ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 876 การรักษาที่โหดร้าย
มู่เฉียนซีกล่าว “ราชาสัตว์ศิลาดํา จงนำดอกกล้วยไม้หงส์ดำออกมาให้ข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะเผาของของเจ้าแล้ว”
ราชาสัตว์ศิลาดำตกใจมาก สาวน้อยผู้นี้ยังไม่ตาย แต่กลับมาพบที่นี่
มันตะคอกเสียงดัง “สาวน้อย คราวที่แล้วข้าประมาทศัตรูมากเกินไปถึงได้รับบาดเจ็บจากเจ้า เจ้าคิดว่าครั้งนี้ข้าจะไม่ทันตั้งตัวหรือ? ออกไปก็ออกไป ใครจะกลัวเจ้า?”
ตูม!
ราชาสัตว์ศิลาดำได้พุ่งออกไป
ขณะที่มันพุ่งออกไป วัตถุขนาดใหญ่ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของมันและปิดกั้นที่ปากถ้ำของมันไว้
มู่เฉียนซีและเสี่ยวหงอยู่ทางซ้ายและขวาของมัน ราชาสัตว์ศิลาดำกล่าว “สัตว์ศักดิ์สิทธิ์สองตัว เจ้าต้องการหนึ่งต่อสามหรือ?”
มู่เฉียนซีหัวเราะพลางกล่าว “ก่อนหน้านี้เจ้าก็รังแกคนที่อ่อนแอกว่า ตอนนี้ข้าจะสามรุมหนึ่ง เจ้ามีความเห็นอย่างไร? แม้ว่าเจ้าจะไม่เห็นด้วยก็ไม่มีประโยชน์ อู๋ตี้ เสี่ยวหง จัดการซะ!”
“จัดการจนกว่าเจ้านี่จะยอมจำนน”
หญิงสาวที่หยิ่งยโส เมื่อต่อสู้ขึ้นมาราวกับภูเขาไฟระเบิดก็มิปาน คนเช่นนี้สมควรเป็นผู้บำเพ็ญภูตธาตุไฟถึงจะถูก!
แต่สิ่งที่ทําให้กู้ไป๋อีพูดไม่ออกก็คือ หญิงสาวผู้นี้เป็นผู้บำเพ็ญภูตธาตุน้ำที่อ่อนโยนที่สุดผู้หนึ่ง
โฮก!
ภายใต้การทิ้งระเบิดอย่างบ้าคลั่งของมู่เฉียนซีและสัตว์พันธสัญญาทั้งสองตัวของนาง ราชาสัตว์ศิลาดำไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
ปัง ปัง ปัง!
ร่างของหินศิลาขนาดใหญ่นั่นถูกกระแทกจนแตกกระจาย
มู่เฉียนซีเอ่ยขึ้น “ส่งดอกกล้วยไม้หงส์ดำมาให้ข้า”
ราชาสัตว์ศิลาดํากล่าว “ข้าเก็บดอกกล้วยไม้หงส์ดำไว้ในถ้ำ หากเจ้าต้องการ ก็ตามข้าเข้าไปเอา!”
“เข้าไปเอา! เจ้าหมอนี่คงไม่ได้มีอุบายอะไรหรอกกระมัง!” เสี่ยวหงกล่าวด้วยความชั่วร้าย
ราชาสัตว์ศิลาดำกล่าว “หากพวกเจ้าไม่กล้าตามข้ามา เช่นนั้นต่อให้พวกเจ้าสังหารข้า ข้าก็จะไม่มอบดอกกล้วยไม้หงส์ดำออกมาให้เช่นกัน”
อู๋ตี้กล่าว “ไม่ว่ามันจะมีอุบายอะไร เมื่อถึงเวลานั้นก็ฆ่ามันให้ตายซะก็ได้แล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าว “นําทางไป!”
ราชาสัตว์ศิลาดำค่อย ๆ เดินเข้าไปในถ้ำของตัวเอง มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เสี่ยวไป๋ เจ้าเองก็เข้าไปด้วย!”
กู้ไป๋อีไม่ได้ตอบอะไรเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวว่ากําลังเรียกเขา มู่เฉียนซีจึงกล่าวขึ้นว่า “เสี่ยวไป๋ หากเจ้าอยากเป็นอาหารให้สัตว์วิญญาณอยู่ข้างนอก เจ้าจะไม่ตามเข้ามาก็ได้”
กู้ไป๋อีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้าวเท้าเดินตามมู่เฉียนซีเข้าไป
ถ้ำของราชาสัตว์ศิลาดำมีขนาดใหญ่มาก ภายในถ้ำที่ว่างเปล่านี้ ดอกไม้ที่ดูเหมือนหงส์ดํากําลังกางปีกอยู่ด้านหน้า ร่างสีม่วงพุ่งเข้าไป มู่เฉียนซีไปหยิบดอกกล้วยไม้หงส์ดำ!
