นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 239
บทที่ 239 ข้าคือซินเหยาน้องเล็กของท่าน2
โจว๋หยุนถิงเอ่ยคำ “ข้ามีสหายคนหนึ่งถูกคนลักพาตัวไป ผู้ที่ลักพาตัวนางทิ้งจดหมายสั้นๆ ฉบับหนึ่งไว้แก่ข้า ให้ข้ามาหาคนได้ที่นี่”
“จดหมายที่ว่านั่นเล่า?”
“อยู่นี่ไง!”
“เอาให้ข้า”
“ได้!”
โจว๋หยุนถิงล้วงซองจดหมายออกมา ส่งมอบให้อย่างระวัง
บุรุษรูปงามรับจดหมายสั้นๆ นั้นไป กวาดอ่านแผนที่และตัวอักษรหนึ่งรอบ จากนั้นก็ผุดรอยยิ้มบางๆ ก่อนส่งคืนให้โจว๋หยุนถิงไป
โจว๋หยุนถิงเอ่ยถาม “สหายของข้าเล่า? ท่านจับตัวสหายของข้าไปใช่หรือไม่”
บุรุษรูปงามกล่าวพลางยิ้ม “ท่านถูกหลอกแล้วล่ะ”
โจว๋หยุนถิงถามอย่างใคร่รู้ “ถูกหลอก? อะไรที่เรียกว่าถูกหลอก?”
บุรุษรูปงามกล่าว “ที่นี่ไม่มีสหายที่ท่านต้องการตามหาหรอก”
โจว๋หยุนถิงเอ่ย “แต่ว่าบนจดหมายนี้…”
บุรุษรูปงามเอื้อนวาจา “ถ้าหากท่านไม่เชื่อข้าน้อยแล้วล่ะก็ เชิญหาด้วยตนเองเถิด ที่นี่มีเพียงห้องเดียวเท่านั้น เป็นเพียงสถานที่ที่ข้าน้อยใช้อ่านหนังสืออย่างเงียบๆ มิใช่สิ่งที่เรียกว่าคุกใต้น้ำอันใดเลย และมิใช่คุกคุมขังนักโทษอะไรทั้งนั้น อีกประการหลายเดือนมานี้ นอกจากพวกท่านสองคนแล้ว ที่นี่ก็ไม่เคยมีบุคคลใดย่างกรายเข้ามาเลย”
โจว๋หยุนถิงเอ่ย “นี่มันแปลกๆ แล้วนะ! เช่นนั้นเหตุใดบนจดหมายนี้จึงให้ข้ามาหา ณ ที่แห่งนี้เล่า หรือว่าพวกเราอ่านแผนที่ผิดกระนั้นเชียวหรือ”
บุรุษรูปงามบอก “แผนที่ไม่ผิดหรอก พวกท่านเองก็ไม่ได้มาหาผิดที่ด้วย นี่ก็คือสถานที่ที่แผนที่แสดงเอาไว้นั่นแหละ”
โจว๋หยุนถิงกล่าว “เช่นนั้นเหตุใด…”
บุรุษรูปงามเห็นเขามีสีหน้าท่าทีฉงนใจ จึงกล่าวพลางยิ้มบางๆ “สรุปแล้วท่านถูกหลอกนั่นแหละ สหายของท่าน ถ้าหากข้าคะเนไม่ผิดล่ะก็ สหายของท่านน่าจะกลับเรือนไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าหากยามนี้ยังไม่กลับเรือน เช่นนั้นอย่างมากที่สุดพรุ่งนี้ก็น่าจะสามารถกลับไปด้วยตนเองอย่างปลอดภัย”
โจว๋หยุนถิงยิ่งฟังก็ยิ่งสับสน!
เขาเหมือนอยู่ท่ามกลางหมอกหนาทึบ
นี่มันคือเรื่องบ้าอะไรกันแน่
บุรุษรูปงามมองเห็นท่าทีสงสัยของเขา จึงกล่าว “นี่คือสถานที่ที่พวกท่านไม่สมควรมาเยือน ข้าไม่รู้ว่าพวกท่านฝ่าด่านแน่นหนาเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร แต่ว่าทางที่ดีพวกท่านรีบออกไปเสีย!”
โจว๋หยุนถิงเอ่ย “หากไม่พบสหายของข้า พวกเราจะไม่ไปไหนแน่!”
บุรุษรูปงามกล่าว “สหายของท่านไม่เป็นอันตรายอะไรแน่นอน รีบกลับไปเสียเถิด พวกท่านเพียงแค่ติดกับดักของผู้อื่นเข้าให้แล้ว แค่ถูกหลอกเท่านั้นเอง!”
