นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 558
บทที่ 558นางไม่เอาแบบนี้
“ถ้ายังนั้นก็บุกตรงเข้าไปสังหารเลย!”ซินเหยาพูดประโยคนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ทำให้เว่ยโก๋กงรู้สึกไม่ค่อยอยากจะเชื่อสายตาสักเท่าไหร่
นี่เป็นครั้งแรกที่ซินเหยามีอารมณ์รุนแรงขนาดนี้
“อย่างนี้ได้เหรอ?”เว่ยโก๋กงถามขึ้นอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
ซินเหยาเก็บซ่อนความน่ากลัวของตนเองไว้ หลังจากที่ก้มหน้าแล้วจึงเงยหน้าขึ้น รู้สึกตื่นตัวขึ้นเยอะมาก
“ให้เวลาข้าน้อยคิดอีกสักประเดี๋ยว ถึงเวลานั้นข้าน้อยค่อยตอบนายท่านอีกครั้งนะเจ้าคะ!”ซินเหยาพูดจบ ก็ขอตัวเดินจากไป
ออกมาจากเว่ยโก๋กงตรงนั้น ซินเหยาอดกลั้นไม่ไหว น้ำตาไหลออกมาอย่างนั้นผ่านใบหน้าของตนเองลงมา หลังจากนั้นก็ถูกลมพัดหายไป
“ข้าจะช่วยบิง!”ไม่มีสติ แล้วก็ไม่มีความว้าวุ่นใจ แต่ซินเหยาพูดอย่างมุ่งมั่นและเด็ดขาด ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย
ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นหานที่หนักใจ เห็นได้ชัดว่าการเคลื่อนไหวของเว่ยโก๋กงชัดเจนกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว หากครั้งนี้ซินเหยาไป ถ้าอย่างนั้นมีโอกาสตกหลุมพรางมากขึ้น
“ข้าไม่ยอม!”หานพูดอย่างแน่วแน่
ซินเหยาตะลึงไป แต่แล้วก็กลับดึงคอเสื้อของหานพลางพูดขึ้น“เจ้าไม่ได้เห็นเหตุการณ์ แน่นอนว่าเจ้าไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกข้าในตอนนี้ ข้าพูดแล้ว ข้าจะไปช่วยนาง ตอนนี้ เดี๋ยวนี้!เจ้าไม่เห็นสีหน้าของนางในตอนนั้น บาดแผลตามตัวของนาง ยังมีร่างกายท่อนล่างที่เลือดไหลออกมาอีก เจ้าไม่มีวันรับรู้ได้ถึงความโหดร้ายที่นางประสบพบเจอ! ข้าจะไปช่วยนาง!”ซินเหยาไม่ได้มาเพื่อหารือ แต่เหมือนคำสั่งที่เอาแต่ใจ
พูดจบนางก็พาร่างบินออกไปแล้ว
หานเป็นห่วง อยากจะตามไป แต่เหมือนซินเหยาจะรู้ว่าหานจะตามไป ร่างกายจากไปแล้ว แต่เสียงยังคงดังก้องมากับสายลม“เจ้าห้ามไปนะ ไม่อย่างนั้น เกิดอะไรขึ้นมา ก็จะไม่เหลือคนเลย!”