ตูม!
ในเวลานี้ทั้งถ้ำเริ่มจมลง
ตูม!
มู่เฉียนซี กู้ไป๋อี เสี่ยวหง และอู๋ตี้ต่างตกลงไปทั้งหมด ราชาสัตว์ศิลาดำได้เตรียมการไว้นานแล้ว จึงคว้าก้อนหินที่มีความมั่นคงก้อนหนึ่งไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองตกลงไป
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ราชาสัตว์ศิลาดำ เจ้ามันรนหาที่ตายชัด ๆ!”
“หึหึหึ! สาวน้อย นั่นก็ต้องดูว่าเจ้ามีความสามารถที่จะปีนขึ้นมาได้หรือไม่”
ปัง!
ราชาสัตว์ศิลาดำออกมาจากถ้ำของตนเอง และย้ายหินสีดําจํานวนมากออกมาปิดกั้นทางเข้าถ้ำเอาไว้
เว้นเสียแต่ว่าพวกเขาจะมีความสามารถที่จะพุ่งออกมาจากพื้นดินได้ มิเช่นนั้นพวกเขาก็รอที่จะตายอยู่ในนี้ได้เลย!
ปัง!
หลังจากที่อู๋ตี้ร่วงลงสู่พื้น ร่างกายของมันก็กลายเป็นใหญ่ขึ้นมาจากนั้นก็รับมู่เฉียนซีไว้!
เมื่อตกลงบนร่างที่อ่อนนุ่มของอู๋ตี้ มู่เฉียนซีย่อมไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เสี่ยวหงตะโกนว่า “เจ้าแมวโง่ รับข้าไว้ ข้าจะตกลงไปตายอยู่แล้ว!”
อู๋ตี้หลบไปอย่างไร้ความปราณีและกล่าวว่า “เจ้าหมูขี้เกียจ หนังของเจ้าหนามาก ถ้าตกลงมาตายก็แปลกแล้ว ข้าเป็นเบาะรองเฉพาะของนายท่านไม่ใช่หมูขี้เกียจอย่างเจ้า”
ปัง!
เสี่ยวหงออกจากหลุมขนาดใหญ่บนพื้นทันที
เสี่ยวหงเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แน่นอนว่าไม่เป็นไร แต่หลังจากที่เงาร่างสีขาวตกลงมามู่เฉียนซีก็ได้ยินเสียงใสกังวานเสียงหนึ่ง!
กร๊อบ!
กู้ไป๋อีที่ไม่มีพลังวิญญาณปกป้องร่างกาย กระดูกบนร่างหักไปไม่น้อย
แต่ใบหน้าของเขากลับไม่ได้แสดงความเจ็บปวดใด ๆ ราวกับหิมะน้ำแข็งที่ไม่เคยละลายมานับหมื่นปีก็มิปาน
มู่เฉียนซีเดินอยู่ข้าง ๆ เขาแล้วกล่าวว่า “เสี่ยวไป๋ เจ้าช่างน่าอนาถนัก ซี่โครงหักไปเจ็ดซี่ ขาและมือก็หักเช่นกัน เช่นนี้เจ้าคงเดินไม่ไหวแล้ว จะอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตหรือไม่?”
กระดูกหักกู้ไป๋อีไม่ขมวดคิ้วแม้แต่นิดเดียว แต่เมื่อได้ยินคํากล่าวของมู่เฉียนซี คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย
เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “สาวน้อย เจ้ารักษาไม่ได้หรือ?”
