ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 864 ความโลภและดื้อรั้น
“ไม่ได้ราบรื่น เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” มู่เฉียนซีกล่าวถาม
“เรื่องนี้ เจ้าสำนักเฝินบอกว่าเมื่อท่านไปถึงทวีปเหยียนโจวแล้วก็จะได้รู้ชัด เรื่องนี้รอให้นายท่านไปด้วยตนเองก็จะรู้”
มู่เฉียนซีกล่าว “ได้ ออกเดินทางไปยังทวีปเหยียนโจวเดี๋ยวนี้”
โม่จิ่นพยักหน้า “เช่นนั้นข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”
มู่เฉียนซีเดินทางไปยังทวีปเหยียนโจวและจิ่วเยี่ยที่ยังไม่กลับไปยังแดนคุกก็ได้ติดตามมาด้วย
เจ้าสํานักเฝินไม่ได้ให้มู่เฉียนซีไปหาเขาที่สํานักเฝินเยี่ยน แต่มารอมู่เฉียนซีที่เมืองเหยียนโจวด้วยตนเองแทน
แต่เมื่อเขาเห็นมู่เฉียนซีและโม่จิ่นมาเขาก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
“หมอปีศาจ ไม่ได้มาด้วยหรือ?” เจ้าสำนักเฝินกล่าวถาม
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้ามู่เฉียนซีก็สามารถเป็นตัวแทนของหอหมอปีศาจได้ เจ้าสำนักเฝินพูดมาได้เลย!”
“เช่นนั้น แม่นางมู่ ตามข้ามา!” เจ้าสำนักเฝินกล่าว
เจ้าสำนักเฝินนั่งลงที่โรงน้ำชาที่ดีที่สุดในทวีปเหยียนโจว มู่เฉียนซีกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “เจ้าสำนักเฝิน การซ่อมแซมค่ายกลส่งระยะไกลนั้นไม่อาจล่าช้าได้ ข้าสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าสำนักเฝิน”
เจ้าสํานักเฝินกล่าว “หินแห่งมิติไม่ใช่ว่าไม่เพียงพอ แต่เป็นปรมาจารย์เฉียที่ต้องการหินแห่งมิติระดับสุดยอดที่สุดของเจ้า หินแห่งมิติอื่น ๆ ล้วนไม่ต้องการจากเจ้า”
มู่เฉียนซีกล่าว “ปรมาจารย์เฉียได้ร้องขอออกมาเช่นนี้ หินแห่งมิติระดับสุดยอดหนึ่งพันก้อน เขาไม่ต่างกับการปล้นสะดมกัน”
“หินแห่งมิติคุณภาพดีหนึ่งพันก้อนนั้นหาได้ยากนัก ดังนั้นข้าจึงอยากปรึกษาหารือกับหมอปีศาจ” เจ้าสำนักเฝินกล่าว
“เรื่องนี้ จะปรึกษากันอย่างไร?” ในมือนางยังมีหินแห่งมิติอยู่ไม่น้อย แต่นางก็ไม่สามารถถูกหลอกโดยคนไร้คุณธรรมได้
“ดังนั้น ข้าจึงอยากถามว่าในมือหมอปีศาจยังมีเหลืออยู่อีกเท่าไหร่ เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราสามารถพูดคุยกับปรมาจารย์เฉียได้! และหวังว่าเขาจะไม่ทําเกินไป”
แม้ว่าเจ้าสำนักเฝินจะเป็นเจ้าสำนักนิกายใหญ่อันดับหนึ่งของทวีปเหยียนโจว แต่ก็ไม่กล้าที่จะตรงไปตรงมากับคนเพียงคนเดียวที่สามารถซ่อมแซมค่ายกลส่งระยะไกลได้
มู่เฉียนซีกล่าว “เช่นนั้น ตอนนี้ข้าจะไปกับเจ้าสํานักเฝินและพูดคุยกับปรมาจารย์เฉียด้วยตัวเอง!”
“เจ้าจะไป? ไม่ใช่หมอปีศาจหรอกหรือ?” เจ้าสำนักเฝินคิดว่าหมอปีศาจไปจะโน้มน้าวใจได้มากกว่า
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าสำนักเฝินไม่ต้องมาสงสัยเรื่องนี้แล้ว ท่านเพียงแค่รู้ว่าข้าสามารถเป็นตัวแทนของหมอปีศาจได้ก็พอ”
เจ้าสํานักเฝินกล่าว “ในเมื่อหมอปีศาจเชื่อใจเจ้า เช่นนั้นข้าก็ไม่มีอะไรจะต้องพูดแล้ว ตอนนี้รีบออกเดินทางไปพบปรมาจารย์เฉียกันเถอะ!”
