นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 253 เชิญอู๋ชิงหร่านมาเป็นแขกรับเชิญ
“จริงเหรอ?” ซูฉิงได้ยินดังนั้นสีหน้าก็เข้มขึ้น รีบเอ่ยถามต่อว่า “ได้ยังไง?”
“ตอนงานเปิดตัว คนที่ลงมือกับดอกไม้เป็นอู๋ชิงหร่าน” แอนโธนี่พูดเสียงเข้ม
“อู๋ชิงหร่าน?” ซูฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย
คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเธอ
แต่ว่า นี่ก็เป็นหนึ่งความคาดการณ์ของซูฉิงเช่นกัน
ตอนงานเลี้ยงเปิดตัวก่อนหน้านี้ ซูฉิงเผยเรื่องอื้อฉาวของเธอในที่สาธารณะ ทำให้ชื่อเสียงของอู๋ชิงหร่านตกต่ำลง
ดูเหมือนว่า อู๋ชิงหรานจะโกรธแค้นอยู่ในใจ ตั้งใจจะแก้แค้น
คิดไม่ถึงพลังการรบของอู๋ชิงหร่านจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ถึงขนาดวางแผนที่คาดไม่ถึงมาทำร้ายเธอ
นัยน์ตาซุฉิงเย็นลง
ครั้งนี้เธอต้องให้อู๋ชิหร่านชำระในราคาที่เหมาะสมแน่!
“พี่เอด้า ต่อไปพวกเราจะทำยังไงต่อ?” แอนโธนี่ถาม “ถ้าต้องการให้ผมช่วยตรงไหนก็พูดมาเลย”
มุมปากซูฉิงค่อยๆยกขึ้นทำให้ไอเย็นเยือก “ฉันมีวิธีของฉันเอง”
หลังวางสาย ขณะที่ซูฉิงกำลังจะโทรหาเฉินจุนเหยียน เฉินจุนเหยียนก็โทรเข้ามาก่อน
“ฮัลโหล เฉินจุนเหยียน” ซูฉิงรับโทรศัพท์
เสียงวิตกกังวลของเฉินจุนเหยียนก็ดังมาจากปลายสายว่า “ซูฉิง ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
น้ำเสียงของเฉินจุนเหยียนแฝงไปด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
ในกองถ่าย ชูฉิงเกือบได้รับบาดเจ็บ ฮ่อหยุนเฉิงก็อุ้มซูฉิงออกไปเลย
เขาเฝ้ามองซูฉิงขึ้นรถฮ่อหยุนเฉิงจากไป…
“ฉันไม่เป็นอะไร” ซูฉิงส่ายศีรษะ “ฉันมีธุระกับนายพอดีเลย”
“มีเรื่องอะไรพูดมาเลย” เฉินจุนเหยียนพูดอย่างอ่อนโยน
ซูฉิงพยักหน้า พูดว่า” ในการเล่นถ่ายทำช่วงหลัง นายให้ผู้กำกับเพิ่มบทนักเปียโนสากล แล้วนายก็ให้อู๋ชิหร่านทำมาเป็นนักแสดงรับเชิญได้มั้ย? ”
“อู๋ชิงหร่าน” เฉินจุนเหยียนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
ทำไมซูฉิงถึงต้องการให้อู๋ชิงหร่านมาเป็นแขกรับเชิญ?
“ใช่ เรื่องนี้ต้องฝากนายแล้ว” ซูฉิงเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“อืม ได้ ซูฉิง เรื่องของเธอก็เป็นเรื่องของฉัน เธอวางใจเถอะ ฉันจะทำให้เดี๋ยวนี้” ฌฉินจุนเหยียนรับปาก
หายากที่ซูฉิงจะมีธุระกับเขา เฉินจุนเหยียนต้องทำตามที่ขอแน่นอน จึงรีบไปดำเนินการทันที
ส่วนเหตุผลว่าทำไมซูฉิงยืนยันที่จะเลือกอู๋ชิงหร่าน เขาพอจะเข้าใจแล้ว
เฉินจุนเหยียนโทรไปหาอู๋ชิงหร่าน “อู๋ชิงหร่าน ฉันเฉินจุนเหยียน”
“จุนเหยียน?” น้ำเสียงของอู๋ชิงหร่านตื่นเต้น
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินจุนเหยียนโทรหาเธอ
น้ำเสียงตามแบบฉบับของเฉินจุนเหยียนเอ่ยว่า “ทีมงานต้องการหานักเปียโน อยากจะเชิญเธอมาน่ะ”
นัยน์ตาซูฉิงสว่างวาบ “ไม่มีปัญหา ตอนเย็นนายมาพูดคุยรายระเอียดที่บ้านฉัน ไดมั้ย?”
