ามไว้ชีวิต
“จินซ่านซ่าน นายน้อยจิน ข้ารู้ผิดแล้ว ข้าไม่กล้าคิดร้ายกับท่านอีกแล้ว รีบส่งยาถอนพิษออกมาเถอะ!”
จินซ่านซ่านกล่าว “การแสดงความจริงใจของเจ้ายังไม่พอ จงเอาของมีค่าที่ตัวเจ้ามีอยู่ทั้งหมดออกมา! พวกหยกวิญญาณเอย! สมุนไพรวิญญาณเอย!”
“เจ้าฉวยโอกาสปล้นสะดม!” หลิงฮั่วฮั่วกล่าวด้วยความโกรธ
“หรือมันมีแค่กฎที่ว่าอนุญาตให้แต่พวกเจ้าปล้นพวกเราฝ่ายเดียว และไม่อนุญาตให้พวกเราปล้นพวกเจ้า?”
“มอบ พวกเรามอบให้ก็จบเรื่อง!” พวกเขาได้ส่งมอบสิ่งของออกมาอย่างเจ็บช้ำน้ำใจ
จินซ่านซ่านได้เอาสิ่งมีค่าทั้งหมดที่ปล้นมาได้มอบให้แก่มู่เฉียนซี “สาวงามมู่ ของพวกนี้ล้วนแต่มอบให้ตอบแทนเจ้า ถ้าหากมิใช่เพราะว่าเจ้า ข้าจะต้องโดนเจ้าพวกบัดซบนี้ชิงตัวไปแน่แล้ว”
มู่เฉียนซีรับมันไว้อย่างมิได้เกรงใจ หลิงฮั่วฮั่วกล่าว “จินซ่านซ่าน เจ้านี่นับวันยิ่งจะได้เรื่องมากขึ้นไปทุกที ใช้ทองเป็นพันตำลึงเพื่อที่จะเอาใจสตรีหนึ่งนาง”
จินซ่านซ่านกล่าว “ถ้าหากว่าข้าไม่เอาใจสาวงามมู่ เจ้าคิดว่าข้าจะสามารถใช้พิษได้หรือ ?”
หลิงฮั่วฮั่วพบว่า หลังจากที่มู่เฉียนซีได้รับเอาของพวกนั้นไปแล้ว ทั้งตัวของเขาก็ไม่มีอาการที่แสบร้อนนั่นอีก
“เจ้า…”
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ผู้ที่ก่อให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้นคือหญิงสาวผู้นี้ มิเช่นนั้นแล้วจินซ่านซ่านจะไปมีกึ๋นที่ไหนมาลอบเล่นงานเขา
มู่เฉียนซีกล่าว “พิษที่อยู่ในร่างกายเจ้ายังไม่ได้ถูกถอนไปทั้งหมด ถ้าหากว่าถอนพิษหมดไปในคราเดียวแล้วเมื่อถึงเวลาพวกเจ้าตอบโต้กลับ พวกเราเองก็รับมือไม่ไหว”
“พวกเจ้าจะเอาอย่างไรกันแน่? สิ่งของพวกเจ้าก็เอาไปแล้วแต่กลับไม่ให้ยาแก้พิษ” หลิงฮั่วฮั่วกล่าวด้วยความโกรธ
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าก็ไม่ได้อยากจะเอาเช่นไร แต่ช่วยข้าสักเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือช่วยข้าหากระบี่โบราณสองเล่มที่สนามรบโบราณแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นกระบี่ที่สภาพสมบูรณ์หรือแตกหักล้วนได้ทั้งหมด หลังจากการแข่งขันในรอบสองนี้จบลง ข้าจะมอบยาแก้พิษให้แก่พวกเจ้า”
“ถ้าหากไม่ได้มาละก็ ก็แล้วแต่อารมณ์ข้าก็แล้วกัน!”
กล่าวจบ มู่เฉียนซีก็ไม่สนใจว่าพวกเขาจะตอบตกลงหรือไม่ นางได้พาคนของนางจากไปในทันที
เมื่อเห็นเงาหลังของพวกนางที่จากไป เหล่าศิษย์น้องของสำนักศึกษาอวี้หลิงกล่าวขึ้น “หัวหน้า ทำเช่นไรดี? จะฟังหรือไม่ฟังนาง?”