มู่เฉียนซีพยักหน้า “ตอนนี้พวกเราไม่สามารถชักช้าได้ จำเป็นต้องรีบปรึกษากัน”
ปรมาจารย์เฉียอาศัยอยู่ในทะเลไผ่ป่าเพลิงที่มีชื่อเสียงของทวีปเหยียนโจว สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยป่าไผ่ที่ราวกับเปลวเพลิงที่ลุกโชนก็มิปาน
ในทะเลไม้ไผ่แห่งนี้มีบ้านไม้ไผ่หลังหนึ่งที่สวยงาม
เมื่อพวกเขาก้าวเข้ามา ก็ได้มีเสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งดังออกมา
“เอาหินแห่งมิติระดับสุดยอดมาด้วยหรือไม่?”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้านําหินแห่งมิติระดับสุดยอดมา แต่เจ้าเสนอมาก่อนเถอะ! ว่ามันต้องใช้เท่าไหร่กันแน่ในการซ่อมแซมค่ายกลส่งระยะไกล”
“ค่ายกลส่งระยะไกลนั่นได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวงนัก มันจำเป็นต้องใช้หินแห่งมิติระดับสุดยอดถึงสามพันก้อน ข้าถึงจะสามารถซ่อมแซมได้!”
มู่เฉียนซีโกรธจัด “ปรมาจารย์เฉีย ท่านจะขึ้นราคาเช่นนี้จริง ๆ หรือ? เมื่อไม่นานมานี้ยังบอกว่าหินแห่งมิติระดับสุดยอดหนึ่งพันก้อนอยู่เลย ตอนนี้กลับมีราคาถึงสามพันก้อน”
“ความแข็งแกร่งของข้ามีจํากัด ในเมื่อพวกเจ้าโชคดีได้หินแห่งมิติมาก็ไร้ประโยชน์! ทําไมไม่มอบมันให้กับข้าทั้งหมด” เสียงของปรมาจารย์เฉียดังออกมา
“ปรมาจารย์เฉีย ท่านนอย่าโลภมากนักเลย!”
“โลภ! สาวน้อยจากไหนกันที่ไม่รู้มารยาท!” เสียงโกรธดังออกมาและประตูบานใหญ่นี้ก็ได้เปิดออก
ปัง!
ชายวัยกลางคนที่มีหนวดเคราและผมยาวสีแดงเดินออกมา
สายตาของเขาจับจ้องไปที่มู่เฉียนซี “ที่แท้ก็เป็นสาวน้อยที่ยังไม่โต ไม่แปลกใจเลยว่าทําไมถึงได้ไม่รู้มารยาทขนาดนี้”
เจ้าสํานักเฝินกล่าว “ปรมาจารย์เฉีย เรื่องนี้พวกเราสามารถค่อย ๆ พูดคุยกันดี ๆ อีกทีได้ไหม? แม้ว่าพวกเราจะโชคดีพอที่จะพบหินแห่งมิติ แต่ถึงอย่างไรมันก็มีจํานวนจํากัด และหินแห่งมิติระดับสุดยอดก็มีน้อยมากเช่นกัน”
“พูดคุย! ไม่มีอะไรต้องคุยกัน ในเมื่อพวกเจ้าพยายามหาหินแห่งมิติจนเจอได้ครั้งหนึ่ง ก็ต้องสามารถหาหินแห่งมิติเป็นครั้งที่สองได้เช่นกัน”
เจ้าสำนักเฝินเองก็จนปัญญาเช่นกัน “ครั้งนี้เพื่อที่จะตามหาหินแห่งมิติ มันต้องเสี่ยงต่อการทําลายล้างของทุกสํานักในแดนใต้ หากเกิดโชคไม่ดีเกรงว่ากองทัพคงจำได้ถูกทําลายไปจริง ๆ”
ปรมาจารย์เฉียกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าเพียงต้องการหินแห่งมิติ ส่วนเรื่องอื่น มันไม่ได้เกี่ยวกับข้า!”
