นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 317 จะไม่ให้รักผู้หญิงคนนี้ได้ไง
เหล่านักข่าวเข้ามาล้อมซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิง
คู่หมั้นของฮ่อหยุนเฉิงและรักแรกขัดแย้งกัน แถมซูฉิงยังบังคับให้ถังรั่วอิงโดดตึกอีก
นี่มันข่าวใหญ่!
เหล่านักข่าวรีบโจมตีซูฉิง:
“ไม่ทราบว่าเรื่องเป็นมายังไงครับคุณซู?”
“คุณซู ได้ยินว่าคุณบังคับให้คุณถังกระโดดลงจากตึก แม้ว่าก่อนหน้านี้หล่อนจะทำคุณบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ได้จะเอาชีวิต แต่ตอนนี้คุณถังป่วยหนัก คุณกลับบังคับหล่อนทำแบบนี้ ไม่ทราบว่าคุณรู้สึกผิดชอบชั่วดีบ้างไหมครับ?”
“ประธานฮ่อพูดเสมอว่าคุณถังคือรักแรกที่เขาตามหาเขามาหลายปี แต่กลับถูกคุณแย่งไป คุณในฐานะมือที่สามไม่รู้สึกผิดเหรอครับ?”
นักข่าวเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง ซักถามอย่างเฉียบขาด และกล่าวหาว่าซูฉิงบังคับให้ถังรั่วอิงโดดตึก
ซูฉิงเหลือบมองที่กล้องและพูดอย่างสงบนิ่ง “ฮ่อหยุนเฉิงเป็นคู่หมั้นของฉัน ทำไมฉันถึงเป็นมือที่สามล่ะคะ? รักแรกงั้นเหรอ แล้วพวกเขาคบกันไหมล่ะคะ?”
แต่เหล่านักข่าวยังคงถามต่อ:
“คุณซู ได้ยินมาว่าพวกคุณสองคนถอนหมั้นกันแล้ว และตอนนี้พวกคุณก็ไม่ได้จะหมั้นหมายกัน ประธานฮ่อเป็นคู่หมั้นของคุณจริงเหรอครับ?”
“ถ้ามันเป็นอย่างที่คุณพูดจริงว่าประธานฮ่อเป็นคู่หมั้นของคุณ แล้วทำไมคุณต้องบังคับให้คุณถังโดดตึกด้วยล่ะครับ? เพราะกลัวคุณถังจะแย่งไปใช่ไหมครับ?”
“…”
พวกเขาไม่กล้าถามฮ่อหยุนเฉิง จึงทำได้แค่ถามซูฉิง
ใบหน้าสวยของซูฉิงนิ่งลง “ไม่มีความคิดเห็น!”
ในขณะนั้นเอง รถเบนท์ลีย์สีดำเข้ามาหยุดตรงหน้าพวกเขา ประตูเปิดออกและเฉินจุนเหยียนก็ลงจากรถ
“ซุปเปอร์สตาร์เฉิน! ซุปเปอร์สตาร์เฉินมาแล้ว!” นักข่าวตะโกนอย่างตื่นเต้น
ทั้งยังมีคนเข้าไปล้อมเฉินจุนเหยียน
“ซุปเปอร์สตาร์เฉิน คุณมารับคุณซูเหรอครับ?”
“ซุปเปอร์สตาร์เฉิน คุณคิดอย่างไรกับการที่คุณซูบังคับให้คุณถังโดดตึกครับ?”
“ซุปเปอร์สตาร์เฉิน ความสัมพันธ์ระหว่างคุณและคุณซูคืออะไรครับ? เป็นแค่เพื่อนร่วมงานจริงเหรอครับ?”
เฉินจุนเหยียนทำเป็นไม่ได้ยินและเดินตรงไปที่ซูฉิง “ซูฉิง เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ซูฉิงส่ายหัว “เราไปกันเถอะ!”
