ท่านเทพมาแล้ว - ท่านเทพมาแล้ว - ตอนที่ 142 สังหารคนชดใช้ด้วยชีวิต
ไหนเลยจะรู้ว่าคนคนนี้ได้ยินนางเรียกว่าท่านผู้เฒ่าก็ยิ่งโกรธเกรี้ยว ออกกระบวนท่าสิบกว่าท่าเสียงเปรี้ยงปร้าง มู่จิ่วในที่สุดก็พ่ายแพ้ ขณะที่หมุนตัวจะหนีเขากลับสะบัดแขนเสื้อใส่ใต้เท้า เท้าขวาเหยียบลงบนเอวนาง พูดว่า “ข้าถามเจ้า ครึ่งปีก่อนเจ้าสังหารมังกรไฟที่เกาะเป่ยอี๋หรือไม่?”
มังกรไฟ?
มู่จิ่วมีเสียงหึ่งๆ ดังในศีรษะ มังกรไฟเฉินผิงคือลูกชายของคนตรงหน้าหรือ? เช่นนั้นเขาก็คือราชามังกรแห่งทะเลสาบน้ำแข็ง?!
เรื่องนี้ทำให้นางอดตกใจจนหลั่งเหงื่อเย็นๆ ออกมาไม่ได้ สวรรค์! คิดไม่ถึงว่าราชามังกรจะมาแก้แค้นจริง?
“เรื่องนั้น…ข้าอธิบายได้…”
ตอนนั้นลู่ยาเคยเตือนนางแล้วว่าราชามังกรทะเลสาบน้ำแข็งกับหงส์เพลิงล้วนไม่ควรไปแหย่ด้วย ผ่านไปนานขนาดนี้นางยังเข้าใจว่าพวกเขาละวางเรื่องนี้แล้ว คิดไม่ถึงว่ากลับมาหา! ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?
เฉินผิงเป็นนางสังหารไป ตอนนั้นหากนางไม่สังหารเขานางก็ต้องตายเอง แต่ตอนนี้อย่างไรนางก็ไม่สามารถให้เขาสังหารนางเปล่าๆ มิใช่หรือ?
อีกอย่าง ตอนนั้นใครล้วนต้องมองเฉินผิงเป็นปีศาจมาฆ่าคนจริงหรือไม่?
“ข้าไม่สนว่าเจ้าเข้าใจผิดหรือไม่ ใครก็ได้! จับกลับไปฆ่าบูชาองค์ชาย!”
ราชามังกรแห่งทะเลสาบน้ำแข็งร้องเสียงดัง ด้านหลังมีนายพลปูถือหอกยาวออกมาหลายตัว พุ่งเข้าหามู่จิ่ว มัดนางทั้งมือทั้งเท้า จากนั้นผลักนางเข้าไปในเมฆวนนั้น แล้วเคลื่อนผ่านเขาฉีจื่อ มุ่งหน้าไปทางเกาะเป่ยอี๋ แม้แต่เวลาจะเรียกสหายร่วมงาน มู่จิ่วก็ยังไม่มี!
“รีบไปรายงานสวรรค์!”
เซียนลูกท้อเห็นสถานการณ์แล้วจึงรีบเรียกเหล่าพี่สาวน้องสาวให้เคลื่อนไหว เจ้าหน้าที่เซียนที่มาช่วยนางคลี่คลายคดีกลับโดนคนร้ายจับไปแล้ว พวกนางแบกรับโทษไม่ไหว!
มู่จิ่วถูกผลักเข้าไปในกลางน้ำวน เบื้องหน้ารู้สึกได้ถึงไอเย็นขุมหนึ่ง
เมื่อครู่มองดูเมฆวนจากด้านนอกก็เป็นเพียงแค่กลุ่มเมฆเท่านั้น แต่เมื่อถูกม้วนเข้ามาแล้วถึงได้รู้ว่าที่แท้ในนี้คือหลุมน้ำแข็ง! รอบด้านเป็นน้ำเเข็งเย็นเยียบ หากไม่ใช่ตัวนางมีลูกโลหิตมังกรไฟคุ้มครองอยู่ เกรงว่ายังไม่ทันได้เห็นหน้าศัตรูก่อนก็โดนแช่แข็งตายแล้ว
หลุมน้ำแข็งนี้หมุนอยู่ตลอด นางก็หมุนด้วยไม่หยุด พลังลมปราณในนี้ทำให้นางไม่มีหนทางหยุดได้ แต่นางต้องหาวิธีออกไปให้ได้! มิฉะนั้นแล้วแม้แต่ตายอย่างไรนางก็คงไม่รู้!