ปรมาจารย์เฉียแสดงความเย็นชาต่อคนนอกออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงเย็นชา “มันไม่เกี่ยวกับเจ้า? เจ้าไม่ได้เกิดในแดนใต้นี้หรอกรึ? ในฐานะผู้ที่สามารถซ่อมแซมค่ายกลส่งระยะไกลได้ เจ้ากลั่นแกล้งทุกคนเช่นนี้ มีข้อคัดค้านรึ?”
“ปรมาจารย์เฉีย ทุกอย่างให้มันพอเหมาะพอควรเถอะ!” ใบหน้าของมู่เฉียนซีฉายแววเย็นชา
“พอเหมาะพอควร!?” ใบหน้าของปรมาจารย์เฉียก็ฉายแววหงุดหงิดเช่นกัน
“สาวน้อย น้ำเสียงของเจ้าช่างหยิ่งยโสเกินไปแล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าจะให้หินแห่งมิติระดับสุดยอดให้เจ้าอีกสิบก้อน เจ้าต้องสัญญาว่าจะซ่อมค่ายกลส่งระยะไกล ตกลงไหม?”
“สิบก้อน นี่เจ้ากําลังจะเกินไปหน่อยไหม? สามพันก้อน สักก้อนต้องไม่ขาด” ปรมาจารย์เฉียกล่าว
“ปรมาจารย์เฉีย ถ้าท่านดื้อรั้นเช่นนี้ล่ะก็ อย่าให้ข้าต้องใช้วิธีพิเศษ ข้ามักจะทําทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุประสงค์” มู่เฉียนซีตั้งใจจะเอาจริงกับเจ้าหมอนี่แล้ว
เจ้าสํานักเฝินกล่าว “แม่นางมู่ นี่มันไม่ดีเลย! ถึงอย่างไรเขาก็…”
มู่เฉียนซีกล่าว “แม้ว่าเขาจะเป็นสายพันธุ์ที่หายากแล้วจะอย่างไร? เขาโลภมากและดื้อรั้นเช่นนี้ และอย่างไรก็ไม่รับปากคําขอของเรา”
ปรมาจารย์เฉียก็โกรธเช่นกัน “สาวน้อย เจ้าว่าใครโลภมากและดื้อรั้นกันแน่!”
“ก็เจ้าไง!” มู่เฉียนซีถลึงตาใส่เขา
“เจ้าสำนักเฝิน ถ้าเจ้าไม่อยากลงมือ ก็ให้ข้าลงมือเอง!”
สีหน้าของปรมาจารย์เฉียซีดเผือด “ลงมือ สาวน้อย ข้าจะคอยดูว่าเจ้าวางแผนจะลงมือกับข้าอย่างไรกันแน่?”
กล่าวจบ ลมกระโชกแรงก็ปรากฏขึ้นจากด้านหลังของมู่เฉียนซี
ปรมาจารย์เฉียผู้นี้เข้าใจกลอุบายมิติเล็กน้อย แต่การโจมตีเพียงเล็กน้อยนี้ยังห่างชั้นกับมังกรปีศาจจ่านคงอยู่มาก
เจ้าสํานักเฝินร้อนใจและตะโกนว่า “ปรมาจารย์เฉีย ท่านอย่าโกรธไปเลย”
มู่เฉียนซีอยากจะหลบแต่ทันใดนั้นเงาร่างสีดําก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของมู่เฉียนซี การโจมตีนั้นได้เปลี่ยนเส้นทางและพุ่งเข้าใส่ปรมาจารย์เฉีย
ดวงตาของปรมาจารย์เฉียหดแคบลง เขามองไปที่ดาบมิตินั่นที่พุ่งเข้ามา เขาพบว่าตัวเองไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย
เจ้าสํานักเฝินกล่าว “แม่นางมู่ อย่าฆ่าท่านปรมาจารย์เฉีย”
“อ๊า!”
เลือดสด ๆ ก็ไหลออกมาพร้อมกับเสียงกรีดร้อง แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บถึงชีวิต แต่ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดขึ้นมา
เขามองไปที่ชายที่สวมหน้ากากและดูเหมือนปีศาจ ก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ การโจมตีของเขาถูกป้องกันไว้ได้อย่างสบาย ๆ อีกทั้งยังโจมตีย้อนกลับมา
ถ้าชายผู้นี้ต้องการให้เขาตาย เช่นนั้นเขาก็คงต้านทานไว้ไม่ได้แน่ “พวกเจ้านี่มันเยี่ยมจริง ๆ!” ปรมาจารย์เฉียกล่าวอย่างดุเดือด