นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 275
บทที่ 275 ยอดฝีมือขั้นเก้า2
ผู้มีฝีมือขั้นแปดสิบกว่า ไปไม่ถึงขั้นเก้า
เพราะขั้นเก้าจะดำรงอยู่เหมือนเทพเจ้า
แต่กว่าจะได้เป็นผู้มีฝีมือระดับเก้านั้น ยากแค่ไหน
ยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์
มหาปรมาจารย์ทั้งสี่ สามในสี่ตั้งตระกูลขุนนาง มีศิษย์ลูกหลานในตระกูล วัตถุประสงค์เพื่อเก็บคนไว้รับมือในสงครามและเป็นผู้เสียสละ
ตระกูลขุนนางทั้งสามตระกูลต้องมีอำนาจยิ่งใหญ่และต้องเกิดชุบเลี้ยงผู้มีฝีมือระดับเก้าหนึ่งคน
เลี้ยงผู้มีฝีมือคนหนึ่ง ต้องใช้กำลังทุกอย่างที่ตระกูลมี
โจว๋หวูนเฟิงเป็นผู้สืบทอดวัยหนุ่มที่สุดในตระกูลโจว๋
เขาถูกเลี้ยงเพื่อให้เป็นผู้มีฝีมือขั้นเก้า
ตอนที่เขาสามารถทลายพันธนาการขั้นแปดได้ ผู้มีฝีมือทั้งหมดในตระกูลปกปักรักษาเขาจนประสบความสำเร็จ
คนทั้งตระกูลเกือบร้อยคนถึงสามารถปั้นผู้ฝีมือขั้นเก้าได้สักคน
แต่ก็ต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้และการเสียสละมากมาย
แต่คนทั่วไปจะได้เป็นผู้มีฝีมือระดับเก้า ยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์
หลายร้อยปีที่ผ่านมา ผู้มีฝีมือระดับเก้าเกือบทั้งหมดยังอยู่ในตระกูลขุนนาง
พวกนักดาบซื่อเทียนยิ่งน้อยลงล้ำค่าและหายากยิ่งนัก
แต่นักดาบโหมสามารถสำเร็จเข้าขั้นเก้าได้ คนในตระกูลเกือบทั้งหมดต่างเห็นเส้นสนกลใน
เขาคลุ้มคลั่งเพราะกระบี่
ชั่วชีวิตจับจดกับการฝึกซ้อมกระบี่ หลีกเลี่ยงจากทางโลก
ไร้ญาติ ไร้สหาย ไม่แต่งงานมีทายาทสืบสกุล
เขาซ่อนตัวฝึกฝนอยู่ในหุบเขาลึกหลายสิบปี
มีเพียงความคลุ้มคลั่งและจดจ่อ ถึงจะขึ้นเป็นผู้มีฝีมือขั้นเก้าได้
หากบนโลกมีผู้มีฝีมือระดับเก้าเกิดขึ้นอีก ทั้งโลกจะสั่นสะเทือนอีกครั้ง
ถ้าผู้มีฝีมือระดับเก้าเป็นคนหนุ่ม….ก็เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก
ดังนั้น เมื่อถางเปิ่นขุยได้ยินว่านกลุ่มผู้มีฝีมือลับมีคนที่อยู่ในระดับเก้า เขาก็แทบไม่เชื่อ
แม้แต่ซินเหยาที่ได้ยินเรื่องนี้ ก็ยังสงสัยในความจริง
แต่นางไม่ได้สงสัยถางเปิ่นขุยมากขนาดนั้น
อย่างน้อย ในโลกนี้มันมีอะไรที่เป็นไม่ได้บ้างล่ะ
ตัวนางเองก็บรรลุวิชาวรยุทธขั้นสูงตั้งแต่อายุยี่สิบปีมิใช่หรือ
อีกอย่าง นางยังเป็นผู้มีฝีมือขั้นสิบคนเดียวด้วย
ถ้าผู้มีฝีมือขั้นเก้าดำรงอยู่เหมือนเทพ เช่นนั้นผู้มีฝีมือขั้นสอบก็เป็นประมุขแห่งเทพ
ตอนนี้โจว๋อี้เฉินเป็นผู้ยิ่งใหญ่ สร้างความมั่นคงและความปลอดภัยให้แผ่นดินมากมาย ทำให้ประชาชนมีชีวิตที่ปลอดภัย…..
แต่น่าเสียดายโจว๋อี้เฉินจากเร็วเกินไป…..
