นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 328 แผนของสวีหว่านเอ๋อร์
งานเลี้ยงครบรอบ 50 ปีของตระกูลสวีกรุ๊ปจัดขึ้นที่ห้องบอลรูมของโรงแรมภายใต้ชื่อตระกูลสวีกรุ๊ป
สวีหว่านเอ๋อร์มาที่ห้องจัดเลี้ยงตั้งแต่เนิ่นๆ สายตามองไปที่ประตูห้องจัดเลี้ยงเพื่อรอคอยการมาถึงของชายที่เธอนึกถึง
“หว่านเอ๋อร์ ไม่ต้องห่วงนะ อีกเดี๋ยวคุณฮ่อก็มาแล้วล่ะ” ไป๋หลานเห็นความกังวลของสวีหว่านเอ๋อร์จึงเอ่ยปลอบ
“ทุกอย่างพร้อมหรือยัง?” สวีหว่านเอ๋อร์เหลือบมองไป๋หลานที่อยู่ด้านข้าง
“แน่นอนว่าพร้อมแล้ว ไม่ต้องห่วง” ไป๋หลานยิ้ม
“อืม” สวีหว่านเอ๋อร์พยักหน้าเบาๆ
ในขณะนั้นก็มีคนตะโกนว่า “คุณฮ่อ คุณฮ่อมาแล้ว!”
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ประตูห้องจัดเลี้ยงในทันที
เห็นฮ่อหยุนเฉิงสวมชุดสูทสีดำทำมือ สูงตระหง่าน ทั้งยังมีใบหน้าที่วิจิตรบรรจงและละเอียดอ่อนราวการแกะสลักที่เปล่งประกายไปด้วยออร่าอันทรงพลัง แพรวพราวจนละสายตาไม่ได้
ดวงตาของสวีหว่านเอ๋อร์จับจ้องไปที่ชายร่างสูง หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างอธิบายไม่ได้
ตราบใดที่คืนนี้แผนราบรื่น ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมคนนี้ก็จะเป็นของสวีหว่านเอ๋อร์
เมื่อคิดได้อย่างนั้น เธอก็ไม่สามารถยับยั้งหัวใจที่สั่นไหวของเธอได้
ฮ่อหยุนเฉิงเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงอย่างมั่นคง และเหล่านักข่าวก็เข้ามาล้อมเขาไว้ทันที
“คุณฮ่อคะ ไม่ทราบว่าวันนี้มางานเลี้ยงคนเดียวหรือเปล่าคะ? ไม่ได้พาคู่ควงมาเหรอคะ?”
“คุณฮ่อคะ คุณไม่ได้พาคุณซูฉิงมาด้วย แสดงว่าคุณสองคนเลิกรากันแล้วใช่ไหมคะ?”
“คุณคบอยู่กับคุณถังรั่วอิงแล้วใช่ไหมคะ? ช่วยบอกเราได้ไหมคะ?”
