นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 413
บทที่ 413 ศิษย์ไม่กล้า2
เมื่อก่อนอาจารย์จะพูดถึงเรื่องราวของโจว๋อี้เฉินน้อยมาก
ฮ่องเต้อำมหิตไม่เข้าใจ
แต่เขาก็ไม่ได้ถามต่อ
เขารู้ว่าอาจารย์พูดแล้วจะต้องพูดทุกอย่างออกมาเพื่อไขข้อข้องใจของเขา
เป็นจริงดังที่เขาคิด
ก่วยกุเซียนเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนั้น
“ตอนที่โจว๋อี้เฉินยังเป็นเด็กหนุ่ม เขาก็ดูเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการฝึกวรยุทธ ในตอนนั้นข้าก็รู้ว่าเขาจะต้องเป็นผู้ที่เก่งกล้ามีชื่อเสียงแน่ สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ทำให้ข้าผิดหวัง แต่ศิษย์พี่รองของเจ้า หลังจากที่โจว๋อี้เฉินเข้ามาได้สองปี ข้าก็รับศิษย์อีกคนเขาชื่อว่า จินยิง เขาแก่กว่าโจว๋อี้เฉินหลายปี เขาเป็นคนฉลาด มีแผนการ และเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการฝึกยุทธเช่นกัน ขอแค่มีโจว๋อี้เฉินยืนอยู่ ก็ไม่มีใครเทียบรัศมีของเขาได้ ไม่ว่าจะขยันขนาดไหนก็ไม่มีทางเก่งกว่าโจว๋อี้เฉิน เวลาผ่านไป ใจของเขาก็ค่อยๆสะสมความโกรธแค้นเอาไว้ จากอิจฉาแล้วขยันเพื่อให้ตามทัน ก็กลายมาเป็นริษยาแล้วโยนความผิดให้ แต่ไม่ว่าเขาจะอิจฉาริษยาโจว๋อี้เฉินยังไง โจว๋อี้เฉินก็ไม่เคยสนใจ เขาเป็นคนจิตใจกว้างขวาง คิดถึงแต่ราษฎร”
ก่วยกุเซียนพูดรวดเดียวจนจบเรื่องราวในอดีต เรื่องร้อยกว่าปีที่แล้วเหมือนพึ่งเกิดขึ้นเอง
ฮ่องเต้อำมหิตถอนหายใจ “โจว๋อี้เฉินคือวีรบุรุษที่แท้จริง น่าเสียดายที่ยังไม่ได้ทำอะไรเพื่อประเทศเพื่อราษฎร ก็ต้องมาด่วนจากไปเสียก่อน”
ก่วยกุเซียนพูด “ตอนนั้นโจว๋อี้เฉินมีชื่อเสียงมากด้วยอายุที่ยังน้อย ศิษย์พี่รองของเจ้า จินยิงอิจฉาเขามาก ถ้าเขาใจกว้างกว่านี้อีกนิดเขาเองก็สามารถมีชื่อเสียงได้เช่นกัน แต่ใจเขาแคบเกินไป ที่จะยอมให้คนอื่นมาเป็นที่หนึ่งแล้วตัวเองเป็นที่สอง”
ฮ่องเต้อำมหิตถาม “เขาชื่อจินยิงหรือ”
ก่วยกุเซียนพยักหน้า ลูบไปที่ป้ายนกอินทรีทองพร้อมกับพูดว่า “ป้ายนกอินทรีทองนี้ก็คือสัญลักษณ์ของเขา”
ฮ่องเต้อำมหิตถาม “หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ทำไมอาจารย์ไม่เคยพูดถึงศิษย์พี่รองเลย”
ก่วยกุเซียนชะงักไปครู่หนึ่ง
ผ่านไปครู่หนึ่ง ก่วยกุเซียนถึงได้ค่อยๆพูดขึ้นว่า “เจ้ารู้ไหมว่าโจว๋อี้เฉินตายยังไง”
ฮ่องเต้อำมหิตถาม “โจว๋อี้เฉินเป็นวีรบุรุษที่อายุยังน้อย เขาได้เป็นแม่ทัพใหญ่นำทัพไปต่อสู้กับข้าศึกมากมายในระยะเวลาอันสั้นเขาสามารถสร้างชื่อเสียงให้โด่งดังได้ แต่กลับเป็นวีรบุรุษที่อายุสั้น สาเหตุการตายของเขานั้นยังเป็นปริศนาอยู่ หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับศิษย์พี่รอง”
ก่วยกุเซียนพยักหน้า “ข้าเป็นคนฆ่าเขาเองกับมือ เจ้าคงเห็นแล้วใช่ไหมหลุมฝังศพข้างนอกนั่น”
ฮ่องเต้อำมหิตพยักหน้า “ข้างบนมีป้ายไม้ผุๆพังๆเขียนไว้ว่าหลุมฝังศพของโจว๋อี้เฉิน ข้าสงสัยมาตลอด แต่ไม่กล้าถามอะไรเยอะ อาจารย์เรื่องราวในตอนนั้น มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอาจารย์ถึงต้องฆ่าศิษย์พี่ใหญ่”
ก่วยกุเซียนพูด “เจ้าเคยได้ยินหนังสือหยุ่งเซิงไหม”
ฮ่องเต้อำมหิตพยักหน้า “ตอนนั้นอาจารย์เคยถามข้าอยู่ ว่าข้าต้องการจะเรียนวรยุทธอะไร ข้าเลยถามอาจารย์ว่า วรยุทธอะไรที่ไร้คู่ต่อสู้ อาจารย์บอกข้าว่ากระบี่เทพลี๋ฮัว พลังเทียนโม๋ หรือหนังสือหยุ่งเซิงล้วนแล้วแต่ไร้เทียมทาน”
