นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 55
ตอนที่ 55 ฮ่องเต้!ไม่เป็นอะไรใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ(2)
คนภายนอกรู้เพียงว่าเขานั้นโหดร้ายอำมหิต เย็นชา แปลกประหลาด กลับไม่มีใครรู้ว่าเขาจะแอบฝึกฝนกังฟูที่น่ากลัวแบบนี้ ที่ยากยิ่งกว่าก็คือเขาที่อายุยังน้อยเช่นนี้ กลับสุขุมนิ่งลึก คนแบบนี้นั้นหาได้ยากบนโลกใบนี้ กษัตริย์หลายๆรุ่นกลับไม่เคยไม่เคยโอ้อวดและทำตัวเหนือผู้อื่นแต่เวลาทำจริงกลับถ่อมตัว
ความกล้าหาญและความอดทนเช่นนี้นั้นเกินความสามารถของคนทั่วไปที่จะทำได้!
คืนนี้เคียงบ่าเคียงไหล่ต่อสู้กษัตริย์และข้าราชบริพารรวมใจเป็นหนึ่ง ถ้าในวันข้างหน้าเรานั้นยืนกันคนละฝากฝั่ง คนคนนี้จะกลายเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของจวนอ๋องโจ๋ว!
นายท่านโจ๋วหวาดกลัวภายในใจ เขารู้นานแล้วว่าราชวงศ์นั้นเกิดความไม่พอใจและสงสัยในสามตระกูลขุนนางเก่าแก่ เพียงแค่ทั้งสามตระกูลนั้นมั่นคงและมีอำนาจมากมายที่ทำให้อำนาจและตำแหน่งของราชวงศ์สั่นคลอน
ราชวงศ์นั้นตอนนี้ตกอยู่ในความทะเยอะทะยานในการถอนรากถอนโคนสามตระกูลเก่าแก่
ทว่าการที่จะกำจัดสามตระกูลนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่จะกำจัดอาจที่มีให้สิ้นซากกลับไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือเวลาร้อยกว่าปีมานี้สามตระกูลเก่าแก่นั้นสัมพันอยู่ร่วมกันอย่างมีไมตรีสุข นั้นก็เพราะถูกผูกมัดกันและถ่วงสมดุลกันเอาไว้ถึงสามารถรักษาความสงบและอำนาจแผ่นดินเอาไว้ได้ และเพราะราชวงศ์มีอำนาจความสามารถมากพอที่ทำให้อำนาจแผ่นดินนั้นมั่นคงแข็งแรง และไม่ต้องการผูกมัดและอำนาจของสามตระกูลเก่าแก่อีกต่อไป ทำให้สามตระกูลนั้นสูญสิ้นประโยชน์และเจ้าค่ะ
เหลือไว้เพียงอำนาจของราชวงศ์เพียงเท่านั้น!
ในเวลานั้น….
ราชวงศ์จะไม่ลังเลในการสังหารหมู่สามตระกูลอย่างเลือดเย็นและโหดร้ายทารุณแม้แต่น้อย!
ตระกูลป๋ายนั้นตั้งอยู่ในที่ห่างไกลความเจริญและรกร้างทางตอนใต้ ตระกูลเฉิงเสี้ยงถางเปิ่นถึงแม้ว่าอำนาจนั้นจะเอนเอียงไปทางราชสำนักและประชาชน แต่ว่าก็ได้รับตำแหน่งเป็นขุนนางข้าราชการฝ่ายพลเรือน ตระกูลถางเปิ่นนั้นมีอำนาจในส่วนของราชวงศ์ค่อนข้างน้อย และจวนอ๋องโจ๋วก็กอบกุมเพียบพร้อมไปด้วยอำนาจทางทหาร กลายเป็นของเซ่นไหว้อันดับแรกของการกวาดล้างสามตระกูล!
ฮ่องเต้อำมหิต…
เกรงว่าเขาจะเป็นราชาที่น่ากลัวที่สุดในราชวงศ์!
นายท่านโจ๋วใช้ชีวิตมาจนถึงอายุเจ็ดสิบนี่เป็นครั้งแรกที่ใจนั้นเกิดความกลัวจนขนพองสยองเกล้า…..
ณ เวลานี้จวนอ๋องโจ๋วนั้นยุ่งเหยิงไปหมดเสียแล้ว
“พาผู้หญิงและเด็กกับสาวใช้ไปหลบที่หลังจวนให้หมด!”
“ทหารขั้นสองลงไปป้องกันจวนอ๋องโจ๋วทั้งหมด เพิ่มกองกำลังอาวุธไม่ให้ศัตรูโจมตี!”
“ทหารตั้งแต่ขั้นสามขึ้นไปแบ่งออกเป็นสี่กลุ่มออกลาดตระเวน สลับกันตรวจตราทั่วทุกมุมของจวนอ๋องโจ๋ว ไม่ว่าจะมุมไหนหรือแม้แต่พุ่มไม้ก็อย่าได้หลุดลอดสักที่เดียว!”
“โจ๋วเหวินซี ท่านจงเป็นคนควบคุมและสั่งการทหารของข้า ไปยังค่ายนอกเมืองหลวงที่ใกล้ที่สุดระดมกำลังทหารชิงหลงสามพันนาย พลธนูหนึ่งพันนายมาขัดตาทัพที่จวนอ๋องโจ๋วโดยด่วน! ถ้าหากว่าระหว่างทางพบการขัดขวางก็ฆ่าได้ทันที! ไม่มีอะไรสามารถเปรียบเทียบมรดกของจวนอ๋องโจ๋วที่รักษามายาวนานนับหลายศตวรรษได้!”