เดิมทีเฉินจุนเหยียนจะให้ผู้ช่วยเอาสัญญาไปให้อู๋ชิงหร่านลงชื่อ แต่อู๋ชิงหร่านยืนยันให้เขาไปด้วยตนเอง ไม่งั้นจะไม่ตกลง
เฉินจุนเหยียนจึงได้แต่ตอบตกลง
ตกกลางคืนเฉินจุนเหยียนขับรถไปที่คอนโดของอู๋ชิงหร่าน
กดกริ่งหน้าประตูก็เห็นอู๋ชิงหร่านสวมชุดเดรสสายเดี่ยวสุดเซ็กซี่ออกมา
เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของเฉินจุนเหยียน ดวงตาอู๋ชิงหร่านก็เปล่งประกายอย่างชื่นชม “จุนเหยียน นายมาแล้ว”
เฉินจุนเหยียนที่เห็นเธอแต่งตัววาบหวิว คิ้วกระบี่ก็ขมวด และย้ายสายตาไปไว้ที่อื่น
เห็นการกระทำตามจิตใต้สำนึกของเฉินจุนเหยียน ดวงตาของอู๋ชิงหร่านก็มืดลงเล็กน้อยแล้วหัวเราะอย่างทรงเสน่ห์ “ฮ่าๆ โทษที ฉันชอบแต่งตัวสบายๆ อยู่ที่บ้าน ฉันจะใส่เสื้อคลุมก่อน เข้ามาข้างในสิ”
เฉินจุนเหยียนเดินเข้ามา อู๋ชิงหรานสวมเสื้อคลุม ทว่าเสื้อคลุมทำด้วยผ้าไหม ขับเน้นให้รูปร่างของเธอดูโดดเด่นและน่าเย้ายวนยิ่งขึ้น
เฉินจุนเหยียนอยู่สตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์มาหลายปี ย่อมเข้าใจว่าความหมายของอู๋ชิงหร่าน
สำหรับผู้หญิงคนนี้ เขาก็ไม่ได้ยากจะมองสักเท่าไหร่เลย
หากไม่ใช่เพราะซูฉิง เฉินจุนเหยียนจะมาหาอู๋ชิงหร่านในเวลาแบบนี้ได้ยังไง?
เขานั่งลงบนโซฟา ไม่สบสายตา
อู๋ชิงหร่านไม่ได้คิดว่าเขาจะเฉยเมยและเหินห่าง ในใจก็ผิดหวังอย่างมาก
เดิมที เฉินจุนเหยียนมาหาเธอก่อน อู๋ชิงหร่านยังคิดไปว่ายังรู้สึกกับเธออยู่
แต่ตอนนี้…
อู๋ชิงหร่านไม่ยินยอม ในเมื่อวันนี้เฉินจุนเหยียนมาแล้ว เธอต้องคว้าโอกาสไว้ให้ได้!
