นักฆ่าฮองเฮาของข้า / สุดยอดนักฆ่า มเหสียอดรัก - ตอนที่ 573
ตอนที่ 573 เจ้านึกอะไรออก
โจว๋หยูนถิงพยักหน้า เขารู้ ชื่อของคนนั้นมีคำว่าประหลาดอยู่ด้วยแน่นอนว่าต้องเป็นคนประหลาดขอแค่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน เขามีวิธีที่จะให้เขามารักษา
ทางเส้นนี้เขายังทนเดินมาอย่างยากลำบาก แต่ก็อดทนมาจนถึงวันนี้ได้ ทางมีแต่จะดีขึ้น ทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้น คราวก่อนที่ฮ่องเต้มาถึงที่ชายแดนนี่ เขาเองก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ฮ่องเต้เป็นได้ขนาดนั้น ดูท่าว่าจะมีเรื่องสนุกๆรอให้เขาดูอยู่แน่
ฤดูหนาวลมพัดเย็นเฉียบ คนชุดดำคนหนึ่งกลับฝ่าลมหนาวอย่างไม่กลัวแม้แต่นิดเดียว ความเร็วของเขาราวกับลูกธนูที่ถูกยิงแล้วหายไปภายในพริบตาเดียว ราวกับแค่ลมพัดผ่าน
คนผู้นั้นเข้าไปในจวนเว่ยอย่างคุ้นเคยทาง ไม่ได้ส่งเสียงรบกวนใครเลย คนนั้นได้มาแอบซ่อนอยู่ในเรือนลับนั่น
สายตาของเขาจ้องไปที่ประตูที่ถูกปิดเอาไว้ เวลาผ่านไปจากนั้นก็ค่อยๆฟังเสียงกรีดร้องข้างใน ท้องฟ้ามืดมนมองดูไม่ออกว่าสีหน้าของเขาในตอนนี้เป็นเช่นไรแต่จากที่เขากำหมัดเอาไว้ก็สามารถเดาได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
“เป็นอย่างไรบ้าง” ซินเหยาลูบหัวที่รู้สึกปวด สองสามวันนี้ยุ่งแต่กับการค้าขายทำให้นางปวดหัวคิดไม่ถึงว่าฝั่งโน้นเขาจะใจกล้าขนาดนี้ ไม่มีความคิดที่จะไม่เอาเลย มีแต่จะเพิ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ซินเหยาต้องขยายกิจการของตนถึงจะสามารถต่อกรกับเขาได้ นางถึงได้รู้ว่าจวนเว่ยเหมือนจะเป็นเนื้อแพะ ไม่เช่นนั้นจะมีคนมากมายขนาดนี้จ้องดูอยู่หรือ ก่อนอื่นเลยคือคนนั้นที่ชื่อซ่างกวน ต่อมาก็คนไม่กี่คนที่นางเองก็ไม่รู้จัก
คิดมาถึงตรงนี้ซินเหยาก็คิดไปถึงเรือนปริศนาของจวนเว่ย ถ้าหากเขาเป็นเนื้อแพะ งั้นที่ทุกคนจ้องอยากจะได้คือคนที่อยู่ในนั้น แต่คนที่ถูกขังอยู่มันคือใครกันนะ
“น้าเฝิงเจ้าหาเบาะแสมาได้ไหม” ซินเหยามองดูน้าเฝิงแววตาของนางเต็มไปด้วยความหวัง ตอนนี้นางอยากได้คำตอบมาตอบข้อสงสัยในใจของนาง
สีหน้าของน้าเฝิงมีพิรุธแต่ก็ไม่ได้พูดทำให้ซินเหยาหมดความหวังไปเสียทีเดียว “สุดท้ายแล้วข้าสืบมาได้ว่าคนนั้นตอนนี้อยู่ในมือของพ่อค้าคนหนึ่งแถวชายแดน คนนั้นเหมือนเป็นคนที่มาจากเมืองหลวง และในส่วนอื่นๆข้ายังสืบไม่ได้ขอนายท่านโปรดอภัยด้วย” น้าเฝิงพูดไปพลางคุกเข่าลงไปด้วย
ซินเหยารีบพยุงน้าเฝิงลุกขึ้นมา ไม่รู้ว่าทำไมนางไม่ชอบให้คนคุกเข่าต่อหน้าตนเอง ถ้าไม่ใช่เพราะสภาพที่นางอยู่เป็นแบบนั้น ที่จริงแล้วนางไม่ชอบความรู้สึกนี้มันทำให้นาง รู้สึกไม่ได้