มู่เฉียนซีหัวเราะ “สาวน้อย ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้เรียกข้าเช่นนี้นี่? ถ้าเจ้าอยากที่จะฟื้นคืนสู่สภาพปกติ ก็ต้องสุภาพกับข้าหน่อย”
บาดแผลภายนอกนี้ไม่ได้หนักหนานัก ขอเพียงมีพลังวิญญาณและเม็ดยา ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ในเร็ววัน
แต่ตอนนี้เขาไม่มีอะไรเลย
เขาเงยหน้ามองหญิงสาวที่มองเขาอย่างหัวเราะเยาะ ท่าทางไม่สุภาพนั่นทําให้เขาอยากจะบีบคอนางให้ตาย แต่ในตอนนี้มีเพียงนางเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเขาได้
มู่เฉียนซีกล่าว “ถ้าเจ้าอยากเดินได้ตามปกติ ก็ขอร้องให้ข้าช่วยเจ้า! ถ้าเจ้าไม่ขอร้องข้า ข้าจะไปหาทางออก และไม่สนว่าเจ้าจะบาดเจ็บแค่ไหน”
นางเรียกอู๋ตี้กับเสี่ยวหง คิดจะหันกลับแล้วจากไป
ไป๋อีผู้โดดเดี่ยวมองตามแผ่นหลังของมู่เฉียนซีแล้วกล่าวว่า “คุณหนูใหญ่ ได้โปรด… ช่วยข้าด้วย!”
หมาป่าหิมะที่หยิ่งยโสและเย็นชาราวกับอยู่บนภูเขาหิมะนี้ เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ ก็ต้องก้มหน้าที่หยิ่งยโสลง
มู่เฉียนซีหัวเราะพลางกล่าว “คําขอนี้ค่อนข้างจริงใจ ข้าเองก็ไม่อยากตายที่นี่เช่นกัน เพราะโลกนี้ช่างงดงามยิ่งนัก!”
นิ้วเรียวบางกําลังจะเข้าใกล้ใบหน้าที่เย็นชานั่นของกู้ไป๋อี
กู้ไป๋อีเบือนหน้าหนีอย่างเฉยเมย แต่มู่เฉียนซีกลับใช้มือโอบรอบแขนของเขา!
กร๊อบ!
กร๊อบ!
“……”
เขาไม่ทันเห็นฝีมือของสาวน้อยผู้นี้เลย ได้ยินเพียงเสียงกระดูกที่ดังขึ้นเท่านั้น
เหงื่อเย็น ๆ ไหลหยดออกมาจากหน้าผากของเขา เขากัดริมฝีปากแน่นแต่ไม่ยอมร้องออกมา
มู่เฉียนซีตบมือ ยิ้มพลางกล่าวว่า “เสร็จแล้ว เจ้าน่าจะเดินได้แล้ว!”
หากเป็นผู้ป่วยทั่วไปหลังจากจัดกระดูกแล้วก็ต้องกินยา แต่สําหรับเชลยของฝ่ายศัตรูที่พบเจอโดยไม่ได้ตั้งใจผู้นี้ มู่เฉียนซีย่อมไม่ให้ประโยชน์อะไรกับเขามากนัก
นางมองกู้ไป๋อีด้วยสายตาซับซ้อน บุรุษผู้นี้มีจิตใจที่เข้มแข็งดุจหิมะที่หนาวเหน็บหมื่นปี และเด็ดเดี่ยวอย่างหาที่เปรียบมิได้
ถ้าเขาไม่ใช่คนของตําหนักเป่ยหาน นางคงชื่นชมคนประเภทนี้และเต็มใจที่จะสร้างมิตรภาพที่ดี แต่น่าเสียดายที่พวกเขาอยู่คนละฝ่าย และถูกกําหนดให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่ได้
กู้ไป๋อีพบว่าตนเองสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว นางเพียงขยับมือที่บาดเจ็บเช่นนี้ กระดูกที่หักทั้งหมดก็กลับเข้าที่
เขาไม่เคยเห็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้มาก่อน!
เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนและเดินตามมู่เฉียนซีไปอย่างเงียบ ๆ
มู่เฉียนซีมองไปที่รอยรอบด้านอย่างพิจารณาแล้วกล่าวว่า “รอยแยกใต้ดินนี้เป็นรอยใหม่ คาดว่าคงจะเป็นเจ้าทำให้มันเกิดขึ้นตอนข้ามไป นั่นถึงทำให้สัตว์ศิลาดำนั่นหาหนทางลอบกัดข้าได้ แต่ว่า….”
มู่เฉียนซีหยิบดอกกล้วยไม้หงส์ดำออกมา และกล่าวอย่างมีความสุขว่า “โชคดีที่ดอกกล้วยไม้หงส์ดำไม่เป็นไร”
กู้ไป๋อีกล่าวอย่างเย็นชา “เพื่อดอกไม้ดอกเดียว เจ้าถึงกับต้องเข้ามาเสี่ยงชีวิตเลยหรือ?”