นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 336 ได้โปรดไปเยี่ยมสวีหว่านเอ๋อร์
“ฉันไม่ว่าง” น้ำเสียงของฮ่อหยุนเฉิงเย็นชาและปฏิเสธโดยตรง
สวีหว่านเอ๋อร์ฆ่าตัวตายแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขา? ทำไมเขาต้องไปหาเธอที่โรงพยาบาลด้วย?
ไม่เข้าใจจริงๆ
การปฏิเสธอย่างไร้ความปราณีของฮ่อหยุนเฉิงทำให้หัวใจของสวีมู่หยางดิ่งลง
เขาพูดอย่างอดทนว่า “หว่านเอ๋อร์ทำแบบนี้เพราะคุณ คุณมาเยี่ยมแล้วปลอบเธอหน่อยคงไม่ลำบากอะไรหรอกมั้งครับ?”
“ฉันไม่ได้ให้เธอฆ่าตัวตายเสียหน่อย” ฮ่อหยุนเฉิงพูดอย่างเย็นชาก่อนจะวางสาย
หลังจากได้ยินเสียงวางสายจากปลายสาย สวีมู่หยางก็กระชับมือที่กำโทรศัพท์แน่น
เขารู้ว่าฮ่อหยุนเฉิงไม่ชอบสวีหว่านเอ๋อร์ แต่ที่เธอจะฆ่าตัวตายก็เพราะฮ่อหยุนเฉิงนะ เขาไม่แม้แต่จะสงสารเธอเลยงั้นเหรอ?
ไร้หัวใจเสียจริง
สวีมู่หยางนั่งข้างนอกห้องฉุกเฉิน และจ้องไปยังประตูห้องฉุกเฉิน
ในหัวมีแต่ภาพสวีหว่านเอ๋อร์ที่นอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด จนหัวใจเหมือนถูกมีดกรีด
หว่านเอ๋อร์ เธอห้ามเป็นอะไรไปนะ
สวีมู่หยางอธิษฐานในใจ
เขามีน้องสาวล้ำค่าเพียงคนเดียวเองนะ!
ตอนที่แม่กำลังจะจากไป เธอจับมือสวีมู่หยางและพูดอย่างอ่อนแรง “ลูกหยาง ต่อไปถ้าแม่ไม่อยู่แล้ว ลูกต้องดูแลน้องลูกให้ดีนะ”
ตอนนั้นสวีมู่หยางอายุเพียงสิบห้าปี และสวีหว่านเอ๋อร์เพิ่งอายุเพียงเจ็ดแปดขวบ
“แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูแลน้องอย่างดีเอง จะไม่ให้น้องต้องมาทนทุกข์กับอะไรทั้งนั้น” สวีมู่หยางพยักหน้าพร้อมดวงตาแดงก่ำ
เขาสัญญากับแม่ของเขาว่าจะดูแลสวีหว่านเอ๋อร์อย่างดี
ดังนั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าสวีหว่านเอ๋อร์จะขออะไร เขาก็จะพยายามตอบสนองน้องสาวคนนี้ จนเธอกลายมาเป็นคนนิสัยเย่อหยิ่งเอาแต่ใจ
แต่เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะฆ่าตัวตายเพราะฮ่อหยุนเฉิง
ความรู้สึกคับแค้นใจและร่องรอยของความโกรธที่มีต่อฮ่อหยุนเฉิงในตอนนี้ได้ปะปนกัน
“คุณปู่ หว่านเอ๋อร์คงจะไม่เป็นไรใช่ไหมครับ” ดวงตาของสวีมู่หยางแดงก่ำ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นถามท่านผู้เฒ่าสวี
สีหน้าท่านผู้เฒ่าสวีก็ดูไม่ดีเช่นกัน ข่าวก่อนหน้านี้ที่หลานสาวแสนรักกับชายขายตัวก็โกลาหลมากจนบ้านตระกูลสวีเสียหน้าไปหมดแล้ว
ตอนนี้ก็มาฆ่าตัวตายอีก ถ้านักข่าวพวกนั้นรู้ คงได้โกลาหลไปไปมากกว่านี้แน่
ท่านผู้เฒ่าสวีถอนหายใจ “หวังว่าหว่านเอ๋อร์จะไม่เป็นไรนะ”
ทันใดนั้นไฟในห้องฉุกเฉินก็ดับลง
หมอเข็นสวีหว่านเอ๋อร์ออกมา
“น้องสาวผมเป็นไงบ้างครับ?” สวีมู่หยางเดินเข้าไปถามอย่างกังวล
“โชคดีที่มาทันเวลา ตอนนี้ไม่มีอะไรร้ายแรงแล้วครับ” หมอดันแว่นขอบทองแล้วตอบ
สวีมู่หยางถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขามองลงไปที่สวีหว่านเอ๋อร์ที่นอนอยู่บนเตียง เห็นหน้าตาเธอซีด ดวงตาปิดอยู่ราวกับคนไร้ชีวิต
หัวใจของสวีมู่หยางบีบรัดตัวแน่น
น้องสาวที่น่ารักและสูงส่งของเขากลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?
