ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 862 เป็นคนแรก
“ผู้นำตระกูลมู่กลับมาแล้ว!”
“ท่านผู้นำตระกูลมู่ ทางนี้ขอรับ……”
เมื่อคนในวังเหล่านี้จำได้ว่าเป็นมู่เฉียนซี พวกเขาต่างก็ตื่นเต้น
“ผู้นำตระกูลมู่มาแล้ว ฝ่าบาทได้รับการช่วยเหลือแล้ว!”
“ผู้นำตระกูลมู่……”
ซวนหยวนหลี่เทียนที่ลมหายใจอ่อนลงเรื่อย ๆ ในตอนนี้ เมื่อได้ยินเสียงที่ดังอยู่ด้านนอกก็ตกใจไปชั่วขณะ “ผู้นำตระกูลมู่……”
“ซีเอ๋อร์……”
มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นอย่างขมขื่น “นี่ข้าหูฝาดก่อนจะตายอย่างนั้นเหรอ รู้ทั้งรู้ว่าซีเอ๋อร์ได้จากเซี่ยโจวไปแล้ว ต่อให้กลับมา ก็ไม่มีทางที่จะกลับมาเร็วเช่นนี้ได้”
ปัง!
ประตูห้องบรรทมของซวนหยวนหลี่เทียนถูกเปิดออก เขาหันหน้าไปมองก็ได้เห็นร่างที่คุ้นเคยมากร่างหนึ่ง
นี่ใช่ภาพมายาหรือไม่ แต่ต่อให้เป็นภาพมายา เขาก็ตายอย่างไม่เสียใจแล้ว
ฟึ่บ!
เสียงเสียงหนึ่งดังตัดผ่านอากาศ เข็มยาเข็มหนึ่งพุ่งไปปักตรงหัวใจของซวนหยวนหลี่เทียน
ความรู้สึกเจ็บปวดเกิดขึ้นตรงหัวใจ ซวนหยวนหลี่เทียนรู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน!
ปัง!
จากนั้นเขาก็หมดสติและหลับใหลไป
มู่เฉียนซีพรวดไปที่ข้างเตียงและตรวจดูอาการของเขา
บนร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย สามารถอดทนอยู่ได้ถึงตอนนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หากนางมาช้ากว่านี้ก้าวเดียว เกรงว่าคงจะได้จัดพิธีพระศพของฮ่องเต้เป็นแน่
เข็มยาหลายเข็มปักลงบนร่างของเขา มู่เฉียนซีเริ่มยับยั้งอาการบาดเจ็บของเขา และเทยามากมายลงไป
นางทำทุกอย่างจนสุดความสามารถ ในที่สุดก็ดึงเขาออกมาจากประตูแห่งความตายนั้นได้
มู่เฉียนซีกล่าว “ดูแลฝ่าบาทของพวกเจ้าให้ดี”
“ขอรับ ท่านผู้นำตระกูลมู่!”
จากนั้นเยวี่ยเจ๋อก็ได้มารายงานความเสียหายทั้งหมดที่เกิดจากมู่หรูเหยียน
มู่เฉียนซีกล่าว “จวนตระกูลมู่ต้องซ่อมแซมใหม่ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นสิ่งที่ท่านพ่อของข้าได้ทิ้งเอาไว้ให้ ใช้วัสดุที่ดีที่สุด เมื่อก่อนผู้นำตระกูลของพวกเจ้าไม่ได้ขาดแคลนเงินทอง ยิ่งตอนนี้แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง”
“ขอรับ!”
“หอหมอปีศาจที่ถูกทำลาย ก็ซ่อมแซมใหม่ทั้งหมด!”
“ขอรับ!”
“อีกอย่าง ไปสืบมาให้ข้า ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนเปิดเผยเรื่องของเจ้าสวะเซี่ย ได้เรื่องเมื่อไหร่ จัดการอย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว”
สถานที่ที่เก็บร่างของเชียนอ้าวเซี่ยนั้นมีเพียงแค่คนไม่กี่คนที่รู้ หากไม่มีคนเปิดเผยออกมา มู่หรูเหยียนไม่มีทางรู้เรื่องนี้ได้เร็วเช่นนี้แน่
“ขอรับ!”
เพิ่งจะกลับมาถึงเซี่ยโจวก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเช่นนี้แล้ว
มู่เฉียนซีก็รู้สึกปวดหัวมาก จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีเอาไว้ และกล่าวว่า “ซี ข้าอยากฆ่าเขา ซีไม่ต้องช่วยเขาแล้ว”
มู่เฉียนซีตกตะลึงขึ้น “ซวนหยวนหลี่เทียน เขายั่วโมโหเจ้าเหรอ?”
“เปล่า ก็แค่ต้องการให้เขาตายเท่านั้น!” ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นเผยความเย็นยะเยือกออกมา
เรื่องที่เกี่ยวกับซี เขายังไม่ลืม!
