นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 464
บทที่ 464 นี่คือดอกไม้ที่ท่านต้องการ1
“โอ๊ย!” หลังจากขบคิด ซินเหยาก็ลงมือเด็ดดอกไม้ นี่คือดอกไม้อะไรกัน มีหนามด้วย หนาม? รูปร่างของดอกกุหลาบแวบเข้ามาในสมองของนาง แต่ว่าราวกับเป็นลูกศรพุ่งผ่านไปอย่างไร้ร่องรอย
สายตามองตกไปยังพืชแปลกประหลาดมากอย่างหนึ่งข้างกาย เหตุใดพืชชนิดนี้ถึงได้ติดแหง็กอยู่ในช่วงสำคัญของความทรงจำ แม้ว่ามันจะเข้ากันได้กับของสิ่งนี้ เพียงแต่มันติดชะงักอยู่ตรงทางเข้าก็ถูกอะไรบางอย่างปิดกั้นเอาไว้ สายตาของซินเหยาไร้แววราวกับต้องการมองเห็นสิ่งของที่ลึกยิ่งกว่านี้ผ่านถั่วเปลือกแข็งนี่ ทว่าก็ไม่รู้ว่ากำลังค้นหาอะไรอยู่กันแน่ ความทรงจำว่างเปล่าทำให้แววตาของนางว่างเปล่าขึ้นมา
“คิดไม่ถึงว่าปีนี้สถานที่แห่งนี้ยังมีคนที่ชอบดอกไม้เหมือนกับคนแก่อยู่ด้วยสินะ” น้ำเสียงละมุนเสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะการคิดของซินเหยา
ซินเหยารีบกวาดมองหาต้นเสียงอย่างระแวดระวังทันใด เพียงแต่บนใบหน้ากลับสงบราวกับสายน้ำ ความเคลื่อนไหวทั้งหมดเหล่านี้มีความชำนาญและหนักแน่นราวกับว่านี่คือสัญชาตญาณและความเคยชินอย่างหนึ่งของนาง
ใบหน้าราบเรียบปรากฏสู่สายตาของนาง สิ่งเดียวที่ทำให้นางรู้สึกว่าแตกต่างจากฝูงชนนั่นก็คือรอยยิ้มนั้น ไม่ใช่ความลึกลับ ไม่ใช่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ และยิ่งไม่ใช่รอยยิ้มเสแสร้ง ดูเหมือนจะนำความหวังและเมตตามาสู่สรรพสิ่งทั้งปวง “สวัสดีมามา” และยอบกายลงอีกครั้ง นางคารวะอย่างอ่อนโยนและว่าง่าย ในเมื่อตนเป็นคนมาใหม่ เช่นนั้นคนในที่แห่งนี้ย่อมต้องมีตำแหน่งสูงกว่าตนอยู่แล้ว อีกอย่างดูจากเสื้อผ้าแล้ว ก็ไม่ใช่เจ้านาย แต่ก็ไม่ใช่คนธรรมดาๆ แน่
“ฮ่าๆ คนแก่อย่างข้าเจ้าคงไม่ต้องคารวะหรอก แต่อุปนิสัยสงบรอบคอบนี้ข้าชอบยิ่งนัก นั่งลงดีๆ เถิด ที่จวนแห่งนี้จะต้องมีแหล่งพำนักให้เจ้าแน่”
ในแววตาคู่นั้นยังมีสิ่งที่ดูลุ่มลึกอยู่ ข้อนี้ซินเหยาดูไว้ไม่มีผิด เพียงแต่มันเรียกว่าอะไรนางเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ ส่วนคำชมเกินจริงนั้นดูเหมือนนางจะเข้าใจดี เพราะรูปลักษณ์สะคราญโฉมที่ไม่ได้แต่งแต้มชาดแดงผลัดแป้งของนางนั้นไม่ว่าคนธรรมดาจะเปรียบเทียบได้
“ขอบคุณสำหรับการยกยอของมามา ข้าน้อยจะต้องตั้งใจปรนนิบัติเจ้านายเป็นอย่างดี และทำหน้าที่ส่วนในให้ดีเจ้าค่ะ” เพิ่งผ่านไปแค่สักพักนางก็พบเจอกันคนที่ไม่อาจคาดเดาได้ตั้งสองคนแล้ว เช่นนั้นก็ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้เจอ จวนโก๋กงนี้ดูแล้วไม่ได้ตื้นเขินเลยสักนิดกระมัง
“อืม นั่นสิดีที่สุด สาวใช้ต้องรู้จักหน้าที่ของตน อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ จะต้องยึดถือมันให้ชัดเจนจึงจะถูก” ท่าทีจริงจังแล้วไหนจะสายตาที่ทอดมองบนเรือนกายของตนอีก ราวกับมีดเล่มหนึ่งแตะสัมผัสบนผิวหนังของตนเบาๆ ถึงแม้จะยังไม่ได้ลงมือ แต่กลับยังคงถูกมีดเล่มนั้นทำให้สั่นระริกได้