ในขณะที่ซินเหยาคลำหาทางเข้าไปยังคุกใต้ดิน ทุกความรู้สึกภายในใจก็ปะทุขึ้นมา
“บิง”ซินเหยาเข้าไปลูบจับใบหน้าหน้าของบิง น้ำใต้ไหลหยดลงพื้น แต่กลับเป็นเสียงอันบอบบาง
บิงที่ได้ยินเสียงของซินเหยาแล้ว จึงค่อยๆลืมตาด้วยสีหน้าที่ไม่มีความโกรธ ส่ายหัว เสียงแหบแห้งจนพูดอะไรออกมาไม่ได้แล้ว
“เจ้า เจ้าไม่ควรมาที่นี่!”พูดออกมากอย่างยากลำบาก บิงไม่มีแรงเหลือแล้ว ราวกับคำพวกนี้ได้ใช้แรงที่เหลือของนางจนหมดแล้ว
“เจ้าเป็นอย่างนี้แล้ว ยังจะคิดถึงข้าอยู่อีก!”ซินเหยาไม่พูดพร่ำทำเพลง แบกบิงขึ้นเตรียมหนีออกไป เพียงแต่ขณะที่นางหมุนตัวในตอนนั้นเอง คุกใต้ดินที่มืดสลัวกลับยิ่งมือลงอย่างผิดปกติ
“ฮาๆ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเจ้า?ซินเหยา เจ้าช่างทำให้ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ!”เว่ยโก๋กงยืนอยู่ตรงหน้าประตูของคุกใต้ดิน สายตามองซินเหยาลงมาจากด้านบน นียน์ตามีแววตาบางอย่างแวบผ่านเข้ามา
นัยน์ตาของซินเหยาสั่นไหว มือปัดไปหนึ่งที ก็มีคนสวมชุดดำโผล่ออกมาเยอะขึ้น
เว่ยโก๋กงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน“อยากจะไปจากที่นี่ ก็ต้องดูว่าพวกเจ้ามีความสามารถนี้หรือไม่!”พูดพลางตบมือหนึ่งครั้ง ก็มีทหารกรูกันออกมาเยอะแยะมากมาย
แต่ละคนถืออาวุธคันธนู ชี้ไปยังซินเหยาอย่างนั้น
ซินเหยาไม่สนใจ พุ่งตัวออกไป เข้าโจมตีพร้อมกับทุกคน ลูกธนูพุ่งตรงเข้ามาดั่งสายฝน แต่ซินเหยาเบี่ยงตัวหลบได้
นางไม่อยากเป็นแบบนี้ ช่วยบิงออกไปไม่ได้ ยังจะทำให้ตัวเองบาดเจ็บอีก
“เจ้ารีบหนีไป!”บิงพูดออกมาอย่างทรมาน กล่อมให้ซินเหยาหนีไป นางไม่รู้ว่าขืนยังอยู่อย่างนี้ต่อไป ซินเหยาต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่ๆ
เว่ยโก๋กงเห็นนายทหารล้มลงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แววตาสั่นไหว ตามมาด้วย คนสวมชุดดำทางฝั่งของซินเหยาก็ล้มลงเรื่อยๆ
ซินเหยาพึ่งรู้สึกว่าร่างกายของนางเริ่มอ่อนระทวย
“เจ้ากล้าวางยาพิษ!”ซินเหยาพยายามฝืนต่อสู้กับคนพวกนั้น
“ซิ่ว!”เว่ยโก๋กงแย่งคันธนูมาไว้ในมือ สายตาแน่วแน่ เล็งไปยังซินเหยา
“ระวัง!บิงที่เห็นอย่างนั้น ก็ไม่รู้ว่าเอาแรงมาจากไหน พุ่งตรงเข้าไปรับธนูที่มุ่งตรงมายังซินเหยา”“ปึก!”เสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงลูกธนูเสียบทะลุร่างกายของบิง
“บิง”ความโกรธทั้งหมดของซินเหยา รับร่างที่อ่อนระทวยลง ดวงตาแดงก่ำอยากจะฆ่าคน
“ยังฝืนอยู่อีก!”เว่ยโก๋กงมองดูซินเหยาที่ลุกขึ้นสู้อย่างบ้าคลั่ง พุ่งตัวเข้าไปสู้อย่างเด็ดเดี่ยว
ดวงตาพร่ามัว ทำให้ซินเหยารู้สึกเสียกำลัง มองดูเว่ยโก๋กงที่เป็นภาพซ้อนไปมา
เว่ยโก๋กงอาศัยจังหวะนี้ เร่งมือเร็วขึ้นอีก
เร็วมาก ซินเหยายิ่งอยู่ยิ่งเสียเปรียบขึ้นเรื่อยๆ
“ถ้าเจ้าไม่คิดชีวิต ก็สุ้ต่อเถอะ!”เว่ยโก๋กงสู้พลางเตือนนางด้วยความย่ามใจคู่ต่อสู้
สายตาของซินเหยามองเห็นเว่ยโก๋กงเปลี่ยนเป็นสองคน ตามมาด้วยสามคน
ในที่สุดนางก็ไม่สามารถต้านทานไว้ได้ ในตอนที่ล้มลงไป นางพูดประโยคนี้ออกไป“ถ้าไม่อยากให้กิจการของเจ้าพังยับเยิน ทางที่ดีอย่าแตะต้องตัวข้า!”
ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนใด พบเจอกับอะไร ซินเหยามาหาทางหนีทีไล่ไว้ให้ตัวเองเสมอ
แต่นางคิดการณ์ไว้เยอะมาก สิ่งเดียวที่คิดไปถึงคือบิงต้องจบชีวิต ร่างกายของบิง นอนอยู่บนพื้นของคุกใต้ดินที่เย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็งอยู่อย่างนั้น
ในความฝัน ซินเหยามองไม่เห็นทิศทาง มองไม่เห็นทาง เห็นเพียงสายตาหลุดพ้นของบิง ริมฝีปากที่ปล่อยวาง
นางมองดูร่องรอยบาดแผลตามร่างกายของบิง ยังมีเสื้อผ้าที่ปิดบังร่างกายท่อนล่างไม่ได้แล้ว นางอยากจะร้องไห้ แต่พบว่าทุกอย่างยิ่งทำให้นางเจ็บปวดมากขึ้น ทำอย่างไรก็ไม่สามารถหลุดพ้นไปได้
“เจ้าตื่นได้แล้ว ถ้าหากอยากได้ร่างไร้วิญญาณของเพื่อนเจ้า ก็ให้เจ้าลงมือต่อได้!”
การพยายามหนีความจริงทุกอย่างของซินเหยาได้ยินเสียงนั้นดังขึ้น ก็หายไปเสียแล้ว สติทุกอย่างกลับมาอีกครั้ง
“เจ้าจะเอายังไง?”ไม่มีความสงบดั่งวันวาน คำพูดของซินเหยาเริ่มเย็นชาไร้ความรู้สึกมากขึ้น
เว่ยโก๋กงกวาดตามองไปที่ซินเหยา “ข้าจะเอายังไง ง่ายมาก ขอเพียงแค่เจ้าแก้ไขปัญหาของกิจการข้าให้ได้ทั้งหมด เรื่องทุกอย่างอาจเป็นไปได้ด้วยดีก็ได้!”
สำหรับคำขู่ของเว่ยโก๋กง ซินเหยาไม่ใส่ใจ แน่นอนว่านางรู้ว่าเว่ยโก๋กงกำลังกังวลอะไรอยู่
“ได้ แต่ข้าจะเอาร่างไร้วิญญาณของบิง!”
ได้ยินคำร้องขอของซินเหยา เว่ยโก๋กงตะลึงไปก่อน หลังจากนั้นก็หัวเราะขึ้น“ได้!”รับปากอย่างรวดเร็ว
ตอนที่เห็นร่างไร้วิญญาณของบิงอีกครั้ง ซินเหยาไม่รู้แล้วว่าความเจ็บปวดคืออะไร เพราะว่านางจะใช้ชีวิตในส่วนของบิงให้ดีที่สุด“บิง เจ้าวางใจเถอะ ชีวิตของข้าเจ้าเป็นคนแลกมา ถึงแม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าทำไมเจ้าได้ดีกับข้า แต่ข้าคิดว่าเจ้าเป็นพี่น้องมาโดยตลอด เป็นพี่น้องของข้าตลอดชีวิต”
ซินเหยาไม่มีน้ำตา นางบอกกับตัวเองว่านั่นคือความอ่อนแอ ถ้าหากตัวเองพ่ายแพ้อย่างง่ายดายอย่างนี้ จะแก้แค้นให้บิงได้อย่างไร
เงยหน้าขึ้น มองไปยังนัยน์ตาของเว่ยโก๋กง นางไม่ปิดบัง ความโกรธเกรี้ยวอาฆาต ยังมีความดูถูกเหยียดหยาม
ในตอนนี้เว่ยโก๋กงก็ไม่มีนิสัยสบายๆไม่แยแสเหมือนดังเช่นทุกวันแล้ว มองดูสายตาของซินเหยา ก็หัวเราะขึ้นอย่างชั่วร้าย“เจ้าไปต้องใช้สายตาแบบนั้นมองข้าหรอก จะทำให้ข้าคิดว่าเจ้าหลงรักข้า อะไรที่ให้ได้ ข้าจะให้ทั้งหมด ทางที่ดีเจ้าจัดการกิจการของข้าให้ดี ไม่เช่นนั้น อย่าหาว่าใครใจร้ายก็แล้วกัน!”
