นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 206
บทที่ 206 ผู้หญิงที่น่าสงสาร1
“ช่วงก่อนหน้าไม่ใช่ได้ยินว่าฮ่องเต้จะเสกสมรสกับคุณหนูเก้าแห่งจวนอ๋องโจว๋หรอกหรือ”
“ได้ข่าวว่าคุณหนูตระกูลโจว๋เข้าวังไปแล้วด้วยล่ะ!”
“แล้วไม่ใช่หรอกหรือ ข้าเองก็ได้ข่าวเหมือนกันแหนะ”
“นั่นแหละนั่นแหละ ข้ามีญาติคนหนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในวัง เขาเองก็เคยพูดกับข้า บอกว่าคุณหนูเก้าตระกูลโจว๋เป็นสตรีที่รูปโฉมล่มเมืองนางหนึ่งเชียว!”
“พวกเจ้าพูดพล่ามคุยโวกระมัง ข้ายังมีญาติที่ปฏิบัติหน้าที่ให้กับจักรวรริดมรกต ถ้าหากคุณหนูตระกูลโจว๋เป็นฮองเฮา เช่นนั้นเหตุใดตอนนี้ฮ่องเต้ถึงได้มีหนังสือแต่งตั้งสตรีนางอื่นขึ้นเป็นฮองเฮากันเล่า”
“นี่มันก็พูดยากอยู่ ฮ่องเต้หนอ! มีผู้หญิงตั้งมากมายปานนั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่จะโปรดของเก่าชังของเก่า”
“ใช่แล้ว! ประโยคนี้ข้าเองก็เห็นด้วย นับแต่โบราณกาลฮอ่องเต้ก็มักมีภรรยาหลายพันคน นับประสาอะไรกับฮ่องเต้รูปงามเยาว์วัยพระองค์นี้ของพวกเรา ย่อมมีสตรีชมชอบมากมายเป็นธรรมดา”
“วันนี้ฮ่องเต้โปรดคนนี้ วันพรุ่งก็โปรดคนนั้น…”
“วันนี้ฮ่องเต้แต่งตั้งจ้าวยู่ยิงเป็นฮองเฮา วันพรุ่งวันมะรืนก็ไม่แน่ว่าจะแต่งตั้งคนอื่นๆ อีกอีกครั้ง”
“ผู้หญิงเหล่านั้นในวังหลวงต่างโฉมงามล่มแคว้นล่มเมือง น่าเสียดายที่ต่างเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารนั่นสิ!”
ฝูงชนที่อยู่เบื้องหน้ากฤษฎีกาต่างอภิปรายเซ็งแซ่
โจว๋เหล่ยได้ยินถึงถ้อยคำนี้ สีหน้าก็ค่อนข้างกระดากอายเล็กน้อย
เขารู้ว่าในใจของซินเหยายามนี้จะต้องอึดอัดเจียนตายเป็นแน่!
เขาหันหน้ากลับไป หมายจะเอ่ยปลอบประโลมซินเหยาสักสองสามประโยค แต่ยังจะมีเงาของซินเหยาเสียที่ไหนกันเล่า
ซินเหยาหายตัวไปตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว!
โจว๋เหล่ยเหลียวมองไปรอบสารทิศ มีผู้คนมากมายสัญจรบนท้องถนน มองไม่เห็นซินเหยาเลยแม้แต่น้อย!
เดิมทีโจว๋เหล่ยคิดอยากไปหาซินเหยาที่ร้านพักป่ายเหอ แต่ว่าคิดๆ ดูตอนนี้สภาพจิตใจของนางจะต้องโศกเศร้าอย่างมากเป็นแน่…
ปล่อยให้นางอยู่เงียบเพียงลำพังจะดีกว่ากระมัง! แม่เด็กสาวคนนี้มักจะกลบฝังเรื่องราวเอาไว้ในใจและรับมือกับมันคนเดียว ให้นางได้สงบสติลงสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน โจว๋เหล่ยทอดถอนใจเฮือกหนึ่ง
เย้!
มีความร้อนชื้นเงียบงันที่ค่อนข้างพิศวง…
โรงเตี๊ยมยี๋หง
เป็นซ่องชั้นต่ำธรรมดาซ่องหนึ่งในบรรดาซ่องโสเภณีนับร้อยพันในเมืองหลวง นับไม่ได้แม้แต่จะเป็นหอนางโลม!
ช่วงเวลากลางดึกสงัด…
มีชายคอพับขี้เมาคนหนึ่งเดินโงนเงนออกมาจากโรงเตี๊ยมยี๋หง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดื่มเหล้าหนักเกินไป หรือว่าเพราะเขา “ออกกำลังกาย” มากเกินไปจนทำให้ร่างกายอ่อนเพลียกันแน่…
เขาเดินไปพลาง และฮัมเพลงประชุมชนอันหมกมุ่นโลกีย์…
“น้องสาวผมของเจ้าช่างนุ่มนิ่มเหลือ!”
“ให้พี่ชายอย่างข้าไปลูบไล้สักหน่อย”
“น้องสาว ดวงตาของเจ้าชุ่มใส…”
“มาให้พี่ชายอย่างจุมพิตสักฟอด!”