ซินเหยาไม่ใช่คนโง่ ถ้อยคำเมื่อครู่ของมามานั้นนางเข้าใจเป็นอย่างดี รูปโฉมของตน หากต้องการเป็นหงส์ปีนเกลียวเคียงมังกรล่ะก็ เหตุการณ์เช่นนั้น…
“ขอบคุณคำแนะนำของมามายิ่งนัก ข้าน้อยจะจำให้ขึ้นใจ ยังต้องขอความกรุณามามาเสนอแนะอีกนิด ห้องของคุณหนูรองควรจะไปหาทางใดเจ้าคะ” ก้มหน้าก้มตา นางไม่กล้าก่อเรื่องอีกครั้ง และยิ่งไม่กล้ากระทำการเกินเหตุใดๆ
คนที่ถูกเรียกว่ามามาพยักหน้า ราวกับพึงพอใจกับคำถามของนางยิ่งนัก “เข้าใจก็ดีแล้ว ไม่เป็นไร วันหน้าข้ายังจะต้องสอนสิ่งต่างๆ ให้แก่เจ้า เจ้าเองก็ไม่ต้องกลัว หากเป็นการส่วนตัวก็ไม่ต้องเรียกข้าว่ามามา เรียกน้าเมิ่งเถิด ข้าก็อยากมีลูกสาวที่อายุเท่าเจ้าอยู่พอดี”
“เมื่อครู่ข้าเองก็ได้เห็นแล้ว เด็กสาวคนรองคนนั้นดูเป็นที่ชื่นชอบกว่าพี่สาวของนาง แต่ว่านางดูไร้เดียงสายิ่งนัก เด็กสาวคนโตดูหนักแน่นกว่ามาก” น้าเมิ่งพึมพำกับตัวเอง ท่าทีที่เอ่ยคำนั้นเคลือบแฝงด้วยความรักและอ่อนโยนไม่รู้จบสิ้น เป็นความรักของผู้เป็นแม่
ท่ามกลางการก้มหน้าก้มตาซินเหยาทอแววตกตะลึง ถ้าหากเมื่อครู่นางไม่ได้หูเพี้ยน น้าเมิ่งเรียกคุณหนูใหญ่ว่าเด็กสาวคนโต นั่น….
“เจ้าเดินตามถนนเส้นนี้ไป เลี้ยวตามโค้ง ตัดผ่านซอยตรงนั้น จะได้กลิ่นช่อมาลีหอมหวนก็เห็นห้องของเด็กสาวคนรองแล้ว” กล่าวจบ น้าเมิ่งผู้นี้ก็หมุนกายเดินจากไป ดูเหมือนว่าเด็กสาวคนนั้นจะกลายเป็นความรู้สึกผิดของนาง อีกอย่างการจากไปครั้งนี้ดูค่อนข้างปุบปับนับว่ามันพิลึกพิลั่นอยู่ ไม่ให้โอกาสซินเหยาได้ขบคิดให้มากกว่านี้เลย
แต่ว่า สำหรับซินเหยาแล้วมันไม่สำคัญหรอก เพราะว่านางเป็นเพียงแค่คนที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุข อดีตที่ผ่านไปแล้วนั้นถ้าหากลืมไปแล้วก็ช่างเถิด สามารถหลีกหนีจากการแก่งแย่งย่อมดีกว่าอยู่แล้ว
นางตอบสนองข้อมูลที่น้าเมิ่งบอกตนเมื่อครู่และเดินมุ่งหน้าไปตามทิศทางนั้น
“ปึงปึงปึง” เคาะประตูตามธรรมเนียมสามครั้ง ซินเหยาก็รออยู่หน้าประตูอย่างสงบเสงี่ยม สถานที่แห่งนี้มีกลิ่นหอมกรุ่นอบอวลไปทั่วจริงๆ ด้วย ดูท่าคุณหนูรองเป็นผู้ที่ชื่นชอบดอกไม้คนหนึ่งจริงๆ
“ฮ่าๆๆ อื้อ เข้า…มา” ขานรับด้วยเสียงหัวเราะคิกคัก คุณหนูรองตอบสนองการเคาะประตูของซินเหยา ช่างเป็นเจ้านายที่ดีคนหนึ่งจริงๆ
ผลักเปิดประตูห้องเบาๆ เห็นชัดว่าซินเหยาระวังรอบคอบ ดูเคอะเขินและก้ำๆ กึ่งๆ ต่อสภาพแวดล้อมราวกับผู้มาใหม่คนหนึ่งจริงๆ
“คารวะคุณหนูรอง นี่คือดอกไม้ที่ท่านต้องการเจ้าค่ะ”
“เอ๋? เร็วขนาดนี้เลย” คุณหนูรองกระโดดพรวดขึ้นมา ไม่ได้มีการยุรยาตรกรีดกรายเฉกเช่นคุณหนูเรือนอื่นเลยสักนิด แต่กลับเป็นผู้ที่น่าชมเชย
“หลิงเฉี่ยว เหตุใดเจ้าถึงได้ใช้ชีวิตราวกับลิงตัวหนึ่ง แม่นางนั่นมันดูเหมือนน้ำเต้าเลยนะ?” น้ำเสียงอู้อี้ลอยมาจากผู้ที่นั่งอยู่ข้างๆ และมีกลิ่นอายสง่าไร้กังวลเช่นเดียวกับคุณหนูรอง
“ว้าว ปิงเอ๋อร์ เจ้ามาดูนี่สิ ทำไมถึงได้รู้สึกว่าดอกไม้นี่สวยกว่าตอนที่เห็นกว่าที่แล้วเสียอีก” คุณหนูรองอุทานเบาๆ รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งดูสดใสขึ้นกว่าเก่า