นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 259 เปิดเผยความจริง (๓)
ซูฉิงเปิดวิดีโอซ้ำอีกครั้ง “ทุกคนดูชัดเจนรึยัง ว่าทองคำขาวที่อยู่บนช่อดอกไม้นั้น มีคนตั้งใจใส่ลงไป”
“แล้วยังไง “อู๋ชิงหร่านทำเป็นเก็บความร้อนรนเอาไว้ สูดลมหายใจเข้าแล้วพูด”แม้จะมีคนต้องใจใส่ลงไปจริง ทุกคนก็เห็นแล้วนี่ว่าเป็นผู้ชาย แล้วมันเกี่ยวกับฉันยังไง”
ตอนที่ดูวิดีโอนี้ อู๋ชิงหร่านก็รู้สึกร้อนตัว
ทำไมซูฉิงถึงมีคลิปวิดีโอนี้ได้
เธอก็ได้ตรวจสอบดีแล้วนี่ ว่าแถวนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด
อู๋ชิงหร่านแอบบอกตัวเองอยู่ในใจ ว่าจะร้อนตัวไม่ได้
“ใช่แล้ว นี่เป็นผู้ชาย”ซูฉิงยกยิ้ม “แต่ว่าผู้ชายคนนี้นั้น เป็นบอดี้การ์ดของบ้านตระกูลอู๋ และคนที่ให้เขาทำเรื่องนี้ก็คือเธอ อู๋ชิงหร่าน!”
“ซูฉิง เธอนี่แต่งเรื่องเก่งจังเลยนะ ฉันไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ด้วยซ้ำ จะมาเป็นบอดี้การ์ดบ้านตระกูลอู๋ได้ยังไง เธออย่ามาใส่ร้ายฉันนะ”อู๋ชิงหร่านเม้มปากพูด
ถึงยังไง บอดี้การ์ดคนนี้เธอก็ได้ส่งเขาไปต่างประเทศแล้ว ขอแค่เธอยืนยันว่าไม่รู้จักคนนี้ ซูฉิงจะทำอะไรเธอได้ ”
“ไม่รู้จักจริงๆหรอ ” ซูฉิงแฉะยิ้มออกมา จากนั้นก็กดโทรศัพท์แล้วเปิดรูปหนึ่งรูป
ในรูป เป็นรูปที่อู๋ชิงหร่านอยู่กับพวกผู้ชายที่สวมชุดสูทที่น่าจะเป็นบอดี้การ์ด
และหนึ่งในผู้ชายในนั้นก็คือผู้ชายที่อยู่ในวิดีโอที่เดินชนหนักเรียนสองคน แล้วก็เป็นผู้ชายที่แอบเอาทองคำขาวเทใส่เข้าไปในช่อดอกไม้อย่างเนียนๆ โดยไม่มีมีใครรู้
“อย่างนี้เธอยังจะบอกว่าไม่รู้จักอีกมั้ย”ซูฉิงชี้ไปที่รูปถ่าย แล้วถามเสียงขรึม
“ใครจะรู้ว่ารูปถ่ายนี้เป็นของจริงหรือของปลอม ไม่แน่เธออาจจะทำPS มาก็ได้ “อู๋ชิงหร่านจ้องซูฉิงเขม็ง แววตายังคงปิดบังความตื่นตระหนกไว้
เดิมทีนึกว่าวันนี้จะต้องจัดการซูฉิงให้ตายให้ได้ และโยนความผิดให้กับเจียงเสว่ยี๋ แต่ตอนนี้เรื่องทั้งหมดล้วนอยู่เหนือการควบคุมของเธอแล้ว
“PSงั้นหรอ “ซูฉิงกระแอมถาม แล้วกำลังจะพูดอะไร ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นมา”เป็นเธอรึเปล่าที่บงการ งั้นก็ให้เจ้าตัวเขาพูดเองก็แล้วกัน”
น้ำเสียงนี้ทำไมคุ้นๆ จัง……หรือจะเป็นฮ่อหยุนเฉิง
ซูฉิงก็ใจเต้นขึ้นมา แล้วหันไปทางเสียง
และเงาที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธอก็คือฮ่อหยุนเฉิง
ฮ่อหยุนเฉิงวันนี้สวมชุดสูทสั่งตัดสีเทาควันบุหรี่ บวกกับร่างสูงใหญ่ของเขาทำให้ดูสูงใหญ่สมบูรณ์แบบมาก
และเขาก็แผ่รังสีน่าเกรงขามออกมาทำให้ทุกคนต่างก็ต้องขยับไปยืนข้างๆ แหวกเป็นทางเดินโดยอัตโนมัติ
ฮ่อหยุนเฉิงก็ก้าวมาอย่างมั่นคงมาหาซูฉิง
