นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 298 ท่านผู้เฒ่าฮ่อฟื้นเเล้ว
วันรุ่งขึ้น เมื่อซูฉิงลืมตาตื่น สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเธอคือใบหน้างดงามหาที่เปรียบมิได้ของฮ่อหยุนเฉิง
“ซูฉิง เธอตื่นแล้วเหรอ” ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงฉายถึงความนุ่มนวล
ซูฉิงขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชา “ฮ่อหยุนเฉิง นายมาทำอะไรที่ห้องฉัน?”
“มาขอโทษ และขอให้เธอให้อภัยน่ะ” น้ำเสียงของฮ่อหยุนเฉิงจริงใจมาก
ซูฉิงจ้องมองเขาอย่างโกรธเคือง และขณะกำลังจะพูด ถังรั่วอิงก็เปิดประตูเข้ามา
“พี่เฉิงอยู่ที่นี่เองเหรอ? เมื่อกี้ฉันไปหาที่ห้องแล้วไม่เจอพี่น่ะ” ท่าทางถังรั่วอิงดูนุ่มนวล “ฉันทำเกี๊ยวมาให้พี่กับคุณซู ลองชิมสักหน่อยสิ”
“อืม”
ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้าอย่างเฉยเมย มองถังรั่วอิงที่มือไม้พันกัน ทั้งเอาเกี๊ยวมาให้พวกเขา ทั้งยังช่วยพวกเขาทำความสะอาดห้องอีก
เอาใจใส่ราวกับว่าเธอกำลังชดใช้จริงๆ
ทันใดนั้น ถังรั่วอิงก็เห็นแผนแบบที่ข้างเตียงของซูฉิง ก่อนจะมีสีหน้าเหยเกอยู่ครู่หนึ่ง
นี่คือภาพร่างแบบสำหรับชุดหมั้นของพวกเขา?
พวกเขากำลังจะหมั้นกัน?
หัวใจของถังรั่วอิงบีบตัวแน่น ความริษยากำลังโหมกระหน่ำแต่ต่อหน้ากลับหยิบแบบร่างขึ้นมาอย่างใจเย็นทั้งยังยิ้มราวกับไม่คิดอะไร “คุณซู นี่แบบชุดใหม่ของคุณใช่ไหม? สวยมากเลยค่ะ”
ซูฉิงรู้ดีว่าถังรั่วอิงจงใจถามถึงเรื่องนี้
เพราะยังไงข่าวที่เธอกับฮ่อหยุนเฉิงกำลังจะหมั้นหมายกันอีกครั้งนั้นยังไม่ได้แพร่กระจายออกไป ดังนั้นเธอจึงไม่รู้
“ใช่แล้ว ฉันกับหยุนเฉิงกำลังจัดพิธีหมั้นกันอีกครั้ง พ่อบ้านหลี่กำลังหาฤกษ์ยามที่ดีที่สุดให้เราน่ะ” ซูฉิงกล่าวเสียงเรียบ
ถังรั่วอิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
ซูฉิงกำลังจะหมั้นกับฮ่อหยุนเฉิงอีกครั้ง!
เป็นไปได้ยังไง!
ความริษยาปรากฏในดวงตาจนไม่ปกปิดไม่อยู่
เมื่อเห็นถังรั่วอิงเป็นแบบนั้น ริมฝีปากซูฉิงก็กระตุกเยาะเย้ย
สุดท้ายถังรั่วอิงก็ยังคงเหมือนเดิม
แก้ไขข้อผิดพลาดอะไรกัน ทั้งหมดก็แค่การเสแสร้งทั้งนั้น
ถังรั่วอิงตระหนักได้ว่าตัวเองเสียอาการ ก่อนจะเก็บสายตาและพยายามซ่อนความริษยาให้ได้มากที่สุด “ยินดีกับพวกคุณด้วยนะคะ”
พูดจบ ถังรั่วอิงก็มองไปที่ฮ่อหยุนเฉิงอย่างขี้ขลาด “พี่เฉิง ถ้าถึงวันงานหมั้น ฉันไปเข้าร่วมได้ไหม?”
“แล้วแต่เธอ” ริมฝีปากบางของฮ่อหยุนเฉิงยกขึ้นเล็กน้อยพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแส
เมื่อเห็นท่าทีไม่แยแสและเหินห่างของเขา หัวใจของถังรั่วอิงก็เจ็บปวดอย่างรุนแรง
ทั้งหมดนี้ก็เพราะซูฉิง!
