นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น - ตอนที่ 343 คุณอาเสว่
หลินหนานยื่นโทรศัพท์ให้ซูฉิง และชี้ไปที่ข่าวบนหน้าจอ
ซูฉิงเหลือบมองอย่างสงสัย เพียงเห็นภาพ ก็รู้ได้ทันนีว่านั่นคือเธอและนีนี
【หญิงสาวที่งามทั้งหน้าตาและจิตใจ ช่วยชีวิตเด็กที่ประสบภัยพิบัติ!】
เนื่องจากซูฉิงกำลังช่วยชีวิตผู้คนบนภูเขา ภาพที่เธอและนีนีเกี่ยวก้อยกันจึงถูกนักข่าวถ่ายเอาไว้ได้
ในช่วงเวลานี้ หนังสือพิมพ์รายใหญ่และสื่อออนไลน์ทั้งหมด ต่างพากันลงข่าวนี้อย่างท่วมท้น ในขณะนั้นมีการออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นในเมือง A อย่างต่อเนื่อง
หลังจากรายงานและภาพถ่ายนี้ปรากฏ จำนวนการดูบนอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็วก็เกิน 10,000 ครั้ง และชาวเน็ตก็รู้เรื่องราว ของซูฉิงก่อนทีวีและอินเทอร์เน็ตจะลงข่าวอีกด้วย ความคิดเห็นส่วนใหญ่ยกย่องเธอสำหรับความงามและความมีน้ำใจของเธอ
และแน่นอนเลยว่า ในตอนนี้ซูฉิงก็กลายเป็นคนดังไปแล้ว
ซูฉิงยิ้มและพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันไม่รู้ว่าโดยถ่ายไปได้ยังไง”
“พี่ฉิง พี่ทั้งสวยและใจดี ตอนนี้พี่เป็นนางฟ้าตัวน้อยที่ช่วยมนุษยชาติเอาไว้” หลินหนานพูดยกยอ
“พูดจาโอเว่อร์!” ซูฉิงจ้องมาที่เขา
ทันทีที่เสียงพูดจบ เสียงอันไพเราะของโทรศัพท์มือถือเธอดังขึ้น
ซูฉิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและมองดู มันเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย
เธอรับสาย “สวัสดี”
เสียงของหญิงสาวผู้น่ารักดังมาจากปลายสายอีกด้านของโทรศัพท์ “สวัสดีค่ะ นี่ใช่คุณซูฉิงหรือเปล่าคะ?”
“ใช่ค่ะ ฉันเอง” ซูฉิงพยักหน้า สงสัยในใจ เสียงนี้ฟังดูแปลกๆ ใครกำลังโทรหาเธออยู่นะ
“ฉันเป็นเจ้าหน้าที่สถานีวิทยุ เมื่อวานหญิงชราคนหนึ่งมาที่สถานีวิทยุ ฉันหวังว่าเราจะสามารถช่วยให้เธอติดต่อคุณได้ เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกในครอบครัวของผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว เธอต้องการพบคุณเพื่อแสดงความขอบคุณ พรุ่งนี้ช่วงบ่ายไม่ทราบว่าพอจะมีเวลาไหมคะ?”
ที่แท้ก็เป็นสถานีวิทยุนี่เอง
ซูฉิงปฏิเสธ “ขอโทษนะคะ พอดีว่าฉันไม่ว่างค่ะ”
“คุณอาเสว่ ฉันเอง!” เสียงที่ปลายสายของโทรศัพท์เปลี่ยนไปเป็นเสียงของคุณยายเฒ่าในทันใด
คุณอาเสว่?
เมื่อซูฉิงได้ยินคำพูดเธอก็ตกตะลึง
ชื่อดูไม่ค่อยคุ้นเคย
ทันใดนั้นเธอก็จำได้ว่าตอนที่เธอไปยอดเขายวี่ปี่เพื่อค้นหาลุงฉีเป็นครั้งแรก เมื่อเขาเห็นใบหน้าของเธอในครั้งแรก เขาก็พึมพำกับตัวเอง: นั่นอาเสว่ใช่ไหม?