โจว๋หยุนถิงผู้นี้ พะว้าพะวังใจ จะแบ่งแยกสถานการณ์ให้ชัดเจนได้เสียที่ไหนกันเล่า
ซินเหยาย่อมเยือกเย็นกว่าเขาหลายขนัด ย่างไปเบื้องหน้าหนึ่งก้าว พลางกล่าว “พี่ชาย! ในเมื่อท่านบอกว่าพวกเราถูกหลอกแล้ว ช่วยบอกรายละเอียดกับพวกเราหน่อยได้หรือไม่”
บุรุษรูปงามครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนเอ่ย “เอาเถิด! พวกท่านสามารถเข้ามาที่นี่และพบข้าได้ ก็นับว่าเป็นวาสนาอย่างหนึ่ง! อันที่จริง ข้านี่แหละคือคุณชายรูปวิการแห่งร้านจี้โม่”
ซินเหยาแอบคิด “ที่แท้ก็มีรูปลักษณ์วิการเสียจริงๆ”
แต่ว่า ก่อนหน้านี้นางเคยเห็นคุณชายรูปวิการอีกคนหนึ่งอยู่ห้องโถงใหญ่แท้ๆ คนที่รูปร่างสูงใหญ่กว่าสองเมตรราวกับภูเขาสูงชันลูกหนึ่งคนนั้น!
“ท่านก็คือคุณชายรูปวิการ? เช่นนั้นผู้ที่พวกเราเห็นอยู่ด้านนอกคนนั้นคือผู้ใดกัน”
“เขาเป็นเพียงผู้ติดตามของข้าก็เท่านั้น ข้าน้อยคือโอหยางซิงเฉิน คุณชายรูปวิการที่สลับตัวมา”
โอหยางซิงเฉิน!
คือชื่อที่ชั่วร้ายยิ่งกว่าชื่อหนึ่ง
คราวนี้ไม่เพียงแต่โจว๋หยุนถิง แม้แต่ซินเหยาเองก็ยังเริ่มฉงนใจบ้างแล้ว
ร้านจี้โม่แห่งนี้ทำการอันใดกันแน่
ริมฝีปากเรียวบางของโอหยางซิงเฉินโค้งยิ้มอย่างอบอุ่น “พี่น้องทั้งสองท่านมิต้องกังวลมากเกินไปหรอก จดหมายฉบับนี้ ถ้าหากข้าน้อยไม่ได้คะเนผิดล่ะก็ น่าจะเป็นสิ่งที่แม่นางหงจู๋หนึ่งในนักบอดี้การ์ดรายใหญ่สี่คนของร้านจี้โม่เป็นคนเขียนขึ้น นางมิใช่ทรราชแน่นอน และน่าจะไม่ทำตัวแย่ๆ กับสหายของท่าน จุดประสงค์ของแม่นางหงจู๋ ก็เพื่อให้พวกท่านมาทดสอบข้าน้อยเท่านั้นเอง”
ซินเหยาเอ่ย “ทดสอบท่าน? ท่านมิใช่เจ้าของร้างจี้โม่หรอกหรือ เหตุใดนางจึงต้องทดสอบท่านด้วย”
โอหยางซิงเฉินกล่าว “ตัวตนของข้าน้อย นอกจากเถ้าแก่จินและคุณชายรูปวิการตัวปลอมแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่มีใครรู้จัก คนของร้านจี้โม่ทั้งหมดต่างก็ไม่รู้ด้วยเช่นกัน รวมถึงนักบอดี้การ์ดทั้งสี่ด้วย”
ซินเหยาเอ่ย “เช่นนั้นเหตุใดแม่นางหงจู๋หนึ่งนักบอดี้การ์ดทั้งสี่จึงต้องทดสอบท่านกัน?”