“น้าเฝิงลำบากเจ้าแล้ว เจ้าสืบต่อไปสืบได้ถึงไหนก็ถึงนั่นเรื่องอื่นๆให้ข้าจัดการเถอะ” คำพูดนี้ของซินเหยาเต็มไปด้วยความกดดัน ความรู้สึกในตอนนี้คือเขารู้เราแต่เราไม่รู้เขาเลย คนแบบนี้ยังไม่รู้แน่ชัดว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู
น้าเฝิงพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วถอยออกไป
ครั้งนี้ซินเหยารีบลุกขึ้นอย่างไม่ลังเลแล้วตรงเข้าไปในห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็เอาผ้าปิดหน้าเอาเหาะออกจากเรือนไป
แต่เหมือนวันนี้จะครึกครื้นกว่าปกติ มาไม่ได้มาแค่คนเดียว ยังมีคนอีกคนหนึ่งที่มาด้วย
คนนั้นแอบสังเกตอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ
ซินเหยาขมวดคิ้วแต่ก็เขาไปอยู่ข้างๆคนนั้นอย่างเงียบๆ คนนั้นหันมาดูซินเหยา ทั้งสองต่างเหมือนจะรู้กันมองหน้ากันแล้วพยักหน้ามองดูเหตุการณ์ต่อไป
แต่เหมือนซินเหยาจะรู้สึกได้ว่าคนคนนั้นมองมาที่ตนอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าจะพูดว่ารู้สึกยังไงดี ตกใจหรือ แต่ก็สงสัยด้วย
เห็นคนสองคนยกกล่องใหญ่ๆออกมา มองดูท่าทางของสองคนนั้นเหมือนว่ากล่องนั่นจะหลักเอาการ
ซินเหยาหันมามองคนข้างๆแต่กลับพบว่าคนคนนั้นกำลังมองดูตนอยู่
ตามมาด้วยเว่ยโก๋กงกับขุนนางคนหนึ่งที่เดินตามคนสองคนนั้นเข้ามาในเรือน
“จุดนี้เจ้าวางใจไม่มีผิดพลาดแน่ ขอแค่เจ้ายืนอยู่ข้างข้า เจ้าเห็นของพวกนี้แล้วหรือยัง” เว่ยโก๋กงยิ้ม ทำให้ซินเหยารู้สึกสะอิดสะเอียน
คนนั้นได้ฟังคำพูดของเว่ยโก๋กงก็พยังหน้าทันทีแล้วยิ้มกว้างจนเห็นฟัน “แน่นอน แน่นอนฮ่องเต้อำมหิตเทียบอะไรไม่ได้กับเว่ยโก๋กงเลยแม้แต่นิด”
ซินเหยาได้ยินคำนี้นางก็เข้าใจทันทีว่าเว่ยโก๋กงคิดจะกบฏ ถึงว่าทำไมเขาถึงให้ความสำคัญกับกิจการของตนนักที่แท้ก็มีงานใหญ่แอบอยู่นี่เอง
ซินเหยารู้ว่าพวกเขาสองคนจะเปิดประตูลับนั่น นางแอบสังเกตท่าทางของคนข้างๆอยู่ ไม่รู้ว่าคนคนนี้มาที่นี่เป็นครั้งแรกหรือมาจนคุ้นเคยกับทางของที่นี่แล้ว
เว่ยโก๋กงมองดูรอบๆจนแน่ใจว่าปลอดภัยแล้วถึงได้เข้าไปในภูเขาปลอมนั่น
ในขณะที่ทุกคนไม่ทันได้ระวังตัว ประตูนั่นก็ถูกเปิดด้วยความรวดเร็ว
ซินเหยาดูสีหน้าคนข้างๆเราดูแปลกใจ นางยิ้มดูท่าน่าจะมาครั้งแรก งั้นเดี๋ยวนางคงต้องลองทดสอบเขาดูเสียแล้ว
ให้รู้เอาไว้ว่าคนที่มาแอบสังเกตดูจวนเว่ยนางจะไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว นางอยากรู้นักว่าเขาเป็นใครกันแน่ แล้วเขามีเป้าหมายอะไร
เว่ยโก๋กงดุสองคนนั้นให้ทำงานเร็วหน่อยจากนั้นก็หันมายิ้มคุยกับคนที่อยู่ข้างๆ แล้วพาเขาเข้าไปข้างใน