คนต่างพากันพูดว่าเว่ยโก๋กงความสามารถรอบด้าน วางตัวอย่างดีเยี่ยม สิ่งเหล่านั้นเป็นแค่คำเล่าลือ เป็นแค่สิ่งที่เขาแสร้งทำขึ้นมา ตอนนี้เขาได้เปิดเผยธาตุแท้ที่คิดว่าตัวเองถูกต้อง เลือดเย็นไร้ความรู้สึกและบ้าตัณหา
ซินเหยาอุ้มบิงเดินไปยังทางหลังเขา ก้าวทีละก้าวแฝงไปด้วยความหนักอึ้งและความเจ็บปวดเคียดแค้น
“ห้ามให้คนตามข้ามา ข้าไม่หนี!”ซินเหยาที่มองดูคนข้างหลังกำลังตามมา จึงกวาดสายตาออกไป มีรังสีความอาฆาต
เว่ยโก๋กงที่มองเห็นสายตาแบบนั้น ถึงแม้จะรู้สึกสะดุ้งในใจ แต่ก็ปัดมือไปมา“พวกเจ้าเดินห่างจากนางหน่อย นางโดนพิษของข้าไป ไม่มีวรยุทธก็หนีไปไหนไม่ได้ไกลหรอก!”
ซินเหยาตกใจ พบว่ากำลังภายในไม่สามารถรวบรวมได้ ถึงว่าทำไมเขาถึงเตรียมป้องกันตัวจากนาง ไม่รู้ว่าหานจะตามหาตนเองพบหรือไม่ ตอนนี้เขาต้องกำลังสังเกตความเคลื่อนไหวของตนเองเป็นแน่
ตอนนี้หานกำลังสังเกตความเคลื่อนไหวของจวนเว่ย ผ่านการได้ยินมา เขายิ่งร้อนใจมากขึ้น ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าเหตุใดซินเหยาถึงเรียกเขาไว้ นางคาดการณ์ความอันตรายทุกอย่างไว้แล้ว คนที่มีความฉลาดหลักแหลมอย่างนาง กลับมีความใจร้อนอย่างนั้น ถ้าอย่างนั้นบิงต้องพบเจอกับความทุกข์ทรมานอะไรกันแน่
คิดมาถึงตรงนี้ หานก็กำมือแน่นอย่างทนไม่ไหว แก้วใบนั้นแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ
“เข้ามาหน่อย พวกเจ้ารีบไปบอกกับคนดูแลกิจการทุกร้าน ข้าอยากให้พวกเขาถอนตัวออกจากกิจการของจวนเว่ยทั้งหมด ยังมีเรื่องที่พวกเขารับผิดชอบอยู่ ข้ามีเรื่องต้องกลับเมืองหลวง!”
หานไม่กล้าลังเลแม้แต่น้อย ตอนนี้เหตุการณ์รัดตัว แต่หวังเจ้านายจะสามารถช่วยอะไรได้
พอลงจากราชสำนัก ฮ่องเต้ก็รีบมายังห้องอักษร เพราะว่าตอนนี้มีคนกำลังรออยู่ คนที่ทำให้ฮ่องเต้ร้อนใจได้ขนาดนี้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปเป็นแน่
“รีบพูดมา เรื่องเป็นอย่างไรกัน?”พอมาถึงห้องอักษร ฮ่องเต้ก็แทบอดรนทนไม่ไหวอยากรู้สถานการณ์ในตอนนี้
คนผู้นั้นเห็นฮ่องเต้ที่โหดเหี้ยมอำมหิตไม่เหมือนกับที่ถูกเล่าขานไว้ แต่ฮ่องเต้กลับดูร้อนใจกระวนกระวาย
“ทูลฝ่าบาท มีสาวใช้สองคนเก็บหยกชิ้นนั้นได้ ทั้งสองต่างไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำตกไว้พ่ะย่ะค่ะ!”คนที่รายงานใช้สายตากวาดดูสีหน้าของฮ่องเต้อย่างระมัดระวัง กลัวฮ่องเต้จะไม่มีความสุขแล้วตัดหัวตนเอง
เป็นไปตามคาด พอฮ่องเต้ได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นมืดหม่น มองดูคนที่รายงานมีอะไรปิดบังไว้“ข้าอยากได้คำตอบอะไร ข้าคิดว่าเจ้าคงรู้ดีกว่าใครถึงจะถูก!”