คิดแบบนี้ อู๋ชิงหร่านก็วางถ้วยชาตรงหน้าเฉินจุนเหยียน “นายดื่มน้ำก่อนสิ”
“ขอบคุณ” เฉินจุนเหยียนกล่าวขอบคุณ พูดพลางหยิบบทที่เกี่ยวกับนักเปียโนส่งให้อู๋ชิงหร่าน
เฉินจุนเหยียนพูดอย่างเรียบเฉยว่า ” “นี่คือบท ลองดูสิ มีฉากเยอะหน่อย แต่ไม่ได้มีข้อแม้ทางทักษะการแสดงมากนัก เธอเป็นนักแสดงรับเชิญ ก็เพียงพอแล้วทั้งหมด”
อู๋ชิงหร่านรับบทไป ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มทรงเสน่ห์ “แน่นอนว่าได้ เป็นนายที่ขอให้ฉันช่วย ฉันจะปฏิเสธได้ยังไง”
เธอไม่ได้อ่านบท แต่วางบทไว้บนด้านหนึ่งของโต๊ะชาทันทีที่อู๋ชิงหร่านให้เฉินจุนเหยียนมาไม่ใช่เพราะเรื่องนี้
เธอมีเป้าหมายอื่น
“จุนเหยียน นายควรจะรู้ว่าที่ฉันนัดนายมาพบด้วยตนเองไม่ใช่เพราะเรื่องนี้เลยสักนิด”
อู๋ชิงหร่านเข้าไปใกล้เขา ยื่นมืออกไปจับมือเฉินจุนเหยียนเบาๆ สายตาจับจ้องไปที่เขา พูดอย่างน่าสงสารว่า “ปีนั้น ฉันไม่ได้หนีตามผู้ชายไปต่างประเทศ ฉันมีความลำบากใจน่ะ”
เมื่อเห็นเธอพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ร่องรอยของความขยะแขยงก็ปรากฏบนใบหน้าของเฉินจุนเหยียน เขาดึงมือของเขาอย่างเงียบเชียบ ขยับออกรักษาระยะห่างจากอู๋ชิงหร่าน
เมื่อเห็นเขาเป็นเช่นนี้ ร่องรอยของความเศร้าโศกก็ปรากฏขึ้นในแววตาของอู๋ชิงหราน “ฉันรู้ว่าตอนนี้นายต้องเกลียดฉันมาก และฉันก็รู้ด้วยว่าก่อนหน้าที่ฉันเป็นแบบนั้น คงไม่ทำให้นายยกโทษให้ฉันได้ง่ายๆ”
“ที่ฉันอยากพูดก็คือ ฉันรักนายจากใจจริง”
“ตอนนั้นพี่ใหญ่ของฉันสั่งให้คนส่งฉันไปต่างประเทศ ให้ฉันมาอธิบายกับนายไม่ทัน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันไม่เคยเปลี่ยนใจเลย”
อารมณ์ของอู๋ชิงหร่านแปรปรวน ดวงตาของเธอค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ เธอชี้ไปที่หัวใจ “ตรงนี้ คนที่อยู่ที่นี่คือนาย – เฉินจุนเหยียน”
อากาศในเวลานี้ราวกับถูกแช่แข็ง เฉินจุนเหยียนเพียงมองเธออย่างไร้ความรู้สึก
“จุนเหยียน นายเชื่อฉัน ที่ฉันพูดเป็นความจริงทั้งหมด เรื่องในปีนั้นเป็นแค่ความเข้าใจผิด! พวกเรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้มั้ย?” อู๋ชิงหร่านที่มีหยาดน้ำตาแวววาวในดวงตา ช่างดูนุ่มนวลและไร้ความผิด ทำให้คนรักสงสารอย่างมิอาจเปรียบ
ทว่าเฉินจุนเหยียนไม่รู้สึกสะทกสะท้าน พูดอย่างเฉยชาว่า “อู๋ชิงหราน ฉันพูดกับเธอชัดเจนแล้วว่าเรื่องในปีนั้นฉันไม่อยากพูดถึงอีก ไม่ว่าปีนั้นเธอจะมีเหตุผลอย่างไรก็ตาม ฉันไม่สนเลยสักนิด เพราะใจเย็นรักผู้หญิงแค่เพียงคนเดียวมาตลอด คนคนนั้นคือซูฉิง”
พูดจบ เฉินจุนเหยียนก็ลุกขึ้น ต้องการจากไป
เขาไม่อยากอยู่ที่นี่พัวพันกับอู๋ชิงหรานอีกต่อไป
“จุนเหยียน อย่าไป!” เห็นเฉินจุนเหยียนจะไป อู๋ชิงหร่านก็รีบลุกขึ้น อยากจะรั้งเขาไว้
อู๋ชิงหร่านแกล้งทำเป็นไม่ระวัง ตั้งใจไปโดนแก้วน้ำบนโต๊ะน้ำชา
น้ำชาร้อนๆ หกรดตัวของเฉินจุนเหยียนทั้งหมด