นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 32
บทที่ 32 ฮ่องเต้โปรดวางใจ(1)
โจว๋ก้องหรุงตกใจเหงื่อแตกไปทั้งตัว ไม่กล้าพูดแม้แต่คำเดียว
ห้องลับตระกูลโจ๋ว
ฮ่องเต้อำมหิตนำนักต่อสู้ฝีมือดีของตระกูลโจ๋วกับผู้ติดตามทั้งหลาย แสดงความนับถือต่อกล่องบูชาศักดิ์สิทธิ์ ด้วยธูปบูชาที่ดีที่สุด หลังจากจัดวางกล่องบูชาได้ดีฮ่องเต้อำมหิตส่งสายตาให้ถางเปิ่นขุย
ถางเปิ่นขุยพยักหน้า แล้วตอบว่า “ นายท่านโจ๋ว วันนี้ฝ่าบาทให้พวกข้าไม่กี่คนมาตรวจจวนอ๋องโจ๋ว เป็นเรื่องการรักษาความลับ ดังนั้น ที่อยู่ของฝ่าบาทไม่สามารถให้รั่วไหลไปได้!”
นายท่านโจ๋วพูด: “เฉิงเสี้ยงวางใจ ฝ่าบาทวางใจ”
เขาวางท่าเป็นกลาง ดูแล้วเหมือนเป็นผู้มีฝีมือดีไม่มีใครเทียบ ด้วยท่าทีที่แสดงออกแบบแข็ง ๆ ปนนุ่มนวล
นายท่านโจ๋วตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นเรื่องนิสัยทางลบเป็นที่ใครก็รู้กัน
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะอายุมากแล้ว มีลูกหลานเต็มบ้าน แล้วก็ไม่ได้อยู่ไม่ยุ่งเรื่องยุทธภพและราชสำนักมานาน นิสัยของเขาก็ดีขึ้นมามากแล้ว คนภายนอกดูแล้วก็คงรู้สึกว่าเขาเป็นแค่คนแก่นิสัยดี ไม่มีอะไรน่ากลัว
แต่ว่าคนที่รู้เรื่องของเขาดีก็รู้ว่า อย่าไปมีเรื่องกับนายท่านโจ๋ว
นิสัยของนายท่านโจ๋วเมื่อก่อนนี้รุนแรงกว่านายท่านโจ๋วคนที่สามเวลาที่โมโหขึ้นมา รวมไปถึงฮ่องเต้องค์ก่อนตอนเข้าประชุมเคยพูดเล่นมาหนึ่งประโยคว่า นายท่านโจ๋วมาสายประจำ ผลที่ตามมาคือนายท่านโจ๋วไปลากเก้าอี้มาที่หอประชุม นั่งอยู่ตรงนั้นสามวันสามคือไม่กินไม่ดื่ม ทำให้ฮ่องเต้องค์ก่อนตกใจเกือบตาย พูดยังไงก็ไม่ฟัง จนฮ่องเต้องค์ก่อนต้องเข้าห้องประชุมมาพูดขอโทษเขาด้วยตัวเอง นายท่านโจ๋วจึงยอมไปพัก
ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่สามารถแสดงให้เห็นได้ชัดถึงนิสัยใจร้อนของเขา
ตอนที่นายท่านโจ๋วยังเป็นหนุ่มแน่น ก็คล้ายกับโจว๋หวูนเฟิงในตอนนี้ นายท่านโจ๋วในตอนนั้นเป็นทหารแนวชายแดนคอยปกป้องชายแดนประเทศ
ถึงแม้ว่าในร้อยกว่าปีมานี้ราชวงศ์เทียนส้งจะไม่มีการออกรบแล้ว แต่ตามแนวชายแดนยังมีการคุกคามเล็ก ๆ และการแย่งชิงอย่างต่อเนื่องไม่เคยหยุด
ในตอนนั้นนายท่านโจ๋วเป็นทหารไปออกรบชนะมาครั้งนั้น และยึดครองเชลยมาได้สามร้อยกว่าคน
หลังจากคุมตัวเชลยกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว ขุนนางน้อยใหญ่และฮ่องเต้เต็มหอประชุมต้องมาหารือกันว่าจะทำยังไงกับเชลยของชนเผ่าหมานทั้งสามร้อยคนดี ในตอนนั้นชนเผ่าหมานเป็นที่คุกคามชายแดงราชวงศ์เทียนส้งมากที่สุด ถึงแม้ว่าชนเผ่าหมานจะไม่ได้แข็งแกร่งมาก แต่ถือว่าเป็นชนเผ่าเร่ร่อน นิสัยใจคอคนชนเผ่าหมานดุร้ายและป่าเถื่อน สังหารคนด้วยการเผาไฟ ฆ่าผู้คนตามชายแดนนับไม่ถ้วน
เฉิงเสี้ยงในตอนนั้น ก็เป็นถามเปิ่นกลางบิดาของถางเปิ่นขุย เพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งของประเทศ ทำให้ชนเผ่าหมานตกใจกลัว เลยเสนอว่าฆ่าเชลยเหล่านั้นทั้งหมด
ในที่สุด เชลยทั้งหมดก็ถูกกำจัดต่อหน้าสาธารณชน!