คนคนนั้นถูกสายตาของฮ่องเต้ทำให้ตกใจ รีบคุกเข่าลง“กระหม่อมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ จะสืบหาให้ได้ ฝ่าบาทโปรดวางใจเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
นัยน์ตาของฮ่องเต้สั่นไหว มองดูคนรายงานพลางพูดขึ้นว่า“ทางที่ดี อีกทั้งอย่าให้มันนานมาก ไม่อย่างนั้นข้าคงไม่มีความอดทนมากขนาดนั้น!”
ได้ยินฮ่องเต้พูดมาอย่างนั้น โชคดีศีรษะของตนเองอยู่ แล้วจึงรีบพุ่งตัวออกไปทันที ตกใจจนไม่เหมือนกับความหวาดกลัวทั่วไป
“อ้าก”ไม่แปลกที่ตกใจ สายตาความโหดเหี้ยมอันน่าหวาดกลัวเมื่อครู่ของฮ่องเต้ คนผู้นั้นวิ่งออกมา ขายังอ่อนอยู่ แต่ข้างในวังมีแต่คนสูงส่ง ช่างสูงส่งยิ่งนัก ไม่ทันระวังก็ทำให้เกิดเรื่องขึ้นมาได้
“เจ้าคนต่ำต้อยคนนั้น เจ้าตาบอดหรือไงกัน?”มีเสียงเล็กแหลมดังขึ้นจากคนที่สวมหมวกสูงคนหนึ่ง
คนที่ตกใจกับความหวาดกลัวเมื่อครู่ ตอนนี้ได้แต่เอาศีรษะโขกกับพื้นไม่หยุด
“ข้าน้อยสมควรตาย ข้าน้อยสมควรตาย……”สมองแทบหลุดออกไป ยังคงโขกกับพื้นไม่หยุด
“ช่างเถอะ เห็นเจ้ารีบร้อนขนาดนี้ ต้องมีเรื่องด่วนอะไรแน่!”เสียงที่ดังขึ้นอย่างเมตตาออกมาจากปากของเขาคนนั้น
คนคนนั้นได้ยินเขาพูดอย่างนั้น จึงโล่งใจไปหนึ่งเปราะ น่าจะพบเจอกับคนที่พูดจาง่าย
แต่ยังไม่ทันไร คนข้างหลังก็พูดตามมาทำให้เขาตกอยู่ในความลำบากใจ
“ขอพระทัยเหนียงๆ เหนียงๆขอจงทรงพันปี พันปี พันๆปี!”
“เจ้าตาบอดหรือไง นี่เป็นไทเฮา!”ขันทีคนนั้นตะโกนขึ้นอีกครั้ง
พอได้ยินอย่างนั้น คนคนนั้นก็ตกใจอีกครั้ง แต่ใช้ไหวพริบตามมา รู้สึกตัวแล้วจึงพูดว่า“ไทเฮาโปรดไว้ชีวิต กระหม่อมมีตาหามีแววไม่ ไทเฮาดูแล้วอ่อนวัยจริงๆ กระหม่อมตาฝาดไป!”
สตรีล้วนชื่นชมการถูกชื่นชมว่าอ่อนเยาว์ ไทเฮาก็ไม่แตกต่าง เพราะได้ยินดังนั้น ก็ยังถือว่าดีใจอยู่ไม่น้อย“ปากเล็กนี้ช่างหวานนัก เจ้าทำงานให้ใคร?”ไทเฮาถามขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ
“ทูลไทเฮา กระหม่อมทำงานให้ฮ่องเต้พ่ะย่ะค่ะ!”คนผู้นั้นเห็นไทเฮาอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างแล้ว ก็พูดออกไป อยากใช้ฮ่องเต้ปกป้อง หวังว่าไทเฮาจะไม่ทำให้เขาลำบากใจ เพียงแต่เรื่องในวังหลวงเป็นสิ่งที่เขาคาดเดาเอง
ไทเฮาที่ได้ยินอย่างนั้น แววตาสั่นไหวอย่างเฉียบแหลม มองดูคนที่คุกเข่าอยู่ข้างล่างที่มีพิรุธ“ช่วงนี้ฮ่องเต้ยุ่งอะไรอยู่?”
คนคนนั้นไม่รู้ว่าไทเฮาจะถามอย่างนี้ จึงอ้ำอึ้ง“เรื่องของฝ่าบาท กระหม่อมจะรู้ได้อย่างไร!