นางชักกระบี่ขึ้นมาแทงผนังน้ำแข็งทันที หลุมน้ำแข็งนั้นส่งเสียงปริร้าวทีหนึ่ง แต่ห่างไกลจากการแตกออกนัก
ทิ่มแทงอีกก็เหมือนเดิม
สิ่งที่นางเป็นเลิศที่สุดคือวิชากระบี่ นอกจากนี้แล้วยังจะทำอะไรได้อีก?
ถึงแม้ภาพมายาที่มู่หรงหลิวเย่มอบให้นางจะยอดเยี่ยมมาก แต่ตอนนี้ไม่มีที่ให้ใช้!
ตอนที่นางคิดวางแผนหนีออกไปอย่างยากลำบาก หลุมน้ำแข็งพลันหยุดหมุน ทั้งร่างนางเหมือนกับตุ้มน้ำหนักร่วงลงไปกับพื้น
รอจนหายหัวหมุนตาลาย นางถึงเพิ่งค้นพบ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่นางมาถึงวังสวยงามวิจิตร รอบด้านล้วนเป็นผลึกโมราเพชร เงยหน้ามองขึ้นไปเป็นต้นซานหูสูงราวจั้ง ยังมีทหารกุ้งนายพลปูจำนวนมากยืนเฝ้าอยู่ ที่สำคัญคือยังมีน้ำ…ทั้งร่างนางกลับแช่อยู่ในน้ำ!
“องค์ราชา!”
นางเพิ่งคืนสติ เหล่าทหารนายพลรอบด้านเรียกราชามังกรทะเลสาบน้ำแข็งที่เดินมาจากด้านหลังนาง เมื่อราชามังกรทำสัญญาณมือ เหล่านายพลปูก็ลากนางเดินเข้าไปข้างใน
ที่แท้ที่นี่เป็นเพียงด้านนอกวังมังกร เดินไปตามหินแม่น้ำ เลี้ยวไปหลายโค้ง ผ่านสวนดอกไม้ที่จุดไข่มุกราตรีไว้รอบด้าน จึงค่อยมาถึงคันทวยและชายคาของวัง
ครั้นผ่านสวนดอกไม้เล็ก คิดไม่ถึงว่าจะเข้าไปในเขตพลังขนาดใหญ่ ไม่มีน้ำแล้ว!
และเข���ไม่ได้เข้าไปในวังโดยตรง แต่อ้อมไปเจ็ดแปดโค้งจึงถึงด้านหลังสวนดอกไม้
บนประตูตำหนักนี้เขียนว่า ‘ตำหนักคลื่นหยก’ ประตูสูงหกฉื่อ กว้างสามจั้ง พวกสาวรับใช้หอยกาบใต้ประตูแต่ละตัวสวยงามชดช้อย เข้าประตูไปตาก็เห็นบัลลังก์มังกรซึ่งถูกสร้างมาจากไข่มุกหินหยก ด้านข้างสองข้างคือเสาหยกม่านไหมเป็นต้น สองด้านของมันยังมีห้องลึกเข้าไปอีก ถึงแม้จะไม่หรูหราเทียมวังจิ้งจอกแห่งชิงชิว กลับมีความประณีตสละสลวย
มู่จิ่วถูกกดให้คุกเข่าลงกับพื้น
หลังราชามังกรนั่งลง มีสาวรับใช้หอยกาบขึ้นมารินชาให้ เขาดื่มไปครึ่งคำกลับทนไม่ได้ กัดฟันจ้องมาทางมู่จิ่ว “เจ้าคนสารเลว สังหารลูกชายข้า หากข้าไม่สับร่างเจ้าเป็นหมื่นชิ้นบูชาบุตร ข้าก็ไม่ใช่แซ่อ๋าวแล้ว!”
พูดจบเขากวักมือ “ส่งข่าวไปยังทิวเขาริ้วหยก พรุ่งนี้เช้า ข้าจะพาเจ้านี่ไปขอขมา!”
ขุนนางเต่ารีบรับคำแล้วถอยออกไป
ราชามังกรขมวดคิ้ว จากนั้นถลึงตามองมู่จิ่วอย่างโกรธแค้น “มัดแม่นี่ไว้ก่อน! นำไปขังไว้!”
“ช้าก่อน!” มู่จิ่วพูด “ราชามังกร ข้าเป็นเจ้าหน้าที่ของทัพสวรรค์ หากท่านต้องการฆ่าข้า ก็ต้องได้รับอนุญาตจากสวรรรค์! หากท่านลงมือฆ่าข้าเอง เกรงว่าท่านก็จะรับผลที่ตามมาไม่ไหว!”
ตอนนี้มีเพียงราชามังกร พรุ่งนี้หากมีหงส์เพลิงมาด้วย จะไม่บดนางเป็นผงเลยหรือ?