คนคนนั้นอยากจะตามเข้าไป แต่ซินเหยาดึงขาเขาเอาไว้ แต่ที่ซินเหยาแปลกใจคือ ปกติคนถ้าถูกคนแปลกหน้าห้ามเอาไว้จะต้องโกรธ แต่ทำไมเขาทำหน้าสงสัย ทำไมเขาถึงมั่นใจว่านางจะไม่ทำร้ายเขา
คนนั้นมองมาทางซินเหยาด้วยสายตาที่สงสัย นากนั้นก็ไม่มีอะไรอีก ซินเหยาดึงเขาเอาไว้ได้ ไม่พูดอะไรก็คงไม่ใช่ ดูเขาเหมือนจะเป็นคนที่พูดง่าย แต่นะคนในยุทธภพภูก็มีคนประหลาดมากมายโดยเฉพาะผู้ที่มีวรยุทธสูงส่งล้วนเป็นคนประหลาด
ซินเหยาส่ายหัวไปมาเหมือนเตือนคนคนนั้นว่าไม่ให้เข้าไป คนนั้นก็เหมือนจะเข้าใจความหมายของซินเหยา ถึงเขาดูจะเชื่อฟัง หันหลังจะจากไป แต่ใช่ว่าซินเหยาจะปล่อยให้เขากลับไปง่ายๆ
นางรีบเข้าไปขวางเขาเอาไว้
ชายคนนั้นที่ปิดหน้าเอาไว้มองซินเหยา คิดอยากจะหลบหนีซินเหยา แต่กลับถูกซินเหยาขวางเอาไว้อีก
เขาเห็นซินเหยาเช่นนี้ในที่สุดก็ไม่ยอมอีกและรีบหลบซินเหยา ซินเหยาเองก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะเก่งขนาดนี้ ต่อสู้กันไม่กี่กระบวนท่าก็ยังไม่รู้แพ้ชนะ
ซินเหยารู้ว่าจวนเว่ยไม่ใช่ที่ธรรมดา ถ้าหากสู้กันที่นี่ เกรงว่าทั้งสองคงจะหนีไม่รอดแน่
ดังนั้นซินเหยาจึงออมมือให้ คนนั้นตั้งตัวได้จึงรีบเหาะหนีไป
ซินเหยายิ้มที่มุมปากแล้วเหาะตามไปทันที แต่เหมือนว่าซินเหยาจะประเมินความสามารถของเขาตำไป กระบวนท่าแปลกประหลาด ขนาดวิชาตัวเบายังไม่เหมือนใคร
ออกจากจวนเว่ยก็ปลอดภัยไปเยอะซินเหยารีบเข้าไปขัดขวางเขาเอาไว้
“รอก่อน ข้าไม่ได้ตั้งใจจะสู้กับเจ้า ข้าแค่อยากรู้ว่าเจ้าคือใคร” คำพูดนี้ของซินเหยาที่ให้เขาลำบากใจเสียจริง แต่ตอนนี้วิธีเดียวที่นางคิดได้คืออันนี้แหละ
คนนั้นสะดุ้งแล้วส่ายหัวทันที จากนั้นก็หนีไป แต่ครั้งนี้ไม่ยอมออมมือแน่ทั้งสองสู้กันขึ้นมา
ซินเหยาต่อสู้กับคนนั้นและรู้สึกได้ว่ารวยุทธของเขานั้นไม่ธรรมดา และคาดว่าเขาคงจะสู้ตนไม่ได้ แต่ทำไมไม่รู้ว่าคนคนนั้นถึงได้ออมมือให้ตนอยู่ตลอดนี่ทำให้นางนึกถึงซ่างกวน
“เจ้าชื่อซ่างกวน” ซินเหยาถามขึ้น และทำให้นางรู้ว่านางคิดผิดไปรูปร่างของคนคนนี้ไม่เหมือนเขา
แต่พอคนคนนั้นได้ยินซ่างกวนสองคำนี้ เขาก็ชะงักขมวดคิ้ว
“เจ้านึกอะไรออก”
น้ำเสียงที่ต่ำแต่กลับฟังดูอบอุ่น มองดูซินเหยาที่กำลังรออย่างมีความหวัง
ซินเหยาตกใจ คนคนนี้รู้ว่านางความจำเสื่อม ดูท่าเขาคงรู้จักนางดี ฟังเสียงนั่นดูท่าคงเป็นเสียงที่เขาแกล้งพูด
“เจ้าจะช่วยเว่ยโก๋กงหรือทำลายเขา” ซินเหยาไม่อยากเดาอีกต่อไปแล้ว ถ้าจะต้องมาเดากันอยู่อย่างนี้เกรงว่าฟ้าจะสว่างเสียก่อน
คนนั้นขมวดคิ้ว และไม่พูดอะไรเลย ทำให้ซินเหยาร้อนใจยิ่งนัก “ถ้าเจ้าช่วยงั้นเราก็คือศัตรูกันแต่ถ้าทำลายเขางั้นเราก็คือมาร่วมมือกัน”