ใบหน้าหล่อเหลาของฮ่อหยุนเฉิงเปลี่ยนเป็นเย็นชา ริมฝีปากบางยกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “ขอโทษทีนะครับ ไม่รับการสัมภาษณ์ครับ”
เมื่อเห็นอย่างนั้นสวีหว่านเอ๋อร์ก็รับเข้าไปทักทายฮ่อหยุนเฉิงอย่างรวดเร็ว “หยุนเฉิง มาแล้วเหรอ”
อีกคนเหลือบมองเธออย่างไร้ความรู้สึกก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“พี่ฉันอยู่ทางนั้น ฉันจะพาไปนะ” สวีหว่านเอ๋อร์มองไปที่ฮ่อหยุนเฉิงด้วยความรักที่ไม่ปิดบัง
“ฉันจะไปเอง” ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงเย็นชาอยู่เสมอ
เวลา 7:00 น. งานเลี้ยงเริ่มตรงเวลา
แม้ว่าจะเป็นงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 50 ปีของตระกูลสวีกรุ๊ป แต่ฮ่อหยุนเฉิงยังคงเป็นเป้าหมายของการแสวงหาของทุกคน
ไม่ว่าเขาจะเดินไปที่ไหน ก็มักจะมีคนออกมาคุยโวและสานสัมพันธ์ด้วย
เพราะยังไงตระกูลฮ่อกรุ๊ปก็ร่ำรวยที่สุดในเมือง A หากพวกเขาสามารถชนะใจฮ่อหยุนเฉิงได้ ก็เท่ากับสามารถทะยานขึ้นฟ้าได้
ใครๆ ก็ต้องการเกียรติแบบนั้น
ในช่วงเวลาพัก ฮ่อหยุนเฉิงดื่มไวน์จนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงไปที่ห้องรับรองบนชั้นสองเพื่อจะพักผ่อน
ไป๋หลานที่เห็นจึงรีบส่งข้อความหาสวีหว่านเอ๋อร์อย่างรวดเร็ว “ได้การแล้ว”
สวีหว่านเอ๋อร์ที่ได้รับข้อความ หัวใจก็เต้นแรง
เธอหยิบแก้วไวน์ที่อยู่ข้างๆ มาดื่ม
ร่างกายของเธอเริ่มร้อน ก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องรับรองชั้นสอง
เมื่อเดินไปที่ประตูห้องรับรอง เธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วผลักประตูเข้าไป
ฮ่อหยุนเฉิงกำลังเอนกายบนโซฟาในห้องรับรอง
เขารู้สึกเวียนหัว ร่างกายร้อนวูบวาบอย่างอธิบายไม่ถูก
เขาไม่ได้เมาง่ายขนาดนั้นขนาดนั้น
ไวน์พวกนั้นต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ!
ฮ่อหยุนเฉิงถูขมับด้วยใบหน้าเย็นชา
ใครกันที่ทำอะไรกับไวน์เขา? มีจุดประสงค์อะไรกันแน่?
หยุนเฉิงส่งข้อความถึงหลินเหยียนเฟิง ขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้นจากไป ทันใดนั้นประตูห้องรับรองก็ถูกเปิดจากด้านนอก และสตรีที่สวมชุดน้อยก็เดินเข้ามา
เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนจะเห็นชัดว่าใครเข้ามา “สวีหว่านเอ๋อร์?”
สวีหว่านเอ๋อร์เห็นว่าใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงแดงก่ำ แจ็คเก็ตสูทสีดำถูกถอดออก และปลดกระดุมเสื้อสองสามครั้งขนเผยให้เห็นแผ่นอกกำยำ
ดวงตาของสวีหว่านเอ๋อร์จับจ้องไปที่ชายบนโซฟา ภายใต้เสื้อผ้าคงจะเป็นร่างกายที่แข็งแกร่งทรงพลัง
แค่คิดก็ทำให้เลือดสูบฉีดหนัก
สวีหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น
เธอนั่งลงข้างๆ ฮ่อหยุนเฉิง “ฮ่อหยุนเฉิง ฉันร้อนจัง”
ขณะพูด สวีหว่านเอ๋อร์ก็เหยียดมือเพื่อถอดเสื้อผ้าออก ก่อนจะโน้มกายไปทางฮ่อหยุนเฉิง
“เธอคิดจะทำอะไร?” ฮ่อหยุนเฉิงจับมือของสวีหว่านเอ๋อร์
เมื่อรู้สึกถึงอุณหภูมิร้อนของมือใหญ่ สวีหว่านเอ๋อร์ก็แอบมีความสุข
ฮ่อหยุนเฉิงถูกยาเล่นงานแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ยาก็จะออกฤทธิ์ เขาต้องคุมไม่ได้แน่
“ฉันไม่รู้ว่าฉันเป็นอะไร แต่รู้สึกร้อนไปทั้งตัวเลย” สวีหว่านเอ๋อร์ตอบอย่างจงใจและพูดด้วยน้ำเสียงออเซาะข้างใบหูฮ่อหยุนเฉิง
สวีหว่านเอ๋อร์รู้ว่าฮ่อหยุนเฉิงไม่ใช่คนที่ถูกหลอกได้ง่ายๆ
ถ้าฮ่อหยุนเฉิงรู้ว่าเธอเป็นคนวางยาเขา เขาต้องไม่ปล่อยไปแน่
ดังนั้นเธอจึงวางแผนว่าตัวเองก็ดื่มยาชนิดนั้นลงไปด้วย และสร้างภาพลักษณ์เป็นเหยื่อ
ถึงตอนนั้น แม้ว่าฮ่อหยุนเฉิงจะจี้ถาม แต่เธอก็เป็นเหยื่อ ไม่ได้เจตนาอะไรทั้งนั้น
ถ้าเป็นแบบนั้น ควบคู่ไปกับแรงกดดันของบ้านตระกูลสวี ฮ่อหยุนเฉิงก็ต้องตกลงรับผิดชอบและแต่งงานกับเธออย่างแน่นอน
เมื่อคิดได้อย่างนั้น สวีหว่านเอ๋อร์ก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะทำมากกว่านี้
ฤทธิ์ยาในร่างกายเธอก็เริ่มออกฤทธิ์แล้วเช่นกัน
มือของสวีหว่านเอ๋อร์แตะหน้าอกของฮ่อหยุนเฉิง อุณหภูมิที่ร้อนจัดแผ่ซ่าน และเธอก็เริ่มปลดกระดุมที่เหลือของฮ่อหยุนเฉิง
มือของผู้หญิงตรงหน้ายังคงคลำที่หน้าอกของเขา ในร่างกายของฮ่อหยุนเฉิงมีแรงกระตุ้นที่ไม่สามารถอธิบายได้และเขาก็ระงับไว้ไม่ได้
ให้ตายเถอะ!
“เธอกล้าดียังไงมาวางยาฉัน!” ฮ่อหยุนเฉิงถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น อดกลั้นต่อความร้อนในร่างกายของเขา
เส้นเลือดที่หน้าผากของเขาปูดโปนก่อนจะกำมือแน่น
ไม่คิดเลยว่าคนที่วางยาเขาจะเป็นสวีหว่านเอ๋อร์
คุณหนูตระกูลสวีผู้สง่างามจะใช้วิธีที่น่ารังเกียจอะไรแบบนี้!
“ฉันเปล่านะ” เมื่อเห็นฮ่อหยุนเฉิงเป็นแบบนั้น สวีหว่านเอ๋อร์ก็ตัวสั่น
“ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันร้อนไปหมด คุณก็ด้วยไม่ใช่เหรอ?” สวีหว่านเอ๋อร์รู้สึกประหลาดใจกับการควบคุมตัวเองของฮ่อหยุนเฉิง ขนาดนี้แล้วเขายังอดทนได้อยู่อีก
ไม่ได้ เธอต้องไม่พลาด!
เธอไม่เชื่อว่าภายใต้อิทธิพลของยา จะมีผู้ชายคนไหนที่ต้านทานผู้หญิงอ่อนโยนได้?
เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอก็แนบกายไปบนร้างของฮ่อหยุนเฉิงอีกครั้ง
มือของเธอคล้องคออีกคนและริมฝีปากสีแดงของเธอก็กดจูบริมฝีปากของเขา
ฤทธิ์ยาในร่างกายฮ่อหยุนเฉิงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนร่างกายเขาทรมายอย่างยิ่ง
ผู้หญิงตรงเธอค่อยๆ กลายเป็นรูปลักษณ์ที่เย้ายวนของซูฉิง
เขาเอ่ยเรียกด้วยเสียงต่ำ “ซูฉิง…”
ซูฉิง?!
สวีหว่านเอ๋อร์ตกตะลึง เวลานี้ใจฮ่อหยุนเฉิงกลับคิดถึงซูฉิง?
ความโกรธที่อธิบายไม่ได้เพิ่มขึ้น สวีหว่านเอ๋อร์เม้มริมฝีปาก เธอบอกตัวเองแม้ว่าฮ่อหยุนเฉิงจะคิดว่าเธอเป็นซูฉิง แล้วมันยังไงล่ะ?
ตราบใดที่พวกเขามีความสัมพันธ์กัน เธอก็จะกลายเป็นคุณนายบ้านตระกูลฮ่อ!