นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 151 คืนนี้จะไม่มีพิธีหมั้น
ดวงตาของซูฉิงฉายแววซับซ้อนทั้งยังปะปนความเศร้าและความมุ่งมั่นเล็กน้อย เธอมองเข้าไปในดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงก่อนจะหันหลังเดินจากไป
ย่างก้าวของเธอนั้นหนักอึ้ง เป็นทุกย่างก้าวที่ยากเหลือเกิน
ชูชิงเดินออกจากประตูด้วยความสิ้นหวัง ยวี๋น่ากำลังเดินมาหาเธอและพูดอย่างหายใจไม่ทัน “ซูฉิง ฉันหาทางนั้นหมดแล้วแต่ไม่เจอฮ่อหยุนเฉิง…”
“ไม่ต้องตามหาแล้ว” ซูฉิงกล่าวอย่างเย็นชา จิกเล็บของเธอลึกลงเข้าไปในเนื้อ
ความเจ็บปวดของนิ้วมือแผ่ไปทั่วทั้งร่างกาย ทว่าซูฉิงกลับไม่รู้สึก
เพราะความเจ็บปวดในใจมีนั้นมีเป็นพันเท่า หมื่นเท่า!
เมื่อเห็นใบหน้าดูไม่ดีของซูฉิง ยวี๋น่าจึงรีบถาม “ซูฉิง เธอเป็นอะไรไป?”
“ยวี๋น่าเราไปกันเถอะ!” ซูฉิงที่ได้สติก็ลากยวี๋น่าไปที่ถนน
แท็กซี่เมื่อกี้ยังอยู่ คนขับไปเข้าห้องน้ำและเพิ่งกลับขึ้นรถ
ขณะที่กำลังจะสตาร์ทรถ ซูฉิงก็เปิดประตู เข้าไปในรถพร้อมพูดกับคนขับด้วยเสียงที่หนักแน่นว่า “ไปที่โรงแรมตี้หาว”
โรงแรมตี้หาวเป็นทรัพย์สินของตระกูลฮ่อกรุ๊ป และยังเป็นสถานที่จัดพิธีหมั้นในคืนนี้
“ซูฉิง เกิดอะไรขึ้น? เธอเจอฮ่อหยุนเฉิงหรือเปล่า?” เมื่อเห็นว่าซูฉิงดูผิดปกติ ยวี๋น่าจึงเร่งถาม
สีหน้าของซูฉิงเย็นชา พร้อมกัดริมฝีปากและพยักหน้า
“แล้วเขาล่ะ? ทำไมเขาไม่มากับเธอด้วย? เขาไปที่โรงแรมตี้หาวก่อนเหรอ??” ในใจยวี๋น่ากังวลมาก น้ำเสียงก็ฉายแวววิตกเล็กน้อย
รู้จักกับซูฉิงมาตั้งนาน เธอไม่เคยเห็นเจ้านายของเธอเป็นแบบนี้มาก่อนเลย
ต้องเกิดเรื่องอะไรแน่
ซูฉิงหลับตาพร้อมรอยยิ้มประชดประชัน “คืนนี้จะไม่มีพิธีหมั้น”
“ว่าไงนะ?” ยวี๋น่าตกใจเมื่อได้ยินคำพูดนั้น
ซูฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดเสียงเรียบ “ฉันไตัดสินใจที่จะยุติการหมั้นกับฮ่อหยุนเฉิง พิธีหมั้นในคืนนี้ก็จะถูกยกเลิกเช่นกัน”
ยวี๋น่าพูดด้วยอาการตกใจ “ยุติการหมั้น? ซูฉิงเธอคงไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?”
“ฉันดูเหมือนล้อเล่นเหรอ?” ซูฉิงยิ้มหัวเราะเยาะตัวเอง
ยวี๋น่าถามต่อ “ทำไมล่ะ?”