อาเสว่คือใครกันนะ?
“คุณอาเสว่ ฉันเห็นคุณในทีวี ฉันอยากเจอคุณจริงๆ” คุณยายเฒ่าพูดอย่างกระตือรือร้นที่ปลายอีกด้านของโทรศัพท์
“คุณอยู่ที่ไหนคะ? ฉันจะไปหาคุณ” ซูฉิงคิด แล้วพูดออกมา
เธออยากรู้ว่าทำไมทั้งลุงฉีและยายเฒ่าจึงเข้าใจผิดคิดว่าเธอคืออาเสว่
คุณยายก็บอกที่อยู่มา ซูฉิงกล่าวทักทายยวี๋น่าและรีบไปในทันที
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ซูฉิงมาที่ประตูบ้านของคุณยาย และเธอก็เอื้อมมือออกไปเคาะประตู
ไม่นานประตูก็เปิดออก และคุณยายผมสีเงินก็ปรากฏตัวขึ้นในสายตาของซูฉิง
ช่วงเวลาที่เธอเห็นซูฉิงท่าทางของเธอตื่นเต้น เธอก็มึนงงเล็กน้อยและประหลาดใจ “คุณเสว่เป็นคุณจริงๆ หรือ?”
ซูฉิงยิ้ม “ฉันขอโทษนะคะ… แต่ฉันไม่รู้จักอาเสว่ที่คุณพูดถึง ฉันอาจจะดูเหมือนเธอหรือเปล่า เธอเป็นใครหรือคะ?”
เมื่อได้ยินคำตอบของซูฉิงหญิงชราก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงมองดูเธออย่างระมัดระวัง “ใช่ คุณอาเสว่ไม่เด็กเท่ากับคุณ”
ยายแก่ถอนหายใจเบา ๆ พยักหน้าให้ซูฉิง และพูดว่า “คุณกับอาเสว่… หน้าตาช่างเหมือนกันจริงๆ แต่สายตาของฉันไม่ค่อยดี ฉันยอมรับผิด ฉันขอโทษนะสาวน้อย ”
ซูฉิงยกมุมริมฝีปากของเธอขึ้น “ไม่เป็นไรค่ะ แต่ช่วยบอกได้ไหมว่าอาเสว่คนนี้เป็นใคร? ฉันอยากรู้”
สาเหตุส่วนใหญ่ที่เธออยากรู้ก็เพราะลุงฉี
ตอนนี้ทั้งสองคนกล่าวถึงในชื่อเดียวกัน ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่าพวกเขารู้จักกัน?
ทำไมเธอดูเหมือนอาเสว่ผู้หญิงคนนั้น?
เป็นไปได้ไหมที่อาเสว่เป็นญาติของเธอ?
ทำไมฉันไม่เคยได้ยินคุณปู่พูดถึงมาก่อนนะ?
“เข้ามานั่งก่อนสิ!”
คุณยายเฒ่าต้อนรับชูฉิงที่ประตู จากนั้นเทน้ำร้อนให้เธอดื่ม และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เหมือน เหมือนมาก!”
ซูฉิงยิ่งงุนงงและถามว่า “คุณยาย คุณอาเสว่เป็นใครกันแน่คะ?”