โอหยางซินเฉินกล่าว “ข้อนี้มันไม่ใช่เรื่องผิดวิสัย เถ้าแก่จินมักจะมาพบข้าที่นี่อย่างลับๆ ในฐานะนักบอดี้การ์ดทั้งสี่ ถ้าหากไม่สังเกตเห็นสิ่งนี้ก็ไม่มีคุณสมบัติได้รับสมญานามว่านักบอดี้การ์ดทั้งสี่แล้ว บางทีพวกเขาอาจไม่รู้ว่าเขาเป็นคุณชายรูปวิการแห่งร้านจี้โม่ตัวจริง แต่ว่าพวกเขาจะต้องแอบสะกดรอยตามเถ้าแก่จินเป็นแน่ ดังนั้นจึงรู้การมีอยู่ของคุกใต้น้ำแห่งนี้…”
ซินเหยาพยักหน้า ก่อนกล่าว “ถ้าหากมีคนพบพฤติกรรมผิดสังเกตของเถ้าแก่จิน กอปรกับด้านนอกยังมีการลาดตระเวนและด่านป้องกันแน่นหนาเป็นชั้นๆ จนลมไม่อาจเคลื่อนผ่านได้ เกรงว่าทุกคนก็ต้องผุดความฉงนใจทั้งนั้น”
โอหยางซิงเฉินเอ่ย “ดังนั้นแม่นางหงจู๋จึงจับตัวสหายของพวกท่านมา ให้พวกท่านเป็นตัวตายตัวแทนมาทดสอบความลับของคุกใต้น้ำแห่งนี้…”
โจว๋หยุนถิงกลับกล่าวอย่างใคร่รู้ “เหตุใดถึงได้เลือกพวกเรา”
โอหยางซิงเฉินยิ้มบาง “ข้อนี้…เกรงว่าพี่ชายท่านนี้คงมีตัวตนหรือไม่ก็ภูมิหลังที่ไม่ธรรมดากระมัง จะต้องผ่านด่านเข้มงวดเป็นชั้นๆ เช่นนี้ มิใช่เรื่องที่คนธรรมดาทั่วไปจะสามารถทำได้”
โจว๋หยุนถิงแอบคิด “โอ้! ที่แท้ก็เป็นเยี่ยงนี้”
“ที่แท้ตัวตนของคุณชายสี่แห่งจวนอ๋องโจว๋ของข้านี้ได้พาดพิงถึงคุณหนูซ่งด้วย”
“พวกเขาคิดว่าข้าเป็นคนของจวนอ๋องโจว๋ ถ้าหากสหายถูกจับแล้ว จะต้องเรียกยอดฝีมือของจวนอ๋องโจว๋มาช่วยเสริมทัพ”
“พวกเขายึกอยากหลอกใช้ประโยชน์จากผู้มีฝีมือของจวนอ๋องโจว๋มาเป็นตัวตายตัวแทนช่วยเหลือพวกเขาให้การสืบค้นความลับของคุกใต้น้ำ”
ในที่สุดโจว๋หยุนถิงก็เข้าใจแล้ว
โอหยางซิงเฉินกล่าว “พี่น้องทั้งสองออกไปได้แล้ว ดูท่าทางแล้วในเมื่อพวกท่านสามารถเข้ามาได้ ย่อมออกไปด้วยตนเองได้เป็นธรรมดา ข้าน้อยไม่ไปส่งแล้ว ทั้งสองท่านรีบออกไปเร็วเข้าเถิด”
จู่ๆ ซินเหยาก็เอ่ยคำ “ท่านคือเจ้าของร้านจี้โม่ตัวจริงจริงๆ ใช่หรือไม่”
โอหยางซิงเฉินยิ้มบาง ดูอิสรเสรีอย่างถึงที่สุด บนหน้าหล่อเหลาฉายแววอบอุ่นและรอยยิ้มเปล่งประกายเสมอ “เชื่อหรือไม่ก็ตามใจเถิด อย่างไรเสียพวกท่านรีบออกไปดีกว่ากระมัง”
ซินเหยาเอ่ย “พวกเราไปแน่ แต่ว่า มีเรื่องหนึ่งที่จำต้องเตือนท่าน”
“เรื่องอันใด”
“แหวกหญ้าให้งูตื่น”
“แย่แล้ว!”
โอหยางซิงเฉินหุบยิ้มทันควัน สีหน้าเคร่งขรึมลงทันใด
โจว๋หยุนถิงเอ่ยถามอย่างใคร่รู้ “พี่หยาว อะไรกันแน่ อะไรคือแหวกหญ้าให้งูตื่น”
ซินเหยากล่าวอย่างแผ่วเบา “เกรงว่ายามนี้ร้านจี้โม่คงเกิดเรื่องฉุกละหุกอะไรขึ้นแล้ว”
โอหยางซิงเฉินเอ่ย “คืนนี้มีการประมูลสมบัติล้ำค่าชิ้นหนึ่ง จะต้องเป็นการกบฏของบอดี้การ์ดรายใหญ่ทั้งสี่แน่นอน ดังนั้นจึงส่งพวกท่านมาค้นหาความลับของคุกใต้น้ำ เพราะว่าพวกเขาจะก่อกบฏ แต่ว่ายังพะว้าพะวังใจว่าด้านในคุกใต้น้ำแห่งนี้มีความลับอะไรกันแน่ ถ้าหากไม่กำชัยในมือแล้ว พวกเขาไม่อาจแหวกหญ้าให้งูตื่นเป็นแน่แท้!”
ซินเหยาพูด “ดูท่าแล้วเจ้าของร้านเยี่ยงท่านจะตกอยู่ในอันตรายเสียแล้ว”
“ท่าน…”
ทันใดนั้นโอหยางซิงเฉินพลันตกตะลึง ปลายตาของเขาเหลือบเห็นแหวนบนนิ้วมือของซินเหยา…
ถึงแม้ซินเหยาจะประทินโฉมแปลงกาย แต่ว่าแหวนกลับลบเลือนไม่ได้…