ท่านเทพมาแล้ว - ท่านเทพมาแล้ว - ตอนที่ 160 อนุภาพของภรรยาหลัก
อวิ๋นเฉี่ยนเดินไปตรงหน้าอวิ๋นซี “เจ้าพูดมา นางไปไหน?”
อวิ๋นซีเหลือบมองไปทางที่พวกมู่จิ่วอำพรางตัวอยู่ ก่อนพูด “นางไม่อยู่จริงๆ”
มู่จิ่วนิ่งอึ้งอีกครั้ง สองคนนี้น่าสนใจนัก คิดไม่ถึงว่าจะช่วยนางปกปิดในเวลาเดียวกัน นี่กำลังทำอะไรพิกลอยู่หรือไม่?
สำคัญคือลู่ยาที่อยู่ด้านหลังพลันมีกระแสความเย็นเยียบไหลมา จับมือนางบีบแน่น นี่ทำให้นางยิ่งไม่สงบอย่างมาก
“ในเมื่อเจ้ารับผิดเอง ราชาเตรียมจะจัดการให้ข้าอย่างไร?”
อวิ๋นเฉี่ยนเบ้าตาแดงก่ำ หยดน้ำตาสองหยดหลั่งริน เสียงเศร้าโศกจนแม้แต่มู่จิ่วฟังแล้วยังรู้สึกใจฝาดเฝื่อนอย่างมาก “ท่านรู้ดี พี่น้องข้ามีไม่มาก แต่พวกเราเผ่าหงส์เพลิงฐานะไม่ได้ต่ำต้อยกว่าเผ่ามังกรเลย ราชาติดค้างลูกข้าคนหนึ่งแล้ว คราวนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้ความยุติธรรมแก่ข้า! มิฉะนั้น แม้แต่ที่ให้พักพิงข้าคงไม่มี!”
อ๋าวเชินเจ็บปวดใจอย่างมาก พูดอย่างอ่อนโยนว่า “ทำไมจะไม่มีที่พักพิง? วังมังกรใหญ่ขนาดนี้ จะขาดที่อยู่เจ้าไปได้อย่างไร”
“ท่านหมายความว่าอย่างไร!”
ราชินีได้ยินถึงตรงนี้ก็ทนฟังต่อไปไม่ได้แล้ว นางหน้านิ่งเดินขึ้นมาถลึงตาใส่อวิ๋นเฉี่ยน “ไม่รู้ว่าเจ้าตั้งใจลงโทษอ๋าวเจียงของข้าอย่างไร พูดออกมา มีเพียงพวกเจ้าชดใช้หนี้ที่ตอนนั้นอ๋าวเจียงปกป้องเฉินผิงหมดสิ้นแล้ว ข้าถึงจะมอบชีวิตเขาให้พวกเจ้า!”
อวิ๋นเฉี่ยนมองนางทั้งน้ำตา กลับไม่แสดงความอ่อนแอให้เห็น “พี่หญิงจะอาศัยเรื่องที่ต่อให้นานแค่ไหนก็ทำไม่ได้มาเป็นข้ออ้างหรือ? ปีนั้นท่านไม่ยอมรับข้า ต้องแยกข้ากับองค์ราชาออกจากกัน แบบนี้ข้าก็ยอมแล้ว แต่เฉินผิงเป็นลูกของราชา เขาผิดอะไร? พี่หญิงกลับไม่ยอมรับเขา วันนี้เห็นชัดเจนว่าเป็นอ๋าวเจียงที่ลักพาตัวอวิ๋นซีมาทรมาน ท่านกลับเอ่ยถึงเรื่องอ๋าวเจียงปฏิบัติต่อเฉินผิงอย่างไรกับข้า ท่านเป็นแบบนี้ จะให้ราชาให้เกียรติท่านได้อย่างไร?”
มู่จิ่วทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว!
มือที่สามคนหนึ่งกลับโอหังได้ถึงเพียงนี้ ช่างทนไม่ได้จริงๆ!
แต่นางขยับไม่ได้ เพราะลู่ยาไม่ยอม
“เจ้าออกจากวังมังกรไปซะ!”
ฟากนางไม่คิดห่วงหน้าพะวงหลังแล้ว อ๋าวเจียงกลับกระโดดขึ้นมา “เจ้าอาศัยอะไรมาโทษท่านแม่ข้า? หากไม่เป็นเพราะเจ้า เฉินผิงจะมีจุดจบแบบนี้หรือ? ตอนเขายังมีชีวิตอยู่ไม่เห็นเจ้าสนใจเขา ตอนเขาตายก็ไม่เห็นเจ้าใส่ใจ แต่เดิมเจ้าก็เป็นแม่ที่เห็นแก่ตัว เจ้าไม่มีคุณสมบัติมาว่ากล่าวส่งเดช!”
