ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 822 ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว
ทันใดนั้นเอง หนามเพลิงต้นหนึ่งก็ได้ล้อมมู่เฉียนซีเอาไว้
“สาวน้อย ระวัง!”
ร่างในชุดขาวร่างหนึ่งกระโดดออกมา จวินโม่ซีได้ระเบิดพลังขั้นมหาจักรพรรดิอันแข็งแกร่งออกมายิงถล่มหนามเพลิงนั้นออกไป
จวินโม่ซีกล่าว “ที่นี่อันตรายเกินไป เจ้าอย่าออกห่างจากข้าเด็ดขาด!”
มู่เฉียนซีเป็นเพียงแค่จักรพรรดิแห่งภูตระดับสามผู้หนึ่ง ในสถานการณ์การต่อสู้เช่นนี้ราวกับเป็นการบีบบังคับให้นางต้องตายในสนามรบก็มิปาน
หากไม่ใช่เพราะความเร็วของนางนั้นเร็วพอ นางคงมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านไปแล้ว
มู่เฉียนซีก็รู้ดีว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะต้องเสียหายยับเยินแน่!
ทว่า……
“อู๋ตี้ เสี่ยวหง ยังหาประตูชีวิตของพวกมันไม่เจอเหรอ?” มู่เฉียนซีใช้พันธสัญญาสื่อสารกับอู๋ตี้และเสี่ยวหง
ในขณะที่นางรู้ว่าหนามเพลิงเหล่านี้รับมือได้ยาก นางก็ให้อู๋ตี้กับเสี่ยวหงไปสำรวจ
มือสังหารของพืชชนิดนี้ ได้ตัดขาดจากร่างแยกของมัน ไม่สามารถทำลายพวกมันได้ จำเป็นต้องหาจุดอ่อนที่ถึงแก่ชีวิตของมันให้ได้
“นายท่าน หนามผีเหล่านี้มากเกินไปแล้ว พวกเราหาร่องรอยไม่เจอเลยแม้แต่น้อย แต่นายท่านวางใจได้ ข้าจะต้องหามันให้เจอ จะต้องช่วยนายท่านออกไปให้ได้!”
อู๋ตี้กล่าว “เปลวเพลิงในป่านี้แข็งแกร่งมาก หากมีอันตรายเกิดขึ้น ข้าจะพานายท่านพุ่งออกไป เปลวเพลิงของข้าสามารถเปิดเส้นทางเล็ก ๆ ทางหนึ่งได้!”
ทว่า มันสามารถช่วยเจ้านายของตนเองได้คนเดียวเท่านั้น
ส่วนคนอื่น เกรงว่าจะต้องตกลงไปในการโจมตีของหนามเพลิงเหล่านี้จนกว่าจะดับสิ้น!
มู่เฉียนซีกล่าว “หาต่อไป!”
นางจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด ที่นี่ยังมีจวินโม่ซี ยังมีโม่จิ่น และยังมีลูกน้องของหอหมอปีศาจอยู่
“ขอรับ!”
หลังจากที่อู๋ตี้กับเสี่ยวหงได้รับคำสั่ง พวกมันก็ไปหาจุดอ่อนของหนามเพลิงต่อทันที
ปัง ปัง ปัง!
เผชิญหน้ากับการต่อสู้ที่น่าสังเวชเช่นนี้ ซือคงชัวก็ได้ตกใจจนขาอ่อนไปแล้ว
ถึงแม้ว่าพลังวิญญาณของเขาจะสูงกว่ามู่เฉียนซีถึงหกระดับ แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่มีกำลังในการปกป้องตัวเองเลยแม้แต่น้อย ให้องครักษ์ปกป้องเขาตลอดทาง!
“ข้าจะออกไปจากที่นี่ ข้าจะออกไป……”
“ข้าจะกลับหุบเขาหมอเทวดา ข้าจะกลับ!”
“……”
เมื่อก่อนเขาก็เคยออกไปฝึกฝนประสบการณ์ นอกจากครั้งล่าสุดที่ถูกเก๋อซือลอบทำร้ายแล้ว เขาก็ไม่เคยประสบกับอันตรายเช่นนี้มาก่อน
ตอนนี้เขารู้สึกว่าการที่ได้อยู่ฝึกฝนที่หุบเขาหมอเทวดานั้นไม่เลวเลย อย่างน้อยก็ไม่มีอันตราย!
องครักษ์เหล่านั้นของหุบเขาหมอเทวดาได้ยินซือคงชัวร้องตะโกนออกมาเช่นนี้แล้วก็รู้สึกเบื่อเป็นอย่างมาก
เมื่อมองไปทางด้านหนึ่ง เห็นมู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีหลบหลีกอย่างสุขุม อีกทั้งยังต่อต้านอย่างสุดความสามารถ ใบหน้าไร้ซึ่งร่องรอยความตื่นตระหนก มันช่างแตกต่างกันมากเกินไปแล้ว!
นายน้อยแห่งหุบเขาหมอเทวดาแย่กว่าศิษย์สายตรงสองคนนั้นของท่านผู้เฒ่ามาก
ตูม! จวินโม่ซีได้ยิงถล่มหนามเพลิงนั้นที่พยายามโจมตีมาอีกครั้ง
เขารีบพุ่งมาข้างกายมู่เฉียนซี และกล่าวว่า “สาวน้อย หากเจ้าสามารถหนีออกไปได้ก็รีบออกไป เจ้ายังจะต้องทำลายหุบเขาหมอเทวดา จะมาเป็นอะไรไปที่นี่ไม่ได้!”
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าก็ด้วยไม่ใช่เหรอ เพราะฉะนั้นอย่าได้พูดไร้สาระ!”
ตอนนี้ทุกคนต่างก็ต่อสู้กันอย่างสุดกำลัง ไม่มีเวลาสนใจผู้อื่น มู่เฉียนซีก็ไม่คิดจะซ่อนทักษะวิญญาณของตนเองแล้ว
“มังกรวารีพิฆาต!”
พลังธาตุวารีแผ่ซ่านออกมา ทำให้บริเวณรอบ ๆ เย็นลงไม่น้อย
พลังธาตุวารีที่มู่เฉียนซีได้ระเบิดออกมานี้ นึกไม่ถึงว่าจะได้ผลมากกว่าทักษะวิญญาณพลังธาตุวารีที่ยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิเหล่านั้นใช้
พลังธาตุวารีที่แหวนนิรันดร์อย่างแหวนมังกรเทพวารีมอบให้นั้น แน่นอนว่าไม่ธรรมดาอยู่แล้ว!
ทว่า สิ่งที่น่าเสียดายนั้นก็คือ มู่เฉียนซีเป็นเพียงแค่จักรพรรดิแห่งภูตระดับสามเท่านั้น!
หากพลังวิญญาณของนางสูงกว่านี้หนึ่งขั้น พลังธาตุวารีอาจสามารถยับยั้งหนามเพลิงนี้และอาจจะฝ่าเส้นทางพาทุกคนออกไปอย่างปลอดภัยก็เป็นได้!
“ทักษะเทียนซวน!”
มู่เฉียนซียกแขนขึ้น และระเบิดพลังไปทางหนามเพลิงที่กำลังใกล้เข้ามานั้น
หลังจากที่หนามเพลิงเหล่านี้ได้ลิ้มรสเลือดเนื้อของมนุษย์ มันก็ยิ่งบ้าคลั่งขึ้น พวกมันต้องการกลืนกินมนุษย์เหล่านี้ทั้งหมด
ความโลภทำให้กำลังการต่อสู้ของพวกมันพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และผู้คนที่พัวพันกับการโจมตีของพวกมันก็เริ่มพ่ายแพ้ และถูกพวกมันม้วนเข้าไปในเปลวเพลิง!
มู่เฉียนซีได้พยายามใช้ทุกอุบายแล้ว ก็ทำได้เพียงแค่ปกป้องตัวเองเท่านั้น และอันที่จริงนางก็ได้รับบาดเจ็บไปทั่วทั้งตัวแล้ว
ครั้นแล้วมู่เฉียนซีจึงเอาอาวุธสังหารชิ้นสุดท้ายออกมา กระบี่มังกรเพลิง!
หลังจากที่มู่เฉียนซีได้ถ่ายเทพลังวิญญาณเข้าไปในกระบี่มังกรเพลิง ทันใดนั้นกระบี่ยาวเขรอะสนิมเล่มนี้ก็ได้ระเบิดแสงอันร้อนแผดเผาออกมา!
ชั่วพริบตาเดียว หนามเพลิงเหล่านี้ที่อยู่ตรงหน้ามู่เฉียนซีก็ได้สงบลง
ราวกับว่าได้เจอกับพลังการกดขี่ของดาวมฤตยูก็มิปาน จึงทำให้พวกมันต้องล่าถอย!
จวินโม่ซีก็กล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “สาวน้อย กระบี่เล่มนี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะสามารถยับยั้งพวกมันได้”
มู่เฉียนซีกล่าว “พลังธาตุอัคคีของเจ้าสำนักเฝินไม่แข็งแกร่งพอที่จะยับยั้งพวกมัน ก็เลยนึกถึงแค่พลังธาตุวารี แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่าตราบใดที่พลังธาตุอัคคีแข็งแกร่งพอ ก็จะสามารถยับยั้งพวกมันได้!”