“นอกจากฟังนางแล้ว ยังจะทำเช่นไรได้อีก? ก็แค่หากระบี่เท่านั้น สิ่งที่มีมากที่สุดในสนามรบโบราณนี่ก็คือกระบี่โทรม ๆ พวกนั้น”
ซวนอี้กล่าวขึ้น “เฉียนซี เจ้าไม่ได้ลงมือเลยด้วยซ้ำ สรุปแล้วเจ้าพวกนั้นต้องพิษได้อย่างไร?”
จินซ่านซ่านหัวเราะแล้วกล่าว “หึหึหึ! เรื่องนี้นะเหรอ! ให้ข้ามาคลายความสงสัยให้พวกเจ้าก็ได้แล้ว”
“สาวงามมู่รู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าข้าจะตกเป็นเป้าหมายของพวกสำนักศึกษาอื่นจากทวีปอวี้โจว ก็จะทำไงได้ ใครใช้ให้ข้าเก่งกาจเช่นนั้นเล่า เพื่อที่จะไม่ให้พวกเขาก่อเรื่องให้วุ่นวายมากเกินไปนัก ดังนั้นสาวงามมู่จึงได้เอายาพิษใส่ไว้ที่ตัวของข้า ถ้าหากว่าใครถูกตัวข้าเข้าละก็ แน่นอนว่าจะหนีไม่พ้นเงื้อมือของข้าไปได้” จินซ่านซ่านกล่าวด้วยอาการยิ้มตาหยี
และแล้ว ผู้ที่กำลังอยู่ใกล้ตัวเขาอยู่นั้นต่างพากันดีดตัวหนีออกห่างเขาไปในทันที
พวกเขานั้นไม่กล้าที่จะเข้าใกล้ยาพิษในรูปร่างของมนุษย์ เพราะกลัวว่าเมื่อต้องพิษเข้าแล้วจะอนาถเอาเสีย
มู่เฉียนซีกล่าว “คนกันเองจะไม่ต้องพิษ”
ซวนอี้ยิ้มแล้วกล่าว “นี่ช่างเป็นวิธีที่ประหยัดแรงและเวลาเสียจริง!”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าก็ไม่อยากให้มีคนกลุ่มอื่นเข้ามาชิงตัวเจ้าหมอนี่ มันสิ้นเปลืองเวลาเกินไป”
คนเหล่านี้ของทวีปอวี้โจว เมื่อเห็นตัวจินซ่านซ่านก็แห่กันมาเหมือนผึ้งตอมดอกไม้ก็มิปาน
แต่ส่วนจุดจบของคนพวกนั้น แน่นอนว่าไม่ใช่อะไรที่ดีนัก!
และปรากฏว่าสำนักศึกษาอื่นทั้งทวีปอวี้โจวที่นอกจากสำนักศึกษาจินซินแล้วล้วนแต่มาติดกับ จินซ่านซ่านกล่าวด้วยความสดใสอย่างขีดสุด “ปลาล้วนแต่มาติดข่ายหมดแล้ว จากนี้ไปคงไม่มีอะไรสนุกแล้วสิ”
ในตอนนี้เองก็ได้มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา
จินซ่านซ่านยิ้มตาหยีกล่าว “หรือว่าชื่อเสียงของข้าจะขจรไกลไปถึงทวีปอื่นแล้ว”
คนกลุ่มนี้หน้าตาหล่อเหลาและสง่างาม พวกเขาแนะนําตัวเองขึ้นก่อนว่า “พวกเราเป็นผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากสำนักศึกษาหมอเทวดาแห่งทวีปอวี่โจว อยากที่จะเชิญทุกท่านเข้าร่วมเป็นกลุ่มเดียวกัน เพราะสำนักศึกษาใหญ่หลายสำนักอื่นได้พบวังใต้ดินแห่งหนึ่งในสนามรบโบราณแห่งที่สี่นี้เข้าแล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงต่ำ “สำนักศึกษาหมอเทวดา”
หนึ่งในคนเหล่านั้นยิ้มขึ้นแล้วกล่าว “ใช่ สำนักศึกษาหมอเทวดา ในการร่วมมือกันครั้งนี้หากว่าขาดยาเม็ดละก็ เรื่องยาทั้งหมดสำนักศึกษาหมอเทวดาของพวกเราขอรับผิดชอบในเรื่องนี้”
เมื่อกล่าวถึงเรื่องยา ใบหน้าของพวกเขาก็ฉายแววภาคภูมิใจออกมา
สำนักศึกษาหมอเทวดามีหุบเขาหมอเทวดาคอยให้การสนับสนุนอยู่ คนในสำนักศึกษาส่วนมากก็เป็นนักปรุงยา แน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาไม่ขาดเหลือก็คือยา
จินซ่านซ่านเบ้ปาก สาวงามมู่มียาเม็ดมากมายกว่าพวกเขาอีก ใครจะไปนึกเสียดายยาพวกนั้นเล่า!
“วังใต้ดิน!” สิ่งที่มู่เฉียนซีสนใจที่สุดก็คือที่แห่งนั้น
“พูดให้ละเอียดกว่านี้ได้หรือไม่?”
การเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ นอกจากการแข่งขันแล้ว อีกเป้าหมายก็คือการลองค้นหาตัวกระบี่ของกระบี่มังกรเพลิง
กระบี่ระดับกระบี่มังกรเพลิงจะไม่อยู่ในสถานที่ที่ธรรมดาอย่างแน่นอน และมีความเป็นไปได้ว่ามันจะอยู่ในโบราณสถานอันยิ่งใหญ่บางแห่ง
ผู้ที่เป็นคนนำกลุ่มกล่าวขึ้น “วังใต้ดินแห่งนั้นยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าพวกเราจะยังไม่ได้เข้าไปสำรวจเพิ่มเติม แต่วังแห่งนั้นจะต้องเป็นวังของผู้มีความสามารถแห่งยุคโบราณอย่างแน่นอน”
มู่เฉียนซีกล่าว “สำนักศึกษาที่จะเข้าไปที่แห่งนั้น ยังมีสำนักไหนอีกบ้าง ?”
“สำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งทวีปเหยียนโจวเป็นผู้นำกลุ่ม อย่างน้อยมีสำนักศึกษาถึงสิบสองแห่งเข้าร่วม ทวีปเหลยโจวเองก็เหมือนกัน ดังนั้นแล้วสำนักศึกษาอย่างพวกเราที่มีกำลังค่อนข้างอ่อนแอเล็กน้อยควรจะร่วมมือกัน”
มู่เฉียนซีกล่าว “ได้สิ! ร่วมมือก็ร่วมมือ”
“เช่นนั้น ขอเชิญให้ไปยังสถานที่นัดพบกับพวกเรา!”
ถึงแม้ว่าคนกลุ่มนี้จะมีพลังความสามารถอ่อนแออยู่บ้าง แต่ก็ได้เรื่องตรงที่มีจำนวนคนเยอะ
ระหว่างทางจินซ่านซ่านพึมพำขึ้นมา “คนของพวกสำนักศึกษาหมอเทวดาพวกนี้แต่งกายดูดีน่าเชื่อถือมาโดยตลอด แต่พวกเขานั้นจะต้องไม่ได้ให้พวกเราเข้าร่วมด้วยเจตนาดีอย่างแน่นอน เกรงว่าเป้าหมายของพวกเขาคงจะให้เราไปเป็นตัวตายพลีชีพนะสิ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “คอยดูตามสถานการณ์ไป”
ด้วยสำนักศึกษาหมอเทวดานั้นได้รับการสนับสนุนจากหุบเขาหมอเทวดา ด้วยนิสัยสันดานของผู้กุมอำนาจแห่งหุบเขาหมอเทวดาแล้ว มู่เฉียนซีจึงไม่ได้คาดหวังอะไรกับการร่วมมือกันในครั้งนี้มากนัก
แต่เพื่อวังใต้ดินแห่งนั้นจึงเลือกที่จะร่วมมือไปก่อนเป็นการชั่วคราว
ในตอนนี้พวกเขาก็ได้มาถึงจุดนัดพบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในที่นี้แบ่งออกได้เป็นสามค่ายกำลังใหญ่ ๆ คือ ทวีปเหลยโจว ทวีปเหยียนโจว และการรวมกันของสี่ทวีปเป็นอีกค่ายกำลังหนึ่ง
พวกที่ถูกเชิญมาบางส่วนจากทวีปอวี้โจวนั้นมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ทำไมถึงได้ไปเชิญกลุ่มดาวร้ายนั่นมาด้วย ไม่อยากเจอกับพวกเขาเลยจริงๆ
หัวหน้าของสำนักศึกษาอันดับหนึ่งแห่งทวีปเหลยโจวนามว่าเหลยหมิงกล่าวขึ้น “ในเมื่อมากันครบแล้วข้าก็จะไม่มากความกับพวกเจ้า ข้าจะเปิดประตูของวังใต้ดินในทันที!”.