เขาเพิ่งตะโกนเสร็จ อ๋าวเชินก็สะบัดมือลงบนใบหน้าเขา
อ๋าวเยวี่ย อ๋าวเจียว และเหล่าองค์ชายมังกรรีบขึ้นไปประคอง เขาที่โดนฝ่ามือไปสงบเงียบดังคาด แต่ราชินีกลับทนไม่ได้อีกต่อไป ถอดกำไลมังกรทองจากข้อมือออกมา แล้วโยนเข้าไปหาอวิ๋นเฉี่ยน!
“ไป!”
ลู่ยาพูดอยู่ข้างหูนาง จากนั้นรวบตัวนางออกประตูไป
กำไลทองวงนั้นของราชินีมังกรคงน่าเกรงขามอย่างมาก ด้านหลังมีเสียงเอะอะโวยวายดังตามมาทันที ยังมีเสียงร้องแหลมของอวิ๋นเฉี่ยน ขุนนางเต่าเร่งรุดนำคนมาที่นี่ องค์ชายองค์หญิงพากันร้องตะโกน สำหรับเผ่าเทพที่มีชื่อเสียงแล้ว นี่ช่างเป็นภาพที่ไม่น่าดูจริงๆ
มู่จิ่วมาถึงนอกตำหนัก คิดแล้วจึงพูดกับลู่ยา “ข้ายังเข้าเวรงานอยู่ ไปไม่ได้ เจ้ากลับไปก่อน”
อ๋าวเชินจับจ้องนางอยู่แล้ว และอวิ๋นเฉี่ยนก็ชี้ชื่อนาง ต้องการให้นางโผล่หน้า นางไม่อาจหลบซ่อนได้ตลอดไป ตอนนี้มีคำให้การของอ๋าวเจียงกับอวิ๋นซีอยู่ อย่างมากอ๋าวเชินก็จับนางด้วยโทษละเลยหน้าที่ จะสามารถทำอะไรได้? แต่หากนางไปผลก็ไม่เหมือนกันแล้ว นางไม่สามารถให้อ๋าวเชินนำมันมาเป็นข้ออ้างได้
ลู่ยาคิดก็รู้สึกว่าหนีไม่พ้นจริง จึงพูด “มีเรื่องอะไรเรียกชื่อข้าก็พอแล้ว”
อ๋าวเชินคนนี้พลังบำเพ็ญไม่อ่อน เขาอยู่มานาน ต้องคิดก่อเรื่องอื่นขึ้นมาแน่ แต่หากเขากล้าทำให้นางลำบาก ยังไงเขาต้องไม่ได้รับผลดีแน่
มู่จิ่วรับปาก ส่งเขาออกจากประตูด้วยสายตา จากนั้นซ่อนอยู่หลังต้นซานหูเพื่อดูลาดเลา ตอนเห็นโอกาสเหมาะเจาะจึงเผยตัวออกมา นำเหล่าทหารไปอารักขาอยู่นอกวังอย่างเงียบๆ
เรื่องที่นางไปลักพาอวิ๋นซีกับอ๋าวเจียงกลับไม่ต้องกังวล ในเมื่ออ๋าวเจียงปกปิดให้นาง แสดงว่าเขาไม่มีความคิดจะเปิดโปงนาง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเคยสาบานอีก ตอนนี้เรื่องที่นางปวดหัวกลับเป็นเรื่องที่อ๋าวเจียงบังคับนางอยู่เฝ้าอวิ๋นซีที่นี่ ไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งสองเป็นพวกเดียวกันหรือเปล่า? เพื่อเปิดโปงพฤติกรรมของอ๋าวเชินกับอวิ๋นเฉี่ยนหญิงชายชู้คู่นี้ หากไม่พุ่งเป้ามาทางนางเป็นไปไม่ได้
แต่หากตัวนางไม่อยู่ตอนเข้าเวร แน่นอนว่าต้องทำให้อ๋าวเชินกับอวิ๋นเฉี่ยนคนเลวนั่นพุ่งเป้ามาที่นาง ดังนั้นชั่งน้ำหนักดูแล้ว วิธีที่ดีที่สุดคือแกล้งทำเป็นคนไม่รู้เรื่องราวอารักขาอยู่ด้านนอก ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่จับนางได้คาหนังคาเขา!
“กัวมู่จิ่ว?!”
ทางนี้เพิ่งยืนขึ้นได้ ประตูวังด้านหลังก็มีเสียงตะโกนหนักดังเข้ามา “เมื่อครู่เจ้าไปอยู่ไหนมา?!”