“หลังจากนั้นล่ะ”
“หลังจากนั้นข้าก็ได้ถามอาจารย์ว่า วรยุทธประเภทไหนที่สำเร็จเร็วที่สุด”
“อาจารย์บอกข้าว่าเป็นพลังเทียนโม๋ แต่มันจะส่งผลเสียที่ร้ายแรงกับร่างกายอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ กระบี่เทพลี๋ฮัวนั้นก็ไร้คู่ต่อสู้ แต่ยังไม่เคยมีใครฝึกสำเร็จเลย ส่วนหนังสือหยุ่งเซิง นั้นเป็นวรยุทธที่ทำให้คนอายุยืนยาวนานไม่ตาย หลังจากฝึกสำเร็จก็จะเป็นเหมือนอาจารย์ที่ไม่ตาย แต่หนังสือหยุ่งเซิงไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรกับการต่อสู้ และใช้เวลานานในการฝึก อย่าเร็วที่สุดก็หนึ่งร้อยปี อย่างช้าก็สี่ถึงห้าร้อยปีก็ใช่ว่าจะฝึกสำเร็จ คนธรรมดามากสุดก็มีชีวิตได้ถึงแค่หนึ่งร้อยปี วรยุทธที่ฝึกทั้งชีวิตก็ไม่สำเร็จนั้นข้าจะไม่ฝึก สุดท้ายข้าเลยเลือกฝึกพลังเทียนโม๋”
เรื่องราวในตอนนั้นเหมือนพึ่งเกิดขึ้นเอง
ฮ่องเต้อำมหิตไม่มีทางลืมได้ เพราะอาจารย์ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป
ถ้าหากไม่มีก่วยกุเซียน ชีวิตของเขาคงเป็นได้แค่ฮ่องเต้หุ่นเชิดที่ถูกสามตระกูลใหญ่ควบคุม และใช้ชีวิตไปวันๆเหมือนกับผู้เป็นพ่อของเขา
เพราะได้เจอกับก่วยกุเซียน เขาถึงได้ฝึกวรยุทธที่ไร้เทียมทานและได้เป็นฮ่องเต้ที่แท้จริงไม่ใช่หุ่นเชิด
ดังนั้น เขาจึงไม่มีทางที่จะลืมบุญคุณของอาจารย์ได้
ก่วยกุเซียนพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า “ความจำเจ้าดีจริงๆ พรสวรรค์ของเจ้านั้นดีไม่แพ้กับโจว๋อี้เฉินและจินยิงในตอนนั้นเลย ตอนนั้นโจว๋อี้เฉินรบชนะกลับมา เขารวบรวมแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่นจนได้ และจัดการทุกอย่างในจวนอ๋องโจว๋เสร็จ เขากลับมาดูแลข้าและฝึกวรยุทธต่อ”
ฮ่องเต้อำมหิตพูด “รู้จักปล่อยวาง โจว๋อี้เฉินไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ”
ก่วยกุเซียนพูด “ตอนนั้นข้าเองก็คิดว่าถึงแม้เขาจะอายุน้อยแต่กลับเป็นคนรอบคอบไม่ยึดติดกับอำนาจ ในอนาคตจะต้องเก่งกว่าข้าแน่”
“ดังนั้นข้าจึงได้ตั้งใจสอนเขา เขาและจินยิงฝึกวรยุทธกันทุกวันเช้าจรดค่ำ ดูผิวเผินอาจไม่มีอะไร แต่อยู่มาวันหนึ่ง ข้าพบว่าเขากำลังฝึกหนังสือหยุ่งเซิงอยู่อย่างไม่ได้ตั้งใจ”
“หนังสือหยุ่งเซิง”
ฮ่องเต้อำมหิตได้ยินชื่อนี้อีกครั้ง
ทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าเรื่องราวทั้งหมดต้องเกี่ยวข้องกับหนังสือหยุ่งเซิง
ก่วยกุเซียน “หนังสือหยุ่งเซิงในตอนนั้นอาจารย์ยังไม่รู้อย่างถ่องแท้จึงได้สั่งห้ามเป็นวรยุทธต้องห้าม และไม่ได้สอนโจว๋อี้เฉินกับจินยิง แต่โจว๋อี้เฉินกลับแอบขโมยฝึกหนังสือหยุ่งเซิง ตอนนั้นข้าโกรธมากจึงได้ทำลายชีพจรทั้งหมดของเขาและทำลายรวยุทธของเขา และเขาเองก็ไม่ได้อธิบายอะไร อาจจะเพราะรู้สึกอับอายจึงได้ฆ่าตัวตายเพื่อชดใช้ความผิด”
ฮ่องเต้อำมหิตพูด “วีรบุรุษอย่างโจว๋อี้เฉิน ผู้ที่ไม่ยึดติดกับอำนาจจะขโมยฝึกหนังสือหยุ่งเซิงได้อย่างไรกัน”
ก่วยกุเซียนพูด “ตอนนั้นข้าโกรธมาก จึงไม่ทันคิดถึงตรงจุดนี้ หลังจากที่โจว๋อี้เฉินตายแล้วข้าถึงได้พบว่าที่จริงแล้วจินยิงเป็นคนวางแผนเอาไว้ทั้งหมด เขาขโมยหนังสือหยุ่งเซิง หลังจากนั้นก็บอกโจว๋อี้เฉิน โจว๋อี้เฉินไม่รู้ว่าที่จินยิงให้ตนไปนั้นเป็นวรยุทธต้องห้ามดังนั้นเขาจึงได้ฝึกมัน