เฉินจุนเหยียนเปิดประตูรถ ซูฉิงขึ้นไปนั่งก่อนทั้งสองจะจากไป
นักข่าวไม่คิดว่าซูฉิงจะไปเร็วขนาดนี้ ทุกคนตกตะลึงและหันไปมองฮ่อหยุนเฉิง
เห็นใบหน้าของเขาเย็นยะเยือกและมีกลิ่นอายทำลายล้างจนไม่สามารถเข้าใกล้ได้ ทุกคนที่กลัวต่างพาก็ถอยกลับอย่างรวดเร็ว
ยังไงที่พวกเขาถ่ายได้ก็เพียงพอแล้ว
ฮ่อหยุนเฉิงมองไปยังทิศทางที่ซูฉิงจากไป ดวงตาที่เย็นชาของเขาหรี่ลง ทั้งยังดวงตาฉายแววผันผวน
ผู้หญิงคนนี้กล้าเรียกเฉินจุนเหยียนมาจริงๆ ทั้งยังเดินไปที่รถของเฉินจุนเหยียนต่อหน้าผู้คนมากมายด้วย
คิดว่าเขาไม่มีตัวตนหรือไงกัน…
บนรถ
“เฉินจุนเหยียน ขอบคุณนะ ฉันรบกวนนายทุกครั้งเลย” ซูฉิงที่นั่งข้างคนขับหันไปมองเฉินจุนเหยียน
ดวงตาของอีกคนนิ่งลงเล็กน้อย “ตราบใดที่เป็นเรื่องของเธอ ฉันก็ต้องทำให้ดีที่สุดสิ”
ที่เป็นตอนนี้ดีกว่าแต่ก่อนที่เธอมักจะซ่อนตัวจากตัวเองตั้งเยอะ
ซูฉิงที่ถูกมองด้วยสายตาแบบนั้นก็ไปไม่เป็น ก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “จริงสิ นายเตรียมตัวสำหรับรางวัลเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปีนี้เป็นไงบ้าง?”
“ยังพิจารณาอยู่เลย” เฉินจุนเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย
ช่วงนี้ไม่รู้ทำไม เขารู้สึกไม่อยู่กับร่องกับรอย
ต้องถ่ายงานที่น่าทึ่งเพื่อเข้าร่วมในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ แต่กลับหาหัวข้อที่เหมาะไม่เจอ
นอกจากนี้ ข่าวที่ซูฉิงกำลังจะหมั้นกับฮ่อหยุนเฉิงก็รบกวนเขาอยู่ตลอดจนเขาอยากยกเลิกการเข้าร่วม
ซูฉิงยิ้ม “ฉันมีความคิดดีๆ นะ”
“หือ? เหลือเวลาอีกแค่เจ็ดเดือนก่อนถึงเทศกาลภาพยนตร์…” เฉินจุนเหยียนรู้สึกประหลาดใจ จะผลิตงานที่ยอดเยี่ยม ไม่ซ้ำใครที่เพียงชิ้นเดียวในเจ็ดเดือนได้เหรอ?
ซูฉิงเลิกคิ้วขึ้น “นี่นายสงสัยความสามารถของฉันงั้นเหรอ?”
“เธอจะลงมือเองเลยเหรอ?” เฉินจุนเหยียนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ซูฉิงพยักหน้า ดวงตาใสของเธอเต็มไปด้วยความมั่นใจ “ฉันมีเวลาพอ ฉันใช้เวลาห้าเดือนในการเขียนบท ถ่ายทำ และออกอากาศช่วงวันส่งท้ายปีเก่า ด้วยความนิยมของนายแล้วส่งไปทั่วโลกก็ไม่มีปัญหากับ pk ในเทศกาลภาพยนตร์อย่างแน่นอน”
สองมือเฉินจุนเหยียนจับพวงมาลัยไว้แน่น และฟังเสียงหวานของซูฉิงอย่างตั้งใจ
หัวใจถูกเธอดึงดูดใจมากขึ้น
เธอยอดเยี่ยมมาก และตอนนี้เธอก็แสดงเอกลักษณ์ต่อหน้าเขาที่ผู้หญิงคนอื่นไม่มี
จะไม่ให้เขารักผู้หญิงคนนี้ได้ยังไง? จะลืมได้ยังไงกัน?