ตอนที่นายท่านโจ๋วยังเป็นหนุ่มพอทราบเรื่องนี้ขึ้นมาก็โมโหเหมือนฟ้าพิโรธ เดิมทีเขาสัญญากับผู้คนชนเผ่าหมานไว้ว่าจะไม่ฆ่า เพียงแค่ยอมแพ้ก็จะไม่ฆ่า และตอนที่ทำหนังสือส่งให้ฮ่องเต้ก็มีเขียนเจตนาชัดเจนว่าจะไม่ฆ่าเชลย
เขารู้ว่าคนที่เป็นตัวต้นตัวตีให้ฆ่าเชลยคือถางเปิ่นกลาง ดังนั้นจึงนำทหารไม่กี่ร้อยนาย เดินทางจากชายแดนกลับมาทั้งวันทั้งคืน กลับถึงเมืองหลวงมุ่งหน้าตรงไปจวนเฉิงเสี้ยงถางเปิ่น บีบให้ถางเปิ่นกลางยอมตายเพื่อชำระโทษ
เรื่องนี้หลังจากนั้นมาก็มีฮ่องเต้มาไกล่เกลี่ย และได้เขียนหนังสือไปขอโทษต่อชนเผ่าหมาน สุดท้ายแล้วก็สามารถเข้าใจกันได้ แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา นายท่านโจ๋วกับคนตระกูลถางเปิ่นก็เหมือนมีอะไรค้างคาในใจเหมือนรากที่ฝังลึก
ฮ่องเต้อำมหิตถึงแม้นจะเหี้ยมโหด แต่ในการเผชิญหน้าครั้งนี้ นายท่านโจ๋วที่มีวิทยายุทธเป็นอันดับหนึ่ง แน่นอนว่ายังไงก็ต้องมีมารยาทและให้ความเคารพ
“ เหอะๆ นายท่านโจ๋วก็ยังคงเป็นคนฝีมืออันดับหนึ่งในราชวงศ์เรา มีนายท่านโจ๋วเป็นหลัก ยังมีคนตระกูลโจ๋วฝีมือสูงนั่งเป็นหลักอีกมาก มีอะไรให้ต้องกังวลอีกหรือ เฉิงเสี้ยงเจ้าคิดมากเกินไปแล้ว”ฮ่องเต้อำมหิตยิ้มอย่างใจกว้าง
เฉิงเสี้ยงสีหน้าขุ่นเคือง กดด่าในใจ: “ฮ่องเต้อำมหิต!นี่เจ้ามาให้ข้าพูดชัดๆตอนนี้กลับมาต่อว่าข้า!ที่แท้เจ้าอยากเสียสละข้าเพื่อไปปรัจบนายท่านโจ๋ว เจ้าเล่ห์จริงๆ”
แม้ว่าใจในของถางเปิ่นขุยจะไม่ชอบใจนัก แต่ก็ไม่กล้าจะทำอะไร
นิสัยใจคอของฮ่องเต้อำมหิตนี้ เป็นคนยากที่จะรู้ว่าในใจคิดอะไรอยู่
“ฝ่าบาททรงชมเกินไปแล้วกระหม่อมแก่แล้ว พละกำลังไม่เหมือนแต่ก่อน”
นายท่านโจ๋วพูดเน้นย้ำทุกคำอย่างพิเลียดพิไล ดูไม่เหมือนปกติเวลาที่เขาอยู่กับลูกหลานที่จวนอ๋องโจ๋ว
“ท่านโจ๋วร่างกายไม่สบายหรือ ข้ากลับวังไปจะเรียกหมอหลวงหารักษานายท่านโจ๋ว “ฮ่องเต้อำมหิตพูดอย่างเอาใจใส่
“ฝ่าบาททรงมีใจ เรื่องสุขภาพร่างกายของข้าน้อยเป็นเรื่องเล็ก เพียงแต่อายุมากแล้ว ไม่ได้แข็งแรงเหมือนกับตอนหนุ่มๆ ข้าน้อยก็ไม่ได้เข้าประชุมมาหลายปี แต่ทว่าเห็นห่วงเรื่องบ้านเมือง จากประชาชนทั่วไปรู้ว่าฮ่องเต้ตอนเป็นหนุ่มนั้น มีความกล้าหาญ ยังมีเจตนาเหมือนฮ่องเต้องค์ก่อน ข้าน้อยอยู่ด้วยความสงบสุข หลังจากนี้ร้อยปีก็คงจะมีหน้าไปเจอกับฮ่องเต้องค์ก่อนได้”
ฮ่องเต้อำมหิตพูด:” นายท่านโจ๋วกล่าวหนักแล้ว ตัวข้าและราชวงศ์คงขาดกำลังสำคัญอย่างนายท่านโจ๋วกับตระกูลโจ๋วไม่ได้ นายท่านโจ๋วต้องดูแลสุขภาพให้ดี ถึงจะเป็นสิริมงคลต่อราชวงศ์ และก็เป็นสิริมงคลต่อคนตระกูลโจ๋วรุ่นหลัง ข้าได้ยินมาว่าจวนอ๋องโจ๋วมีข่าวดี…….”
“ ใช่แล้ว ลูกสาวของคนรองในตระกูลที่หายไปหลายเดือนตอนนี้ตามกลับมาได้แล้ว” นายท่านโจ๋วไม่รู้ว่าเหตุใด
เป้าจวินถึงถามเรื่องตระกูลโจ๋วขึ้นมา
แต่เขารู้ ฮ่องเต้อำมหิตนำพ่อมดและเฉิงเสี้ยง และยังนำกล่องบูชาศักดิ์สิทธิ์ของตำหนักในวังออกมา คงไม่ได้เป็นเพราะเรื่องของคนในตระกูลโจ๋วแน่แท้