นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 234
บทที่ 234 ก่อกบฏ1
เถ้าแก่จินเอ่ย “เจ้า…พวกเจ้าสี่คนก่อกบฏแล้ว?”
ชีวหยูนกล่าว “นี่เขาเรียกว่าผู้รู้เวลารู้หน้าที่คือนักปราชญ์ เขาตอบตกลงพวกเราสี่คนว่าจะใช้พละกำลังทั้งหมดช่วยพวกเราตามหานายน้อยให้จงได้”
เถ้าแก่จินเอ่ย “พวกเจ้าอาศัยอยู่ร้านจีโม่ตั้งหลายปีขนาดนี้ ถึงกับเชื่อคนนอกแล้วเชียวหรือ ต่อให้พวกเจ้าต้องการเลือกเจ้านายใหม่ ก็ไม่จำเป็นต้องทรยศร้านจี้โม่เลยนี่นา”
เจี้ยนหารยีกล่าวอย่างเยือกเย็น “พวกเรามีเจ้านายเพียงคนเดียวเท่านั้น คนอื่นๆ ล้วนเป็นพวกพึ่งพาอาศัยกัน ใครสามารถช่วยพวกเราหานายน้อยพบ พวกเราก็พร้อมจะขายชีวิตให้”
เถ้าแก่จินโกรธเสียจนแทบกระอักเป็นเลือดคล้ำ ก่อนกล่าว “เจ้า…พวกเจ้า”
ชีวหยูนเอ่ย “เถ้าแก่จิน เจ้าเองก็อย่าได้โทษพวกเราไอ้เรื่องที่ไม่สนใจแขกเลย ร้านจีโม่ชุบเลี้ยงพวกเราตั้งมากมายหลายปีขนาดนี้ พวกเราเองก็มิใช่คนที่ไม่รู้จักชั่วดี พวกเราขายชีวิตให้เขา หนึ่งในเงื่อนไขนั้นก็คือวันนี้จะไม่ทำร้ายคนในร้านจี้โม่แม้แต่คนเดียว ดังนั้นเถ้าแก่จินโปรดวางใจ ไม่ต้องพูดให้มากความ ใช้ลมปราณแก้พิษอย่างสงบใจเถิด ยาถอนพิษย่อมจะส่งมาให้ภายหลังเป็นธรรมดา”
“พวกเจ้า…”
เถ้าแก่จินรู้ว่าเรื่องราวได้ถูกสรุปมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณชายรูปวิการที่อยู่ด้านข้างไม่ส่งเสียง นั่งยองๆ ใช้ลมปราณแก้พิษ เขาเองก็ไม่พูดพร่ำอีกต่อไป หันมาจดจ่อกับการถอนพิษ…
กลุ่มทหารมรณะชุดดำแถวแล้วแถวเล่ากรูขึ้นไปบนชั้นสอง ชั้นสาม และค้นหาตามห้องปีกทุกห้องทีละซอกมุม…
ถางเปิ่นขุยมองเห็นกล่องเซิ้นกล่องที่สองอยู่บนแท่นวาง นัยน์ตาทอประกายแห่งความโลภและความปีติยินดีเสี้ยวหนึ่ง!
“ทหาร! ห่อกล่องเซิ้นกล่องที่สองไว้ให้ดี และนำกลับไปพร้อมกัน!”
“ขอรับ!”
ทหารมรณะชุดดำนายหนึ่งถลาเข้ามา ถอดเสื้อผ้าจากร่างกายของศพที่ต้องพิษออก จากนั้นก็ใช้เสื้อผ้าห่อหุ้มเอาไว้เป็นอย่างดี
ทหารมรณะชุดดำแบกพัสดุดังกล่าวมอบให้ถางเปิ่นขุย
“ฆ่าคนที่ยังไม่ตายทั้งหมดเสีย”
“ขอรับ!”