แต่เดิมอ๋าวเชินถูกไอสังหารของหญิงสองคนในห้องกดดันจนต้องออกมา ครั้นมาถึงระเบียงทางเดินแล้วเห็นนางจึงอดโกรธไม่ได้
มู่จิ่วค้อมตัวประสานมือ “ตอบท่านราชามังกร เมื่อครู่ข้าน้อยรับคำสั่งขององค์ชายสามไปทำธุระเล็กน้อย”
มือที่กำหมัดแน่นของอ๋าวเจียงซึ่งยืนอยู่ตรงประตูคลายออก
อ๋าวเชินไหนเลยจะปล่อยนางไปง่ายๆ แบบนั้น “คุณชายสี่แห่งตระกูลอวิ๋น เป็นเจ้ายุยงให้องค์ชายสามไปลักพาตัวมาใช่หรือไม่?!”
“นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?” มู่จิ่วยักไหล่แบมือ “แม้แต่คุณชายสี่แห่งตระกูลอวิ๋นคือใครข้ายังไม่รู้จัก จะยุยงองค์ชายสามให้ไปจับเขามาได้อย่างไร? ราชามังกรคิดจะใช้โอกาสป้ายสี ก็ขอให้คิดเรื่องที่มีเหตุผลหน่อยดีหรือไม่? ข้าไม่เพียงแต่ไม่ได้ยุยง แต่ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ราชามังกรทำไมถึงมากล่าวโทษข้า”
“นางไม่รู้จริงๆ” นางเพิ่งพูดจบ อ๋าวเจียงก็ช่วยพูดอีกแรง
อ๋าวเชินสะบัดมือใส่หลังศีรษะเขา มือไปครึ่งทางกลับถูกราชินีมังกรรับไว้พอดี แล้วผลักเขาออกไปห้าหกก้าว “เจ้าอาศัยอะไรลงมือกับลูกข้า!” ที่แท้ตอนนี้ทั้งสองคนในห้องทะเลาะกันเสร็จแล้ว ราชินีมังกรกับอวิ๋นเฉี่ยนเดินตามกันออกมา
“เจียงซื่อ! (นางสกุลเจียง) เจ้าอย่ากำเริบเสิบสานให้มากนัก!”
อ๋าวเชินที่ถูกผลักไปชนภูเขาจำลองโดยไม่ทันระวังโกรธจนด่าทอราชินีมังกร
ราชินีมังกรใบหน้าเย็นชาจ้องกลับไป “ข้าไม่ได้ตอนของๆ ท่านก็ไม่นับว่าล่วงเกิน! คนแซ่อวิ๋นทำร้ายข้าจนถึงขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าลูกข้าเพียงจับเขามา ถึงแม้สังหารเขาจะมีอะไร! ท่านมันขยะไร้ประโยชน์ ถ้ามีน้ำยาทำไมถึงไม่ทิ้งข้าแล้วไปกับนางสารเลวแซ่อวิ๋นเสีย!”
อ๋าวเชินโกรธจนหน้าเดี๋ยวขาวเดี๋ยวเขียว อยากจะกระอักเลือด
“ราชา…” อวิ๋นเฉี่ยนเหมือนกับเมฆวนก้าวเร็วๆ เข้ามา ยื่นมืออันนุ่มนวลลูบหน้าอกเขาเบาๆ “ท่านอย่าโกรธ ร่างกายสำคัญ”
อ๋าวเชินจับมือนาง สีหน้าค่อยๆ ดีขึ้น
มู่จิ่วเห็นท่าทางเขาแบบนี้ แทบกระอักออกมาแล้ว!
อะไรเรียกไร้ยางอาย ตรงหน้าคือสามคำที่ปรากฏชัดแจ้ง!
“อ๋าวเจียง! ตามข้ากลับไป!” ราชินีมังกรจ้องสุนัขชายหญิงทั้งคู่อย่างโกรธแค้น ขณะพูดเสียงหนักกับอ๋าวเจียง
อวิ๋นเฉี่ยนกลับก้าวขึ้นมาขวางไว้ข้างหน้าอย่างรวดเร็ว “ไม่ให้ไป! เรื่องอวิ๋นซี เขากับกัวมู่จิ่วไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้ความยุติธรรมกับข้า!”
มู่จิ่วใจเต้นขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้ช่างกัดไม่ปล่อยเสียจริง? ยังมีแก่ใจคิดเล่นบทคู่ผัวตัวเมียกับอ๋าวเชิน? ในเมื่อสามารถทำให้คนรังเกียจได้ ความเจ็บปวดเรื่องลูกตายคงดีขึ้นมาแล้ว ทำไมถึงยังคิดจะจับนางเพื่อระบายความโกรธ?
…………………………………………………………………