“เฉินจุนเหยียน?” ซูฉิงเห็นท่าทีตกตะลึงของเฉินจุนเหยียนจึงรีบเรียกเขา
ตอนนี้เขากำลังขับรถอยู่ เขาเป็นคนขับ ถ้าใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวได้ซวยทั้งคู่แน่
“แค่ก” เฉินจุนเหยียนได้สติ “ขอโทษที ไม่กี้คิดเพลินไปหน่อยน่ะ”
“นายมีอะไรรึเปล่า?” ซูฉิงเป็นห่วงท่าทีของเขา
ถึงยังไงในวงการบันเทิง ไม่ว่าเขาจะอยู่สูงแค่ไหน ได้รับความสนใจและความเห็นจากสาธารณชนที่กดดันมหาศาลทุกวัน ความกดดันทางจิตใจก็สูงมากเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อสองปีที่แล้ว เหตุการณ์ต่างๆ ในบ้านตระกูลเฉินก็มีผลกระทบต่อเขาอยู่ตลอด
แม้ว่าเฉินจุนเหยียนจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น แต่ซูฉิงรู้ว่าในตอนนั้นที่บ้านตระกูลเฉิงเกือบจะล้มละลาย ทำให้เกิดเงาทางจิตวิทยาอย่างใหญ่หลวงต่อเฉินจุนเหยียน
ถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ปล่อยวาง
“เปล่าหรอก เธอยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าจะไปที่ไหน”
คำพูดของเฉินจุนเหยียนทำให้สติของซูฉิงกลับมา
ซูฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ไปที่บริษัทแล้วกัน เรามาคุยเรื่องบทใหม่กัน ในเมื่อต้องเริ่มถ่ายแล้วก็มาคุยเรื่องรายละเอียดกัน”
“เธอเขียนเสร็จแล้วเหรอ?” เฉินจุนเหยียนถามด้วยน้ำเสียงทุ้ม ไม่ได้หันมองซูฉิงเพราะกังวลว่าเขาจะสติหลุดอีก
ซูฉิงพยักหน้า “อื้ม”
ไม่นานก็มาถึงสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์
ซูฉิงและเฉินจุนเหยียนลงจากรถและเดินเข้าตึกบริษัท
ทุกคนที่เห็นว่าบอสใหญ่ที่พวกเขาไม่ได้เห็นมานานปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง จึงพากันสงสัยว่าจะมีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้นหรือไม่
ทุกคนที่ต่างพากันคาดเดา ขณะซูฉิงเดินผ่านพวกเขาก็พากันทักทายซูฉิงพร้อมกัน “สวัสดีคุณซู”
ซูฉิงส่งเสียงตอบอย่างสุภาพ ก่อนจะพาเฉินจุนเหยียนเข้าไปในลิฟต์ และไปที่ห้องทำงานของเธอที่ชั้นบนสุด
ทันทีที่เดินเข้าไป ใบหน้าที่หล่อเหลาของเฉินจุนเหยียนก็นิ่งลงทันที ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้ซูฉิง “เธออยากให้ในอินเทอร์เน็ตมันเป็นแบบนี้จริงเหรอ?”
ซูฉิงก้มมองก็เห็นข่าวที่ถังรั่วอิงโดดตึกที่โรงพยาบาลเมื่อกี้ได้กระจายไปทั่วอินเทอร์เน็ตแล้ว
ดีมาก
ซูฉิงยิ้ม “ประสิทธิภาพของสื่อเหล่านี้สูงดีจริง”
“ซูฉิง เธอจะยอมถูกป้ายสีแบบนี้เหรอ?” เมื่อเห็นผู้หญิงที่รักถูกด่าทอ ใบหน้าของเฉินจุนเหยียนก็ดูไม่ดี
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าซูฉิงต้องมีเหตุผลที่เธอทำเช่นนี้ แต่ว่าเขาก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ
“ช่วยไม่ได้นี่นา” ซูฉิงยักไหล่ด้วยท่าทางผ่อนคลาย
นี่คือสิ่งที่เธอต้องการ และตอนนี้เรื่องราวก็กำลังไปในทิศทางที่เธอคาดการณ์ไว้อย่างสมบูรณ์แบบ