ชีวหยูนเห็นซินเหยาเงียบไม่พูดอะไร “วรยุทธแม่ทัพคู่ร้ายกาจมาก ข้าตัวคนเดียวไม่อาจสู้พวกเขาได้ ท่านชายหยาว ตอนนี้มีเพียงท่านที่สามารถช่วยสหายทั้งสามของข้าได้ หวังว่าท่านจะยอมช่วยเหลือ ไม่ว่าท่านจะให้ข้าทำอะไรข้าก็จะทำ”
ซินเหยากล่าว “เราอย่าเสียเวลาเลย เดินทางไปพูดไปเถอะ”
ซีวหยูนพยักหน้า “ค่ะ”
ส้งชิงกล่าว “อา…..ท่านชายหยาว กล่องเหล็กในห้องท่านนั้น….”
ซินเหยายิ้มกล่าว “รอให้ข้ากลับมาก็แล้วกัน เสี่ยวป๋าน พวกเรากันเถอะ”
ชีวหยูน ซินเหยา เสี่ยวป๋านเริ่มออกเดินทาง เดินหายเข้าไปในความมืดอย่างรวดเร็ว
ส้งชิงมองพวกเขาเดินจากไปไกล แอบในใจว่าแม่นางชีวหยูนคนนั้นงดงามยิ่งนัก…..
เขตเมือง
ยุ้งฉางร้าง
หญ้ารกชัฏอยู่กลางความมืดที่แสนเงียบวิเวก ราวกับกำลังกระซิบเล่าเรื่องราวในยุคโบราณ
ชีวหยูนและซินเหยาซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้า มองยุ้งฉางรกร้างตรงหน้า….
มืดจนกระทั่งไม่มีแสงดาว
รอบตัวเงียบจนวังเวง
ราวกับไร้ร่องรอยของคน
แต่พวกผู้มีฝีมืออย่างชีวหยูนกับซินเหยากลับรับรู้ได้ชัดเจน ในบรรยากาศมีแรงอาฆาตสังหารและเลือดเย็น
ชีวหยูนกระซิบ “ท่านชายหยาว ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี”
ซินเหยากล่าว “เงียบไว้ แปลกมาก ตอนนี้สหายของเจ้าถูกจับตัวไปหรือไม่ก็ถูกฆ่าไปแล้ว ถ้าเป็นข้าก็ยังฆ่าพวกเขาไม่ได้ เวลาสำคัญ พวกเขากำลังจับตาเจ้า ดังนั้นเจ้าอย่าปรากฏตัว พวกเขาก็จะได้ไม่มีอันตรายถึงชีวิตชั่วคราว”
ชีวหยูนเอ่ย “งั้นพวกเราจะช่วยยังไงล่ะ”
ซินเหยากล่าว “เจ้ารออยู่ที่นี่ ข้าไปช่วยคนเดียว”
“ไม่ได้ ท่านมาช่วยชีวิต ข้าจะให้ท่านไปเสี่ยงตัวคนเดียวได้อย่างไร”
“ข้าจะเข้าไปดูสถานการณ์ เจ้าเฝ้าด้านนอกแทน ถ้าข้าเป็นอะไรไป เจ้ายังช่วยข้าได้”
“เช่นนั้น ท่านระวังตัวด้วย”
ใบหน้าชีวหยูนมีความห่วงใยที่แสนอบอุ่น
“เสี่ยวป๋าน”
“พวกเราไปจัดการคนไม่ดีกันเถอะ”
ซินเหยาอุ้มเสี่ยวป๋าน กำลังเตรียมออกตัว
“จีจี”
เสี่ยวป๋านร้อง กระโดดโลดเต้นดีใจ
ซินเหยานึกขึ้นได้ ตอนที่เสี่ยวป๋านท่าทางกระหายเลือด ถ้าพามันไป ไม่แน่ว่าตอนมันต่อสู้ อาจจะแสดงพลังภายในร้ายกาจที่มันซ่อนอยู่
“เสี่ยวป๋าน เจ้ารออยู่ที่นี่ ถ้าข้ามีอันตราย เจ้าเข้าไปช่วยข้า เข้าใจไหม”
ซินเหยาไม่อยากให้เสี่ยวป๋านคิดว่านางทิ้งมัน หรือไม่ให้ความสำคัญกับมัน จึงตั้งใจพูดให้เหมือนกับมอบภาระหน้าที่สำคัญให้มันจัดการ
“จีจี”
เสี่ยวป๋านตอบพยักหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ
ซินเหยายิ้มเล็กน้อย “ฟังนะที่รัก เช่นนั้นเจ้ากับชีวหยูนรักษาตัวให้ดี อย่าวิ่งเพ่นพ่าน ข้าต้องมีอันตรายเท่านั้นถึงจะออกมาช่วย ไม่งั้นก็ต้องรอที่นี่เงียบๆ อย่าก่อความวุ่นวาย เข้าใจไหม”
“จีจี”
เสี่ยวป๋านพยักหน้า ในดวงตาเป็นประกายมีความสุข
ซินเหยารู้ว่าเสี่ยวป๋านเข้าใจที่นางพูด จึงตั้งใจให้มอบหมายหน้าที่ให้เฝ้าอย่างจริงจัง