และด้านหลังของเขา เป็นบอดี้การ์ดของเขาสองคนที่จับผู้ชายคนหนึ่งอยู่
ซูฉิงอึ้งเล็กน้อย เงยหน้ามองฮ่อหยุนเฉิง “นายมาที่นี่ได้ยังไง”
นับตั้งแต่วันที่พวกเขาทะเลาะกันวันนั้น ก็เกิดสงครามเย็นมาหลายวัน ฮ่อหยุนเฉิงก็มักจะหายตัวไปอยู่บ่อยๆ
ตอนนี้……เขามาอยู่ที่กองถ่ายได้ยังไง
ฮ่อหยุนเฉิงเดินเข้ามาตรงหน้าซูฉิงโน้มตัวลงมาเล็กน้อย แล้วกระซิบข้างหูของเธอมีเพียงเขากับเธอสองคนที่ได้ยิน “ฉันมาช่วยเธอไง”
ลมหายใจอุ่นๆ ร้อนๆ ของเขา ล้วนดังเข้ามาในหูของซูฉิง เหมือนกลับไฟฟ้าไหลผ่านก็ไม่ปาน กระตุ้นจนซูฉิงหน้าแดงระเรื่อ
ซูฉิงที่เบี่ยงตัวหลับแล้วไปยืนข้างๆ เล็กน้อย เพื่อรักษาระยะห่างกับฮ่อหยุนเฉิง
ผู้ชายคนนี้ไม่ทำกระล่อนให้เธออายต่อหน้าคนอื่นไม่ได้รึไง
ทั้งที่หลายวันมานี้เขาโมโหโกรธ พวกเขาเลยตกอยู่ในสภาวะสงครามเย็นกัน
สายตาของซูฉิงก็หันไปทางผู้ชายคนนั้นที่ถูกบอดี้การ์ดของฮ่อหยุนเฉิงจับตัวไว้
ผู้ชายคนนี้ดูหน้าคุ้นๆ
ซูฉิงนวดขมับ ทันใดนั้นก็พบว่า ผู้ชายคนนี้ก็เป็นผู้ชายที่อยู่ในคลิปวิดีโอเมื่อกี้ บอดี้การ์ดของอู๋ชิงหร่านใช่มั้ย?
ใช่แล้ว เป็นเขา
แม้ผู้ชายคนนี้จะแต่งตัวไม่เหมือนกับผู้ชายที่อยู่ในวิดีโอ แต่ว่า ก็มองออกได้ง่ายมาก ว่าเป็นคนคนเดียวกัน
และอู๋ชิงหร่าน พอเห็นบอดี้การ์ดคนนี้พูดจับมา ก็ถึงกับหน้าซีด
ทำไมถึงเป็นอย่างนี้
ไม่ใช่ว่าเธอส่งผู้ชายคนนี้ไปต่างประเทศแล้วหรอ
ตอนนี้ทำไมถึงถูกบอดี้การ์ดของฮ่อหยุนเฉิงจับตัวมาได้
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“พูดเถอะ ใครเป็นคนบงการนาย “น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่อหยุนเฉิงเอ่ยถาม
“ผม…………”ผู้ชายคนนั้นอ้ำอึ้ง จากนั้นก็ตัดสินใจพูด “เป็นคุณหนูรองให้ผมทำ”
อู๋ชิงหร่านเป็นลูกสาวคนรองของตระกูลอู๋ ด้วยเหตุนี้เขาเลยบอกว่าเป็นคุณหนูรอง ก็หมายถึงอู๋ชิงหร่านนั่นเอง
“นายอย่ามาพูดเหลวไหลนะ “อู่ชิงหร่านหน้าซีดเผือด พูดด้วยน้ำเสียงสั่น
“ประธานฮ่อ ผมไม่ได้พูดเหลวไหล เป็นคุณหนูรองเป็นคนบงการให้ผมทำ”ผู้ชายคนนั้นสัมผัสได้ถึงรังสีเย็นเยือกของฮ่อหยุนเฉิงจนรู้สึกกลัวจนตัวสั่น
“เขาใส่ร้ายฉัน ทุกคนอย่าไปเชื่อนะ”อู๋ชิงหร่านพูดเสียงสูงขึ้น
ฮ่อหยุนเฉิงมองไปทางบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ
บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ ก็รู้ทันที ใช้แรงถอดเสื้อของผู้ชายคนนั้นออก
ก็เห็นด้านหลังผู้ชายมีรูปสักมังกรสีเขียว แล้วด้านบนมีตัวอักษร อู๋
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ พอเห็นรอยสักต่างก็ตกตะลึง แล้วก็พูดสนเสกันขึ้นมา:
“พระเจ้า นี่คืออะไร?”