หัวใจของซูฉิงกระตุกอย่างแรง “เพราะคนในใจของฮ่อหยุนเฉิงกลับมาแล้ว วันนี้ที่เขาหายไปทั้งวันก็เพราะไปอยู่กับเธอคนนั้น”
“คนในใจ?? เธอจะบอกว่าถังถังกลับมาแล้วเหรอ? เป็นไปได้ยังไง!” น้ำเสียงของยวี๋น่าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
เธอเคยได้ยินซูฉิงพูดเกี่ยวกับถังถัง และรู้ว่าฮ่อหยุนเฉิงนั้นเคยรักผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่าถังถัง
แต่ตอนนั้นถังถังตกหน้าผาไป และไม่มีข่าวมาหลายปี ทุกคนคิดว่าเธอไม่รอดแล้ว
ตอนนี้ ในวันที่ฮ่อหยุนเฉิงและซูฉิงกำลังจะหมั้นหมายกัน ทำไมจู่ๆ ถังถังถึงได้มาปรากฏตัว?
ยวี๋น่าเองก็ไม่รู้ว่าจะปลอบซูฉิงยังไง “แม้ว่าถังถังจะกลับมาแล้ว ฮ่อหยุนเฉิงก็อาจไม่เลือกถังถังก็ได้ ซูฉิง เธออย่าเป็นแบบนี้เลยนะ คุยกับเขาดีๆ เถอะนะ”
“การกระทำของเขาอธิบายทุกอย่างหมดแล้ว ทำไมฉันถึงต้องไปตอกย้ำตัวเองด้วยล่ะ?” ซูฉิงหรี่ตาที่สวยงามของเธอ น้ำเสียงก็จืดจางลงไปเล็กน้อย
“แต่ว่า…” ยวี๋น่ารู้นิสัยเจ้านายของเธอดี ซูฉิงเป็นผู้หญิงที่แน่วแน่ เคารพตัวเองและเย่อหยิ่ง ไม่มีใครเปลี่ยนสิ่งที่เธอตัดสินใจได้
ยวี๋น่าอยากจะพูดอะไรหน่อยแต่ซูฉิงก็ขัดจังหวะ “ยวี๋น่า เธอให้ฉันอยู่เงียบๆ สักพักนะ”
ซูฉิงเอนหลังพิงเบาะ ภาพของฮ่อหยุนเฉิงที่กอดกับถังถังผุดขึ้นมาในสมองอีกครั้ง กำจัดยังไงก็ไม่ออก
หัวใจค่อยๆ ดิ่งลงสู่ส่วนที่ลึกที่สุด
ความหนาวเหน็บ ความเจ็บปวด
นี่คือความรู้สึกที่ซูฉิงไม่เคยเป็นมาก่อน
มันเจ็บปวดจนแทบขาดใจ
แต่ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน เธอก็ต้องทนให้ได้
เวลานี้เธอต้องเข้มแข็ง
ในเมื่อถังถังกลับมาแล้ว ฮ่อหยุนเฉิงเองก็เลือกถังถังแล้ว พิธีหมั้นคืนนี้ก็คงไม่จำเป็นต้องจัด
แทนที่จะให้ฮ่อหยุนเฉิงเสนอ เธอเสนอมันก่อนจะดีกว่า
เธอต้องการให้ทุกคนรู้ว่าเธอ ซูฉิงคนนี้ไม่ต้องการฮ่อหยุนเฉิงแล้ว!
โรงแรมตี้หาว
ในห้องจัดเลี้ยงที่หรูหราที่สุดบนชั้นหนึ่ง แขกต่างพากันมารวมตัวกันและมีชีวิตชีวามาก
ที่นี่ วันนี้จะเป็นพิธีหมั้นที่ยิ่งใหญ่ของฮ่อหยุนเฉิง ผู้นำตระกูลฮ่อกรุ๊ป และบรรดาผู้มีหน้ามีตาทั้งหลายทุกคนในเมือง A ต่างพากันมาร่วมพิธีอันยิ่งใหญ่นี้
นอกจากนี้ยังมีนักข่าวอีกมากมายที่ต่างพากันมาเร็วเพราะกลัวพลาดข่าวแรกไป
ทุกคนต่างตั้งตารองานเลี้ยงนี้ ยกเว้นสวีหว่านเอ๋อร์
เธอจ้องไปที่เวทีด้านหน้าของห้องจัดเลี้ยงด้วยความโกรธ อีกเดี๋ยวฮ่อหยุนเฉิงและซูฉิงก็จะจัดพิธีหมั้นและรับพรของทุกคนตรงนั้น
ทำไม ทำไมต้องเป็นซูฉิง!
