นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 32 เธอคือคนที่เปลี่ยนแปลนการออกแบบไป
“มีอะไร?” เซี่ยซิงซิงและไป๋เซียวเซียวหยุดลงในเวลาเดียวกัน และระงับความไม่พอใจของพวกเขาที่มีต่อซูฉิง และมองดูเธออย่างสงสัย
ซูฉิงหยิบกระดาษสีขาวที่เธอหยิบออกมาจากแฟ้มขึ้นมาแล้วสายไปมา “ตอนนี้มาคุยกันเรื่องนี้กันดีกว่า”
เมื่อเห็นกระดาษสีขาวในมือของซูฉิง ดวงตาของเซี่ยซิงซิงก็สั่นไหวโดยไม่ตั้งใจ “คุณต้องการจะพูดอะไร?”
ซูฉิงหยิบกระดาษขึ้นมาและเดินไปที่ด้านหน้าของฮ่อหยุนเฉิงแล้วยื่นให้เขา “อยู่ดีๆแปลนการออกแบบที่เสร็จเรียบร้อย ทำไมถึงกลายเป็นกระดาษสีขาวไปได้ ประธานฮ่อคุณเองก็ไม่สงสัยอะไรบ้างเลยเหรอ?”
มือที่เรียวใหญ่ของฮ่อหยุนเฉิงหยิบกระดาษขาวมา แล้วเอาวางบนโต๊ะในที่ประชุม นิ้วที่เรียวยาวของเขาเคาะโต๊ะโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ผู้คนรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างอธิบายไม่ถูก
เห็นได้ชัดว่าภาพวาดการออกแบบไม่น่าจะกลายเป็นกระดาษสีขาวเปล่าๆเองได้ ดังนั้นต้องมีคนสับเปลี่ยนเอาแปลนการออกแบบตัวจริงไป
มีไม่กี่คนที่สามารถเข้าถึงแปลนนี้ได้ และซูฉิงเองก็มักจะระมัดระวังในการทำงานมาก ถ้าคิดตามนี้แปลนการออกแบบจะไม่ถูกคนอื่นสับเปลี่ยนไปง่ายๆแน่นอน
มีความเป็นไปได้เพียงสองอย่างเท่านั้น
หนึ่งคือมีคนเอาแปลนการออกแบบออกไป และโยนความผิดให้ซูฉิง พยายามทำให้เธอขายหน้าในที่ประชุม
หากเป็นแบบนั้นจริง ฮ่อหยุนเฉิงจะไม่ทนอีกต่อไป
ความเป็นไปได้อีกประการหนึ่งคือ ซูฉิงสลับแบบแปลนนี้ด้วยตัวเอง แต่ทำไมเธอถึงทำเช่นนั้นกันล่ะ?
เรื่องนี้เริ่มน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ
ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวช้าๆ “ฉันจะให้หลินเหยียนเฟิงสืบเรื่องนี้ให้กระจ่าง”
“ครับท่านประธาน” หลินเหยีนเฟิงตอบรับอย่างเคารพ
ซูฉิงพยักหน้า “ก่อนจะไปสนามบิน ฉันได้ตรวจสอบกระเป๋าเอกสารเป็นพิเศษแล้ว และแบบแปลนด้านในก็ยังอยู่ หลังจากที่ฉันกลับจากสนามบินมา ฉันก็นำกระเป๋าเอกสารไปที่ห้องประชุม และในที่ประชุม พวกเราก็เห็นว่าแปลนการออกแบบกลายเป็นเพียงแค่กระดาษเปล่าๆ ดังนั้น ต้องมีใครบางคนสับเปลี่ยนแปลนในช่วงเวลาที่ฉันไปสนามบิน”
“ซูฉิงอย่าหลอกตัวเองเลยหน่า คุณทำแปลนการออกแบบหายเองแล้วคุณยังจะสร้างเรื่องมากมายอีก!” เซี่ยซิงซิง อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก เมื่อฮ่อหยุนเฉิงกล่าวว่า เขาจะเข้ามาสืบในเรื่องนี้
เธอรู้วิธีการสืบของฮ่อหยุนเฉิงดี ถ้ารู้ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังละก็ ผลที่ตามมา…
เซี่ยซิงซิงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเย็นที่หลังของเธอ
“ฉันทำรูปวาดหายงั้นเหรอ?” ซูฉิงเยาะเย้ย “งั้นทำไมฉันต้องเปลี่ยนเป็นกระดาษเปล่าสองสามแผ่นด้วยล่ะ คุณคิดว่าทุกคนงี่เง่าเหมือนคุณงั้นหรือ?”