คนร้ายที่ทำให้ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นก็คือฮ่อหยุนเฉิง
ถ้าไม่ใช่เพราะฮ่อหยุนเฉิง สวีหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ดีๆ จะเกือบตายไปได้ไง?
สวีมู่หยางอยู่เป็นเพื่อนสวีหว่านเอ๋อร์ในห้องตลอดทั้งคืน จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็ค่อยๆ ตื่นขึ้น
“พี่ พี่มาอยู่นี่ได้ไง?” ทันทีที่เธอลืมตาขึ้น ก็เห็นสวีมู่หยางนั่งอยู่ข้างหัวเตียง
“หว่านเอ๋อร์ เธอรู้สึกเป็นไงบ้าง?” เมื่อเห็นสวีหว่านเอ๋อร์ตื่น สวีมู่หยางจึงถามด้วยความเป็นห่วง
“เจ็บมาก” สวีหว่านเอ๋อร์ขมวดคิ้วแน่น
ความทรงจำเริ่มกลับมาทีละน้อย
เธอนึกออกแล้ว เมื่อวานนี้เธอไปหาฮ่อหยุนเฉิงเพื่อต้องการขอโทษ แต่เขาไม่แม้จะมองเธอ
ความเศร้า ผิดหวัง และไม่พอใจจรเธอเลือกที่จะฆ่าตัวตายด้วยการกรีดข้อมือตัวเอง
แน่นอนว่าเธอไม่ได้ต้องการตายจริงๆ เธอเพียงต้องการใช้วิธีนี้เรียกร้องความเห็นใจจากฮ่อหยุนเฉิงเท่านั้น
แต่ไม่นึกเลยตอนที่กรีดข้อมือเพื่อฆ่าตัวตาย เท้าก็ลื่นจนตกลงไปในอ่างอาบน้ำ จนมีกนั้นกรีดลึกลงไปอีก
เจ็บจะตายชัก!!
“หว่านเอ๋อร์ ไม่เป็นไรนะ หมอตรวจเธอแล้ว เธอพักผ่อนอีกหน่อยก็หายดีแล้วล่ะ” สวีมู่หยางมองเธออย่างเป็นห่วงทั้งยังเอ่ยปลอบใจเธอไม่หยุด
สวีหว่านเอ๋อร์มองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่เห็นคนที่เธออยากจะเห็นเลย
ในหัวผุดร่างสูงตระหง่านของฮ่อหยุนเฉินโดยไม่ได้ตั้งใจ จนสวีหว่านเอ๋อร์ต้องกลืนน้ำลาย
“หยุนเฉิงล่ะคะ?” สวีหว่านเอ๋อร์เม้มริมฝีปากถาม
“เขา” สวีมู่หยางกล่าวด้วยความยากลำบาก
“ฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้มาเยี่ยมฉันเลยเหรอ?” ใบหน้าของสวีหว่านเอ๋อร์ฉายถึงว่าผิดหวังและความเศร้าใจออกมาอย่างชัดเจน
เธอฆ่าตัวตายเพราะฮ่อหยุนเฉิง เจ็บสาหัสขนาดนี้ เขายังไม่เป็นห่วงเธอเลยสักนิดงั้นเหรอ?