ต้องคิดวิธีกลับสวรรค์ให้ได้ก่อนค่อยว่ากัน หลังจากกลับไปแล้ว อย่างไรหลิวจวิ้นต้องช่วยนางพูดได้แน่ ถ้าไม่ได้ลู่ยาก็ไม่ถึงกับมองดูนางตายต่อหน้าต่อตาหรอก เพียงแต่เรื่องนี้ นางสังหารมังกรร้ายไปก็ไม่รู้ว่าต้องได้รับโทษสวรรค์หรือไม่…แต่นางไม่สนมากขนาดนั้นแล้ว ไม่ว่าอย่างไรรั้งตัวอยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่หนทาง
“เจ้าเป็นคนของสวรรค์?”
ราชามังกรยังเกิดความกลัวขึ้นบ้างดังคาด ที่จริงเขาเป็นเพียงราชามังกรอยู่ทะเลสาบ ยังเรียกว่าราชามังกรแห่งทะเลทั้งสี่ทิศก็ไม่ได้ หากลงมือสังหารเจ้าหน้าที่สวรรค์เอง ตำแหน่งราชานี้เกรงว่าจะเป็นไม่ได้แล้ว ช่วงนี้เขาเพียงตามหาเจอว่าฆาตกรที่สังหารเฉินผิงอยู่ในประตูสวรรค์แดนใต้ ดังนั้นจึงวนเวียนอยู่แถวเขาฉีจื่อหลายวัน คิดไม่ถึงว่าคนที่รอจะเป็นเจ้าหน้าที่สวรรค์!
“หากราชามังกรไม่เชื่อ สามารถจับข้าไปยืนยันที่สวรรค์ได้!” มู่จิ่วพูดไปพลาง มองป้ายทะเบียนเซียนที่แขวนอยู่ที่เอวไปพลาง
ราชามังกรทำหน้านิ่ง ขุนนางเต่าและสาวรับใช้หอยกาบหยิบป้ายไป
ป้ายทะเบียนเซียนนี้ทัพทหารสวรรค์สร้างขึ้นมา ด้านบนยังมีตราประทับหยกด้วย จะเป็นของปลอมไปได้อย่างไร? ราชามังกรนำมาดู สีหน้าก็แย่มากแล้ว เห็นได้ชัดว่าติดตามฆาตกรมานานถึงครึ่งปี ในที่สุดก็จับได้แล้ว แต่กลับไม่ง่ายนักที่จะสังหาร นี่ช่างทำให้คนอัดอั้นนัก
มู่จิ่วยังวางใจไม่ได้ทั้งหมด
ถึงแม้ราชามังกรแห่งทะเลสาบน้ำแข็งเป็นชายชั่วที่ก่อเรื่องลับหลังภรรยา แต่ลูกนอกสมรสก็คือลูก ถึงแม้นางสังหารเฉินผิงเพื่อปกป้องตนเอง แต่ก็คือสังหารเขาอยู่ดี หากเป็นนางถูกคนอื่นสังหาร หลิวหยางก็ต้องไม่ยอมแน่
ดังนั้นนางจึงลองพูด “ตอนนี้คนตายแล้วไม่อาจฟื้นคืน มิสู้ข้าชดใช้คืนให้ท่าน?”
สรุปคือหากสามารถเจรจาได้ก็อย่าฟ้องร้อง ไปสวรรค์ไม่มีผลดีอะไรกับนางแน่
“ชดใช้? เจ้าจะชดใช้อะไรข้าได้?!” ราชามังกรลุกขึ้นมาอย่างโกรธกริ้ว ยกกำปั้นเดินมาตรงหน้านาง เหวี่ยงหมัดอยู่กลางอากาศ สามารถปล่อยลงมาได้ทุกเมื่อ “ถึงแม้ข้ามีลูกชายห้าคน แต่เฉินผิงแต่เล็กป่วยบ่อย ชะตาชีวิตอาภัพ เป็นคนที่ข้าเอ็นดูที่สุด แต่เจ้ากลับสังหารเขาแล้ว! ความแค้นใหญ่หลวงนี้ เจ้าชดใช้คืนได้หรือ?!”
พูดตามจริง แรงโจมตีในการด่าคนกดดันคนของราชามังกรยังห่างไกลกับจิ้งจอกเฒ่านัก
แต่เพราะแบบนี้ ความเจ็บแปลบในใจนางจึงยิ่งหนักขึ้นเล็กน้อย
ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วจะทำอย่างไร?
นางชะงักไปครู่หนึ่งก็คิดขึ้นมาได้ “ลูกโลหิตมังกรไฟของเฉินผิงยังอยู่กับข้า มิสู้ข้าคืนมันให้กับท่าน?”
นางพูดแล้วก็ก้มหน้าลง ยื่นปากไปยังกระเป๋าเล็กข้างเอว
…………………………………………………………………