นางรู้สึกว่าหอโอสถเคยบอกนางเอาไว้ ว่าเปลวเพลิงของกระบี่มังกรเพลิงเล่มนี้ของนางก็คือราชาแห่งเปลวเพลิง
ในตอนนี้เอง เสี่ยวหงก็กล่าวขึ้นว่า “นายท่าน ข้าหาประตูชีวิตของพวกมันเจอแล้ว แต่ด้านในเป็นที่ที่มีหนามเพลิงมากที่สุด ถูกปกป้องเอาไว้เป็นอย่างดี ข้าทำลายมันไม่ได้เลยขอรับ!”
มู่เฉียนซีมองไปทางเสี่ยวหง และกล่าวเสียงต่ำว่า “ตำแหน่งของมันอยู่ที่นั่น!”
“จวินโม่ซี ดูแลตัวเองด้วย! ข้าจะไปทำลายประตูชีวิตของหนามเพลิงนี่!”
ร่างในชุดม่วงเคลื่อนไหวอย่างอ่อนพลิ้วในสถานที่เปลวเพลิงนี้ เคลื่อนไหวไปอย่างสบาย ๆ และปรากฏตัวขึ้นอีกทางด้านหนึ่ง
สวบ สวบ สวบ! หนามเพลิงจำนวนมากโจมตีมาทางมู่เฉียนซี!
ปัง ปัง ปัง! มู่เฉียนซีถ่ายเทพลังวิญญาณเข้าไปในกระบี่มังกรเพลิง ค่อย ๆ กวัดแกว่งกระบี่ด้วยท่วงท่าที่สบาย จากนั้นก็ได้ตัดหนามเพลิงเหล่านั้นขาดสะบั้น!
หนามเพลิงอื่นหวาดกลัวจึงล่าถอยออกไป มู่เฉียนซีกำกระบี่มังกรเพลิงไว้แน่น และพุ่งไปยังที่ที่มีหนามเพลิงมากที่สุด
การกระทำนี้ของมู่เฉียนซีได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมาก
มีคนกล่าวขึ้นด้วยความตกใจว่า “พระเจ้า! สาวน้อยผู้นั้นไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง ถึงได้พุ่งเข้าไปที่ที่มีหนามเพลิงอยู่มากมายเช่นนั้น!”
“นี่นางจะฆ่าตัวตายหรือไง? แต่ก็ไม่ควรใช้วิธีโง่เขลาเช่นนี้นะ!”
“สาวน้อยผู้นี้เหมือนกับเป็นคนของหุบเขาหมอเทวดานะ นางเป็นหนึ่งในศิษย์สายตรงของท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดา!”
แม้แต่หัวหน้าหุบเขาซือคงกับซือคงชัวได้เห็นร่างอันคุ้นเคยนั้นก็คิดไม่ถึงเช่นกัน “นี่นางเป็นบ้าอะไรไป?”
ต่อมา ทุกคนก็ได้พบกับภาพอันน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง!
ทุกที่ที่มู่เฉียนซีได้ย่างกรายไป หนามเพลิงอันแน่นหนาเหล่านั้นไม่เพียงแต่ไม่โจมตีมู่เฉียนซี อีกทั้งยังหลบหนีนาง ราวกับนางเป็นสัตว์ร้ายที่น่ากลัวก็มิปาน
“นี่มัน……นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“ประหลาดเกินไปแล้ว!”
“……”
เจ้าสำนักเฝินในฐานะที่เป็นจอมภูตพลังธาตุอัคคีผู้แข็งแกร่งผู้หนึ่งกลับเห็นทางออกบางอย่างแล้ว!
เขาตะโกนขึ้นว่า “ทุกคนอดทนเอาไว้ บางทีสาวน้อยผู้นั้นอาจจะมีหนทางก็ได้! บางทีพวกเราอาจจะได้รับการช่วยเหลือ ตอนนี้ต้องอดทนเอาไว้ให้ได้!”
เมื่อคิด ๆ ดูแล้วก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลยแม้แต่น้อย พวกเขาล้วนแต่เป็นยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิกลุ่มหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าจะต้องให้สาวน้อยขั้นจักรพรรดิผู้หนึ่งช่วยชีวิต!
ทว่า สถานการณ์ในตอนนี้ เขาทำได้แค่เชื่อเท่านั้นว่าสาวน้อยผู้นั้นจะทำสำเร็จ นางจะสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นได้
ในสถานที่ที่อันตรายเป็นอย่างยิ่งนี้ อู๋ตี้ก็พบว่านายท่านของตนเองนั้นได้พรวดเข้ามาแล้ว
สิ่งนี้ทำให้มันตกใจจนแทบอยากจะพรวดไปปกป้องเจ้านายโดยไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น แต่สุดท้ายมันก็พบว่าทันทีที่หนามเพลิงเหล่านี้เจอนายท่าน พวกมันก็หวาดกลัว ไร้เรี่ยวแรงจะโจมตีแล้ว!
เสี่ยวหงตะโกนไปทางมู่เฉียนซีว่า “นายท่าน ทางนี้! ทางนี้นายท่าน!”