“น่าจะเป็นสัญลักษณ์นะ ”
“ดูข้างบนสิ มีตัวอักษรด้วยนะ”
“ใช่ๆ เหมือนจะเป็นอักษร อู๋นะ ”
“ใช่ๆ เป็นอักษร อู๋ จริงๆ ด้วย จะต้องเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลอู๋แน่แล้ว”
ซูฉิงก้าวเท้าเข้ามา แล้วพูดเสียงขรึม”ทุกคนก็เห็นแล้ว รอยสักบนตัวของผู้ชายคนนี้ เป็นสัญลักษณ์ของบ้านตระกูลอู๋ บอดี้การ์ดตระกูลอู๋ทุกคนล้วนต้องมีรอยสักนี้อยู่ด้านหลัง ”
ทุกคนต่างก็พยักหน้า “เป็นอย่างนี้นี่เอง”
“คิดไม่ถึงว่าอู๋ชิงหร่านจะเลวร้ายอย่างนี้ เหอะๆ……”
“ตอนนี้เธอมีอะไรจะพูดมั้ย “ซูฉิงมองด้วยสายตาเย็นชาแล้วถามอู๋ชิงหร่านด้วยน้ำเสียงเรียบ
อู๋ชิงหร่านหน้าซีดแล้วซีดอีก เม้มปากเหมือนอยากจะพูดอะไร ชายที่นั่งคุกเข่าอยู่ใกล้ๆ ก็พูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด”ขอโทษครับ คุณหนูรอง”
“ไม่ได้เรื่อง!”อู๋ชิงหร่านโกรธโมโห แล้วก็เดินเข้าไปตบหน้าผู้ชายคนนั้น
“ไม่ใช่ให้นายไปต่างประเทศหรอ แล้วกลับมานั่งคุกเข่าตรงนี้ทำไม”
คำพูดของอู๋ชิงหร่านที่พูดออกมา ก็เท่ากับว่าเธอยอมรับแล้วว่าเธอเป็นคนอยู่เบื้องหลังบงการผู้ชายคนนี้
ผู้ชายคนนี้ก็ทำได้เพียงก้มหน้า
เขาก็ไม่ได้อยากจะกลับมา แต่ถูกบอดี้การ์ดของฮ่อหยุนเฉิงจับเขากลับมาจากต่างประเทศต่างหาก
วิธีการของฮ่อหยุนเฉิง นั้นสังหารอย่างเด็ดขาด ลงมืออย่างเลือดเย็น เขานั้นไม่กล้าหือหรอก
นอกจากยอมรับพูดความจริงแล้ว เขาก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว
“เอาละ เรื่องอุบัติเหตุงานพิธีเปิดกล้องละคร ทุกคนก็เข้าใจแล้ว ว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ และอู๋ชิงหร่านก็เป็นคนตั้งใจให้คนมาทำร้ายฉัน!”
ซูฉิง กวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยแววตานิ่ง สุดท้ายหยุดอยู่ที่หน้าของอู๋ชิงหร่าน “อู๋ชิงหร่าน พยานบุคคลและวัตถุก็ครบแล้ว ฉันไม่ได้ใส่ร้ายเธอใช่มั้ย”