ถ้าไม่ใช่ซูฉิง ฮ่อหยุนเฉิงจะเย็นชากับเธอขนานี้ได้ยังไง!
ไม่ทันให้ถังรั่วอิงตอบ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา” ฮ่อหยุนเฉิงพูดเสียงดังฟังชัด
ประตูของห้องเปิดออก และหมอหนีกับพยายามจำนวนหนึ่งก็รีบเข้ามาพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีใจ “คุณฮ่อครับ ท่าผู้เฒ่าฮ่อฟื้นแล้วครับ!”
“จริงเหรอ?” ฮ่อหยุนเฉิงดีใจก่อนจะรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อถังรั่วอิงที่เห็นสถานการณ์ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ “พี่เฉิง ขาพี่หายดีแล้วเหรอ?”
ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกว่าขาของฮ่อหยุนเฉิงใช้การไม่ได้แล้วเหรอ?
ทำไมตอนนี้ถึงเคลื่อนไหวอย่างอิสระแบบนี้ล่ะ?
ถังรั่วอิงตกตะลึง
ฮ่อหยุนเฉิงไม่สนใจถังรั่วอิงแม้แต่น้อยก่อนจะลากซูฉิงไปทางห้องของท่านผู้เฒ่าฮ่อ
หมอหนีเดินตามหลังพวกเขาไปก่อนจะพูดอย่างระมัดระวัง “คุณฮ่อครับ แม้ว่าบอกว่าท่านผู้เฒ่าฮ่อจะฟื้นแล้ว แต่เพียงแค่ลืมตาครับ ยังไม่สามารถพูดหรือเคลื่อนไหวได้ สถานการณ์หลักๆ ยังต้องรอคุณซูวินิจฉัยครับ”
“ฉันจะไปดูเองค่ะ” ซูฉิงพยักหน้า
ไม่ว่าจะยังไง คุณปู่ฮ่อลืมตาได้ก็ถือเป็นเรื่องดีแล้ว
คุณอาฉีเคยกล่าวไว้ว่าการฝังเข็มครั้งสุดท้ายต้องรอคุณปู่ฮ่อลืมตามาให้ได้เสียก่อน
ดูเหมือนว่าตอนนี้จะใกล้แล้ว
ซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิงรีบไปที่ห้องของท่านผู้เฒ่าฮ่อ
“คุณปู่เป็นยังไงบ้างครับ” ฮ่อหยุนเฉิงก้าวไปที่หน้าเตียงก่อนจะเอื้อมมือออกไปจับมือท่านผู้เฒ่าฮ่อและถามด้วยความเป็นห่วง
ท่านผู้เฒ่าฮ่อที่นอนอยู่บนเตียงกระพริบตา แต่ร่างกายกลับขยับไม่ได้
“คุณปู่ฮ่อ หนูจะตรวจร่างกายให้นะคะ” ซูฉิงโน้มตัวลงและตรวจสอบร่างกายทั้งหมดของท่านผู้เฒ่าฮ่ออย่างละเอียด
“คุณปู่ท่านเป็นยังไงบ้าง?” ฮ่อหยุนเฉิงถามอย่างไม่รีรอ
ซูฉิงหลุบตาลงมองทานผู้เฒ่าฮ่อและพูดอย่างอ่อนโยนว่า “คุณปู่ฮ่อไม่ต้องกังวลนะคะ ตอนนี้สุขภาพฟื้นตัวดีขึ้นมากแล้ว อีกสามวันรอให้ตัวบ่งชี้คงที่แล้วหนูจะฝังเข็มให้นะคะ เดี๋ยวท่านก็จะเป็นเหมือนเดิมแล้วล่ะค่ะ”
ฮ่อหยุนเฉิงที่ได้ยินอย่างนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในเมื่อซูฉิงบอกแบบนั้น อีกสามวันคุณปู่ก็จะไม่เป็นไรแล้ว
ในเวลานั้นเอง เสียงรองเท้าส้นสูงก็เดินมาทางห้อง
ซูฉิงมองไปที่ประตูห้องก่อนจะเห็นแม่ฮ่อและฮ่อเฉียนกำลังมาทางห้องนี้
ซูฉิงเข้าไปขวางพวกเขา “พวกคุณมาทำอะไร?”