“หว่านเอ๋อร์ อย่าโกรธไปเลย มันก็แค่งานหมั้น ไม่ใช่งานแต่งงานซะหน่อย” ไป๋หลานรู้สึกถึงความโกรธสวีหว่านเอ๋อร์ข้างๆก่อนจะพูดปลอบอย่างรวดเร็ว
สวีหว่านเอ๋อร์สูดหายใจเข้าลึกๆ “เธอพูดถูก ก็แค่งานหมั้น”
“ถูกต้อง ไว้เราจะหาวิธีไล่ยัยบ้านั่นออกไปก็ได้!” ไป่หลานพูดจบก็มองไปทางเฉินจุนเหยียนด้วยความรู้สึกยุบยิบในใจ
ซูฉิงหมั้นกับฮ่อหยุนเฉิงแล้วคงจะเลิกยุ่งกับเฉินจุนเหยียนใช่ไหม?
เวลาผ่านไป ทุกคนต่างพากันมาอย่างเนืองแน่น แต่ตัวเอกของคืนนี้ทั้งฮ่อหยุนเฉิงและซูฉิงต่างไม่มีใครเห็น
ท่านผู้เฒ่าฮ่องงเล็กน้อย เขาโทรหาฮ่อหยุนเฉิงแต่กลับปิดเครื่อง โทรศัพท์ซูฉิงก็ไม่มีคนรับสาย
“เหล่าหลี่ ให้คนไปตามหาหยุนเฉิงทีสิ” ท่านผู้เฒ่าฮ่อขมวดคิ้ว รู้สึกไม่สบายใจ
เขารู้จักหลานชายของเขาดี ฮ่อหยุนเฉิงไม่ใช่คนไม่ตรงต่อเวลา
ยิ่งไปกว่านั้น เขาน่าจะมาถึงเร็วในวันสำคัญเช่นนี้ด้วย
ทำไมตอนนี้กลับไม่เห็น แม้แต่โทรศัพท์ก็ยังไม่รับ?
“คุณท่านอย่าเพิ่งรีบร้อนไปเลยครับ นายน้อยอาจจะมีบางอย่างล่าช้า” ลุงหลี่พูดปลอบท่านผู้เฒ่าฮ่อ
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน แม่ฮ่อและฮ่อเฉียนที่สวมรองเท้าส้นสูงก็เดิรเข้ามา
“พ่อคะ หยุนเฉิงกำลังทำอะไรน่ะคะ?” แม่ฮ่อทำท่าไม่พอใจ
ตั้งแต่วันนั้นที่หลินเจีนต้งจัดงานแถลงข่าวและแม่ฮ่อก็ช่วยหลินเจียต้งพูด สถานะของแม่ฮ่อในบ้านตระกูลฮ่อก็ลดลง
ฮ่อหยุนเฉิงย้ายไปอยู่ที่เมืองใหม่สุ่ยเยว่ และไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว
ท่านผู้เฒ่าฮ่อกวาดสายตามองอีกคนนิ่งๆ “ลูกชายตัวเอง ทำไมคุณถึงถามฉัน?”
แม่ฮ่อสำลักและกำลังจะพูด ฮ่อเฉียนเหลือบมองเธอก่อนจะดึงมือของเธอเอาไว้
“คุณปู่คะ พี่ม่ใช่คนที่ไม่รู้ถึงอะไรสำคัญ หนูว่าเขาต้องรีบมาอยู่แน่ค่ะ” ฮ่อเฉียนพูดอย่างไพเราะ ไม่ลืมที่จะป้ายสีซูฉิง “แต่ซูฉิงก็นะ โทรศัพท์มือถือของพี่แบตหมดแล้วทำไมเธอถึงไม่รับสายล่ะ? ไม่มีเหตุผลเลย”
ท่านผู้เฒ่าฮ่อเปิดปากและกำลังจะพูด ทันใดนั้นก็ได้ยินคนตะโกนว่า “มาแล้ว มาแล้ว!”
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกน แต่ทุกคนก็หันไปมองที่ประตู
เห็นเพียงซูฉิงที่สวมชุดสีแดงสด ลงจากรถแท็กซี่และเดินมาที่ประตูห้องจัดเลี้ยง
เมื่อเห็นซูฉิงจากระยะไกล ในที่สุดท่านผู้เฒ่าฮ่อก็โล่งอก แต่แล้วเขาก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ทำไมมีแค่ซูฉิงคนเดียว ฮ่อหยุนเฉิงล่ะ?