ซินเหยาพูดจบก็มองเขาที่กำลังสับสน ปล่อยให้เขาค่อยๆคิดไปเถอะพรุ่งนี้นางยังมีงานสำคัญต้องทำอีก
ซินเหยาเหาะจากชายคนนั้นไป
“เบื้องบนสั่งมาว่าเจ้าทำดีมาก เหลือแค่ก้าวสุดท้ายถ้าเจ้าทำสำเร็จพอถึงเวลาจะเอาคนมาคืนเจ้า” คนนั้นพูดอย่างจริงจัง
น้าเมิ่งเหม่อลอย นางยังไม่ไม่มั่นใจ “เจ้าต้องรับปากว่าคุณหนูของข้าจะปลอดภัยกลับมา” น้าเมิ่งกลัวว่าฝั่งตรงข้ามจะไม่ทำตามที่พูด
คนนั้นมองมาทางน้าเมิ่ง สีหน้าไร้ความรู้สึก “เบื้องบนสั่งมาผู้หญิงคนนั้นต้องตายเพื่อกันไม่ให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในภายหน้าอีก”
ขณะที่พูดสีหน้าของคนนั้นก็ยังคงดูดุดัน
น้าเมิ่งตกใจ นางไม่อยากฆ่าคนบริสุทธิ์จริงๆ แต่จ่อธนูเอาไว้แล้วจะยิงหรือไม่ยิงก็ไม่ต่างอะไรกัน
คนนั้นมองดูท่าทางของน้าเมิ่ง ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่ต้องคิกจะไปสงสารใคร เจ้ารู้เอาไว้ว่าคุณหนูของเจ้าอยู่ในอันตรายก็พอ” พูดจบคนนั้นก็หายไป
น้าเมิ่งยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น ครุ่นคิดคำพูดที่คนนั้นพูดเอาไว้เมื่อกี้ นางลังเลไม่รู้จะตัดสินใจยังไง
ในที่สุด ก่อนที่ฟ้าจะสาง แสงสว่างจะมานางได้ตัดสินใจแล้ว
“นายท่านสืบหาเบาะแสได้แล้ว” น้าเฝิงยิ้มอย่างดีใจวิ่งเข้ามา เห็นซินเหยาที่แลดูเหนื่อยๆแววตานางก็ปรากฏความ
สงสารขึ้นมา
ซินเหยาที่แลดูเหนื่อยๆรีบลุกขึ้นมา “อะไร”
นางมองดูน้าเฝิงด้วยความดีใจ
“วันนี้ฝั่งโน้นเขาจะแลกเปลี่ยนกับจวนเว่ย ข้าคิดว่าสามารถสืบหาความจริงได้” น้าเฝิงมองดูซินเหยา และแนะนำด้วยความมั่นใจ
ซินเหยามองดูน้าเฝิงที่มั่นใจแบบนี้ ดูท่าวิธีนี้ในตอนนี้น่าจะได้ผลที่สุด และเมื่อนึกถึงคนเมื่อคืนนี้ไม่รู้ว่าจะใช่เขาไหม ซินเหยาอยากเห็นหน้าเขาจริงๆ
ซินเหยาแต่งตัว วันนี้นางจะต้องรู้ให้ได้ว่าใครกันที่อยากมาค้าขายกับเว่ยโก๋กง หรือว่า………….
พอน้าเมิ่งเห็นเว่ยโก๋กง นางนิ่ง ทั้งสองคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่พอเวลาจะหมดนางเหมือนจะรีบร้อนมาก มองไปข้างนอกบ่อยครั้งนัก
ซินเหยามองดูน้าเมิ่ง นางอึ้ง นานแล้วที่ไม่เห็นน้าเมิ่ง ไม่เพียงแต่น้าเมิ่งที่ช่วยนางเอาไว้หลายครั้ง นางคิดไม่ถึงว่าน้าเมิ่งจะมาโผล่ที่นี่ มันเหนือความคาดหมายของนางจริงๆ
ซินเหยามองดูอย่างเงียบๆ รอสักครู่นางจะต้องถามให้ชัดเจนให้ได้
น้าเมิ่งคุยกับเว่ยโก๋กงจนจบ
“งั้นก็รบกวนเจ้าแล้วการร่วมมือครั้งนี้ ถ้าหากสำเร็จจะไม่มีทางลืมเจ้านายของพวกเจ้าแน่ ขอให้เจ้ากลับไปบอกด้วย” เว่ยโก๋กงปฏิบัติต่อน้าเมิ่งดีมาก