นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 279
บทที่ 279 ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง2
ถางเปิ่นขุยกล่าวด้วยความโกรธ “ก็แค่สัตว์ป่าเท่านั้น ไม่ต้องไปสนใจ”
ทหารพิฆาตกล่าว “ขอรับ ท่านเสนา”
เขายังพูดติดๆขัดๆ เหมือนในใจยังกลัว
ซินเหยาก็เริ่มแปลกใจ
งูหลามหัวดำงั้นหรือ
นางรู้ว่างูหลามหัวดำมีความยาวหลายสิบเมตร หนักเป็นร้อยกิโลกรัม กินแกะได้ทั้งตัว แต่ใหญ่เท่าถังน้ำ กินลูกวัวได้ทั้งตัวหรือ มีงูหลามหัวดำแบบนั้นด้วยหรือ แล้วงูหลามหัวดำแปลงกายเป็นคนได้ด้วยหรือ
ซินเหยาเกิดในยุคศตวรรษที่ 21 รู้ว่าสมัยก่อนมีหนังและเรื่องเล่าเกี่ยวกับงูหลามหัวดำมามากมาย แต่ไม่เคยเห็น
เสี่ยวป๋านอยู่นิ่งๆจับจ้องที่ยุ้งฉาง ไม่เคลื่อนไหว มันไม่รู้ว่าด้านหลังมีแสงดวงตาทมิฬฉายมา
ในดวงตาดำทมิฬนั้น จับจ้องเสี่ยวป๋านที่อยู่ด้านหน้าของมัน
ฝ่อๆ……..
อ้าปากอันมหึมา เข้าใกล้เสี่ยวป๋านช้าๆ
สัตว์ประหลาดอ้วนท้วนต้องได้กินอย่างเอร็ดอร่อย
งูหลามหัวดำค่อยๆไปอย่างช้าๆ เข้าไปในพงหญ้าอย่างเงียบๆ แทบไม่ส่งเสียงใดๆ
ห้าเมตร……
สี่เมตร……..
สามเมตร……
เตรียมเข้าจู่โจม
“แฮ่”
งูหลามหัวดำอ้าปากกว้าง เผมเขี้ยวแหลมคม พุ่งออกไปทางเสี่ยวป๋าน
“ฝ่อ”
เสี่ยวป๋านหันกลับมาทันที แววตาเต็มไปด้วยแรงสังหารและดุร้าย
ทันใดนั้น….. ทั้งตัวมันเริ่มระเบิดจนกลายเป็นแสงสีเลือด
ไม่
นั่นไม่ใช่แสง
แต่เป็นเปลวไฟ
เปลวไฟร้อนระอุ
เสี่ยวป่ายที่เหมือนแมวสีขาว ไฟกำลังลุกโชติทั่วตัว….
กระโดดเข้ากัดงูหลามหัวดำ
“แฮ่ๆ”
มันรีบจู่โจม หัวพุ่งเข้าไปในหญ้า พริบตาเดียวก็กระโดดหายไปแล้ว
เสี่ยวป๋านวิ่งไล่ตาม แต่เมื่อเห็นยุ้งฉางด้านหน้า จำได้ว่ามีคนอยู่ในนั้น จึงปล่อยไป ก้มลงไปอย่างเงียบๆ
แต่ตอนนี้ทั้งตัวมันไฟลุกท่วม ทั้งพงหญ้าและโคลนบริเวณกว้างติดไฟแล้ว
หญ้าถูกเผาไปทั่ว แม้แต่ดินโคลนยังถูกเหมาไหม้ส่งกลิ่นเหม็น
ถางเปิ่นขุยได้กลิ่น “เหม็น กลิ่นอะไรลอยเข้ามา”
ทหารพิฆาตตอบ “ท่านเสนา น่าจะเป็นกลิ่นเหม็นคาวของงูหลามหัวดำนั่น เจ้าตัวนี้ดุร้ายยิ่ง เจอสิ่งที่อ่อนแอกว่ามัน มันจะกลืนกินไม่เลือก หากเจอสิ่งที่ดุร้ายกว่ามัน มันจะหนี”
ชีวหยูนอดทนไม่ไหวแล้ว “เจ้าเฒ่า เมื่อไหร่เจ้าจะยอมปล่อยสามคนนั้นเสียที”
ถางเปิ่นขุยยิ้มเย็นชา “เจ้าฆ่าหยาวซินแล้ว ข้าจะปล่อยทั้งสามคนนี้ไป”