“ทำไมล่ะพี่ บอกฉันทีว่าทำไมเขาถึงใจร้ายกับฉันนัก?” น้ำตาของสวีหว่านเอ๋อร์ไหลออกมา
หรือฮ่อหยุนเฉิงใจร้ายกับเธอจริงๆ? ไม่แม้แต่จะเห็นอกเห็นใจเลย
เธอยอมตายเพื่อเขาได้ แต่เขากลับไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำ
ทำไมกัน?
เมื่อเห็นน้องสาวของเขาเจ็บปวด หัวใจของสวีมู่หยางเองก็ราวถูกมีดกรีด
เขาลุกขึ้นยืนขึ้นตบไหล่ของสวีหว่านเอ๋อร์เบาๆ “หว่านเอ๋อร์ เธอวางใจเถอะนะ ฮ่อหยุนเฉิงแค่ยุ่งกับงาน อีกไม่นานก็มาเยี่ยมเธอแล้วล่ะ”
“จริงเหรอ?” ดวงตาของสวีหว่านเอ๋อร์ทอประกายด้วยความหวังอีกครั้ง
สวีหว่านเอ๋อร์พยักหน้าอย่างหนักแน่น
“เธอนอนพักในห้องไปนะ ฉันกลับไปที่บริษัทก่อน” หลังจากที่สวีมู่หยางพูดจบ เขาก็หันหลังเดินออกจากห้องไป
เขาจะไปหาฮ่อหยุนเฉิง ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องให้ฮ่อหยุนเฉิงมาเยี่ยมสวีหว่านเอ๋อร์ที่โรงพยาบาลให้ได้
หลังจากเดินออกจากโรงพยาบาล เขาก็ขับรถมุ่งไป
ก่อนจะบังเอิญเห็นฮ่อหยุนเฉิงเดินออกมาจากประตูพอดี
“ฮ่อหยุนเฉิง ขอคุยด้วยได้ไหมครับ?” สวีมู่หยางเข้าไปขวางทางฮ่อหยุนเฉิง
“มีอะไรงั้นเหรอครับ?” ฮ่อหยุนเฉิงพูดอย่างเฉยเมย
“เกี่ยวกับน้องสาวผม” สวีมู่หยางขมวดคิ้วและพูดว่า “เธอกรีดข้อมือฆ่าตัวตายเพราะคุณ เมื่อกี้เพิ่งช่วยมาได้”
“นั่นหมายความว่าไม่เป็นไรแล้วไงครับ” ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงลึกราวกับน้ำนิ่ง ไร้ซึ่งการสั่นไหว
“แม้ว่าหว่านเอ๋อร์จะทำผิดซ้ำซาก แต่เธอก็ได้รับโทษแล้ว ตอนนี้เธอเจ็บมาก ฮ่อหยุนเฉิง ช่วยไปเยี่ยมเธอได้ไหม? ถือว่าผมขอร้องล่ะ!” สวีมู่หยางลดศักดิ์ศรีทั้งหมดก่อนจะลดเสียงกล่าวอ้อนวอน
เขาสัญญากับสวีหว่านเอ๋อร์ไว้ว่าฮ่อหยุนเฉิงจะไปเยี่ยมเธอ ยังไงเขาก็ต้องทำให้ได้!
“ตกลง ฉันจะไปเยี่ยมเพราะเห็นแก้หน้าคุณแล้วกัน” ฮ่อหยุนเฉิงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบตกลง
ในเมื่อสวีมู่หยางพูดถึงขนาดนี้แล้ว เขาก็คงต้องไว้หน้าบ้านตระกูลสวีสักหน่อย
“ขอบคุณครับ!” เมื่อเห็นฮ่อหยุนเฉิงตกลง สวีมู่หยางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในที่สุด
“ไว้จะไปโรงพยาบาลเย็นๆ” ฮ่อหยุนเฉิงก้มมองเวลาและคิดว่าน่าจะทัน