“กำลังทหารที่เหลือตามข้าไปยังโถงใหญ่!”
โจ๋วเส้าฉีบัญชาการทุกคนในจวนอ๋องโจ๋วด้วยความสงบนิ่ง สามารถควบคุมความวุ่นวายให้ค่อยๆกลับมาสงบลงได้….
เขานำโจ๋วเส้ากวางและโจ๋วหวูนเฟิงและโจ๋วหย่วนไห่และทหารฝีมือดีอีกสามสิบนายพร้อมอารุธครบครันด้วยตัวเอง มายังจวนอ๋องโจ๋วต่อสู้กับศัตรู
ครึ่งชั่วยามก่อนหน้านี้….
ชายมอมแมมสกปรกลึกลับคนหนึ่งในมือถือคบไฟมาโจมตีประตูและทหารยามหลายสิบนายของจวนอ๋องโจ๋ว ฝ่าด่านเดินเข้ามายังห้องโถงใหญ่
โจ๋วเส้าฉี โจ๋วเส้ากวางบัญชาทหารยอดฝีมือพันนายมายังห้องโถง ชายสกปรกไว้หนวดเคราเต็มใบหน้าคนนั้น ยืนนิ่งราวกับท่อนไม้อยู่ตรงกลางห้องโถง สองมือถือท่อนไม้ดำสนิท ดูยังไงก็เหมือนขอทานตกอับ
แต่ทว่า….
เขาสามารถใช้ท่อนไม้โจมตีทหารยามชั้นยอดหลายสิบคนได้ โจ๋วเส้าฉีรู้ว่าคนคนนี้คือยอดฝีมือที่แท้จริง!
ยอดฝีมือมาโจมตีประจวบเหมาะกับที่นายท่านโจ๋วนั้นไม่อยู่ที่จวน!
โจ๋วเส้าฉีหลายเป็นผู้นำทัพบัญชาการของตระกูลโจ๋ว ทำการอย่างมีระเบียบขั้นตอน เป็นนายทหารชั้นสูงที่น่านับถือยิ่ง
“ท่านผู้เฒ่าเต่าโจ๋วละ” นักกระบี่สกปรกปิดตาและพูดออกมา
โจ๋วเส้าฉีตอบกลับว่า “เจ้าเป็นใครกัน ดึกดื่นเช่นนี้มีเหตุอันใดถึงได้กล้าบุกเข้ามายังจวนอ๋องโจ๋ว”
นักกระบี่สกปรกพูดออกมาด้วยเสียงเย็นชา “ข้ารอมาครึ่งชั่วยามแล้วตาแก่นั่นไม่กล้าที่จะปรากฏตัวหรอกหรือ ถึงได้ส่งสัตว์เล็กๆอย่างพวกเจ้าออกมาตายแทน”
โจ๋วเส้าฉีตอบกลับอย่างนิ่งสงบและชัดเจน “เจ้า ท่านพ่อของข้าไม่ได้อยู่ที่จวนตอนนี้ จงบอกชื่อขงเจ้ามารอท่านพ่อกลับมาแล้วข้าจะแจ้งให้ท่านพ่อทราบ”
“นักกระบี่สกปรกลืมตาขึ้นมามองไปยังโจ๋วเส้าฉี ทันทีหลังจากนั้นก็หลับตาลงอีกครั้ง ปล่อยสยายผมที่ยุ่งเหยิงสกปรกและตกอยู่ในห้วงความคิดอีกครั้ง…
ดูเหมือนว่าเขานั้นไม่อยากจะสนทนากับโจ๋วเส้าฉีเท่าไรนัก
จุดประสงค์ของเขานั้นมีเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นคือ….นายท่านโจ๋ว!
โจ๋วเส้าฉีตแบกลับว่า “เจ้า! จวนอ๋องโจ่วของข้านั้นทั้งยุติธรรมและเข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือคนพเนจร เราก็จะให้การต้อนรับเพื่อนของเราก่อนเสมอ เจ้าไม่พอใจอะไรจวนอ๋องโจ๋วของข้าก็จงบอกออกมาตรงๆเลยเสียดีกว่า”
นักกระบี่สกปรกตอบกลับอย่างเย็นชา “เจ้าเด็กน้อย เจ้าชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไร”
โจ๋วเส้าฉีตอนนี้อายุอานามก็ใกล้จะห้าสิบแล้วกลับถูกคนที่เหมือนขอทานยาจกเรียกว่าเด็กน้อย แต่เขานั้นไม่โกรธเลยสักนิด “โจ๋วเส้าฉี!”
เขาพูดชื่อของตัวเองออกมาอยางวางตัว “ลูกคนรองของนายท่านโจ๋ว! ดี! อย่างที่คิดนิสัยนั้นเหมือนมารดาไม่มีผิด สุขุมเยือกเย็น” นักกระบี่พูดชมออกมาจากใจจริง
“เจ้ารู้จักทานแม่ด้วยหรือ”
โจ๋วเส้าฉีพยายามทำทุกวิธีทางอย่างน้อยก็ขอให้ได้รู้ถึงที่มาของอีกฝ่ายก็ยังดี
แต่นักกระบี่ก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมาอีก เขาเพียงแค่ยืนอยู่นิ่งเหมือนกับต้นไม้ที่ใกล้ตาย มือทั้งสองข้างถือกระบองไม้ที่ดำสนิทราวกับท่อนฟืนที่จุดไฟไว้ในห้องเก็บฟืน
ลักษณะท่าทางถ่อยเช่นนี้กลับแผ่รังสีวิสัยทัศน์ของราชาออกมา.