ซวนหยวนหลี่เทียน เคยเป็นคู่หมั้นของมู่เฉียนซี
มู่เฉียนซีในเมื่อก่อนชื่นชอบซวนหยวนหลี่เทียนมาก
ตอนนี้ซวนหยวนหลี่เทียนกระทำเรื่องสละชีวิตเช่นนี้เพื่อทำให้คนที่มู่เฉียนซีปกป้องไม่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้ซีไปมีใจให้กับเขาอีกครั้ง!
มู่เฉียนซีกล่าว “จิ่วเยี่ย ตั้งแต่ข้าได้พบกับเจ้าที่สุสาน ข้าก็ไม่ใช่มู่เฉียนซีคนเดิมอีกต่อไปแล้ว เจ้าไม่รู้สึกเหรอ?”
“ข้าไม่ใช่คนของโลกใบนี้ ไม่ว่าจะด้วยความบังเอิญหรือจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มันทำให้ข้าได้กลายเป็นมู่เฉียนซีในโลกนี้ แต่ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ใช่นางผู้นั้นแล้ว” สำหรับเรื่องนี้ มู่เฉียนซีก็ได้กล่าวออกมาตามตรง
“ซวนหยวนหลี่เทียน ข้าก็แค่ตอบแทนน้ำใจให้เขาก็เท่านั้นเอง”
มู่เฉียนซีโผตัวเข้าไปในอ้อมแขนที่แข็งแกร่งดุจดังเหล็กนั้น จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีเอาไว้แน่น
“คนแรกที่ซีได้พบเจอบนโลกใบนี้ ก็คือข้า!”
มู่เฉียนซีกล่าว “หากอาถิงไม่ใช่มนุษย์ เช่นนั้นเจ้าก็เป็นคนแรก”
“ศาลาเลือนรางเก้าชั้น ไม่ใช่มนุษย์แน่นอน!” แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ จิ่วเยี่ยก็ยังคงไม่พอใจอาถิงอยู่ดี
จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีแน่นอยู่นานมาก มู่เฉียนซีกล่าวถามเขาว่า “ไม่ฆ่าแล้วใช่หรือไม่?”
“ไม่ฆ่าแล้ว!” คนไม่สำคัญอันใด ไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องฆ่า
“ข้ามีความสุขยิ่งนัก!”
“มีความสุขยิ่งนัก!”
เจ้าหมอนี่เป็นสุข แต่ผู้ที่ต้องทุกข์ทนขมขื่นก็ยังคงเป็นนาง
มู่เฉียนซีดีดตัวออกจากเขา “หวงจิ่วเยี่ย เจ้าเกินไปแล้วนะ!”
เนื่องจากจวนตระกูลมู่ถูกทำลาย พวกเขาจึงได้อยู่ในหอฉงโหลวบนเมฆา ในนี้เงียบและสงบมาก ไม่มีผู้ใดรบกวน จิ่วเยี่ยก็เลยกระทำตัวเกินไปมากขึ้น
“ข้าทำเกินไปเหรอ?” ใบหน้าที่เย็นชานั้นของจิ่วเยี่ยดูไร้เดียงสาเป็นอย่างยิ่ง
“ซียังอยากจะจากไปอีกหรือไม่?” มู่เฉียนซีกล่าวเรื่องแปลกประหลาดออกมา แต่จิ่วเยี่ยกลับเชื่ออย่างไร้ซึ่งข้อสงสัย
ทว่า เมื่อคิดดูดี ๆ เขาก็ตกใจเล็กน้อย!
ความแข็งแกร่งของเขานั้นเพียงพออยู่แล้ว แต่สถานการณ์ของมู่เฉียนซีในตอนนี้กลับเกินกว่าที่เขาจะควบคุมได้แล้ว
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน อาเล็กไม่ได้บอกความจริงกับข้า ข้าก็เลยออกไปจากที่นี่ แม้แต่ตัวข้าเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเกิดอันใดขึ้นกับร่างของข้ากันแน่!”
ตั้งแต่ได้เจอกับอาเล็กครั้งแรก อาเล็กก็รู้ได้ทันทีว่าร่างนี้ได้เปลี่ยนไปเป็นคนอีกคนหนึ่ง แต่เขาก็ยังคงรักและทะนุถนอมนาง เห็นนางเป็นหลานโดยที่ไม่สนว่าวิญญาณในร่างจะเปลี่ยนไป
มู่เฉียนซีกล่าว “รอให้ข้ามีพลังที่แข็งแกร่งพอ ข้าจะต้องไขข้อข้องใจนี้ให้ได้!”
จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีแน่น “ต่อให้ซีจะไปในโลกที่ข้าไม่สามารถควบคุมได้ ข้าก็จะตามหาซีให้เจอให้จงได้!”
ด้วยอิทธิพลของหอหมอปีศาจกับตระกูลมู่ในเซี่ยโจวตอนนี้ ไม่นานนักก็ได้เบาะแสมาแล้ว
“นายท่าน ผู้ที่บอกความลับก็คือเชียนเซี่ยอวี้หวังขอรับ เป็นเพราะองค์รัชทายาทเซี่ยไม่ชอบบุตรสาวของนาง ทำให้บุตรสาวของนางเสียใจ ก็เลยจะกำจัดองค์รัชทายาทเซี่ยขอรับ”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา “เชียนเซี่ยอวี้หวัง จัดการตัวการทั้งหมดให้สิ้น แล้วชี้แจงเรื่องนี้ไปยังฮ่องเต้แห่งแคว้นเฉียนเซี่ย”
“ขอรับ!”
ด้วยฮ่องเต้ผู้ที่รักและทะนุถนอมโอรสเป็นอย่างยิ่ง เขาจะต้องสนับสนุนอย่างแน่นอน
หลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น มู่เฉียนซีก็ยังคงปวดหัวอยู่เล็กน้อย
เป็นเพราะมู่หรูเหยียน!
หากมู่หรูเหยียนย้อนกลับมาเซี่ยโจวแล้วแก้แค้นอีกครั้ง นางกลับมาไม่ทัน แล้วจะเป็นเช่นไร
นางนั่นยังไม่ตาย แต่ก็เป็นระเบิดเวลาที่อันตรายมาก
จำเป็นต้องรีบหาตัวหญิงผู้นั้นให้เจอ จากนั้นก็จัดการไปซะให้สิ้นซาก
มู่เฉียนซีได้เรียกรวมตัวองครักษ์เงาของตระกูลมู่มาโดยพร้อมเพรียง นางยิ้มพลางกล่าวว่า “ทุกคนมากันครบแล้ว ตอนนี้ พวกเจ้าทั้งหมดรีบลงมือกับข้าได้เลย!”
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “ลงมือกับท่านผู้นำตระกูลอย่างนั้นเหรอ?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ใช่ ลงมือกับข้า ผู้ที่สามารถอดทนได้ถึงตอนสุดท้าย ข้ามีรางวัลให้ อย่ามัวแต่ลังเลอยู่เลย ลงมือกับข้า นี่เป็นคำสั่งของผู้นำตระกูล ข้าจะดูสักหน่อยว่าพวกเจ้าก้าวหน้าไปถึงไหนกันแล้ว!”
“รับคำสั่งท่านผู้นำ!” พวกเขาทำได้เพียงแค่พยักหน้าตอบรับแล้ว
ตูม ปัง ปัง!
ทันทีที่พวกเขาเริ่มโจมตี แม้แต่ร่างของมู่เฉียนซีก็ยากที่จะหาเจอ
“ทักษะตี้ซวน!”
“ทักซะเทียนซวน!”
“มังกรวารีพิฆาต!”
เยวี่ยเจ๋อที่ยืนดูอยู่ข้าง ๆ ตกใจเป็นอย่างยิ่ง “นับวันพี่ใหญ่ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว เกรงว่าเหล่าองครักษ์เงาต้องถูกซ้อมจนน่าสังเวชเป็นแน่!”
น่าหลานอวี้กล่าว “เฉียนซีเป็นผู้ที่วิปริตมาโดยตลอด กลับมาครั้งนี้ก็ยิ่งวิปริตมากขึ้น”
มู่เฉียนซีกล่าว “ใครที่ยังลุกยืนขึ้นมาได้ ลุกขึ้นมา!”
“ขอรับ!”
“มังกรเพลิงสังหาร!”
จากนั้นก็ตามด้วยกระบวนท่า “บัวแดงพิฆาต!”
ตูม ปัง ปัง!
หลังจากการโจมตีอย่างต่อเนื่องนี้จบลง นึกไม่ถึงเลยว่ามีองครักษ์เงาหกสิบคนที่ลุกยืนขึ้นมาได้ มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ไม่เลวเลย!”
นางเอาเม็ดยากระดูกมังกรออกมาหกสิบเม็ด ถึงแม้ว่ายากระดูกมังกรจะเป็นยาที่ล้ำค่ามาก แต่สำหรับคนของตนเองแล้วนางไม่ตระหนี่ถี่เหนียวแน่นอน!
องครักษ์เงาที่ได้กินยากระดูกมังกรเหล่านั้น เฝ้าปกป้องอยู่ที่ฐานที่มั่นในเซี่ยโจวเป็นจำนวนสิบคน ส่วนที่เหลือทั้งหมดติดตามนางไปที่แดนใต้
คนเหล่านั้นที่มู่หรูเหยียนนำมา แข็งแกร่งสุดก็คือขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหก
ตอนนี้ความแข็งแกร่งขององครักษ์ถึงขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตระดับหกแล้ว อีกทั้งพลังของยากระดูกมังกรทำให้พวกยากที่จะมีศัตรูในระดับเดียวกัน
ต่อให้มู่หรูเหยียนกลับมาลงมืออีกครั้ง และผลีผลามเช่นนี้อีก ฝันไปเถอะว่าจะทำได้!
มู่เฉียนซีมองไปที่เยวี่ยเจ๋อและถามว่า “เยวี่ยเจ๋อ เจ้าเลือกที่จะอยู่ที่นี่หรือจะไปกับข้า?”