ชีวหยูนพูด “เจ้าอย่าได้คิด”
ถางเปิ่นขุยยิ้มเย็นชา แววตาเผยความร้ายกาจไร้ที่สิ้นสุด เขามาถึงหน้าฮัวโหล่หยูน เอาดาบในมือแทงไปที่อกฮัวโหล่หยูน
“อ๊าก”
ฮัวโหล่หยูนร้องด้วยความเจ็บปวด
ดาบยาวแทงเข้าไปที่หน้าอกเขา
ไม่ทันไรเลือดของเขาไหลซิบ
ในแววตาแสนเย็นชา ยังมีแรงอาฆาตแค้นอันแรงกล้า
ฮัวโหล่หยูนเลือดไหลนอง หน้าซีด พยายามพูดด้วยเสียงอันอิดโรย “ชีวหยูน….รีบ….รีบหนีไป”
“ไอ้โจรเฒ่ามันหานายตัวปลอมมาหลอกพวกเรา”
“พวกเราเห็นนายตัวปลอมคิดว่านางเป็นนายตัวจริง”
“ตอนที่จะตรวจใต้เท้านางว่ามีสี่ดาวราชันย์หรือไม่”
“สุดท้ายนายตัวปลอมก็วางยาอ่อนแรง ให้พวกข้าไร้กำลังภายใน”
เสียงเขาอ่อนลงมาก อยากจะพูดต่อแต่กำลังหมดแล้ว….
ชีวหยูนร้องไห้ “ฮัวโหล่หยูน เจ้าอย่าพูดแบบนี้สิ เจ้าอย่าพูดแบบนี้”
ฮัวโหล่หยูนกล่าว “พวกเราสามคนอ่อนกำลัง ยังถูกโซ่ตรวน ไร้กำลังภายใน แม้เจ้าจะช่วยพวกข้าได้ แต่เราสามคนหนีไปไม่ไหว รังแต่จะเป็นภาระเจ้า เจ้ารีบหนีไปคนเดียว หลังจากนี้คำสั่งหานายจะอยู่ที่เจ้าคนเดียว”
“ช้าก่อน”
ซินเหยาได้ยินสนทนาของพวกเขา รีบถาม “เมื่อกี้พวกเจ้าบอกว่าพวกเจ้ากำลังตามหาเจ้านาย ใต้เท้านางมีอะไรนะ”
ฮัวโหล่หยูนมองเข้า ไร้กำลังจะตอบกลับ
ชีวหยูนตอบแทน “พวกเราไม่เคยเจอเจ้านาย รู้เพียงว่าปีนี้นางอายุราวยี่สิบปี ใต้เท้ามีตราสี่ดาวราชันย์”
ซินเหยาตกใจ “สี่ดาวบังคับงั้นหรือ”
ชีวหยูนตอบ “ใช่ๆ สี่ดาวบังคับนั่นแหละ ทำไมเจ้าถึงรู้ล่ะ เจ้าเคยเจอเจ้านายของพวกเราหรือ เจ้ารู้จักคนที่มี่ตราสี่ดาวบังคับใต้เท้าหรือ เจ้ารู้หรือไม่ว่านางเป็นใคร ใครเป็นเจ้านายของเรา”
ซินเหยากำลังจะถามปัญหาอื่น
ถางเปิ่นขุยพูดตัดบทพวกเขา ชี้ดาบมาด้านหน้า ยกดาบขึ้นมา
“ชีวหยูน ถ้าเจ้ายังไม่ลงมือ คนต่อไปก็คือเจียนหารยี้”
“อย่านะ”
ชีวหยูนตะโกนเสียงลั่น
ถางเปิ่นขุยเอ่ยด้วยความโกรธ “ถ้าไม่อยากให้เพื่อนทั้งสามคนของเจ้าตาย ก็ฆ่าหยาวซินซะ”
“ฮึ งั้นเจ้าหารเจียนยี้ก็ตาย”
พูดจบ ดาบถางเปิ่นขุยก็แทงเข้าไป
“ช้าก่อน”
ชีวหยูนตะโกน หลังจากนั้นนางยกดาบดักบนพื้นขึ้นมา หน้าลำบากมองซินเหยา “ท่านชายหยาว โปรดอภัยด้วย ข้าผิดไปแล้ว ไม่ว่าวันนี้ผลจะเป็นอย่างไร ข้าเกิดมาเพื่อเป็นผู้รับใช้ท่าน วันนี้ข้าขอตอนแทนบุญคุณท่าน”
พูดจบ นางควงดาบในมือแทงเข้าไป