นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 466
บทที่ 466 ขอโทษจริงๆ1
“วันนี้ หลี่มามาไม่ได้รังแกอะไรเจ้ากระมัง เจ้าต้องตั้งใจทำงานนะ เจ้านายทุกท่านนับว่าเป็นผู้จิตใจเมตตา…” ถึงแม้จะรู้ว่าซินเหยาเป็นคนฉลาดว่าง่ายมาก แต่ป้าหนิวก็มักจะกังวลนั่นกังวลนี่เสมอ
“ทราบแล้วเจ้าค่ะ ข้าจะเชื่อฟังให้มากๆ เมื่อครู่ข้ายังได้พบกับคุณหนูใหญ่คุณหนูรองด้วยนะ พวกนางเป็นคนดีจริงๆ” สรรหาคำคุณศัพท์มาบรรยายไม่เจอ ป้าหนิวเป็นคนชนบท มีความอ่อนต่อโลกตามประสาชาวบ้าน ส่วนเรื่องที่นางเพิ่งจะประสบพบเจอมาเมื่อครู่ นางไม่เข้าใจความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งของสิ่งต่างๆ อยู่แล้ว นางละบางสิ่งเอาไว้ และบอกเพียงการจำลองให้ป้าหนิววางใจ
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว ฮ่าๆ เสื้อผ้านี่ให้ข้าเป็นคนซักเถอะ ในเมื่อเจ้ามาที่นี่ ก็ต้องตั้งใจทำงาน เจ้าไปให้แม่บ้านเป็นคนจัดการให้เถิด” ดึงเสื้อผ้าในมือของซินเหยากลับมาอีกครั้ง ป้าหนิวทำงานต่อ ก้มหน้าก้มตาทำงานไปพลางเอ่ยคำไปพลาง
“ข้ามาที่นี่ก็เพื่อจะถามท่านว่าจะไปหาแม่บ้านพบได้ที่ไหน คุณหนูรองบอกให้ข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า” นางไม่ได้พูดพร่ำทำเพลง ถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าบ้านป้าหนิวยากจน แต่ถ้าหากพูดออกมาป้าหนิวคงต้องโทษตัวเองแน่ นางจึงพยายามเลี่ยงการพูดเช่นนั้น
“อืม เอ่อ เอาอย่างนี้ ข้าจะพาเจ้าไป” ครั้นได้ยินซินเหยาเอ่ยเช่นนี้ ป้าหนิวจึงหยัดกายลุกขึ้น ดึงนางเดินตรงออกไปทางถนนเส้นหนึ่ง
ขณะเดิน ซินเหยาก็ไม่ได้เอ่ยคำ ทำเพียงจดจำทุกสรรพสิ่งที่เดินผ่านให้ขึ้นใจ แม้กระทั่งต้นไม้ใบหญ้า ก็ต้องจดจำเอาไว้ นางไม่ปล่อยผ่านสักนิด
“พ่อบ้านใหญ่หลี่ ข้าน้อยมารบกวนท่านอีกครั้งแล้ว ต้องขอโทษจริงๆ”
หลังจากเดินเลี้ยวลดมามากมาย ในที่สุดป้าหนิวก็พาซินเหยาเข้าไปในห้อง ห้องนี้ถึงแม้จะไม่ได้ดูหรูหราเท่ากับห้องคุณหนูรอง แต่ก็ไม่ได้สูญสิ้นความโอ่อ่า ดูท่าพ่อบ้านคนนี้จะได้รับความสำคัญจากเจ้านายในจวนไม่น้อยเลย แต่ในเมื่อได้นั่งในตำแหน่งนี้ได้ ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน
ถึงแม้นางจะไม่ได้เงยหน้า แต่จากหางตายังมองเห็นป้าหนิวล้วงของอะไรบางอย่างวางใส่มือของพ่อบ้านใหญ่หลี่ ถึงแม้จะเร็วและดูหลบซ่อนมาก แต่ว่าการกระทำนี้ยังคงไม่เล็ดลอดจากสายตาของซินเหยาไปได้
“คารวะพ่อบ้านใหญ่หลี่” ถึงแม้นางจะไม่ชอบการก้มหน้าคารวะบ่อยๆ เช่นนี้แต่ว่านี่เป็นเรื่องที่นางแก้ไขไม่ได้ เพียงแต่มีบางครั้งที่นางสงสัยว่าทำไมตนเองทำเรื่องนี้ไม่คล่องแคล่วเหมือนกับทำเรื่องอย่างอื่นเลยสักนิด จะว่าไปแล้วยังค่อนข้างตัดพ้ออยู่ไม่น้อย
“อื้อ เงยหน้าให้ข้าดูสักหน่อยสิ” พ่อบ้านยัดขิงที่ได้รับมาจากป้าหนิว ใบหน้าราบเรียบเมื่อครู่ผุดเผยรอยยิ้มเล็กน้อย ช่างเปลี่ยนสีหน้าได้ไวยิ่งนัก
ทำตามคำพูดของเขา ซินเหยาเงยหน้าขึ้นช้าๆ ท่าทีราบเรียบแต่ไม่ดูเย่อหยิ่ง ราวกับกระเป๋าหนังที่ดูสวยงามนั้นไม่ได้ทำให้นางภาคภูมิใจเลยสักนิด
มองดูรูปโฉมนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านดูแข็งๆ ไป รูปลักษณ์นี้ใช้คำว่ามัจฉาจมวารี ปักษีตกนภา จันทร์หลบโฉมสุดา มวลผกาละอายนางก็เห็นชัดว่าหยาบคายนัก คงทำได้เพียงใช้คำว่าสวยมาบรรยาย เพียงแต่สวยถึงขึ้นไหน เขาเองก็หาคำมาบรรยายไม่เจอเช่นเดียวกัน
แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากขึ้นก็คือท่าทีนั่น ไม่ต่ำต้อยไม่สูงส่งแต่กลับไม่อวดภูมิ เพียงแต่รูปลักษณ์เช่นนี้มีกลิ่นอายเยี่ยงนี้ได้นับว่าไม่ง่ายดายเลย คิดถึงตรงนี้ในสายตาของเขาก็ผุดแววชื่นชมขึ้นมา
“อุปนิสัยเช่นนี้ไม่เลวเลยจริงๆ แต่ไม่ใช่ว่าแค่นิสัยเพียงอย่างเดียวก็จะผ่านไปได้ ยามทำงานตามปกติก็ต้องกระฉับกระเฉงหน่อย เจ้าชื่ออะไร” หลังจากที่พ่อบ้านใหญ่หลี่มองสำรวจเสร็จแล้วในที่สุดก็เข้าสู่ประเด็นสำคัญ
“ข้าน้อยนามว่าซินเหยา…เจ้าค่ะ” ส่วนชื่อของนางนั้น ไม่รู้ว่าทำไมทุกครั้งที่นางเอ่ยออกมา มักจะติดอยู่ที่ริมฝีปาก เห็นชัดว่าการพูดออกมานั้นมันช่างยากเย็นนัก ยากเย็นถึงขนาดที่นางไม่เต็มใจจะเอ่ยถึง
เมื่อได้ยินชื่อนี้ พ่อบ้านใหญ่หลี่ก็นิ่งงัน แต่ก็กลับสู่ปกติอย่างรวดเร็ว “อืม ชื่อนี้ช่างเป็นชื่อที่ดีจริงๆ” พ่อบ้านหลี่ก้มหน้าลงราวกับกำลังขบคิดอะไรอยู่ และพูดอย่างมีเลศนัย
“ขอบคุณที่ชมเจ้าค่ะ” ชื่อนี้เป็นความทรงจำเพียงอย่างเดียวของนาง นางเก็บเอาไว้ก็ดี บางทีมันอาจจะไม่ถูกแย่งไป เหมือนกับความทรงจำเหล่านั้นที่ถูกช่วงชิงไป
“เอาอย่างนี้ วันนี้โถงใหญ่ขาดคนไปบางส่วนพอดี ป้าหนิว เจ้าพานางไปเบิกชุดที่แผนกต้อนรับ จากนั้นให้คนที่นั่นพานางไปช่วยงานที่โถงใหญ่เถิด” กล่าวจบก็ไม่แยแสผู้ที่ยืนอยู่สองคนอีกเลย เขากลับไปนั่งประจำตำแหน่งของตนและยุ่งง่วนกับงานต่อไป
ซินเหยามองเห็นตัวอักษรเซียวตัวหนึ่งอยู่รำไร ส่วนตัวอื่นๆ กลับถูกลำแขนของพ่อบ้านบดบังเอาไว้มิด
เป็นป้าหนิวที่เมื่อได้ยินการจัดการของพ่อบ้านหลี่ ใบหน้าเล็กนั้นยิ้มจนปากแทบฉีก และดึงซินเหยามาขอบคุณอีกครั้ง
แน่นอนว่าพอเข้าสู่โถงใหญ่ นางจึงตระหนักว่างานนี้มันช่างดีจริงๆ แต่ว่าก็ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น
“เฮ้ พวกเจ้าเอาอันนี้วางไว้ที่นี่” เด็กสาวคนหนึ่งออกคำสั่งให้คนทั้งหมดยุ่งง่วน แต่ว่าท่าทีของนางกลับสงบราบเรียบ ไม่ได้มีความสับสนหรือยุ่งเหยิงแต่อย่างใด งานทั้งหมดถูกจัดระเบียบภายใต้การจัดการของนาง
“นั่นเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือที่สุดในบรรดาสาวใช้เชียวล่ะ นางอยู่ข้างกายฮูหยินใหญ่ตลอดเลย ชื่อว่าต้นหญ้า เจ้าเรียกนางว่าพี่ต้นหญ้าก็ได้” เด็กสาวคนหนึ่งที่พาซินเหยาเข้ามาในโถงใหญ่แอบกระซิบข้างหูนาง
ต่างพูดกันว่าเงินทองเปลี่ยนอำนาจ และมันก็ไม่ผิดจริงๆ ระหว่างทางมาห้องโถงใหญ่ ซินเหยาเอาต่างหูอันหนึ่งในมือของตนยื่นใส่มือของคนๆ นั้น ใบหน้าเย็นชาของเด็กสาวคนนั้นเปลี่ยนสดชื่นมีชีวิตชีวาทันที และดูเป็นกันเองกับตนหลายเท่า ซ้ำยังมีมารยาทกับนางหน่อยๆ ด้วย ตลอดทางยังคงบอกข้อมูลเกี่ยวกับจวนโก๋กงแห่งนี้ให้แก่นางอีกด้วย
“อื้อ ขอบคุณ” ดูท่าฮูหยินใหญ่จะมีตำแหน่งสูงมากในจวนนี้ ไม่เช่นนั้นจะแบ่งขั้นแม้กระทั่งสาวใช้ไปทำไมกัน แต่ว่าดูจากท่าทางและการจัดเรียงเรื่องราวต่างๆ ของต้นหญ้าแล้ว ก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้ เจ้านายเป็นอย่างไรสาวใช้ย่อมเป็นอย่างนั้น