นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 358
บทที่ 358 เปลี่ยนเป็นเย็นชา1
“นางเย็นชาขึ้น น่ากลัว แปลกไป แล้วก็…แล้วก็โหดร้าย!”
“ตอนที่นางฆ่าท่านอาจารย์ ข้ากลัวแทบแย่!”
“ไม่ใช่ว่าตกใจกลัวสภาพน่าสังเวชของท่านอาจารย์ แต่กลัวสีหน้าของพี่สาวข้าต่างหาก!”
“ต่อมาข้าถึงได้รู้ ที่แท้ผู้ติดตามคนนั้นเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยมคนหนึ่ง!”
“เขาบังคับขืนใจพี่สาวข้าที่เพิ่งจะอายุแปดขวบ จากนั้นก็ขายนางให้กับชายแก่โรงกลั่นเหล้าคนหนึ่งรับอุปถัมภ์ไปเป็นเมียในอนาคต!”
“ตาเฒ่าโรงกลั่นสุราคนนั้นทำร้าย เฆี่ยนตีนางทุกวัน!”
“ให้นางทำงานหนักทุกประเภท ตอนกลางคืนยังต้องนอนกับเขาอีก…”
“ผู้ชายสวะพวกนี้เป็นสัตว์เดรัจฉาน”
“พี่สาวข้าเพิ่งจะแปดขวบเท่านั้น!”
“ต่อมานางได้พบกับคนสวมหน้ากากคนหนึ่ง เขาสอนวรยุทธ์ให้พี่สาวข้า”
“นางจึงฆ่าผู้ติดตามและตาเฒ่าคนนั้นทิ้งเสีย”
“จากนั้นก็สืบหาบ้านเกิดของท่านอาจารย์…”
“หลังจากพี่สาวข้าฆ่าอาจารย์ และช่วยข้าออกมาแล้ว…”
“พวกเราสองพี่น้องก็รุดหน้าไปร่ำเรียนวรยุทธ์กับคนสวมหน้ากากผู้นั้น”
“พี่สาวข้ารู้ หากไม่อยากถูกคนรังแกก็ต้องตั้งใจร่ำเรียนวิทยายุทธ์”
“ดังนั้น นางจึงมุมานะฝึกหนักทุกวัน!”
“คนสวมหน้ากากชอบพี่สาวข้ามาก มักจะให้เศษเงินกับนางเป็นประจำ เอาไว้ให้ซื้อกิน”
“แต่ไรมาตัวพี่สาวข้าเองก็ทำใจไม่ได้ซื้อ”
“แต่กลับเก็บเงินทั้งหมดไว้เพื่อซื้อขนมอร่อยๆ และเสื้อผ้าใหม่ๆ ให้ข้า…”
“หลังจากนั้นอีก…”
“มีวันหนึ่งที่จู่ๆ คนสวมหน้ากากผู้นั้นก็และนำพวกเราสองพี่น้องให้แก่ไทเฮา”
“นับจากนั้นเป็นต้นมา เขาก็หายสาบสูญไป”
“จากนั้นพวกเราสองพี่น้องก็กลายเป็นคนของไทเฮา”
“ข้าคอยปรนนิบัติรับใช้ไทเฮาในวัง และพำนักอยู่นานหลายสิบปี…”
“พี่สาวข้ากลับถูกไทเฮาส่งไปทำงานแผนกอื่นๆ ข้ามักจะไม่ได้พบนางนานหลายปีเสมอ…”
“แต่ข้ารู้ว่านางปลอดภัยดี แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว!”
อ้านซิงเอ่ยวาจาออกมาหลายต่อหลายประโยค
นางในยามปกติ หนึ่งปีก็ไม่อาจพูดมากความขนาดนี้
ตอนนี้ ในที่สุดก็มีโอกาสพูดคุยระบายเกี่ยวกับเรื่องราวฝังใจที่เก็บเอาไว้เป็นเวลานาน…
หลังจากกล่าวจบ นางก็น้ำตานองอาบสองแก้มไปตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว
ซินเหยากล่าวแผ่วเบา “พี่สาวเจ้าเป็นคนที่ยิ่งใหญ่มากคนหนึ่ง! นางยอมทนตรากตรำสารพัดเพื่อปกป้องเจ้า! เพียงแต่ เจ้าร้องไห้อย่างนี้ เครื่องสำอางที่ข้าลงไปเรียบร้อยแล้วมันก็เปรอะหมด!”
“เช่นนั้นข้าไม่ร้องแล้ว”
อ้านซิงรีบพับเก็บอารมณ์ของตนไว้ และแปรกลับไปเป็นอ้านซิงที่เย็นชาดังเดิม
นางอาศัยอยู่ในวังหลวงมาสิบกว่าปี ได้เห็นทุกสิ่งที่โหดร้ายและไร้ความรู้สึกบนโลกจนชินแล้ว นับแต่ยังเด็กก็ผ่านประสบการณ์ทนทุกข์และเจ็บปวดมามากเหลือเกิน นางเรียนรู้ที่จะใช้การแสร้งทำเป็นเย็นชามาปกป้องตนเองได้ตั้งนานแล้ว
ซินเหยาเติมเครื่องสำอางให้นาง พลางเอ่ยถามไปด้วย “กล่าวมาขนาดนี้แล้ว ด้านหลังคอของเจ้าและศิษย์พี่ก็มีลายสักแบบเดียวกันน่ะสิ?”
“ใช่!”