“ทหารมรณะรับคำสั่งไปแล้ว”
สีหน้าฮัวโหล่หยูนค่อนข้างเคร่งขรึม “ท่านคงจำได้ว่าเคยรับปากพวกเราจะไม่ทำร้ายคนในร้านจี้โม่?”
ถางเปิ่นขุยกล่าว “ข้าเพียงแค่รับปากจะไม่ฆ่าพวกเขา แต่ไม่รับปากว่าจะไม่ทำร้ายพวกเขา”
ฮัวโหล่หยูนเอ่ย “นี่มิใช่ข้อตกลงที่พวกเราเคยพูดกันก่อนหน้านี้นี่นา”
ถางเปิ่นขุยพูด “ข้อตกลงของพวกเจ้าคือต้องการตามหาเจ้านายของพวกเจ้าให้พบ จะฆ่าคนของร้านจี้โม่หรือไม่ อันที่จริงไม่ได้เกี่ยวกับพวกเจ้าเลย”
เจี้ยนหารยีกล่าวอย่างเย็นชา “พวกเรานักบอดี้การ์ดรายใหญ่ทั้งสี่จะไม่ยอมถูกทรยศเด็ดขาด ร้านจี้โม่ชุบเลี้ยงพวกเราหลายปี วันนี้แม้นว่าท่านรับปากคงจะสุขล้น พวกเราทั้งสี่พร้อมขายชีวิตเพื่อท่านด้วยความจริงใจ ถ้าหากท่านไม่รับปาก พวกเราทั้งสี่คงทำได้เพียงต้องต่อสู้เพื่อคนของร้านจี้โม่สุดชีวิตแม้นตายก็ยอม!”
หงจู๋พูดอย่างเยือกเย็น “ไม่รู้ว่าเจ้าเคยคิดบ้างหรือเปล่า เจ้าและคนใต้บังคับบัญชาเหล่านี้ของเจ้าคือคู่ต่อสู้ของพวกเราทั้งสี่คนหรือไม่!”
ถางเปิ่นขุยปราดมองไปแวบหนึ่ง เห็นเพียงคนทั้งสี่มีสีหน้าเหมือนกันเปี๊ยบ
ความมุมานะ!
พร้อมตายได้ทุกเมื่อ!
เด็ดขาด!
นั่นเป็นความเย่อหยิ่งและความภักดีโดยไม่ประนีประนอม
ถางเปิ่นขุยหัวเราะฮึๆ พลางกล่าว “ทั้งสี่ท่านหวาดระแวงมากเกินไปแล้ว! มันเป็นเรื่องยากสำหรับคนทั้งสี่ที่จะรักษาความรู้สึกเก่า จิตใจภักดีปกป้องเจ้านายอย่างซื่อสัตย์เยี่ยงนี้ ดูท่าแล้วก็คงจะภักดีต่อข้าเช่นเดียวกัน มันคือวาสนาของข้า ข้าสัญญาว่าคืนนี้จะไม่ทำร้ายคนของร้านจี้โม่แม้แต่คนเดียว ทั้งยังจะช่วยพวกเจ้าตามหานายน้อยให้เจอจงได้!”
ฮัวโหล่หยูนแย้มยิ้มเล็กน้อย “เจ้าช่างเป็นคนเฉลียวฉลาดจริงๆ เจ้าอยากจะทำอะไรก็ทำตามใจเถิด ขอเพียงเจ้าไม่แตะต้องคนของร้านจี้โม่ หากมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น พวกเราทั้งสี่คนจะคอยช่วยเหลือเจ้าที่นี่อย่างแน่นอน”
ถางเปิ่นขุยรู้ดีว่าคนทั้งสี่นี้ไม่ง่ายที่จะรับมือ และน่าจะต่อกรด้วยยากสุดๆ เสียด้วย!