คุณยายฒ่าหลับตาลง และหลังจากผ่านไปสิบวินาที เธอก็ค่อยๆพูดขึ้น
“นั่นมันเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว… ฉันเคยอยู่บนภูเขา ฉันเป็นคนพื้นเมืองและตอนนั้น ชีวิตมันยากลำบากมาก แฟนของฉันเป็นนักล่า ไปล่าสัตว์ทุกเช้า ส่วนฉันเย็บหนัง เอาเข้าไปขายในเมือง…”
“ฟังดูน่าเหลือเชื่อใช่ไหมล่ะ?” เธอยิ้มเบา ๆ ตะลึงเล็กน้อย “คุณหนุ่ม ๆสาวๆอย่างพวกเธอ ไม่เคยมีประสบการณ์ชีวิตแบบนี้หรอก… ตอนนั้นถึงแม้เราจะลำบากแต่เราก็มีช่วงเวลาที่ดี
แต่วันหนึ่ง เพื่อนของแฟนฉันสองคนรีบพาเขากลับมาส่ง ที่ขาของเขามีรูสองรู และเลือดก็ไหลออกมาไม่หยุด
พวกเขาบอกว่าตอนที่กำลังออกล่าสัตว์ แฟนของฉันถูกงูพิษกัด ตอนนั้นขยับไม่ได้และเดินลำบาก ”
“ตอนนั้นฉันกลัวมาก และรีบพาเขาไปโรงพยาบาลพร้อมกับญาติและเพื่อนสองสามคน แต่หมอบอกว่าเรามาสายและพลาดเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการรักษา เราจึงต้องกลับไปรอความตาย”
“เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น?” ซูฉิงเดาบางอย่างในใจของเธอ
“หลังจากนั้น…” รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคุณยาย มันคือรอยยิ้มของชีวิตที่เหลือของเธอ “ตอนที่ฉันกับแฟนกลับไป
ระหว่างทาง ฉันได้พบกับคุณอาเสว่และชายหนุ่มที่น่าจะเป็นเพื่อนกับเธอ
ตอนนั้นฉันเสียใจมากที่ไม่ได้สนใจว่าพวกเขามาที่นี่เพื่ออะไร พอดีที่ตอนนั้นอาเสว่มาเพื่อถามทาง เธอถามฉันว่าเกิดอะไรขึ้น? ”
“ตอนนั้นฉันรู้สึกเศร้าใจ และมันก็อึดอัดมาก ฉันเลยคิดว่ามันคงจะดีถ้าได้คุยกับคนแปลกหน้า… ใครจะนึกว่าอาเสว่จะช่วยเราเมื่อเธอได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็บอกว่าเพื่อนของเธอเป็นหมอ บางทีเธออาจจะรักษาพิษงูในตัวแฟนของฉันได้”
หมอ?พิษ?คนนี้อาจจะเป็น-
ในหัวใจของซูฉิงมีอยู่ชื่อหนึ่งที่ผุดออกมา
คุณยายหยุดและจิบน้ำอีกจิบเพื่อให้ชุ่มคอ “ตอนนั้นฉันไม่เชื่อเลย พอไปโรงพยาบาล หมอบอกว่ารักษาไม่ได้และไม่มีใครทำอะไรก็ได้
แต่แฟนของฉันคิดว่ามันเป็นแบบนี้แล้ว ลองให้คนอื่นช่วยดูคงไม่เป็นอะไร แบบนั้นเราจึงขึ้นรถของพวกเขาและกลับบ้านด้วยกัน ฉันไม่คิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าทึ่งมาก เขาหยิบเข็มไม่กี่เข็มจากกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขาแล้วแทงที่ขาแฟนของฉันเพื่อบังคับเลือดพิษสีม่วงเข้ม
อัยย่า… ตอนนั้นฉันกับแฟนมีความสุขมาก เราไม่รู้จะขอบคุณพวกเขายังไงเลย ”
“เดี๋ยวก่อนนะคะ” ซูฉิงมั่นใจมากในเวลานี้ “ชายผู้ชำนาญด้านการแพทย์ชื่ออะไร”
“เขาชื่ออะไรหรือคะ?” หญิงชราลังเล ขมวดคิ้วโดยไม่ตั้งใจ “ฉันไม่รู้จริงๆ … ในตอนนั้น พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านของฉันเป็นเวลาสองวัน ฉันได้ยินเพียงคุณอาเสว่เรียกเขาว่าพี่ฉี”