“คุณหมายความว่าอย่างไร?” เซี่ยซิงซิงจ้องไปที่ซูฉิงอย่างโกรธจัด แต่เธอแกล้งทำเป็นสงบ
เธอปลอบใจตัวเอง และบอกว่าเธอทำสิ่งนี้อย่างลับๆ ดังนั้น ซูฉิไม่น่าจะรู้อะไรเลย
ดวงตาที่เฉียบคมของซูฉิงกวาดไปที่เซี่ยซิงซิง “ไม่รู้ว่าหัวหน้าเซี่ยเคยได้ยินประโยคนี้หรือไม่ หากคุณไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ คุณต้องทำมันด้วยเอง?”
ห
เซี่ยซิงซิงใจสั่นทันที เธอแอบมองไปที่ฮ่อหยุนเฉิงซึ่งนั่งอยู่ในความเงียบ
เมื่อเห็นใบหน้าที่ไร้อารมณ์และดวงตาที่เฉียบคม เซี่ยซิงซิงก็รีบหลบตา
“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร” เซี่ยซิงซิงพูดอย่างไม่อดทน “ฉันยังมีบางอย่างที่ต้องไปทำ ซูฉิง การประชุมจบลงแล้ว ฉันไม่มีเวลามาเสียเวลากับคุณที่นี่แล้ว”
พูดเสร็จเซี่ยซิงซิงก็เตรียมจากไป
“หยุดเดี๋ยวนี้!” ซูฉิงขึ้นเสียงเล็กน้อย น้ำเสียงของเธอเย็นชาและรุนแรงมาก “เซี่ยซิงซิง ทำไมคุณถึงรีบร้อนจะออกไปขนาดนั้น กินปูนร้อนท้องงั้นเหรอ?
“ร้อนท้องอะไร? ฉันทำอะไรผิด?” เซี่ยซิงซิงถามอย่างใจเย็นหลังจากก้าวไปได้หนึ่งก้าว
“ก็เพราะเธอคือคนที่เปลี่ยนแปลนการออกแบบเปลี่ยนไป!” ซูฉิงพูดจี้จุด
ใบหน้าของเซี่ยซิงซิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ซูฉิง อย่ามาโยนความผิดให้คนอื่นนะ! คุณรู้หรือไม่ว่าการใส่ร้ายป้ายสีคืออะไร?”
“ใส่ร้ายงั้นเหรอ?” ซูฉิงยิ้มเบา ๆ และเธอรู้ว่าเซี่ยซิงซิงจะไม่ยอมรับมันง่าย ๆ
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเซี่ยซิงซิงจะปฏิเสธอย่างไร มันก็เป็นเพียงการต่อเพื่อเอาชีวิตรอนก็เท่านั้น
ซูฉิงได้เตรียมการไว้แล้ว และวันนี้เธอจะต้องให้เซี่ยซิงซิงชดใช้ความผิดนี้ให้ได้จนถึงที่สุด!
“ฉันมีหลักฐานพิสูจน์ว่าคุณเป็นคนก่อนเรื่องทุกอย่างที่เกินขึ้นในวันนี้” ซูฉิงกล่าวอย่างเย็นชา
ฮ่อหยุนเฉิงยืนขึ้นทันที ด้วยร่างกานที่สูงใหญ่ และใบหน้าของเขาก็แสดงท่าทีเย็นชาและไม่แยแส ริมฝีปากบางๆของเขาถูกกดลงเป็นเส้นตรง
เขาเหลือบมองที่ซูฉิงด้วยท่าทางเรียบๆ “ในเมื่อเธอบอกว่าเธอมีหลักฐาน เธอก็พูดมาสิ”
และเขาก็พูดกับเซี่ยซิงซิงและไป๋เซียวเซียวรวมถึงคนอื่นๆ ด้วยน้ำเสียงที่สั่งการว่า “พวกคุณทุกคนกลับมานั่งลงเดี๋ยวนี้”
ฮ่อหยุนเฉิงเปิดปากพูด และเซี่ยซิงซิงก็ต้องกัดฟันและเดินกลับไปที่โต๊ะประชุมเพื่อนั่งลงดังเดิม
ในใจของเธอรู้สึกไม่สบายใจมาก ซูฉิงมีหลักฐานจริงงั้นหรือ?
เป็นไปไม่ได้!
เธอได้ทำทุกอย่างอย่างไม่มีที่ติ และไม่มีหลักฐานทิ้งไว้ให้ซูฉิงมาเอาผิดเธอได้!
“คุณมีหลักฐานอะไรที่จะพิสูจน์ว่าฉันแอบสับเปลี่ยนแปลนการออกแบบ? ซูฉิง ฉันขอเตือนคุณเลยนะ ว่าการใส่ร้ายคนอื่นเป็นอาชญากรรม!” เซี่ยซิงซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ฉันรู้ว่าคุณมักจะไม่พอใจฉัน แต่คุณก็ไม่สามารถเทน้ำเน่าลงที่ฉันได้!”