ไม่ต้องพูดถึงความสามารถชั้นสูงของคนทั้งสี่นี่แล้ว
มันเป็นเรื่องยากที่คนทั้งสี่คนจะมีจิตใจในทางเดียวกัน ซ้ำทั้งหมดยังไม่กลัวตายอีกด้วย
บุคคลากรคุณภาพเยี่ยงนี้น่ากลัวยิ่งนัก
ตอนนี้ถางเปิ่นขุยต้องการหลอกใช้ประโยชน์จากทั้งสี่คน ย่อมต้องไม่รุกรานพวกเขาอย่างเปิดเผยเป็นธรรมดา!
“พวกเจ้าไอ้อันธพาลหัวไม้ ใต้เท้าโอรสสวรรค์ยังกล้าก่ออาชญากรรม เฮอะ!”
ทันใดนั้น โจว๋ก้องหรุงผู้ไม่ได้สูดดมควันพิษในจำนวนมากอยู่มุมหน้าต่างหลังจากที่ปิดผนึกจุดฝังเข็มหลายแห่งของตนเองแล้ว ก็โถมเข้าไปใจกลางห้องโถงหลัก ขัดขวางถางเปิ่นขุยและคนอื่นๆ เอาไว้
“เฮอะ! รนหาที่ตาย”
ถางเปิ่นขุยหัวเราะเย็นชา ลูกน้องของเขารีบห้อมล้อมโจว๋ก้องหรุงเอาไว้ในทันใด
วิทยายุทธ์การต่อสู้ของโจว๋ก้องหรุงมิใช่ที่หนึ่งในหล้า แต่ว่าความกล้าหาญเป็นที่ยอมรับแล้วว่าใต้นภานี้ไม่มีผู้ใดกล้าเทียบชั้นได้!
“เฮอะ! ข้าโจว๋เจ้าสามจะกลัวพวกทุรชนอย่างพวกเจ้าเชียวหรือ มีวิธีกระชากหน้ากากทั้งหมดของพวกเจ้าลงมาให้ข้าเจ้าสามได้สบมองแน่!”
โจว๋ก้องหรุงไม่เกรงกลัวเลยสักนิด สีหน้าฮึกเหิม
“ท่านลุงสาม! ข้ามาช่วยท่านแล้ว”
การตอบสนองของโจว๋หวูนเฟิงรวดเร็วยิ่งนัก วรยุทธ์ก็สูง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ผลักควันพิษออกจากร่างกายภายในได้ บัดนั้นมองเห็นโจว๋ก้องหรุงลุกขึ้นยืน เขาย่อมหยัดกายมาสมทบให้เพื่อความช่วยเหลือเป็นธรรมดา
“ผู้ใดกล้าทำกร่างในร้านจี้โม่ของข้า”
คุณชายรูปวิการเสมือนพุทธรูปปางมารวิชัยก็ไม่ปาน กระโดดขึ้นมาสุดเหวี่ยง และเข้าร่วมกองทัพกับโจว๋ก้องหรุง!
ถางเปิ่นขุยมีสีหน้าปั้นยากเล็กน้อย แต่น่าเสียดายที่หน้ากากปกคลุมหน้าเอาไว้จึงมองไม่เห็น
จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น รู้สึกไม่เบิกบานใจเสียจริงๆ
“เล๋ยถิง พีลี่! จัดการพวกมันสามคนเสีย!”
“ขอรับ! เจ้านาย!”
สองแม่ทัพใหญ่เล๋ยถิง พีลี่ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า กลิ่นอายสังหารผัดเผยออกมา!
“เวลาเยี่ยงไฉนจึงขาดข้าถางเปิ่นหู่ไปได้เล่า”
ทันใดนั้น ถางเปิ่นหู่ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสในตอนแรกจู่ๆ ก็ลุกขึ้นยืน ผสมโรงในวงสงคราม!
โจว๋หวูนเฟิงกล่าวพลางยิ้ม “อาการบาดเจ็บของเจ้าไม่เป็นอุปสรรคกระมัง?