“นอกจากพวกเจ้าสองคนแล้ว ยังมีคนอื่นๆ อีกหรือไม่”
“น่าจะไม่มีแล้ว นี่เป็นลายสักที่ท่านอาจารย์สลักให้พวกเราในตอนนั้น กลัวว่าภายหน้าพวกเราจะพลัดพรากจากกัน”
“ศิษย์พี่ของเจ้าตอนนี้ก็ยังทำงานให้แด่ไทเฮาอยู่หรือไม่”
“ใช่”
“เหตุใดข้าอยู่ในวังก็ไม่ยักจะเห็นนางมาก่อนเลย?”
“แต่ไหนแต่ไรนางไม่พำนักอยู่ในวัง จะเข้าวังเพื่อมารับบัญชาจากไทเฮาเป็นครั้งคราว และพักอยู่วันสองวันก็ออกไป ข้าไม่เคยมีโอกาสได้ใช้เวลากับศิษย์พี่สักสองสามวันเลย แต่ข้ารู้ว่านางอยู่ที่ไหน รู้ว่านางปลอดภัย แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว”
“นางทำงานอะไรให้ไทเฮาอยู่นอกวัง?”
“ท่านอยากจะสืบเรื่องราวของพวกเราสองพี่น้อง หรือว่าอยากสืบความลับของไทเฮากันแน่”
จู่ๆ อ้านซิงก็ระแวดระวังขึ้นมา
“ฮ่าๆ เสร็จแล้ว!”
ซินเหยายิ้มแป้น มองทางอ้านซิงที่งดงามจนคนตะลึง ยังแอบมีความริษยาเล็กน้อยในหัวใจเลยเชียว!
“เสี่ยวสิจือ เอาคบเพลิงมา! เอามาเพิ่มอีกเยอะๆ!”
“ขอรับ! พระนาง!”
เสี่ยวสิจือนำขันทีสองคนมา แต่ละคนต่างถือคบเพลิงแดงจ้าเดินเข้ามาสามสี่อัน
แสงไฟส่องกระทบบนใบหน้าของอ้านซิง ระเรื่อแดงวูบไหว ดวงตาสดใสเรียวฟันเรียงสวย ผิวพรรณเนียนนุ่มเปล่งประกายแวววาวและดูน่าหลงใหล
ซินเหยาพูดงึมงำ “ช่างสวยเหลือเกิน! สวยเสียจนแม้แต่ข้ายังริษยาเชียวแหนะ!”
อ้านซิงกล่าวอย่างดูหมิ่นเล็กน้อย “นี่ท่านกำลังประชดหรือ ใครๆ ก็รู้ว่าท่านเป็นสตรีที่งดงามที่สุดในวังหลวง! นี่คงจะใช้ถ้อยคำเช่นนี้มาประชดประชันข้า!”
ซินเหยากล่าวพลางหัวเราะ “ประชดหรือไม่ ก็ให้ทุกคนเข้ามาดูใกล้ๆ เดี๋ยวก็รู้เองแหละ! เหล่าพี่น้องทุกๆ ท่าน พวกเจ้าเข้ามาดูเร็ว จากนั้นพวกเจ้าจะรู้เองว่าหลังจากใช้เครื่องสำอางแล้วจะสวยขึ้นมากมายขนาดไหน!”
เหล่าพี่น้องคนงามที่อดรนทนไม่ไหวแต่ทีแรก ต่างพากันก้าวเข้ามารวมกัน
เห็นเพียงแต่ภายใต้แสงไฟสีแดงฉานที่ส่องกระทบ ใบหน้าแต่เดิมของอ้านซิงก็ถือว่างดงาม สะกดใจคน มีเสน่ห์อรชร!
“ว้าว!”
“แม่นางอ้านซิงยามปกติมักจะเย็นชา พอแต่งสักหน่อยถึงกับงดงามเยี่ยงนี้เชียว!”
“งดงามมากจริงๆ!”
“ราวกับเทพธิดาอย่างไรอย่างนั้น!”
“สวยงามเหลือเกินจริงๆ!”
“ถึงแม้จะไม่สวยงามเท่าความงดงามหยดย้อยสมคำร่ำลือของโจว๋กุ้ยเฟย แต่ว่าก็สะคราญโฉมไม่เป็นรองใคร!”
“ข้ากล้าพนัน! ในวังหลังนี้นอกจากโจว๋กุ้ยเฟยแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดสวยไปกว่าแม่นางอ้านซิงอีกแล้ว!”
“เครื่องสำอางนี้มันอัศจรรย์เหลือเกินจริงๆ!”
“มิน่าเล่าที่แม้แต่ฝ่าบาทยังโปรดปรานโจว๋กุ้ยเฟยแต่เพียงผู้เดียว!”
“ไม่ได้การ!”
“ข้าเองก็ต้องซื้อเครื่องสำอางครบชุดเสียหน่อยแล้ว เงินที่ติดสินบนนางในและขันทีในวังมีตั้งหนึ่งพันตำลึงแหนะ! ถ้าหากใช้หนึ่งพันกว่าตำลึงแลกเปลี่ยนรูปโฉมงามเยี่ยงนี้ แม้นตายก็ยอมแล้ว!”
“ถึงแม้พวกเราจะเป็นนางในที่แต่ละเดือนมีเบี้ยเพียงแค่สิบตำลึง แต่ดีที่ยามปกติพระนางก็ตบรางวัล ข้าทาสก็เก็บออมเงินไว้ ซื้อครบชุดไม่ได้ ซื้อเพียงหนึ่งชิ้นสองชิ้นก็เพียงพอแล้ว”
“ข้าเองก็ซื้อด้วย!”