“เหอะๆ” ซูฉิงเหลือบมองเซี่ยซิงซิงที่โกรธจัด “มีประธานฮ่ออยู่ คุณจะกังวลอะไร? ถ้าไม่ใช่คุณจริงๆ ที่ทำมัน ฉันเชื่อว่าคุณฮ่อจะไม่ทำผิดกับใคร และ ในทางกลับกัน ถ้าคุณทำจริงๆ เขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายผลประโยชน์ของบริษัทได้แน่ๆ!”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะ ซูฉิงก็มองไปที่ฮ่อหยุนเฉิงอีกครั้ง “ประธานฮ่อ ฉันพูดถูกไหม?”
ฮ่อหยุนเฉิงยักคิ้วอย่างไม่ใส่ใจ
เมื่อมองไปที่ท่าทางของซูฉิง เธอดูเหมือนจะมีหลักฐานบางอย่างอยู่ในมือจริงๆ
คู่หมั้นของเขาคนนี้ เริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ
ฮ่อหยุนเฉิง เดิมวางแผนที่จะขอให้หลินเหยียนเฟิงตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่จำเป็นแล้ว
เวทีนี้ เขามอบมันให้ซูฉิงแสดง
มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาคิดว่าแปลกมาก คือทำไมเซียซิงซิงถึงทำเช่นนี้?
แม้ว่าเซียซิงซิงมักจะเย่อหยิ่ง แต่เขาก็จริงจังและมีความรับผิดชอบในงานของเขามาโดยตลอด เหตุใดจึงทำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของบริษัทเพื่อใส่ร้ายป้ายสีซูฉิง?
ยิ่งไปกว่านั้น เธอเป็นหัวหน้าแผนกเลขานุการ ถ้ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับซูฉิง นั้นก็ถือเป็นความผิดของเซี่ยซิงซิงด้วยเช่นกัน นี่มันไม่มีประโยชน์อะไรกับเธอเลย
เมื่อเห็นว่าฮ่อหยุนเฉิงไม่มีข้อโต้แย้ง ซูฉิงจึงกระแอมและกล่าวว่า “วกเข้ามาสู่ประเด็นของเรากันต่อ เนื่องจากฉันเพิ่งยืนยันเวลาที่แปลนการออกแบบถูกสับเปลี่ยน ก็เราแค่ต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดในช่วงเวลานั้น เดี๋ยวก็รู้ว่าใครเป็นคนทำ”
เซี่ยซิงซิงสูญเสียเสียงของเขา “กล้องวงจรปิดไม่ได้พังแล้วงั้นเหรอ?”
“อ่อ กล้องวงจรปิดไม่ได้เสียหรอกเหรอ? ดูเหมือนว่าหัวหน้าเซี่ย กำลังให้ความสนใจกับสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้อยู่หรือเปล่า?” ซูฉิงเยาะเย้ย
อันที่จริง กล้องวงจรปิดที่สามารถถ่ายภาพสำนักงานของซูฉิงได้พังไปเมื่อวานนี้โดยบังเอิญ
แต่แน่นอนว่าเธอรู้ว่าเหตุใดกล้องวงจรถึงพัง นั่นก็เพราะเซี่ยซิงซิงไม่อยากทิ้งหลักฐานใด ๆ ในการสับเปลี่ยนแปลนการออกแบบนั่นเอง
เซี่ยซิงซิงตระหนักว่าเธอกำลังจำทำเสียแผนจึงรีบอธิบาย “ฉันก็ฟังคนอื่นมาอีกที”
“งั้นไม่ทราบว่าคุณได้ยินมาแล้วหรือยังว่ากล้องวงจรปิดได้รับการซ่อมแซมแล้ว?” ซูฉิงยิ้มและมองไปที่เซี่ยซิงซิง
เธอแอบให้คนมาซ่อมกล้องวงจร และใช้อุบายเชิญท่านลงอ่าง ทำให้เซี่ยซิงซิงสารภาพออกมาโดยไม่ต้องบังคับ
“งั้นเหรอ?” เสียงของเซี่ยซิงซิงสั่นเล็กน้อย เธอจงใจสั่งให้คนมาทำลายกล้องเมื่อวานนี้ ดังนั้นเป้นไปไม่ได้ที่จะสามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็วในคืนเดียว!
ดวงตาที่เฉียบคมของฮ่อหยุนเฉิงหรี่ลงเล็กน้อย และเขาเหลือบไปด้านข้างที่หลินเหยียนเฟิงซึ่งยืนอยู่ข้างๆเขาและสั่งอย่างเย็นชาว่า “ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด”