นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 370
บทที่ 370 ความสัมพันธ์อันเบาบาง1
ขณะที่ไทเฮากำลังลังเลไม่แน่ใจอยู่นั้น มามาอาวุโสคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังพลันเอ่ยคำ “ไทเฮา! ไทเฮา! โจว๋กุ้ยเฟยผู้นี้อุปนิสัยเจ้าเล่ห์ วาจาโอหัง ไทเฮาอย่าได้ถูกนางหลอกเป็นอันขาด!”
มามาอีกคนก็พลอยสนับสนุนด้วย “ใช่! ใช่! ไทเฮา! นางเจ้าเล่ห์เหลือเกิน! นางจะต้องมีแผนการบางอย่างมาล่อลวงไทเฮาเป็นแน่! ตอนนี้นางต้องการให้ไทเฮาปล่อยตัวนางไปถึงได้จงใจพูดแบบนี้ พอนางออกจากตำหนักซูหนิงได้แล้ว เกรงว่าจะแว้งกลับมาจัดการกับไทเฮาพระองค์เองนะเพคะ!”
คำพูดของเหล่าข้าทาสบริพารพอดีกับความสงสัยในใจของไทเฮาอย่างเหมาะเจาะ
ทันใดนั้นสายตาไทเฮาพลันมาดมั่น มองทางซินเหยาอย่างโกรธแค้น “โจว๋กุ้ยเฟย! ขอโทษด้วย! เจ้าเป็นคนมากความสามารถอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะความงาม เฉลียวฉลาด ถ้อยวาจา…หรือด้านใดๆ ข้าล้วนยอมรับ แต่ไหนแต่ไรมาข้าไม่เคยพบเห็นสตรีที่น่าอัศจรรย์อย่างเจ้าเช่นนี้มาก่อน แต่ว่า เจ้ายอดเยี่ยมมากเกินไป! เจ้าทำให้คนสัมผัสแตะต้องไม่ได้ คำพูดของเจ้า ต่อให้มีหลักการมากเพียงใด น่าเชื่อถือมากแค่ไหน ข้าเองก็ไม่กล้าเชื่อเจ้าหรอก! ดังนั้น…”
ใบหน้าของซินเหยาผุดแววเย็นยะเยือกออกมา “ดังนั้นในท้ายที่สุดไทเฮาก็เลยตัดสินใจจะฆ่าหม่อมฉันเสียแล้วใช่หรือไม่”
ในเรียวปากของไทเฮาพูดพ่นคำหนึ่งออกมาอย่างหนักแน่น “ใช่!”
ซินเหยาพูด “ไทเฮา ขอให้ท่านตระหนักว่าตอนนี้ข้าตั้งครรภ์โอรสของฮ่องเต้อยู่นะ! ท่านฆ่าข้า ไม่กลัวฮ่องเต้จะคาดโทษหรือ ท่านคิดจริงๆ หรือว่าไทเฮาอย่างท่าน จะมีอำนาจเหนือกว่าฮ่องเต้อย่างนั้นหรือ”
“เฮอะ! ท่ามกลางวังหลัง ฮ่องเต้เองก็คงจนปัญญาต่อข้าแล้ว!”
“ถ้าหากไทเฮาเรียกลมเรียกฝนในวังหลังได้ และฉลาดหูตาแหลมคมจริงๆ ก็น่าจะทรงทราบว่าวิทยายุทธ์ของฮ่องเต้พุ่งทะลุไปถึงปรมาจารย์ยอดฝีมือขั้นเก้าที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว!”
ทันใดนั้นไทเฮาพลันสั่นเทาไปทั้งร่าง “อะไรนะ เจ้า…เจ้าว่าอะไรนะ”
ซินเหยาเอ่ย “ไทเฮาน่าจะคอยเป็นหูเป็นตาในสถานะของฮ่องเต้จึงจะถูก! เหตุใดไทเฮาจึงไม่เคยได้ยินบ้างเล่า วรยุทธ์ของฮ่องเต้ บรรลุถึงขั้นปรมาจารย์แล้ว! นี่เป็นความลับที่เป็นสาธารณะเรื่องหนึ่งแล้ว ไม่เช่นนั้น ไทเฮาทรงคิดว่าฮ่องเต้ใช้ความสามารถอะไรในการจับเป็นคนหลายร้อยคนในจวนอ๋องโจว๋กันเล่า”
สีหน้าของไทเฮา เปลี่ยนเป็นไม่สู้ดีอย่างมากถึงมากที่สุด…
“เจ้า…”
“ที่เจ้าพูดมา เป็นจริงทั้งหมดเลยหรือ”
ดูเหมือนไทเฮาจะหวาดหวั่นต่อวรยุทธ์ของฮ่องเต้อำมหิตยิ่งนัก
ซินเหยาพยักหน้า ก่อนกล่าว “ไทเฮาก็ทรงทราบว่าเรื่องแบบนี้หม่อมฉันพูดโกหกก็ปกปิดไปได้ไม่เท่าไหร่หรอก หม่อมฉันจะพูดคำโกหกที่ขุดถอนได้ง่ายอย่างนี้ได้อย่างไรกัน”
สีพักตร์ของไทเฮา ดำดิ่งสู่ความเคร่งขรึม…
คราวนี้ ซินเหยาเองก็ไม่รู้ว่าในใจของไทเฮากำลังคิดอะไรอยู่
เรื่องที่วรยุทธ์ของฮ่องเต้อำมหิตบรรลุขั้นถึงระดับปรมาจารย์นี้ ดูเหมือนจะก่อความสั่นสะท้านให้แก่ไทเฮาอย่างใหญ่หลวง!
ซินเหยารู้ ระหว่างไทเฮาและฮ่องเต้อำมหิต หลายปีมานี้แบ่งรับแบ่งสู้ความสัมพันธ์อันเบาบางประเภทนี้มาโดยตลอด…
คนนอกไม่สามารถเข้าใจความสมดุลระหว่างความสัมพันธ์อันเบาบางเช่นนี้…
แต่ว่า
เห็นได้ชัด ตอนนี้ความสมดุลนี้ได้ถูกทำลายไปแล้ว!
ครั้นไทเฮาได้ยินว่าฮ่องเต้อำมหิตกลายเป็นปรมาจารย์ขั้นเก้าแล้ว สีพักตร์ก็เปลี่ยนไปฉับพลัน!
“ใครก็ได้!”
“รีบมาที่นี่เดี๋ยวนี้!”
“รีบเก็บกวาดเศษเล็กน้อย!”
“หนีออกไปผ่านช่องทางลับ”
“อพยพออกจากวังยามวิกาล!”
“หลี่มามา เจ้าไปเรียกคนมาทำเก็บสัมภาระ!”
“จางมามา เจ้ารับผิดชอบวางเพลิง! รอหลังจากพวกเราทั้งหมดเข้าสู่ช่องทางลับแล้ว ก็เผาตำหนักซูหนิงได้ทันที!”
จู่ๆ ไทเฮาก็บัญชาการอย่างรีบร้อน
คราวนี้ ถึงคราวซินเหยาที่สีหน้าเปลี่ยนมหันต์
ไทเฮา…
แม่มดเฒ่าคนนี้ ถึงกับมาไม้นี้เชียวหรือ
หลบหนีผ่านช่องทางลับ?
ที่แท้นางก็ขุดช่องทางสัญจรลับเส้นหนึ่งในตำหนักซูหนิงตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว…
แบบนี้ก็สามารถเข้าออกวังหลวงไปตามสบาย และไม่ถูกคนสงสัย!
นางเป็นไทเฮา มีสัญลักลักษณ์หงส์อยู่ในมือ!
หากต้องการเข้าออกนอกวังหลวง ก็ไม่มีผู้ใดกล้าขัดขวาง
แต่ว่า เหตุใดนางยังต้องขุดช่องทางใต้ดินกันเล่า
หากจะขุดอุโมงค์ลับใต้ดินสัญจรออกไปยังโลกภายนอกท่ามกลางวังหลวง ทั้งยังไม่ถูกคนจับได้ นี่เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย!
ไทเฮาทำได้อย่างไรกัน
อีกอย่าง เหตุใดนางจึงต้องสิ้นเปลืองเรี่ยวแรงในการขุดช่องทางลับ
ถือตราหงส์ออกนอกวังไปอย่างสง่าผ่าเผยตรงๆ จะไม่ดีกว่าหรือ
ลางสังหรณ์อันเฉียบแหลมของเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินพิเศษอย่างซินเหยาบอกนางว่า หญิงเฒ่านางนี้ จะต้องซ่อนความลับอื่นเอาไว้อยู่อีกแน่…
ช่องทางลับเส้นนี้ ไม่เพียงแต่ใช้งานเพื่อหลบหนีง่ายๆ แค่นี้หรอก
และสิ่งที่ทำให้ซินเหยาแปลกประหลาดใจยิ่งขึ้นก็คือ
เห็นชัดว่าไทเฮารับผิดชอบดูแลในวังมาหลายสิบปีแล้ว นับจากการเข้าวังมาด้วยตำแหน่งซิ่วหนี่ที่รูปโฉมอัปลักษณ์ จนได้ตำแหน่งไทเฮาในปัจจุบัน
เรื่องราวที่ผ่านมาหลายสิบปี
ยิ่งไปกว่านั้นคือผ่านประสบการณ์ตรากตรำอาบเหงื่อ
เกรงว่าคงไม่มีใครรู้ว่านางทุ่มเทไปตั้งเท่าไหร่กว่าจะมีตำแหน่งในวันนี้ได้
ซินเหยาอาศัยอยู่ในวังนับรวมๆ กันแล้วยังไม่ถึงสามเดือน ก็ถูกเล่นงานอย่างหนักหน่วงเสียแล้ว…
หากว่าต้องอยู่อีกหลายสิบปี…
เกรงว่าแม้แต่นางเองก็คงหงุดหงิดจนฆ่าตัวตายแล้ว!
ไทเฮาผู้นี้…
ช่างพิลึกเหลือเกิน
เพียงแค่ได้ยินถึงวรยุทธ์ของฮ่องเต้อำมหิต ก็จะทอดทิ้งทุกสิ่งที่รับผิดชอบมานานหลายสิบปี หลบหนีออกจากวังงั้นรึ?
แล้วยังจะวางเพลิงเผาวังหลวงให้สิ้นซากอีก?
นี่มันก็น่าตกใจไปหน่อยกระมัง!
ปัญหาสองข้อนี้ ทำให้ซินเหยาสับสนนัก!
ความลับของไทเฮา…
ซินเหยารู้ว่าตนเข้าใกล้ความลับของไทเฮามากขึ้นเรื่อยๆ…
อีกอย่าง นางยังมีสัญชาตญาณอย่างหนึ่ง ความลับที่ไทเฮาใช้กลเม็ดร้อยเคล็ดลับพยายามปิดซ่อน จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับกล่องเซิ้นที่สองอย่างใกล้ชิดแน่นอน…
ซินเหยาแอบกล่าวในใจ “ตอนนี้ไทเฮาจะหลบหนี หากว่าสามารถคิดวิธีให้หญิงเฒ่าผู้นี้พาข้าหนีไปด้วยก็คงดี มีเพียงต้องหนีตามออกไปพร้อมนางเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าถ้ำเสือได้ และสืบข่าวถึงความลับของกล่องเซิ้นที่สอง!”
มามาข้างกายไทเฮา เห็นชัดว่าเป็นทาสรับใช้คนสนิทหลายสิบปีกันทั้งนั้น
เมื่อถึงเวลาคับขัน ทั้งหมดต่างพากันเคารพปฏิบัติตามรับสั่งของไทเฮา
หลี่มามาจัดการเรื่องหลบหนีให้แก่เหล่าคนใกล้ตัว…
ส่วนจางมามา เสมองทางซินเหยา พลางเอ่ยถาม “ไทเฮา! ผู้หญิงคนนี้ควรทำอย่างไรดี”
ไทเฮากล่าวเย็นชา “สถานการณ์พลิกผัน! ต้องอพยพอย่างรวดเร็ว ไม่อาจมีรากแขนงนอกเหนือแผนการได้ ไว้ชีวิตนางก็จะเป็นหายนะ! ฆ่าทิ้งเสีย!”
จางมามาเอ่ย “เจ้าค่ะ! ไทเฮา!”
จู่ๆ นางก็ฉุกคิดถึงอ้านซิงที่เพิ่งจะถูกส่งขังในห้องลับ พลางเอ่ยถาม “ไทเฮา แล้ว…อ้านซิงจะทำอย่างไร”