“ก็มาเยี่ยมคุณปู่นิ่ เธอจะมาขวางพวกเราทำไม!” ฮ่อเฉียนที่ถูกซูฉิงขวางก็ตะโกนใส่เธออย่างไม่พอใจ
ใบหน้าของแม่ฮ่อก็ดูไม่ค่อยดีเช่นกัน เธอกับฮ่อเฉียนมาทันทีที่ได้ข่าว
เมื่อพวกเขามาถึง ทั้งซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิงก็อยู่ในห้องแล้ว
ระหว่างทางมา พวกเขาไม่สบายใจมาก
กลัวว่าท่านผู้เฒ่าจะพูดอะไร โชคดีที่พอมาถึงหมอหนีบอกพวกเธอว่าท่านผู้เฒ่าฟื้นน่ะฟื้นแล้ว
แต่มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่เคลื่อนไหวได้
ฮ่อเฉียนและแม่ฮ่อถึงได้โล่งอก
จากนั้นจึงเริ่มโกรธ ซูฉิงถือดียังไง?
แม่ฮ่อจ้องไปที่ซูฉิงอย่างโกรธเคือง หล่อนกล้าเข้ามาขวางพวกเธอ คิดว่าตัวเองเป็นคุณนายบ้านตระกูลฮ่อหรือไงกัน?
ซูฉิงยิ้มเบาๆ ก่อนจะมองสองคนที่ดูมีลับลมคมใน “ถ้าพวกคุณอยากเยี่ยมคุณปู่ฮ่อก็รอให้ท่านฟื้นตัวอีกหน่อยค่อยว่ากัน ตอนนี้ร่างกายท่านยังไม่ฟื้นตัว ตอนนี้จึงรับเรื่องวุ่นวายไม่ได้”
“เธอพูดอะไรไร้สาระ ทำไมถึงเยี่ยมไม่ได้? ฉันว่าเธอไม่อยากให้เราเจอคุณปู่มากกว่า!” ฮ่อเฉียนชี้ไปที่ซูฉิง “เธอกลัวว่าคุณปู่ดีขึ้นแล้วจะบอกเรื่องที่เธอทำไม่ดีถึงได้จงใจทำแบบนี้ล่ะสิ!”
“ฉันจะบอกเธอให้นะซูฉิง ฉันไม่มีทางปล่อยให้คนอย่างเธอเข้าบ้านตระกูลฮ่อแน่ หลีกไปซะ!”
แม่ฮ่อและฮ่อเฉียนที่มีความเกลียดชัง และต่างจ้องไปที่ซูฉิงเหมือนกัน “เรื่องของบ้านตระกูลฮ่อไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องเข้ามายุ่ง!”
สมองมีปัญหาหรือไง!
ซูฉิงมองสองคนที่เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่มอย่างเงียบๆ
คุณปู่ฮ่อเพิ่งฟื้น อีกทั้งตอนนี้นก็ยังไม่สามารถขยับร่างกายได้ ดังนั้นเขาจึงต้องพักผ่อนเพื่อพักฟื้น เพื่อที่เธอจะได้ฝังเข็มครั้งสุดท้ายให้กับคุณปู่ฮ่อในอีกสามวัน
และแม่ฮ่อกับฮ่อเฉียนก็มาส่งเสียงดังตรงประตูห้อง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการรบกวนคุณปู่ฮ่อ
ไม่รู้ว่าผู้หญิงสองคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่
พวกเธอผิดปกติตั้งแต่แรกแล้ว!
ซูฉิงขมวดคิ้ว ก่อนจะมีบางอย่างแวบเข้ามาในหัวของเธอ…
“ซูฉิง ยัยหน้าไม่อาย! เธอขวางไม่ให้เราไปเยี่ยมคุณปู่เพราะเธอทำอะไรลงไปใช่ไหม? เธอคิดจะทำร้ายคุณปู่อีกใช่ไหมล่ะ?” ฮ่อเฉียนชี้ไปที่ซู)งก่อนจะด่าทออย่างไม่รู้จบ
สีหน้าของฮ่อหยุนเฉิงนิ่งขึ้น ก่อนที่รูม่านตาสีเข้มของเขาจะเต็มไปด้วยความดุดัน
“พอแล้ว!”
เสียงคำรามดังผสมกับความโกรธของฮ่อหยุนเฉิง
เขามองไปที่แม่ฮ่อและฮ่อเฉียนด้วยสายตาที่แหลมคม “พวกคุณสองคนสร้างปัญหาพอหรือยัง?”