ชายขี้เมาเลี้ยวเข้าซอยเล็กเส้นหนึ่ง จู่ๆ ก็มองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาเบื้องหน้า ในมือถือตะก้าเต้าห็ ดูท่าทางคงรีบไปขายเต้าหู้ให้ทันตลาดเช้า…
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ดูดีนัก แต่อายุน่าจะราวๆ สามสิบกว่าเท่านั้น เป็นแม่ม่ายนางหนึ่ง
ชายหยาบโลนมองเห็นผู้หญิง ความหมกมุ่นราคะพลันปั่นป่วนขึ้นสมองอีกครั้ง พุ่งเข้าไปหาในคราเดียว กอดรัดแม่ม่ายทั้งจูบทั้งลูบไล้…
แม่ม่ายถูกคนบ้ากามกระหน่ำกอดจูบลูบคลำโดยไม่มีสัญญาณเตือนมาก่อน…
นางเสียขวัญจนกรีดร้องสนั่น!
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับหญิงม่ายก็คือชื่อเสียง!
ถ้าหากนางมีชื่อเสียงไม่ดีแพร่สะพัดออกไป ก็ไม่มีที่ให้ยืนต่อไปอีกแล้ว!
การละเว้นเรื่องเพศมีความสำคัญต่อหญิงม่ายมากกว่าชีวิตเสียอีก!
หญิงม่ายตะโกนร้องเรียกสุดชีวิต ร่ำไห้ขอความเมตตา ซ้ำยังตะเบ็งลั่นว่าตนเองเป็นหญิงม่ายนางหนึ่ง ขอร้องให้ไอ้บ้าถามป่าเถื่อนปล่อยนางไป!
ทว่าเจ้าคนบ้ากามจะคล้อยตามเสียที่ใดกัน?
ออกแรงลากหญิงม่ายเข้าไปในซอยอันมืดมิด…
หญิงม่ายรู้ว่าภัยพิบัติร้ายแรงกำลังประจันหน้าเข้ามา นางขัดขืนสุดชีวิต เต้าหู้ร่วงกระจายเต็มพื้น…
ทว่าอย่างไรเสียนางก็เป็นสตรีคนหนึ่ง อีกฝ่ายเป็นผู้ชาย ซ้ำยังดื่มเหล้ามาเต็มเหนี่ยว เรี่ยวแรงมีมากมายกว่านางหลายโข นางหนีไม่พ้นไปโดยปริยาย!
“ช่วยด้วย!”
“ช่วยด้วย!”
“มีคนจะลวนลามข้า!”
วิธีเดียวของหญิงม่ายก็คือร้องตะเบ็งเสียงขอความช่วยเหลือสุดแรงเกิด!
ชายหยาบโลนผุดรอยยิ้มชั่วร้ายเคล้าโลกีย์ “เฮอๆ เจ้าร้องไปเถิด นี่มันกลางดึกสงัด เรียกผีผู้หญิงสักตนออกมาเล่นสนุกกับข้า ยิ่งเจ้าร้องเสียงดัง ข้าก็ยิ่งตื่นเต้น!”
“ไอ้สวะ!”
ทันใดนั้น ท่ามกลางความมืดสนิทพลันปรากฏใบหน้าซีดเซียวน่าสะอิดสะเอียนขึ้น…
น้ำเสียงจองหอง แฝงกลิ่นอายแห่งความเย็นยะเยือกนั้น เสมือนว่าผุดมาจากนรกขุมที่ลึกที่สุด…
ชายหยาบโลนสั่นเทิ้ม กลัวเสียจนตัวสั่น “เจ้า…เจ้าเป็นผู้ใดกัน เจ้าเป็นคนหรือเป็นผี”
คนหน้าซีดเอ่ยเย็นเยียบ “ไม่ใช่เจ้าอยากให้ผีผู้หญิงเล่นสนุกกับเจ้าหรอกหรือ คราวนี้ทำไมถึงกลัวไปได้เล่า”
นี่โลกที่คนทุกๆ คนสามารถฝึกฝนวิทยายุทธ์…
ชายหยาบโลนย่อมเคยฝึกปรือมาหลายกระบวนท่า คราวนี้ในใจเกิดความกลัว จะสนใจอะไรให้มากมายเสียที่ไหน หอบโถเหล้าโถมตีเข้าไปเต็มเหนี่ยว!
จะรู้เสียที่ใดว่าวรยุทธ์ของอีกฝ่ายสูงระดับเซียน!
เขายังมองไม่ทันถนัดตา ก็ถูกฝ่าเท้าหนักๆ เตะอัดเข้าบนกำแพง!
“โครม!”
เขากระแทกเข้ากับกำแพงอย่างจัง จากนั้นก็ร่วงลงมา เสียงกระดูกทั่วกายดัง “กรอบแกรบ” เกรงว่าคงหักไปแล้วหลายท่อน
“อัยยะ!”
“สวรรค์!”
“วันนี้ข้าซวยอะไรกันแน่นะ!”
ชายหยาบโลนร้องรำพันเสียงดังลั่น เจ็บจนยากจะต้านทานไหว
“จะโทษก็โทษฮ่องเต้ของพวกเจ้าเถิด!”
ในดวงตาเย็นยะเยือกของคนหน้าซีดผู้นั้น ทอประกายโกรธแค้นยากจะอธิบาย ทันใดนั้น…
ทอประกายสีแดงก็สว่างวาบขึ้น
จู่ๆ กลิ่นอายดาบอันรุนแรงเล่มนั้นพลันตัดฉับกลางอากาศ…
โจมตีโดยตรง…ฉับเดียว!
โอ้ย!
คนหยาบโลบร้องปางตาย